แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 203 ประธานวรกัญญาคนใหม่คือใคร

การประชุมประจำปีของบริษัทสตรอมแมนมีชีวิตชีวามาก ตอนนี้หลายๆ บริษัทชอบจัดประชุมประจำปี สิ้นปี พนักงานทุกคนในบริษัทสามารถกินดื่มกับประธานของตัวเองได้ รื่นเริงสนุกสนาน เข้าถึงประธานได้มากขึ้น ยิ่งพนักงานสนใจงานในปีที่กำลังจะมาถึงมากเท่าไรการเปลี่ยนงานก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น

การประชุมประจำปียังได้เชิญประธานของกรุ๊ปใหญ่ๆ มามากมายด้วย ซึ่งทำให้ทุกคนได้เปิดหูเปิดตา ตัวตนของพวกเขานั้นราวกับเทพเจ้า แต่เวลานี้ทุกคนสามารถเห็นได้ และเป็นการเห็นอย่างใกล้ชิดด้วย

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ในการประชุมประจำปีมีซองแดงหนาเตอะ ซองแดงหนาๆ นั่นคือสิ่งที่คนคาดหวัง

วรกัญญาพาเลขากับบอดี้การ์ดที่ทำงานพิเศษและณฐวรมาเป็นผู้ติดตาม มาถึงยังสถานที่จัดงานประชุมประจำปีของบริษัทสตรอมแมนแล้ว

ปกติวรกัญญาชอบสีสันที่สวยงาม แต่ห้าปีมานี้เธอกลับชอบสีดำ เสื้อผ้าเกือบทั้งหมดของเธอล้วนแล้วแต่เป็นสีดำ รวมทั้งชุดชั้นในด้วย เธอมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างกดทับหัวใจเธอจนหายใจไม่ออก ไปหาจิตแพทย์หลายคนก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเธอก็บอกไม่ได้ว่าที่แท้แล้วเธอเป็นอะไร

วันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีดำ ให้อารมณ์เรียบง่าย เน้นสัดส่วนสวยเฉี่ยว ไหล่คลุมขนมิงค์สีดำ ยิ่งเสริมให้ดูลึกลับ

การแต่งหน้าบางๆ ที่เหมือนไม่แต่ง ยิ่งเน้นให้ส่วนต่างๆ บนใบหน้าของเธอมีมิติมากขึ้น เปล่งประกายเฉิดฉายท่ามกลางฝูงชน ขัดกับความคิดที่ไม่อยากเป็นจุดสนใจของเธอ

เนื่องด้วยไม่รู้จักคนเหล่านี้ วรกัญญาจึงเดินไปยังที่ที่เงียบๆ ณฐวรเอาพวกเครื่องดื่มมาให้พี่สาว ทั้งสองคนนั่งดื่มกันตรงนั้น

ตรงประตูมีคนไปๆ มาๆ ครึกครื้นมีชีวิตชีวา ประวีร์เสร็จจากงานยุ่งแล้วเตรียมจะไปพบวรกัญญาที่หน้าประตู แต่ไม่เห็นเธอเลย มีข่าวที่เชื่อถือได้บอกว่าเธอจะมาในวันนี้ แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงา

ประวีร์รออยู่ครู่หนึ่งก็ยังไม่เห็นวรกัญญา ทันใดนั้นเขาก็คิดได้ว่าคนอย่างวรกัญญาต้องมาก่อนเวลา หลังจากจากกันห้าปี เธอก็ยังไม่เปลี่ยนนิสัยเหรอ

ประวีร์เข้าไปในฮอลล์ ไปตามหาวรกัญญา ไม่ได้เจอกันมาห้าปี ใจประวีร์จึงรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่รู้ว่าวรกัญญาจะเป็นอย่างไรบ้าง

อย่างที่คาด ในที่ที่เงียบสงบมีชายหญิงรูปงามคู่หนึ่งกำลังดื่มกันอย่างสบายๆ ที่นั่น

