เห็นชลธีนั่งอยู่ข้างกายของย่านิ่ม ในใจของวรรณวิมลรู้สึกตื้นตันมาก น้อยครั้งที่จะเห็นทั้งสองมีโอกาสนั่งอยู่ด้วยกัน ย่านิ่มช่างเป็นข่าวดีของตนเองจริงๆ
ย่านิ่มมองดูชลธี ยัยหนุ่มนี้ช่างหล่อเหลาจริงๆ ผสมผสานจุดเด่นทั้งหมดของชุติภาสและนีรชา
ย่านิ่มมองหลานชายของตัวเองจนเหม่อลอย วรรณวิมลก็มองชลธีจนเหม่อลอยแล้ว คนคนนี้หล่อกว่าสามีของตนเองหนึ่งแล้วเท่าเลยสินะ เพราะเหตุใดไม่ว่าเรื่องดีอะไรมุกดาก็พบเจอหมด?
“คุณย่าครับ คุณย่าครับ ดึกมาแล้ว วันนี้ท่านนั่งเครื่องบินก็เหนื่อยมากแล้ว รีบพักผ่อนเถอะครับ” ชลธีเห็นคุณย่าตนเองมองตนเองแล้วเหม่อลอยมาโดยตลอด และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าเวลานี้แล้วผู้สูงอายุก็ควรจะพักผ่อนแล้ว
“ชล หลานคือคนสำคัญของย่าจริงๆ ย่าชอบหลานที่สุดแล้ว หลานต้องทำดีกับย่านะ” ย่านิ่มจับมือของชลธี บนใบหน้าดูน่าสงสาร ทำให้ชลธีเริ่มรู้สึกใจอ่อนแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะเย็นชากับคนนอก ทว่าทำดีต่อคนในครอบครัวของตนเองมากๆ โดยเฉพาะกับญาติผู้ใหญ่ของตนเอง กตัญญูมากๆ
“คุณย่าครับ ผมต้องกตัญญูกับท่านอยู่แล้วครับ ท่านวางใจเถอะครับ!” ชลธีตบมือของย่านิ่มเบาๆ ปลอบโยนเธอ
“อื้ม อื้ม ย่ารู้อยู่แล้วว่าชลของย่าดีที่สุดแล้ว ย่าก็วางใจแล้ว ย่ายังกลัวอยู่เลยว่าย่าจะอยู่ที่นี่ต่อไม่ไหว” ย่านิ่มพูดด้วยความน้อยใจ
“ไม่หรอกครับ คุณย่าวางใจเถอะครับ ทุกคนที่อยู่ที่นี่จะปฏิบัติต่อคุณย่าอย่างดีแน่นอนครับ” ชลธีประคองย่านิ่มขึ้นมา
“คุณย่า ผมประคองท่านกลับไปพักผ่อนนะครับ มีอะไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน พรุ่งนี้ผมจะกลับเช้าๆ มาอยู่เป็นเพื่อนท่านนะครับ” ชลธีประคองย่านิ่ม วรรณวิมลก็รีบประคองแขนอีกข้างของย่านิ่ม
“ชล เดี๋ยวฉันเอง นายก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” วรรณวิมลพูดกับชลธีด้วยความเอ็นดู
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ชลหลานไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวย่ากลับไปกับอ่อนก็ได้แล้ว” ย่านิ่มเองก็เอ็นดูชลธีมาก ไม่ให้เขาไปส่งตนเอง ผลักเขาออกไป
“ก็ได้ครับ คุณย่า งั้นคุณย่าไปพร้อมกับพี่สะใภ้สอง ผมกลับไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ชลธีเห็นย่านิ่มและวรรณวิมลไปแล้ว เขาเองก็ขึ้นตึก ดูเหมือนว่าวันนี้ทุกคนในครอบจะเข้ากันได้ดี
