“ว้าย” พนักงานเสริมสวยร้องออกมาทีหนึ่ง มาส์กที่หกไปแล้วกลับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่คนที่มาที่นี่ล้วนเป็นคนที่ร่ำรวยสูงศักดิ์กัน หล่อนล่วงเกินไม่ได้
“ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะ” พนักงานเสริมสวยรีบกล่าวขอโทษกับมุกดาทันที
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร เพียงแต่ว่าอันนี้ของคุณ” มุกดามองมาส์กหน้าอันนั้น
“ใบเตย พอดีมาส์กหน้าของคุณผู้หญิงท่านนี้ไม่ได้ใช้แล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นเธอเอาไปใช้ก่อนเถอะ ยังไงก็เหมือนกัน” พนักงานเสริมสวยที่ดูแลหน้าให้มุกดาคนนั้นเห็นว่าที่มาส์กหน้าหกสาด จึงนำที่หล่อนผสมเรียบร้อยแล้วไปให้ใบเตย
“อืม อืม ขอบคุณนะแจ๊ดาว” ใบเตยรับที่มาส์กหน้าอันนั้นมา แจ๊ดาวจึงทำความสะอาดพื้นให้แล้ว
ธินิดาพูดกับจันทิมาไม่กี่ประโยค คาดการณ์ว่าที่มาส์กหน้าคงผสมเสร็จแล้ว หล่อนจึงเข้ามา
นอนลงบนเตียงไป ใบเตยทาที่มาส์กหน้าให้หล่อนด้วยความระวัง
ตอนที่มุกดาออกมาจากห้องน้ำ ได้ยินเสียงกรีดร้องที่ดังก้องจนหูแทบหนวก
ผู้คนมากมายต่างวิ่งเข้าไปในห้องที่ตนเองเพิ่งไปเสริมความงามมาเมื่อสักครู่นี้
มุกดาตามเข้าไปเช่นกัน อยากดูหน่อยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ธินิดากำลังกรีดร้องอยู่ ใช้มือทั้งสองของตนเองจับหน้าของหล่อนเอาไว้ บนหน้าของหล่อนนั้นถูกหล่อนจับไปจนมีทั้งสีแดงและสีขาว สีแดงคือเลือดสด สีขาวคือที่มาส์กหน้า
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน?” เวลานี้จันทิมารีบเข้ามาแล้ว เขามาตรวจดูใบหน้าของธินิดา
“ฉันจะเอาที่มาส์กหน้าออกให้หล่อนก่อน พวกเธอจับมือหล่อนเอาไว้” จันทิมาเห็นด้านข้างมีน้ำเปล่า จึงใช้น้ำเปล่ามาล้างที่มาส์กหน้าบนใบหน้าของธินิดาออกให้ จากนั้นให้คนส่งไปทดสอบดูว่าด้านในมีสารอะไรอยู่
จากนั้นเขาก็ตรวจดูบาดแผลของธินิดาขึ้นมา เวลานี้ใบหน้าของธินิดาบวมอย่างกับหัวหมูเลย แถมยังมีรอยเลือดมากมายที่เกิดจากตัวหล่อนถูไปเอง มองดูแล้วทำให้เขารู้สึกขยะแขยงจริงๆ
จันทิมาดูสักครู่หนึ่ง น่าจะเป็นในที่มาส์กหน้ามีสารอะไรอยู่ รอการทดสอบเสร็จก็จะได้รู้แล้ว
“เอายาทาแก้แพ้แบบเย็นมา ฉันจะทาให้หล่อนสักหน่อยก่อน จากนั้นไปส่งโรงพยาบาลแล้วกัน ให้หมอดูหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น” จันทิมาอุ้มธินิดาขึ้นมา แล้วออกไปจากสถาบันเสริมความงาม
“มุก เมื่อกี้ทำแม่ตกใจแทบตายจริงๆ หนูไม่เห็นท่าทางที่ธินิดาคลุ้มคลั่ง เอามือทั้งคู่ถูหน้าของตัวเองแรงมาก แถมยังกรีดร้องไม่หยุดอีก น่าสยองเหลือเกิน หรือว่าในที่มาส์กหน้านี้มีอะไร?” นีรชาลูบหน้าของตนเองสักหน่อยเช่นกัน ที่มาส์กหน้าของเธอเย็นๆ สบายมากเลยล่ะ
พนักงานเสริมสวยสองคนนั้นตกใจแทบแย่ คนต่างไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น และไม่รู้ว่าทำไมใบหน้าของธินิดาถึงเป็นลักษณะนั้นได้
“มันเรื่องอะไรกัน?” มุกดาถามแจ๊ดาวคนที่ทำที่มาส์กหน้าให้ตนเองดูสักหน่อย
“ฉัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แค่เอาที่มาส์กหน้าที่ทำให้คุณมาให้ใบเตยแล้ว แล้วคุณธินิดาก็กลายมาเป็นแบบนี้แล้ว ฮือๆ” พนักงานเสริมสวยตกใจจนร้องไห้ขึ้นมาแล้ว
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ทำของหกสาดไปเมื่อกี้ ฉันเลยนำที่มาส์กหน้าอันนี้มา โอ้มายก๊อด ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะคุณผู้หญิงท่านนี้ไม่อยากมาส์กหน้า งั้นตอนนี้คนที่แพ้คงจะเป็นคุณสินะคะ” แวบหนึ่งคุณณาตอบสนองกลับมาแล้ว ที่มาส์กหน้านั้นเป็นของมุกดา
“หา? หรือว่ามีคนอยากทำร้ายลูกสะใภ้ของฉัน?” พอนีรชาได้ยินเข้า หล่อนก็โกรธเคือง และคนผสมที่มาส์กหน้าล้วนเป็นพนักงานเสริมสวยที่ระบุเอาไว้ งั้นคนที่น่าสงสัยมากที่สุดก็คือแจ๊ดาว
สายตาของทุกคนมองไปทางแจ๊ดาว แจ๊ดาวรีบโบกมือทันที “ไม่ใช่ฉันนะคะ ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ที่นี่มีวงจรปิดสามารถดูได้ค่ะ” เวลานี้แจ๊ดาวรู้สึกว่าต่อให้ตนเองทำอย่างไรก็หนีไม่พ้นความเกี่ยวข้องไปได้
“ท่านประธานบอกแล้ว คนในห้องนี้ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น รอไว้ตรวจสอบเรื่องราวให้กระจ่างค่อยว่ากัน คุณผู้หญิงหลายๆ ท่านคะ พวกเราทางนี้เตรียมของว่างและขนมอย่างดีเอาไว้ให้แล้ว เชิญพวกคุณมาทานกันก่อนเถอะค่ะ” ผู้จัดการร้านเดินเข้ามาแล้ว บอกกับคนที่มาเสริมความงามหลายคนในห้องนี้
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน ฉันมาเสริมสวยที่ตระกูลนวลอ่อนมาหลายปีมาก แต่ว่าแต่ไหนแต่ไรไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้นะ” คุณผู้หญิงท่านหนึ่งลูบใบหน้าของตนเอง หล่อนทำหน้าตื่นตระหนก
“อย่าทำตัวเองตื่นตกใจไปสิ บางทีอาจมีคนจงใจทำร้าย? ฉันก็ทำมาหลายปีแล้วเหมือนกัน มีแต่คนบอกว่าฉันนับวันยิ่งสวยขึ้น” นีรชามองคุณผู้หญิงท่านนั้นทีหนึ่ง
“อืม ใช่ๆ ฉันก็เห็นคุณนายสุวรรณเลิศมาที่นี่เหมือนกัน ฉันถึงไหว้วานคนคิดหาวิธีมาเสริมสวยที่นี่” นีรชาไม่รู้จักคนเหล่านี้ แต่ว่าคนเหล่านี้กลับรู้จักเธอ
คุณนายสุวรรณเลิศผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง ใครไม่รู้จักบ้าง
ยิ่งไปกว่านั้นร้านเสริมสวยของตระกูลนวลอ่อนแห่งนี้ไม่ใช่ใครอยากมาก็มาได้ ค่าใช้จ่ายที่แพงลิ่วนั้นคงทำให้หลายคนพอมองเห็นก็ถอยหนี บวกกับที่มาส์กหน้าสูตรลับเฉพาะตัวของจันทิมา ล้วนเป็นในวงการเดิมทีไม่สามารถเทียบได้
แต่พอเกิดเรื่องในวันนี้ขึ้น คุณนายและคุณผู้หญิงเหล่านั้นต่างรอคอยแบบเชื่อฟัง การบริการของตระกูลนวลอ่อนดีมาก เตรียมน้ำชาและของทานเล่นแบบมีระดับมากเอาไว้ให้ทุกคนแล้ว
จันทิมากลับมาแล้ว หน้าตาของเขาดูดำมืด บริหารร้านเสริมสวยของตระกูลนวลอ่อน มาสิบปี และไม่เคยเกิดเรื่องราวแบบนี้มาก่อนด้วย นี่คือใครอยากทำให้ชื่อเสียงของตระกูลนวลอ่อนเสียหาย?
ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีคนอื่นตื่นตกใจ จันทิมานำกล้องวงจรปิดออกมาแล้ว เขาดูตอนที่พนักงานเสริมสวยผสมที่มาส์กหน้าอย่างละเอียด ยังมีตอนที่ทาที่มาส์กหน้าให้ลูกค้าด้วย ล้วนไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น
อย่างนั้นมีเพียงปัญหาเดียวคือตอนที่มุกดาออกไปข้างนอก ชนที่มาส์กหน้าที่เดิมทีควรจะเป็นของธินิดากระจายแล้ว
จากนั้นแจ๊ดาวพนักงานเสริมสวยก็นำที่มาส์กหน้าของมุกดามาให้ใบเตยแทน
หมายความว่าที่มาส์กหน้ามีปัญหา
จันทิมาดูขั้นตอนการผสมที่มาส์กหน้าของแจ๊ดาวอีกที ซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไร
ตั้งแต่เข้าไปในห้องมาส์กหน้าจนออกมา ถูกตรวจสอบผ่านมาอย่างละเอียด งั้นปัญหาเกิดขึ้นอยู่ตรงไหนกันล่ะ?
จันทิมารู้สึกว่าหัวของตนเองกำลังจะระเบิดแล้ว เขาเป็นเจ้านายของร้านเสริมสวยของตระกูลนวลอ่อน ย่อมต้องให้คำอธิบายสักอย่างต่อทุกคน
จันทิมาวางคลิปวิดีโอลง ตรงไปยังห้องลูกค้าพิเศษ ที่นั่นมีหลายๆ คนกำลังนั่งทานขนมดื่มชาอยู่ ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกมาก เหมือนว่าเดิมทีไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“คุณนายคุณผู้หญิงทุกท่านครับ ขอโทษมากๆ เลยนะครับที่ร้านเสริมสวยของตระกูลนวลอ่อนของผมเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมา สรุปโดยรวมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมยังต้องตรวจสอบอีกขั้นหนึ่ง แต่ว่าวันนี้สร้างผลกระทบที่ไม่ดีอย่างมากให้ทุกคนแล้ว ผมขอมอบบัตรเสริมความงามของฤดูกาลหนึ่งให้ทุกคนนะครับ” จันทิมาเดินเข้าไปแล้วบอกกับคุณนายคุณผู้หญิงเหล่านั้น
“ว้าว ประธานจันทิมานี่ใจใหญ่จริงๆ เลยนะคะ ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ” เหล่าคุณผู้หญิงคุณนายที่มาเสริมความงามพอได้ยิน ต่างส่งเสียงทอดถอนใจไปตามๆ กัน
บัตรเสริมความงามของฤดูกาลหนึ่งนี้ และราคาหลายแสนเชียวนะ ถึงแม้ที่ตระกูลนวลอ่อนจะราคาสูง แต่กลับดื่มด่ำต่อการบริการระดับหนึ่ง
“มวล ฉันมีเรื่องอยากจะถามเธอ” หลังจากรอให้จันทิมาส่งคุณนายคุณผู้หญิงเหล่านั้นกลับไปแล้ว นีรชาดึงเขาเอาไว้แล้ว อยากถามเขาเรื่องราวบางอย่าง
“น้าบัว เชิญว่ามาครับ” จันทิมาหมุนตัวพูดคุยกับนีรชา สายตาของเขากลับกำลังมองมุกดาแบบละเอียด