ประวีร์อดกลั้นความตื่นเต้นในใจของตัวเอง เขาหยิบเครื่องดื่มจากถาดของบริกรข้างๆ แล้วเดินเข้าไปหาวรกัญญา

“ประธานวรกัญญา ผมคิดว่าคุณจะไม่มาเสียแล้ว การมาของคุณทำให้งานประชุมประจำปีของผมเปล่งประกายสดใสจริงๆ ครับ” ตอนที่ประวีร์เห็นวรกัญญา เขาอึ้งอยู่นานกว่าจะคิดประโยคนี้ออกมาได้

เขาอยากถามวรกัญญาว่าห้าปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรที่คิดออกบ้างไหม ถึงเขาอยากจะถามอะไรมากมาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถถามเรื่องพวกนั้นได้

“ประธานประวีร์?” เมื่อวานได้ตรวจสอบรูปของประวีร์มานิดหน่อย และตอนนี้มันก็เป็นประโยชน์

“ประธานวรกัญญา นึกถึงผมออกแล้วเหรอครับ” ประวีร์ตื่นเต้นมาก มุกของเขาจำเขาได้แล้ว

“ก็เราร่วมมือธุรกิจกันไม่ใช่เหรอคะ ฉันต้องนึกถึงคุณออกแน่นอนอยู่แล้วค่ะ” วรกัญญาเพียงแค่พูดอย่างเป็นทางการ แต่ประวีร์คนนี้เธอก็รู้สึกคุ้นมาก เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน อาจจะอยู่บนนิตยสารละมั้ง ผู้ชายคนนี้หล่อมากไม่ใช่แค่ดูดีทั่วไป

ประวีร์ยิ้มอย่างเก้อเขิน ตนรีบร้อนเกินไป วรกัญญาจงใจลืมบางสิ่ง บางทีแบบนี้อาจจะดีกว่า โลกของเธอเรียบง่ายขึ้น เขาก็สามารถก้าวเข้าไปในชีวิตของเธอได้ใหม่

เมื่อชุติภาสมาถึงสถานที่จัดงาน คนก็มากันเยอะแล้ว เขาต้องคอยเฝ้าดูแลชลธีมาโดยตลอด เด็กคนนี้ ห้าปีที่ผ่านทรุดโทรมลงอย่างมาก เป็นประธานก็ไม่ได้ แถมยังทำให้ตนในวัยห้าสิบต้องมาแบกรับภาระนี้อีกด้วย

“ชล ไปเข้าข้างในเถอะ” ชุติภาสดึงชลธี ทุกคนพาเลขาหรือผู้ติดตามมา มีเพียงเขาที่ต้องเอาลูกชายพาไปด้วยทุกเวลา เพราะถ้าไม่พามา เด็กคนนี้จะกระทำการฆ่าตัวตายได้ทุกเมื่อ

ห้าปีก่อน เมื่อชลธีรู้ว่าณิชพนถูกปรีณาพรรณขับรถชนตาย ก็ตามหามุกดาอย่างบ้าคลั่ง แต่มุกดาเหมือนหายไปจากโลกใบนี้ มีข่าวลือว่ามุกดาไม่สามารถทนต่อการตายของพ่อได้ ดูเหมือนจะไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตายที่ไหนสักแห่ง

ชลธีกระโดดลงไปงมหาตามสถานที่ที่คนอื่นพูดถึง เที่ยวตามหามากกว่าหนึ่งสัปดาห์ ก็ยังหาไม่พบ

และมีคนบอกว่ามุกดากินยาฆ่าตัวตาย ชลธีก็ไปโรงพยาบาลอีก และพบว่าถูกพาตัวไปแล้ว

สองปีต่อมา ชลธีก็เงียบซึม และไม่พูดถึงอะไรที่เป็นมุกดาอีกเลย ชุติภาสคิดว่าชลธีคงตัดใจได้แล้ว แต่แล้วเช้าวันหนึ่ง กลับพบว่าชลธีไม่ออกมาให้เห็นเลย จึงเปิดประตูห้องของชลธีเข้าไป เขานอนอยู่บนเตียงนิ่ง น้ำลายฟูมปากหมดสติไปแล้ว

