แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 208 เป็นเพื่อนกันอีกครั้ง

ชุติภาสกำลังสนทนากับผู้คน เขาได้ยินเสียงของมุกดา เขาจึงรีบหันไป เห็นชลธีกำลังโค้งคำนับให้มุกดา ชายร่างใหญ่สูงร้อยแปดสิบ อารมณ์เสียสักนิดก็ไม่มี เขาไม่ชอบใจเล็กน้อย ถึงอย่างไรก็เป็นลูกชายของตัวเอง

“ประธานวรกัญญา สวัสดีครับๆ” ชุติภาสเดินเข้าไปแล้วตามด้วยการทักทายวรกัญญา

“คุณคือคุณชุติภาสประธานบริษัทฮอนดากรุ๊ปใช่ไหมคะ” แม้จะเคยเห็นในงานประชุมประจำปีเมื่อคราวก่อน แต่ดูเหมือนว่าผู้ช่วยของตนจะเป็นลูกชายของชุติภาสคนนี้

“ใช่ครับใช่ ประธานวรกัญญา ความร่วมมือทางธุรกิจของเราครั้งนี้ต้องขอบคุณการสนับสนุนของประธานวรกัญญา โครงการนี้ถูกกดมานานแล้ว ตลอดมาคุณโจนส์ไม่ยอมเซ็นเสียที ผมได้ให้สัมปทานไปมากมาย ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นครับ” ชุติภาสมีความคิดเห็นต่อคุณโจนส์ค่อนข้างมาก ตนทำขนาดนี้แล้วเขายังไม่ยอมเซ็น โชคดีที่เขาป่วย แต่ในเมื่อวรกัญญากลับมาแล้ว ดูเหมือนว่ามันก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป

“อาจจะมีเงื่อนไขหลายอย่างที่ยังไม่สุกงอมเต็มที่ค่ะ ในเมื่อตอนนี้ร่วมธุรกิจกันแล้ว เรื่องอื่นก็ไม่ต้องพูดถึงให้มากอีก จริงสิคะ ประธานชุติภาส คุณอยากคุยกับลูกชายสักหน่อยไหมคะ” วรกัญญาชี้ไปยังชลธีที่อยู่ข้างๆ

ชุติภาสมองลูกชายตัวเองครู่หนึ่ง ลูกชายไม่มองตนเลย แต่ออกไปทำงานหลายวันแล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติ คงจะเป็นปกติขึ้นมาบ้างแล้ว

“ไม่ต้องครับ ไม่ต้องหรอก ประธานวรกัญญา เจ้าลูกหมานี่ขอมอบให้คุณ มีอะไรที่ไม่ถูกไม่ควร คุณก็ดุด่าว่ากล่าวได้เลยครับ เขาเชื่อฟังคุณ” ชุติภาสเห็นลุกชายไม่คิดจะสนใจตน เขาก็จะไม่ไปติเตียนอะไร

“คุณเป็นพ่อของเขา เขาจะเชื่อฟังฉันได้ยังไงคะ” วรกัญญามองชุติภาสอย่างแปลกใจ

ชุติภาสหน้าม้าน ลูกชายคนนี้ถูกเลี้ยงดูมาโดยลูกสะใภ้ ถ้าเชื่อฟังเขาก็ดีสิ แต่เห็นลูกชายไม่ได้เป็นบ้าเพ้อคลั่งอีกต่อไปแล้ว ชุติภาสก็วางใจ

“ผมเป็นผู้ปกครองเขา แต่คุณเป็นเจ้านายเขา เขาอยู่ข้างนอกแน่นอนว่าต้องฟังคุณ” ชุติภาสยิ้มอย่างเก้อเขิน

วรกัญญาพยักหน้า ราวกับคำอธิบายนี้เหมาะสมมาก ถ้าชลธีกล้าไม่เชื่อฟัง เธอจะไล่เขาออกทันที

