เมธพรบอกว่าตัวเองสามารถทำให้เขาร่วมงานกับบริษัทฮอนดากรุ๊ปได้ แต่ธีรเมทไม่เชื่อเธอหรอก
“ธีร์ ฉันไม่ได้หลอกนายนะ ฉันทำให้บริษัทฮอนดากรุ๊ปร่วมงานกับนายได้จริงๆ ทำไมนายไม่ลองดูล่ะ?” เมธพรมองดูใบหน้าอันหล่อเหลาของธีรเมท ผู้ชายอื่นเธอก็ไม่สามารถครอบครองได้ ธีรเมทอย่างน้อยก็เป็นคุณชายสามของว่องประเสิรฐกรุ๊ป เธอจะปล่อยมือไปไม่ได้เด็ดขาด
“ได้ ในเมื่อเธอมั่นใจว่าทำได้ ฉันก็จะให้เวลาเธอหนึ่งอาทิตย์ ถ้าเธอเอาโครงการของบริษัทฮอนดากรุ๊ปมาได้จริง ฉันก็จะคบกับเธอต่อไป ถ้าเธอทำไม่ได้ ก็อย่ามาหาฉันอีก” ธีรเมทมองค้อนเมธพร เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้เพื่อที่จะได้เขาไปครอบครอง ยังหาคนอื่นไปทำลูกด้วย
ตอนแรกคิดว่าถ้าเมธพรคลอดลูกแล้ว งั้นก็เป็นลูกคนแรกของตระกูลรุ่งเจริญ ตำแหน่งของเขาก็จะถูกยกระดับขึ้น แต่ผู้หญิงคนนี้ กลับท้องลูกของคนอื่นอยู่
ธีรเมทคิดถึงเรื่องนี้ก็โมโหขึ้นมาทันที แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ดีกับตัวเองจริงๆ หลอกใช้ได้ก็หลอกไปก่อนแล้วกัน
“ได้ เวลาหนึ่งอาทิตย์ ฉันจะจัดการให้เดี๋ยวนี้ ธีร์นายคอยดูได้เลย” ตัวเองก็เจอเรื่องวุ่นวายมามาก ดังนั้นเมธพรไม่มีเวลาบอกกับธีรเมท เรื่องที่ว่าลูกพี่ลูกน้องตัวเองเป็นคุณนายรองของตระกูลสุวรรณเลิศ
เมธพรพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที เธอจะไปหาลูกพี่ลูกน้องตัวเอง ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม เธอจะเอาโครงการของบริษัทฮอนดากรุ๊ปมาให้ได้
“พี่คะ ดื่มชาสิคะ” เมธพรยื่นชาให้วรรณวิมลอย่างเคารพ
วรรณวิมลกลับไม่เกรงใจเมธพรเลยสักนิด ครอบครัวของวรรณวิมลนับว่ามีเงินพอสมควร แต่ครอบครัวของเมธพรกลับแย่กว่ามาก ดังนั้นวรรณวิมลจึงดูถูกเมธพรมาตลอด
“อืม ฉันดื่มแล้ว เธอมีอะไรรีบพูดมาเถอะ ฉันยังมีธุระต้องทำ ตอนบ่ายมีสปา ช็อปปิ้ง ยังต้องไปเล่นไพ่อีก” วรรณวิมลดื่มชา วันนี้ที่อยู่ที่นี่ ก็เพราะเมธพรบอกว่ามีเรื่องสำคัญอยากจะพูดกับตัวเอง
ตอนแรกไม่อยากมา แต่เมธพรยังข่มขู่ตัวเอง ก็ยิ่งทำให้เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“พี่คะ ฉันอยากจะได้การร่วมงานของโครงการในบริษัทฮอนดากรุ๊ปค่ะ” เมธพรพูดเปิดประเด็น
“เธอน่ะเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไง บ้านเธอเป็นแค่บริษัทเล็กๆ ถึงแม้จะให้พวกเธอจริง พวกเธอก็จัดการไม่ได้หรอก” วรรณวิมลวางแก้วชาลงก็อยากจะลุกขึ้นเดินออกไปทันที เมธพรพูดบ้าอะไรกัน มาหาตัวเองเพราะเรื่องแบบนี้งั้นเหรอ?