เมื่อส่งไปที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าโชคดีที่ทันเวลา ถ้าสายไปสิบนาที ชลธีก็ได้แต่ไปทักทายยมบาลเท่านั้น

อยู่โรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งเดือน ชลธีไม่มีการพูดจาอีกเลย เขาเพียงจ้องมองโทรศัพท์มือถือตัวเองเงียบๆ บนนั้นมีแต่รูปของมุกดา เมื่อดูจนอ่อนไหว เขาจะร้องไห้ออกมาเงียบๆ

หลังจากออกจากโรงพยาบาลมาอย่างทุลักทุเล ชลธีก็ไม่ไปที่บริษัทอีกต่อไป จนวุ่นวายไปทั้งบริษัท ชุติภาสไม่มีทางเลือก ลูกชายอีกสองคนก็ไม่ได้เรื่องได้ราว มีเพียงตนคนเดียวที่ต้องแบกรับภาระเอาไว้

แต่ตอนที่เขากำลังยู่งอยู่กับงาน ชลธีก็กรีดข้อมือตัวเองอีก เลือดแดงฉาน ทำเอาชุติภาสตกใจจนเข่าอ่อน

แผลที่ข้อมือลึกมาก หมอบอกว่าชลธีอยากตาย เขาถึงได้ลงมือหนักขนาดนั้น บนใบหน้าของเขายังเปื้อนยิ้มอีกด้วย มืออีกข้างกำโทรศัพท์มือถือเอาไว้แน่น บนโทรศัพท์มือถือเป็นรูปของมุกดา

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชุติภาสก็ไม่กล้าปล่อยให้ชลธีอยู่คนเดียวไม่ว่าที่ไหนอีกต่อไป ไม่ว่าเขาจะไปสถานที่แห่งใด ก็จะเอาชลธีติดตัวไปด้วย

ชุติภาสจูงชลธีเข้าไปยังสถานที่จัดงานประชุมประจำปี มือซ้ายของชลธีขยับไม่ได้ ในมือของเขาถือรูปของมุกดาเอาไว้ตลอด ไม่ว่าเมื่อไรก็ไม่ปล่อย ใครมาขยับเขาจะมองตามด้วยสายตาร้อนรน

หลังจากทักทายเหล่าพันธมิตรคู่ค้า ชุติภาสก็ไปหาสถานที่หนึ่ง แล้วพาชลธีไปนั่ง

เอาเครื่องดื่มให้ชลธีแก้วหนึ่ง แล้วชุติภาสก็เอาให้ตัวเองแก้วหนึ่งด้วย ชลธีนั่งลง และเริ่มมองดูรูปอีกครั้ง รอยยิ้มบนใบหน้าของมุกดาทำให้เขารู้สึกสุขใจ

“ประธานชุติภาส ยินดีที่ได้พบ” มีคนมาทักทายชุติภาสอีกครั้ง

ชุติภาสเองก็สืบหาคนด้วย ในตอนนั้นเหมือนว่าเรื่องของมุกดาโจนส์กรุ๊ปจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เขาต้องการร่วมธุรกิจกับโจนส์กรุ๊ปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่โจนส์กรุ๊ปกลับรังเกียจเขาอย่างมาก

สุดท้ายไม่มีทางเลือก เขาได้แต่ให้ตัวเองต้องขาดทุน เพื่อให้โจนส์กรุ๊ปร่วมธุรกิจกับตน แต่โจนส์กรุ๊ปก็ยังคงไม่เต็มใจ อย่างไรก็ตามครั้งนี้แสนจะบังเอิญ เมื่อประธานวรกัญญาคนใหม่กลับมาจู่ๆ ไม่นานก็เซ็นสัญญา เขาจึงอยากจะเห็นมากว่าประธานวรกัญญาคนใหม่เป็นคนแบบไหน

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset