ตอนที่วรกัญญากำลังจะเดินออกร้านขายนมผง กลับถูกคนดึงไว้ แล้วยังจะตบเธออีก แม้ว่าในมือของวรกัญญาหิ้วนมผงอยู่ แต่ว่าขาของเธอยังว่างอยู่ เตะเข้าที่คนนั้นทีหนึ่ง จนทำให้คนนั้นล้มลงกองอยู่บนพื้น
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่คนเลิกงานเยอะ คนในตอนนี้ก็เบื่อหน่าย เห็นว่ามีคนทะเลาะกัน ก็ล้อมไว้อย่างรวดเร็ว
“ฮึก ฮึก ฮือ เธอนังปีศาจจิ้งจอกยังทำร้ายคนด้วย เธอยังทำร้ายคน เธอมายั่วสามีของฉัน ยังกล้าทำร้ายคนตรงนี้อีก” เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง มองดูแล้วเป็นคนสวยอยู่ตอนนี้เริ่มนั่งร้องไห้โวยวายอยู่บนพื้น
“โอ้โห มือที่สามสมัยนี้นับวันก็ยิ่งแย่ กล้าทำร้ายคนตรงถนนใหญ่แล้ว”
“นั่นสิ แย่เสียจริง มองดูแล้วเป็นคนสะสวย ที่แท้ก็เป็นมือที่สาม ช่างหน้าด้านจริงๆ ” รอบกายก็มีคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์
วรกัญญาเพียงแต่ใช้สายตาเย็นชามองคนที่พูด สองคนนั้นก็รู้สึกร่างกายหนาวสะท้าน นี่มันเรื่องอะไรกัน มือที่สามคนนี้มีบรรยากาศที่ใหญ่โตเช่นนี้เลย
ผู้หญิงคนนั้นยังร้องห่มร้องไห้อยู่ วรกัญญากลับไม่มีอารมณ์โต้เถียงอะไรกับคนแบบนี้ ถึงอย่างไรเธอก็ไม่รู้จักคนคนนี้ น่าจะจำผิดคน เธอจึงเตรียมยกเท้าขึ้นเดินหนีคน
“เธอไปไม่ได้ เธอต้องบอกฉันให้ชัดเจน ทำไมถึงต้องยั่วสามีฉันด้วย เธอนังปีศาจจิ้งจอก” เพียงครู่เดียวผู้หญิงคนนี้ก็กอดขาของวรกัญญาเอาไว้
“สามีคุณ สามีคุณคือใคร คุณป้าจำคนผิดหรือเปล่า?” วรกัญญาถูกรัดไว้จนไร้หนทาง ก็ได้แต่ถามผู้หญิงคนนั้นแล้ว
“ไม่ เธอนั่นแหละ เป็นเธอนั่นแหละ ฉันเคยเห็นรูปของเธอ ทุกคนลองดูว่าใช่เธอไหม” หญิงสาวยังหยิบหลักฐานออกมา เปิดมือถือให้ดู ในนั้นมีรูปหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นคือวรกัญญา แต่ผู้ชายคนนั้นคือชลธี เป็นรูปภาพตอนที่กินหม้อไฟด้วยกัน
“ผู้ชายคนนี้คือสามีของคุณเหรอ? คุณแน่ใจเหรอ?” วรกัญญามองภาพนั้น เป็นภาพตอนกินหม้อไฟด้วยกัน นั่นเป็นเรื่องที่ปกติมาก แต่ผู้หญิงคนนี้กลับบอกว่าตัวเองยั่วสามีของเธอ
“แน่ใจสิ นอนด้วยกันทุกคืน ฉันจะจำผิดได้ยังไง? ” คราวนี้หญิงสาวก็ลุกขึ้นมา บอกกับทุกคนอย่างมั่นใจ
“นั่นสิ เขาเป็นสามีจะจำผิดได้ยังไง จริงๆ เลย” คนที่อยู่ข้างนอกต่างกำลังช่วยผู้หญิงคนนั้น
“ฉันว่าคุณคิดถึงเขาคิดจนเป็นบ้าแล้ว คนคนนี้ชื่อว่าชลธีเป็นถึงคุณชายสามของชุติภาแห่งบริษัทฮอนดากรุ๊ป คุณมั่นใจว่าเขาเป็นสามีของคุณหรือเปล่า? คุณเหมาะสมกับเขาเหรอ?” วรกัญญาทำลายผู้หญิงคนนั้นอย่างไร้ความปราณี
หญิงสาวไม่รู้จักชลธี เพียงแต่มีคนเอาเงินให้เธอมาหาเรื่องวรกัญญา
“ใช่แล้ว ผู้ชายคนนี้ก็คือชลธี เทพบุตรของฉันไง ภรรยาของเขาไม่ใช่คางคกอยากกินเนื้อห่านฟ้าอย่างเธอหรอกนะ!” ตอนที่คนรอบๆ มองผู้ชายในภาพชัดเจนแล้ว ต่างพากันหัวเราะเยาะเย้ยผู้หญิงคนนั้น
ในเมืองหลวงคนที่อยากแต่งงานกับเขามีตั้งมากมาย ทว่าชลธีเขาหาใช่คนธรรมดา ไม่ใช่ใครก็สามารถคิดฝันได้ อย่างน้อยที่สุดคุณก็ต้องมีรากฐานแบบนี้ถึงจะได้
ผู้หญิงคนนั้นก็ลุกลี้ลุกลน คนที่ให้เธอมาหาเรื่องวรกัญญาไม่ได้บอกว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร ถ้าหากรู้ว่าเป็นชลธีละก็ เธอคงจะไม่มา
“ฉัน ฉัน……” ผู้หญิงอยากจะหนีก็เป็นไปไม่ได้ เธอถูกกระแสเสียงที่ตัวเองสร้างอุดหน้าประตูไปแล้ว อย่างไรก็ออกไม่ได้
“ช่างหน้าไม่อายเสียจริง คิดอยากสานความสัมพันธ์กับเทพบุตรของฉัน ยังนอนด้วยกันทุกคืน เธออยู่กับคนที่เป็นตุ๊กตาลมอย่างนั้นเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า” คราวนี้หัวหอกชี้ไปทางผู้หญิงคนนั้น
หญิงสาวเองก็สนใจอะไรมากไม่ได้แล้ว เธอจึงแหวกฝูงชนออกแล้วตัวเองก็หนีออกไป
เห็นว่าไม่มีอะไรน่าดูแล้ว ทุกคนก็แยกย้าย เดิมนึกว่าจะมีการแสดงจับมือที่สาม ที่แท้ก็เห็นเขาสวยเลยยัดเยียดใส่ร้าย แต่ว่าก็ยังน่าสนใจอยู่
หลายคนส่งรูปภาพในกลุ่มเพื่อน เพียงชั่วพริบตาเดียวตามถนนตรอกซอยต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้
วรกัญญาคิดอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนิสัยของผู้คนในสถานที่แห่งนี้? ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ น่าสะอิดสะเอียนเหลือเกิน ทว่าชลธีคนนี้เป็นตัวปัญหาคนหนึ่ง ได้ยินความคิดเห็นของคนอยู่ที่ล้อมรอบเมื่อกี้ เขายังเป็นเทพบุตรของทุกคนด้วยงั้นเหรอ?
จากนั้นวรกัญญาหิ้วนมผงแล้วก็เดินลงไปเอารถที่โรงรถชั้นใต้ดิน
คราวนี้มีกลิ่นหอมโชยมาจากด้านหลัง ไม่นานคนคนนั้นก็เดินมาอยู่ข้างหน้าวรกัญญา
“มุกดา! เธอไม่ตายงั้นเหรอ?” วรรณวิมลจ้องมอง วรกัญญา ผู้หญิงที่สมควรตายคนนี้ ยังคงสวยงดงาม จนน่ารังเกียจจริงๆ
“ขอโทษค่ะ ฉันชื่อวรกัญญา ฉันไม่ตายทำให้คุณไม่ดีใจมากเลยงั้นเหรอ? คุณเป็นใคร?” วรกัญญามองวรรณวิมล ผู้หญิงคนนี้ก็คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวเมื่อกี้นี้สินะ
“ฉันเป็นใครเธอไม่รู้จักฉันงั้นเหรอ? ฉันคือวรรณวิมล!” วรรณวิมลไม่รู้ว่าวรกัญญาสูญเสียความทรงจำ เธอนึกว่าวรกัญญาดูถูกตัวเอง
“คุณมีชื่อเสียงมากเลยเหรอ? ทำไมฉันไม่เคยได้ยิน เป็นประธานบริษัทไหนเหรอ?” วรกัญญายิ้มเย็นให้วรรณมวิมล คนแบบนี้เหมาะสมที่จะยืนคุยกับตัวเองตรงนี้
“เธอ เธอ มุกดา เธอไม่ต้องเสแสร้งแกล้งโง่แล้ว ฉันบอกเธอให้นะ เธออย่าได้คิดเข้าตระกูลสุวรรณเลิศอีก อย่าได้คิดตลอดกาล ขอเพียงคุณย่าอยู่ เธอคิดไปก็ไม่สำเร็จหรอก” วรรณวิมลบอกวรกัญญาอย่างลำพองใจมาก
“ตระกูลสุวรรณเลิศ? ทำไมฉันต้องเข้าตระกูลสุวรรณเลิศ? ช่างน่าขันจริงๆ ” วรกัญญาคิดอยู่ว่าผู้หญิงคนนี้บ้าหรือเปล่า เธอคิดอยากเข้าตระกูลสุวรรณเลิศเมื่อไหร่กัน เธอไม่ชอบชลธีมากเลยด้วยซ้ำ ไม่เคยคิดอยากแต่งงานกับเขามาก่อน
“เธอไม่อยากเข้าตระกูลสุวรรณเลิศ งั้นเธอกลับมาทำไม? แล้วลูกของเธออีก อย่านึกว่าเธอมีลูกแล้วจะกุมจุดอ่อนไว้ ฉันจะบอกเธอนะมุกดา ไม่มีทางเป็นไปได้ตลอดกาล เธอยอมแพ้เสียเถอะ” วรรณวิมลเห็นท่าท่างของวรกัญญาที่นิ่งเฉย เธอก็ยิ่งโกรธมาก
พูดไปค่อนวันแล้วทำไมเธอยังไม่พูดอะไรเลย? ความฉลาดเฉียบแหลมของผู้หญิงคนนี้ช่างล้ำลึกยิ่งนัก ล้ำลึกจนทำให้เธอไม่เข้าใจโดยสิ้นเชิงเลย
“คุณผู้หญิง ถ้าหากคุณไม่มีธุระอะไรละก็ รบกวนคุณช่วยหลบฉันหน่อย ฉันต้องกลับบ้านแล้ว ถ้าหากคุณขวางฉันอีก ฉันจะแจ้งตำรวจ” วรกัญญาบอกวรรณวิมลอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ
วรรณวิมลไม่กลัว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ให้วรกัญญาไป ต้องคุยกับวรกัญญาให้ชัดเจนว่าไม่ต้องคิดถึงชลธีอีกต่อไปแล้ว
วรรณวิมลกุมท้องของตัวเองไว้ แกล้งทำเป็นปวดท้อง เธอนึกว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด ทว่าเธอคิดไม่ถึงว่ามีกล้องวงจรปิดที่หลบซ่อนตัวหนึ่งอยู่ ถ่ายเรื่องราวเมื่อกี้นี้เอาไว้หมดแล้วพอดี