ชุติภาสพูดคุยเรื่อยเปื่อยไปอีกหน่อย ก่อนจะแยกกับวรกัญญา เขาไม่มีอะไรจะพูดกับลูกสะใภ้ของตัวเองมากนัก เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงแกล้งทำเป็นไม่รู้จักตน

วรกัญญาก็ไปหาที่นั่งพักผ่อนด้วย ชลธียืนข้างเธอตลอดเวลา

“คุณก็นั่งสิ คุณเอาแต่ยืนตลอด เดี๋ยวคนอื่นเขาจะหาว่าฉันรังแกคุณ นั่งตรงนั้นไป” วรกัญญาชี้ไปยังที่ตรงข้ามตัวเอง ให้ชลธีนั่ง เขายืนข้างหลังตนแบบนั้น เหมือนเป็นทาสในสมัยโบราณไม่มีผิด

“ได้ครับ” ชลธีจึงนั่งลง

เขาเพิ่งนั่ง ทศพรก็พาจันวิภาเดินเข้ามา

“ประธานวรกัญญา ขออภัยครับ ตอนนี้ผมขอแนะนำตัวอีกครั้ง ผมเป็นผู้นำของนวลอ่อนกรุ๊ปในเมืองนี้ ผมชื่อทศพร นี่คือภรรยาของผม จันวิภาครับ” ในเมื่อวรกัญญาสูญเสียความทรงจำไปแล้ว พวกเขาก็บังคับไม่ได้ ดังนั้นจึงเข้ามาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

ประวีร์ก็เดินเข้ามาด้วย เมื่อครู่ทุกคนกดดันวรกัญญามากเกินไป ตอนนี้ได้แต่ค่อยเป็นค่อยไป

“ผมได้ชิมน้ำผลไม้รสชาติไม่เลว ประธานวรกัญญา อยากดื่มด้วยไหมครับ” ในมือประวีร์ถือน้ำกีวีสองแก้ว สีเขียวสดนั้นดูชื่นใจมาก

วรกัญญาเห็นคนพวกนี้มารายล้อมตัวเองอีกครั้ง เธอจึงกลัวจริงๆ ว่าพวกเขาจะพูดอะไรไร้สาระอีก

แต่เมื่อเธอเห็นน้ำกีวีในมือของประวีร์ ก็มีความคิดที่อยากจะดื่มมัน

วรกัญญายื่นมือไปหยิบน้ำกีวีในมือของประวีร์ จิบลงไปอึกหนึ่ง รู้สึกถึงความเหนียวเหนอะ และรสเปรี้ยวอมหวานกำลังดี

“ประธานวรกัญญา คุณเพิ่งกลับประเทศมา ต้องมีอะไรที่อยากทานแต่ไม่มีเวลาไปทาน และก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่ว่างไปเที่ยวแน่ๆ ถ้ายังไงเรานัดกันสักช่วง พวกเราจะทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีให้เองดีไหมคะ” จันวิภาที่ถูกทศพรตักเตือนไป เวลานี้สงบลงบ้างแล้ว ความตื่นเต้นของเธอเมื่อครู่ต้องไปทำให้วรกัญญาตกใจกลัวเป็นแน่

“ช่วงนี้ฉันยังไม่ว่างเลยค่ะ เพราะฉันเพิ่งกลับประเทศมา มีเรื่องมากมายที่ยังไม่เข้าใจ รออีกสักพักนะคะ” วรกัญญาไม่ได้ปฏิเสธ ที่จริงเธอก็อยากออกไปเดินเล่น แต่ถ้าต้องไปกับชลธี เธอก็ไม่อยาก คนเหล่านี้ไม่ใช่คนเลว แต่เธอไม่ค่อยคุ้นเคย เธอจึงลังเลเล็กน้อย

“ได้ค่ะ งั้นก็อีกสักพักนะ พวกเรามาคุยกันก่อน งานเลี้ยงวันนี้มีของอร่อยเยอะแยะเลย เราไปเอาด้วยกันดีไหมคะ” จันวิภาชักชวนวรกัญญา