ชลธีขึ้นตึกไป วันนี้เขายุ่งมากจริงๆ เวลานี้ในใจคิดถึงมุกดามากๆ แล้ว
“มุก?” ชลธีผลักประตูห้องออก เห็นมุกดายุ่งอยู่ในห้องนอน ได้ยินเสียงของชลธี เธอก็รีบหันศีรษะกลับมา
“ชล นายกลับมาแล้วเหรอ?” มุกดาเก็บของที่อยู่ในมือ แล้วลุกขึ้นเดินมายังข้างหน้าของชลธี ช่วยเขารับของมา แล้วแขวนซื้อให้เรียบร้อยแล้ว
“วันนี้ยุ่งจะตายอยู่แล้ว ยุ่งจนไม่มีเวลาคิดถึงคุณแล้ว เมื่อกี้คุณทำอะไรอยู่เหรอ? ลับๆ ล่อๆ?” ชลธีสังเกตเห็นว่าหลายครั้งแล้วเมื่อเห็นตนเองมุกดาก็จะรีบเก็บของ
“ฉันกำลังทำเรื่องของตัวเองอยู่ ชล ฉันไปเติมน้ำในอ่างให้คุณนะ คุณรอฉันสักครู่” มุกดาไปที่ห้องน้ำเติมน้ำที่ใช้อาบน้ำในอ่างให้ชลธี
ชลธีดื่มน้ำไป เขาอยากลองไปดูว่ามุกดาทำอะไรอยู่กันแน่ ทว่าพอครุ่นคิดแล้ว ก็ไม่ได้เคลื่นไหว นี่เป็นความลับของมุกดาเลยนะ ในเมื่อเธอไม่บอกตัวเอง งั้นก็แสดงว่ามีเหตุผลของเธอ
น้ำหนึ่งแก้วยังดื่มไม่หมด มุกดาก็ออกมาแล้ว เธอเติมน้ำในอ่างเรียบร้อยแล้ว
“เรียบร้อยแล้ว ชล นายไปอาบน้ำเถอะ ฉันยังมีเรื่องอีกนิดหน่อย ทำเสร็จฉันก็จะนอนแล้ว”
“ได้ งั้นผมไปอาบน้ำแล้วนะ” ชลธีวางแก้วชาลง แล้วไปที่ห้องน้ำ
เอกสารการแปลของมุกดายังเหลืออีกส่วนหนึ่งที่แปลไม่หมด เธอจึงแปลต่อ จากนั้นก็นำสิ่งของใส่เข้ามาในกระเป๋าของตนเอง เตรียมส่งไปให้บริษัทศักดิ์พรในวันพรุ่งนี้
ชลธีก็ยังออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว เขาบอกว่าวันนี้จะกลับมาทานข้าวกับย่านิ่ม ดังนั้นจึงต้องไปจัดการเรื่องให้เรียบร้อยแล้วก่อน จึงจะสามารถกลับเช้าได้
มุกดาปวดเมื่อยไปทั้งตัว ชลธีพลังงานเยอะมากจริงๆ เหนื่อยมาทั้งวัน กลับมายังมาทำ “เรื่อง” อีก เช้าตรู่นี้ยังกลัวว่าจะเสียงดังทำให้เธอตื่น จึงออกไปอย่างเงียบๆ แล้ว
เคลื่อนไหวร่างกายไปสักพัก มุกดาตื่นแล้ว วันนี้เธอต้องไปส่งเอกสารการแปลที่บริษัทศักดิ์พร จากนั้นก็ไปช่วยชลธีที่บริษัทฮอนดากรุ๊ป นี่ชลธีให้ตัวเองหยุดงานมาหลายวันแล้ว ก็ควรจะไปทำงานแล้ว
หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว มุกดาก็ออกไป สถานที่ตั้งของคฤหาสน์ตระกูลสุวรรณเลิศอยู่ไกลจากในตัวเมืองมาก มุกดาเดินไปนานมากจึงจะเดินไปถึงถนนใหญ่ เรียกรถไปคันหนึ่งก็มาถึงบริษัทศักดิ์พร
“พี่ภพ ฉันมาส่งเอกสารแล้วค่ะ” มุกดาดำเอกสารที่ตนเองแปลเสร็จให้สันติภพ
