ชลธีได้ยินเสียงของมุกดา เสียงนั้นสั่นคลอน ฟังแล้วทำให้คนเศร้าใจอย่างไร้สาเหตุ
“อืม ผมกลับมาแล้ว มุก คุณไม่สบายเหรอ?จะเรียกหมอมาดูหน่อยมั้ย?” ชลธีฟังเสียงของมุกดาแล้ว นึกว่าเธอไม่สบาย
ชลธีอยากไปเปิดไฟ แต่มุกดากลับขัดขวางไว้
“ไม่ต้องค่ะ ฉันก็แค่เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ” มุกดาไม่ได้พูดอะไร แค่หันหน้าไปที่ชลธี
“อ๋อ เหนื่อยนิดหน่อย?งั้นคุณพักผ่อนดีๆเถอะ”เดิมทีชลธีคืออยากปรึกษากับมุกดาหน่อย แต่ได้ยินว่ามุกดาเหนื่อยนิดหน่อย เขาก็รู้สึกอีกว่าบางคำพูดมันพูดไม่ออก
“อืม โอเคค่ะ” มุกดาเห็นหน้าตาจะพูดแต่ก็หยุดชะงักของชลธี ก็รู้เลยว่าเขาจะพูดอะไรกับตัวเอง แต่เธอก็ไม่พูดก่อนหรอก เธอจะรอดูว่าชลธีจะใช้ข้ออ้างอะไรให้ตัวเองเอาลูกออก
ชลธีให้มุกดานอนลงไปแล้วห่มผ้าให้เธอ เขามองดวงตาของมุกดาไว้ ดวงตาอยู่ในค่ำคืนที่มืดมิดได้เปล่งประกายแวววาว
“ชล คุณจะไปแล้วเหรอคะ?” มุกดาเรียกชลธีไว้
“งั้นผมอยู่เป็นเพื่อนคุณสักพักนะ”เดิมทีชลธีคืออยากลองไปคิดดูอีกทีว่าควรจะพูดกับมุกดายังไงว่าให้เธอเอาลูกออก แต่มุกดาอยากให้ตัวเองอยู่เป็นเพื่อนเธอ ชลธีก็ได้หยุดลงมาอีก
“ช่างเถอะ คุณไปยุ่งเถอะค่ะ ฉันก็จะพักผ่อนแล้ว” มุกดาทั้งอยากลองฟังดูว่าชลธีจะใช้ข้ออ้างอะไร แต่ก็กลัวที่จะฟัง สุดท้ายเธอเลือกที่จะหนี
ชลธีถอนหายใจทีหนึ่งก็ได้ออกไปเลย ปิดประตูห้องนอนของมุกดา เขายืนคิดอยู่หน้าห้องไปพักหนึ่ง ก็ไม่มีความเห็นอะไร แบบว่าไม่รู้ว่าจะจับต้นชนปลายยังไง จากนั้นเขาก็ได้กลับไปห้องนอนเล็ก
มุกดาพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงก็นอนไม่หลับสักที ไหนๆก็ไหนๆแล้วเธอเลยลุกจากเตียงซะเลย อยากไปรินน้ำดื่มแก้วหนึ่ง ตอนที่มาถึงทางเดิน เห็นไฟของห้องนอนเล็กยังสว่างอยู่
ชลธีทำงานหนักมาก มุกดาก็สงสารเขามากเหมือนกัน เธอเลยเข้าครัวต้มบะหมี่แล้วยกไปให้ชลธี
ประตูของห้องนอนเล็กไม่ได้ล็อก มุกดากำลังจะผลักประตู ก็ได้ยินชลธีกำลังคุยโทรศัพท์อยู่
“น้ำผึ้ง คุณฟังผมพูดนะ เอาไว้ไม่ได้ เอาไว้ไม่ได้แน่นอน ถ้าเอาไว้ คุณจะทำยังไง?”
ไม่รู้ว่าในสายพูดอะไรไปบ้าง ทันใดนั้นชลธีก็โกรธขึ้นมาเลย แม้แต่เสียงก็ดังขึ้นด้วย
“ผมบอกว่าเอาไว้ไม่ได้ก็คือเอาไว้ไม่ได้ คุณจะพูดยังไงก็ไม่ได้”พูดจบเขาก็ได้วางสายทิ้ง
“เพล้ง”บะหมี่ที่อยู่ในมือมุกดาได้ตกหล่นสู่พื้น เธอยืนเอ๋ออยู่ที่นั่น
“ใคร?”เสียงของชลธีเพิ่งถามออกมา คนก็ได้มาถึงหน้าห้องแล้ว เขาเปิดประตูก็เห็นมุกดาที่จะล้มมิล้มแหล่
“มุก?”ชลธีอุ้มมุกดาไว้ทันที
แต่ร่างกายของมุกดากลับไหลลงไปข้างล่าง พริบตาเดียวเธอก็ได้คุกเข่าอยู่บนพื้น
หัวเข่าได้กระแทกใส่เศษถ้วยบนพื้นพอดี ตามด้วยเลือดสดไหลออกมา
“มุก มุก” ชลธีร้อนรนใจจะแย่ ก็ไม่รู้มุกดาเป็นอะไรกันแน่ บะหมี่บนพื้นนี้แสดงให้เห็นว่ามุกดายกบะหมี่มาให้ตัวเอง แต่ทำไมเธอถึงได้ทำถ้วยตกใส่พื้น?
ชลธีในเวลานี้ก็ไม่มีเวลามาสนใจอะไรมากมายขนาดนั้นแล้ว เขาโน้มตัวอุ้มมุกดาขึ้นมา แล้วให้นัทธ์ไปเรียกหมอมา
หัวเข่าของมุกดามีเลือดไหล แต่ระหว่างขาของเธอก็กำลังมีเลือดไหลเช่นกัน
“ประธานชลธีครับ เด็กรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้วครับ ต้องไปโรงพยาบาลด่วนเลย นี่คือภาวะใกล้แท้งครับ”หมอครอบครัวดูแล้ว ได้ให้ชลธีพามุกดาไปที่โรงพยาบาลทันที
อุปกรณ์ที่เย็นเฉียบกระทบกระทั่งอยู่บนตัวของมุกดา เธอรู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองว่างเปล่าไปแล้ว
พอลืมตาขึ้นในสายตาเต็มไปด้วยสีขาว และมีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่เข้มข้น
“ลูกของฉัน ลูกของฉัน” มุกดารู้สึกได้แล้วว่าเด็กได้หายสาบสูญไปจากร่างกายของตัวเองแล้ว
“อย่าใจร้อนค่ะ เด็กออกมาแล้ว หมอกำลังขูดมดลูกให้คุณอยู่”หมอที่ทำการผ่าตัดพูดกับมุกดา เธอใจร้อนเกินไป ทำให้การผ่าตัดไม่สามารถดำเนินไปได้
“ใครให้พวกคุณเอาลูกฉันไป พวกคุณเอาลูกฉันคืนมา เอาลูกฉันคืนมา!”มุกดาพอฟังแล้วยิ่งอารมณ์ร้อนเข้าไปใหญ่
“กดเธอไว้ ใกล้จะเสร็จแล้ว คุณผู้หญิง พวกเราขูดมดลูกให้คุณ เพื่อไม่ให้มีเลือดค้างอยู่ในมดลูก คุณอดทนอีกนิดนะคะ”หมอเห็นมุกดาควบคุมไม่ได้ จึงได้ให้คนกดเธอไว้
น้ำตาของมุกดาไหลออกมา ชลธียอมรับลูกตัวเองไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ?ต่างก็เคยบอกแล้วว่าถึงอนาคตหย่าร้างกัน ก็ตัวเองเป็นคนเอาลูกไป นี่เขากลัวว่าตัวเองจะพาลูกไปขอมรดกของเขาเหรอ?
ชลธี ฉันเกลียดคุณ ชาตินี้ฉันก็จะไม่มีวันให้อภัยคุณ!
“มุก กินอะไรหน่อยเถอะ” ณิชพนตุ๋นน้ำซุปส่งมาให้มุกดา ก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น อยู่ดีๆลูกสาวก็แท้งลูกเลย ยามคับขันแบบนี้ลูกเขยกลับเดินทางไปทำงานนอกสถานที่อีก
“พ่อคะ หนูไม่อยากดื่มค่ะ” มุกดายังไม่ได้เดินออกมาจากความเจ็บปวดที่สูญเสียลูก
“ลูก ลูกกินหน่อยนะ เพิ่งแท้งลูกมา ร่างกายสำคัญกว่านะ ต่อไปยังมีลูกได้อีก ลูกก็อย่าเสียใจไปเลย” ณิชพนคอยปลอบโยนลูกสาวตัวเอง
“อืม” มุกดาพยักหน้า
“มุก มุก เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?ทำไมเธอท้องก็ไม่บอกพวกเราเลย” โธรณีได้รับสายของพี่ชาย ก็ชวนจันวิภามาเยี่ยมมุกดาด้วยกันเลย
“บอกพวกเธอทำไม?ลูกฉันก็สูญเสียไปแล้ว”สีหน้าของมุกดาซีดเซียว ดูแล้วทำให้คนสงสารจับใจ
“พี่ชายฉันบอกว่าเด็กมีความบกพร่องทางร่างกาย ถึงได้แท้งลูก” โธรณีพูดกับมุกดา
“มีความบกพร่องทางร่างกาย?เหอะๆๆ ข้ออ้างนี้ฟังดูดีจังเลย” มุกดาหัวเราะอย่างเย็นชา มีความบกพร่องทางร่างกาย?ทำไมหมอไม่เห็นพูดเลย?หลังจากธินิดาส่งข้อความผิด คำพูดนี้ก็ได้พูดออกมาจากปากของชลธีอีก
โธรณีก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก เธอก็ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ
“แสนดี พี่ชายเธออยู่ไหน?” มุกดาเงยหน้าขึ้นมามองโธรณีแล้วถาม
โธรณีไม่รู้จะพูดยังไง ภรรยาตัวเองแท้งลูกและกำลังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล รู้สึกพี่ชายตัวเองนี่แย่จริงๆเลย
“เธอไม่ต้องพะวงอะไรทั้งนั้น เธอบอกฉันมาว่าเขาอยู่ไหน?” มุกดามองโธรณีด้วยแววตาที่ปรารถนา
“พี่ชายฉัน พี่ชายฉันไปฝรั่งเศสกับธินิดาแล้ว” โธรณีรู้ว่าปิดไม่มิด ระยะเวลาที่พี่ชายไปครั้งนี้ก็ค่อนข้างยาวด้วย จะปิดบังมุกดาตลอดก็คงไม่ใช่
หลังจากมุกดาฟังคำพูดนี้แล้ว เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกอย่างชัดเจนหมดแล้ว เอาลูกตัวเองออก ชลธีกลับพาธินิดาไปเที่ยว พวกเขาช่างทำได้ลงคอจริงๆ
มองดูน้ำซุปนั้น มุกดาก็มีความต้องการที่อยากจะดื่ม ถือสิทธิ์อะไรที่พวกเขามีความสุข แต่ตัวเองกลับต้องมาตกระกำลำบากเช่นนี้?
“พ่อคะ เอาซุปไก่ให้หนูค่ะ หนูอยากดื่ม” มุกดาชี้ซุปไก่พร้อมพูดกับณิชพน