วรกัญญามองครู่หนึ่ง ในเมื่อคนเขากระตือรือร้นขนาดนี้ หากเย็นชาใส่เกินไปคงไม่ค่อยดี วรกัญญาจึงตอบตกลง ตามจันวิภาไปยังโซนบุฟเฟ่ต์

“เธอลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว เราได้แต่ต้องเริ่มต้นใหม่กับเธอ เรื่องราวในอดีต เธอลืมไปก็ดี” ประวีร์พูด ภาพที่น่าสะเทือนใจนั่นตอนนี้ยังคงสดใหม่อยู่ในความทรงจำของเขา

“ทั้งหมดเป็นฉันที่ไม่ดีเอง ฉันไม่ได้อยู่กับเธอในเวลาที่เธอสิ้นหวังที่สุด เธอสูญเสียความทรงจำก็ดี ฉันจะมอบฉันคนใหม่ให้กับเธอเอง” ตอนนี้ชลธีเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

ประวีร์เหลือบมองเขา วรกัญญาในตอนนี้ไม่รู้ว่ายังจะหลงรักชลธีอีกครั้งหรือไม่ ตัวเขาสามารถพยายามได้ไหม

ทศพรร่าเริงมาก “มา เรามาดื่มกันเถอะ นานแล้วที่เราไม่ได้รวมตัวกัน วันนี้เป็นวันที่น่ายินดี มุกของเรากลับมาแล้ว มันดีกว่าอะไรทั้งหมด”

ชายสามคนชนแก้วและพูดคุยกันต่อ

“ประธานวรกัญญาคะ คุณดูซาซิมินี่สิสดมาก” จันวิภาคีบซาซิมิทะเลให้วรกัญญาบางส่วน

“คุณก็เอาพวกนี้ด้วยสิคะ” วรกัญญาก็คีบซาซิมิปลาแซลมอนให้จันวิภาบางส่วนเช่นกัน จันวิภามองวรกัญญาอย่างซาบซึ้ง

จิตใต้สำนึกของวรกัญญายังจำสิ่งที่จันวิภาชอบทานได้ จันวิภาคิดอย่างนั้น

ทั้งคู่มีอาหารเต็มสองจานใหญ่ จันวิภายังแนะนำอาหารของพระนครให้กับวรกัญญาไม่หยุด แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่เมื่อก่อนวรกัญญาชอบทานมาก ถึงแม้จะสูญเสียความทรงจำ แต่รสปากไม่เปลี่ยนแน่นอน

“คุณนายจันวิภา ที่คุณพูดฉันว่ามันน่าสนใจมาก เราสองคนไปทานกันเมื่อไรดีคะ” วรกัญญาได้ยินสิ่งที่น่าสนใจ

“ได้สิคะ ถ้าอย่างนั้นเรามานัดวันเวลากันเถอะ ฉันยังมีเพื่อนสนิทอีกคน เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ฉันพาเธอไปด้วยได้ไหมคะ” จันวิภาถามความคิดเห็นของวรกัญญาอย่างระมัดระวัง

ผู้หญิงเหรอ ก็น่าจะได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรขัดแย้งกับนิสัยของตนหรือเปล่า

เห็นวรกัญญาลังเล จันวิภาจึงรีบพูดว่า “เธอก็เป็นผู้หญิงที่ร่าเริงเหมือนกันค่ะ คุณน่าจะลองเจอสักหน่อย ถ้าไม่ชอบ ครั้งต่อไปเราจะไม่พาเธอไปอีก ดีไหมคะ” จันวิภาคิดไปถึงโธรณี ตอนนี้โธรณียังไม่รู้ว่ามุกดาไม่เพียงยังมีชีวิตอยู่ แต่ยังกลับมาแล้วด้วย ถ้ารู้ ต้องเป็นแบบตนแน่นอน เธอต้องโทรไปคุยกับโธรณีก่อนท่าจะดี

“งั้นก็ได้ค่ะ ฉันเพิ่งกลับมาก็ยังไม่มีเพื่อน ฉันควรลองคบหาไว้สักหน่อย”

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset