เดิมทีผู้คนกำลังมุงดูข่าวซุบซิบกัน แต่สิ่งที่ชลธีพูดออกมานั้นกลับเป็นข่าวอื้อฉาว ที่ทำเอาทุกคนต้องอึ้งตะลึงไปตามๆกัน
ขณะนั้นเองทั้งชั้นยี่สิบเงียบสงัดลงทันที ขนาดเสียงหายใจยังได้ยินได้อย่างชัดเจน
เมื่อกี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ประธานชลธีพูดว่าอะไรนะ มุกดาเป็นภรรยาของเขา ตายแล้ว! ลองคิดดีๆดูสิ ตัวเองเคยมีเรื่องขัดใจอะไรกับมุกดาหรือเปล่า
ธินิดาได้สติคนแรก เธอเดินไปตรงหน้าชลธีช้าๆ
“ชล นายเป็นอะไร? ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ นายรู้ไหมนายพูดแบบนี้ มันทำให้ฉันเสียใจมาก?” ใบหน้าสวยของเธอมีน้ำตาไหลอาบแก้มลงมา
“น้ำผึ้ง ฉันพูดความจริง มุกดาเป็นภรรยาของฉัน เป็นภรรยาแต่งงานถูกต้องตามกฎหมาย” ชลธีรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรทำแบบนี้อีกต่อไปแล้ว จะจับปลาสองมืออีกไม่ได้ เขาจึงจำเป็นต้องเลือกคนที่อยู่ในหัวใจของเขา
“กรี๊ด!” ธินิดาปิดหน้าตัวเองไว้และวิ่งออกไปทันที
ส่วนคนอื่นก็ต่างพากันแยกย้าย ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเรื่องของประธาน สักพักทั้งชั้นยี่สิบก็เหลือแค่มุกดา จันวิภา โธรณีกับชลธี
มุกดาจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัวเลย เมื่อกี้เธอหูฝาดไปหรือเปล่า?
“ขอบใจนะ” มุกดาเดินไปตรงหน้าชลธี เธอยังคิดว่าชลธีทำเพื่อช่วยตัวเอง จนต้องพูดโกหก
“ฉันไปก่อนนะ พวกเธออยู่กับมุกก่อนนะ” ชลธีกลัวว่าธินิดาจะเกิดเรื่องขึ้น ก็เลยรีบวิ่งตามออกไป
“เมื่อกี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น? แสนดี โธรณี เธอเป็นน้องสาวของชลธีเหรอ?” จนถึงตอนนี้จันวิภาก็พึ่งรู้สึกตัว
“อืม พวกเธอไม่ว่าอะไรฉันใช่ไหม ฉันกลัวว่า ถ้าฉันบอกเรื่องที่ว่าฉันเป็นน้องสาวของประธานชลธี พวกเธอจะไม่สนใจฉัน” โธรณีแอบสังเกตสีหน้าของมุกดา
มุกดาถือกระบอกฉนวนและเดินเข้าห้องไปอย่างใจเย็น ทั้งสองก็ตามเธอไป ต่างก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก
วางกระบอกฉนวนลงบนโต๊ะทำงานตัวเอง มุกดากลับไม่อยากกินมันเลย
เธอนั่งเหม่ออยู่บนเก้าอี้นิ่งๆ จันวิภากับโธรณีก็นั่งเหม่อพร้อมกันกับเธอด้วย
“คือว่ามุก ขอโทษด้วยนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเธอนะ” โธรณีพูดเสียงเบา
“ให้ฉันอยู่คนเดียวเงียบๆก่อน” มุกดาไม่อยากพูดอะไรกับใครทั้งนั้น เธอให้ทั้งสองคนออกไปก่อน ทั้งแผนกเลขาก็เหลือแค่มุกดาคนเดียว
เธออยากจัดการกับความคิดของตัวเองก่อน เมื่อกี้ชลธีคงไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม เขาจะแต่งงานกับตัวเองได้ยังไงกัน มันไม่มีเหตุผลเลย ตั้งแต่พบกันครั้งแรก ทั้งสองคนก็ไม่ถูกกันเลย ทำไมเขาถึงต้องแต่งงานกับตัวเองด้วย?