ทำตัวเป็นกระต่ายหมายจันทร์ไปได้! วรรณวิมลดูถูกเมธพรในใจอย่างแรง
“ไม่ใช่บริษัทของครอบครัวฉัน เป็นว่องประเสิรฐกรุ๊ป นั่นก็เป็นบริษัทที่มีความสามารถมาก ร่วมงานกับบริษัทฮอนดากรุ๊ปน่าจะได้นะ?” เมธพรเห็นวรรณวิมลจะไปแล้ว ก็รีบพูดเป้าหมายจริงที่ตัวเองมา
“เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ว่องประเสิรฐกรุ๊ปเกี่ยวอะไรกับเธอ เธอคิดมากไปหรือเปล่า” วรรณวิมลอยากจะตบโต๊ะให้ดังลั่น เมธพรอิจฉาตัวเองมาตลอด เธอรู้เรื่องนี้ดี แต่ใครใช้ให้หล่อนเกิดมาไม่ดีล่ะ!
วรรณวิมลลุกขึ้นดันประตูและเดินออกไป
“พี่คะ ฉันมีผลตรวจจากโรงพยาบาล พี่อยากดูหน่อยไหมคะ?” เมธพรร้อนใจ ก็รีบเอาของออกมาวางไว้บนโต๊ะ
วรรณวิมลได้ยินแล้ว ก็หยุดชะงักฝีเท้าลง เธอหันหน้ากลับไป ไม่รู้ว่าเป็นของอะไรกันแน่
วรรณวิมลเดินกลับไปหยิบของบนโต๊ะขึ้นมาดู จากนั้นสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปทันที
“เธอเอามันมาจากไหน?” มือของวรรณวิมลสั่นอย่างหนัก จากนั้นเธอก็ฉีกผลตรวจโรงพยาบาลนั่นทิ้งจนแหลกละเอียด
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยังมีต้นฉบับอยู่ ที่พี่เห็นก็แค่ใบถ่ายเอกสาร” เมธพรรู้ว่าในมือตัวเองมีจุดอ่อนของอีกฝ่ายไว้ในกำมือ
“ได้ เธออยากได้โครงการอะไร? หลังจากเรื่องนี้จบแล้ว เอาต้นฉบับมาให้ฉัน” วรรณวิมลนั่งลงอีกครั้ง
“มีแต่พี่ที่เอ็นดูฉัน ฉันอยากได้โครงการที่บริษัทฮอนดากรุ๊ปเคยร่วมงานกับว่องประเสิรฐกรุ๊ปก่อนหน้านั้น หลังจากเรื่องนี้สำเร็จแล้ว ฉันจะเอาต้นฉบับมาคืน” เมธพรก็พูดอย่างไม่ลังเล เรื่องนี้โชคดีที่ตอนนั้นเธอแอบเก็บไว้
“ได้!” วรรณวิมลไม่อยากอยู่อีกต่อไปสักวินาทีเดียว เธอถือกระเป๋าแอร์แม็สของตัวเอง แล้วเดินออกไปทันที
วรรณวิมลมองดูแผ่นหลังของเธอแล้วหัวเราะ นั่นสิ ชีวิตของเมธพรไม่ดีเท่าวรรณวิมล หล่อนกินของดีที่สุด ใส่แต่ของแบรนด์เนม ขนาดโรงเรียนที่เข้าก็ยังเป็นโรงเรียนที่มีแต่ผู้ดีเรียนกันเลย
ตอนนี้เธอมีแค่ธีรเมทคนเดียวแล้ว มีธีรเมทเธอก็จะมีทุกอย่าง
เวลาหนึ่งอาทิตย์มาถึงแล้ว แต่ธีรเมทไม่ได้ติดต่อบริษัทฮอนดากรุ๊ปในทันที วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว จนถึงตอนบ่ายแล้ว เมธพรหลอกตัวเองไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ธีรเมทยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่
“ธีร์ ฉันต้มซุปมาให้นายน่ะ” เมธพรถือกระบอกฉนวนเดินเข้ามา
“เมธพร เธอรับปากกับฉันว่ายังไง? หนึ่งอาทิตย์แล้ว? ตอนนี้เวลาหนึ่งอาทิตย์ถึงแล้ว โครงการนั้นล่ะ?” ธีรเมทเดินไปตรงหน้าเมธพร แล้วบีบแขนเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“ยังไม่หมดเวลาไม่ใช่หรือไง? ตอนนี้เพิ่งจะบ่ายสาม ห่างจากเลิกงานตั้งสามชั่วโมงนี่?” วรรณวิมลตอนนี้ก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน หรือว่าวรรณวิมลไม่มีความสามารถนี้ หรือว่าหล่อนจะหาวิธีจัดการตัวเองได้แล้ว?