“อ่อ ได้เลย เอ่อมุก ประธานของพวกเราบอกว่าเอกสารที่เธอแปลดีมาก ความถูกต้องสูงมาก ยังเตรียมจะเพิ่มเงินให้เธอด้วยนะ” สันติภพพูดกับมุกดา
ตอนแรกมุกดาคิดอยู่ว่าจะลาออก ตอนนี้เข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลสุวรรณเลิศแล้ว เธอจำเป็นต้องใช้เวลาจำนวนมากอยู่กับคนในครอบครัว หากอยู่ในแต่ในห้องของตนเองทุกวันโดยไม่ออกไปเลย จะทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเธอเป็นคนเก็บตัวได้
ถ้าหากพูดว่าตัวเองยังรับแปลงานพาร์ทไทม์ ชลธีต้องไม่ชอบใจแน่ๆ คนอื่นๆ ก็ต้องว่าตัวเองแน่นอน
ทว่าเธอยังไม่ทันพูดออกมา ก็ถูกสันติภพปิดปากไปแล้ว ทำให้เธอรู้สึกพูดยากเล็กน้อย
“พี่ภพ ประธานของบริษัทศักดิ์พรคือใครเหรอคะ?” มุกดาถามไป เธอมาที่นี่หลายเดือนแล้ว ยังไม่เคยเจอประธานท่านนี้เลย
“ประธานของเรานามสกุลแสนไชย น้อยมากที่จะมาที่นี่ ปกติแล้วจะอยู่ที่บริษัทใหญ่ บริษัทศักดิ์พรของพวกเราเป็นเพียงบริษัทเล็กๆ ส่วนหนึ่งของเขา” สันติภพอธิบายให้มุกดา
“พี่ภพ ฉันอยากคุยเรื่องหนึ่งกับพี่ค่ะ ฉันอยากลาออกแล้วค่ะ การลาออกนี้จำเป็นต้องบอกกับประธานของพวกพี่ใช่ไหมคะ” มุกดาครุ่นคิด รู้สึกว่าก็ยังจำเป็นที่จะต้องพูดความตั้งใจของตัวเองออกมา
“ลาออก? ทำไมล่ะ? หรือว่าค่าตอบแทนของบริษัทศักดิ์พรไม่ดีหรอ?” สันติภพได้ยินว่ามุกดาจะลาออก เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อมาก เขากล้ารับประกันเลย ไม่ว่ามุกดาจะไปหน่วยงานไหน ก็ไม่มีทางได้เงินเดือนเหมือนตอนนี้แน่นอน
“ดีค่ะ ดีมากเลยค่ะ แต่ว่าฉันมีเรื่องที่บ้านเล็กน้อย ไม่สะดวกทำงานแบบนี้ต่อแล้วค่ะ” มุกดาพูดตอบ เธอรู้สึกเกรงใจมาก
“พี่ภพ เอาอย่างนี้ละกันค่ะ ในตอนที่พวกพี่ยังหาล่ามแปลท่านอื่นไม่เจอ ฉันยังสามารถช่วยพวกพี่แปลได้ แต่ว่าฉันให้เวลาพวกพี่แค่เดือนเดียวนะคะ หลังจากหนึ่งเดือนฉันก็จะไม่ช่วยพวกพี่แล้ว เดือนนี้ฉันก็แค่ช่วย ไม่คิดเงินค่ะ” ในใจของมุกดาก็รู้ดี ออกจากบริษัทศักดิ์พรไปก็ไม่สามารถหาสวัสดิการที่ดีขนาดนี้ได้แล้ว
“งั้นเธอรอสักครู่นะ ฉันโทรหาท่านประธานก่อน” สันติภพเห็นว่าตัวเองรั้งมุกดาไม่อยู่ ก็รีบโทรหาประธานไป
และไม่รู้ว่าสันติภพพูดอะไรไปบ้าง เห็นเพียงแต่เขาพยักหน้าไม่หยุด แล้วยังมองมุกดาด้วย
ผ่านไปสักพัก สันติภพคุยโทรศัพท์จบแล้ว เขาเดินมา พูดกับมุกดาว่า “มุก ประธานของพวกพี่เชิญเธอไปหาเขาหน่อย”