“ได้ ฉันจะรออีกสามชั่วโมง ทางที่ดีเธอนิ่งไว้เลยนะ ฉันบอกกับพ่อฉันแล้ว ถ้าเรื่องนี้ไม่สำเร็จละก็ ฉันจะต้องลาออก!” ตอนนั้นเห็นเมธพรดูมั่นใจอย่างมาก ธีรเมทก็ทุบหน้าอกบอกกับดิษย์ดนุชอย่างมั่นใจ แต่ตอนนี้กลับไม่มีวี่แววอะไรเลย
“จะต้องสำเร็จแน่นอนๆ นายวางใจได้ รออีกหน่อยนะ” เมธพรในตอนนี้ก็ตัวเย็นเฉียบไปหมดแล้ว ถ้าวรรณวิมลไม่ช่วยจริงละก็ งั้นเธอก็คงต้องตัดสินใจสู้ตายกันไปข้างแล้ว
“กริ๊งๆๆ” ในตอนห้าโมงเย็น ดิษย์ดนุชโทรศัพท์มา ถามเรื่องของบริษัทฮอนดากรุ๊ป
“ประธานครับ รออีกหน่อยนะครับ เดี๋ยวน่าจะมีข่าวแล้ว” ฝ่ามือธีรเมทเต็มไปด้วยเหงื่อ
เวลาผ่านไปเรื่อยๆอย่างนั้น สำหรับธีรเมทแล้วการรอคอยแบบนี้เหมือนเป็นการทรมานตัวเอง
ในตอนห้าโมงเย็นสี่สิบ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ธีรเมทไม่มีความกล้าพอที่จะรับมัน
“ธีร์ ธีร์ รีบรับสายสิ รีบรับสิ” เมธพรก็เอาความหวังทั้งหมดไว้ที่โทรศัพท์สายนี้
ธีรเมทกดรับโทรศัพท์ด้วยมืออันสั่นเทา
“พ่อครับ ผม……” ธีรเมทรับสาย ยังคงเป็นสายจากดิษย์ดนุช เขาเตรียมตัวถูกด่าแล้วล่ะ
“ธีร์ลูกรัก แกนี่มันเก่งจริงๆเลย บริษัทฮอนดากรุ๊ปโทรมาแล้ว บอกว่าพวกเราสามารถร่วมงานกันต่อไปได้ ร่วมงานกันอีกครั้ง ฮ่าๆๆ ดีมากเลย ดีมากเลยจริงๆ” เสียงหัวเราะของดิษย์ดนุชดังออกมาจากโทรศัพท์
ทำให้ธีรเมทและเมธพรโล่งอก ธีรเมทก็พูดถ่อมตัวเล็กๆน้อยๆ ถึงวางสายไป
ธีรเมทวางสายไปแล้ว เขาก็หันไปมองเมธพร