อีกอย่างแต่งงานกับเธอมันน่าขายหน้าขนาดนั้นเชียวเหรอ? เขาไม่ยอมให้ตัวเองได้เห็นเขาด้วยซ้ำ ยังเซ็นเอกสารแต่งงานสองปีให้ตัวเองอีก งั้นก็หมายความว่า ยังมีเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งปี เธอที่เป็นภรรยาก็ต้องไสหัวออกไป แล้วให้ธินิดาเข้าไปอยู่แทน
เพิ่งเริ่มมีความรู้สึกดีๆให้กับสามีลึกลับ ในตอนนี้เองก็หายไปทั้งหมด หัวใจสามีตัวเองคิดถึงผู้หญิงอีกคน และรักผู้หญิงอีกคน แต่งงานกับตัวเองอาจจะเป็นเพราะต้องการแก้ไขความต้องการทางร่างกาย
มุกดารู้สึกเหมือนใบหน้าตัวเองเย็นเฉียบไปหมด ยื่นมือไปจับ ไม่รู้ว่าน้ำตาไหลอาบแก้มตั้งแต่เมื่อไหร่
หยิบทิชชูมาเช็ดน้ำตาตัวเองออก มุกดาเปิดกระบอกฉนวน ตอนนี้พ่อก็ผ่าตัดเสร็จแล้ว ยังอยู่ในระหว่างการฟื้นตัว ระหว่างนี้เธอจะยังหย่ากับชลธีไม่ได้ นอกจากว่าชลธีพูดขึ้นมาเอง
ดูท่าแล้วชลธีคงจะคุยเรื่องหย่ากับตัวเองในอีกไม่ช้านี้ ธินิดาเป็นคนที่เขารักมาก คงไม่ปล่อยให้เธอน้อยใจแบบนี้หรอก
กินอะไรก่อนดีกว่า ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไร กินอิ่มแล้วค่อยว่ากันแล้วกัน พ่อสอนตัวเองแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก
มุกดากินอย่างเอร็ดอร่อย อยากกินเพื่อให้ลืมเรื่องราวพวกนี้ ในใจเธอมีแต่รสชาติและกลิ่นหอม
แต่พอกินหมดแล้ว เรื่องน่าปวดหัวก็ถาโถมเข้ามาหาเธออีกครั้ง ตอนนี้เธอรู้สึกไม่อยากเลิกกับชลธีเลย แต่ความกล้าเล็กน้อยนั้น ทำให้เธอต้องเก็บซ้อนมันไว้ในใจลึกๆ
มุกดากินอิ่มแล้ว ก็กลับบ้านทันที ตัวเองอยู่ที่นี่ก็คงทำงานไม่ได้ คงจะให้คนอื่นมาคอยซุบซิบนินทาไม่ได้
นัทธ์เห็นมุกดากลับมาบ้าน เขารู้สึกแปลกใจมาก ตอนบ่ายไม่ทำงานแล้วทำไมถึงไม่บอกก่อนนะ เขาจะได้ไปรับเธอ
“ลุงนัทธ์ คุณชายของลุงก็มีนามสกุลสุวรรณเลิศใช่ไหม?” มุกดาวางข้าวของในมือลง ถามนัทธ์โดยไม่ตั้งใจ
“อืม น่าจะเป็นอย่างนั้น” นัทธ์รู้สึกว่าวันนี้มุกดาแปลกๆ
“ชลธีใช่ไหม?” มุกดาถาม
นัทธ์ได้ยินชื่อคุณชายขึ้นมากะทันหัน เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงดี
“เอ่อ คือว่า ทำไมคุณผู้หญิงถึงถามขึ้นมากะทันหันล่ะครับ?” นัทธ์รู้สึกว่าท่าทางของมุกดาวันนี้ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“วันนี้เขาบอกหมดแล้วล่ะ ยังมีกำไลอันนี้อีก เป็นของลูกสะใภ้ตระกูลสุวรรณ์เลิศ ลุงนัทธ์ลืมไปแล้วเหรอ ฉันมีเวลาแค่สองปี ตอนนี้ก็เลยมาสามเดือนแล้ว นั่นก็หมายความว่าฉันมีเวลาอยู่ที่นี่อีกแค่หนึ่งปีกับอีกเก้าเดือน เอากำไลนี้ให้ฉันทำไมกัน?” มุกดาถอดกำไลลง ส่งคืนให้นัทธ์
“คุณผู้หญิง นี่เป็นของที่คุณหญิงให้คุณ ถึงคุณจะคืนก็ต้องไปคืนให้กับคุณหญิงเอง คุณให้ผม ผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง” นัทธ์รีบลดมือลงไป
“ได้ ฉันไปคืนคุณน้าเอง” ทุกอย่างชัดเจนหมดแล้ว มุกดารู้สึกหนักใจมาก พอรู้ว่าสามีตัวเองเป็นชลธี แต่กลับไม่รู้สึกมีความสุขเลย
มุกดารู้สึกปวดหัวขึ้นมา เธอเดินขึ้นบันได อยากจะนอนพักผ่อนสักพัก ตอนนี้เธอไม่รู้แล้วว่าตัวเองควรจะทำยังไงต่อไปดี
“ฮัลโหล มุก ลูกยังสบายดีใช่ไหม ตอนนี้พ่อพักฟื้นได้ดีขึ้นมากแล้ว ไม่กี่วันหลังจากนี้อาจจะไปหาลูกได้แล้ว” ณิชพลอยู่ที่ห่างไกลและโทรมาหาลูกสาว โทรมาเพื่อบอกว่าตัวเองปลอดภัยดี
“พ่อคะ พ่อ มุกคิดถึงพ่อค่ะ มุกคิดถึงพ่อมากเลยนะ” ได้ยินเสียงพ่อตัวเอง น้ำตาของมุกดาก็ไหลลงมาอาบแก้มทันที
“พ่อก็คิดถึงลูกนะ ลูกรัก พ่อขอโทษด้วยที่ทำให้ลูกต้องลำบาก” ณิชพลเช็ดน้ำตาตัวเองอยู่ทางนั้น
ลูกสาวและลูกเขยตัวเองกตัญญูมากจริงๆ หาหัวใจที่เหมาะสมกับตัวเอง ตอนนี้ตัวเองก็เป็นคนแข็งแรงมากคนหนึ่งแล้ว
จนถึงตอนนี้ณิชพลยังไม่รู้ว่าลูกสาวตัวเองถูกธีรเมททิ้งไปนานแล้ว และยังถูกกระทำอย่างน่าอนาถมาก
พ่อลูกคุยกันได้สักพักก็วางสายไป มุกดารู้ว่าพ่อตัวเองจะกลับมาแล้ว เธอยังลังเลอยู่ว่าจะโทรหาน้าดีไหม
บ้านหลังนั้นเป็นของแม่มุกดา แต่กลับถูกน้าครอบครองเอาไว้
พ่อป่วยมานานขนาดนี้ น้าไม่เคยไปเยี่ยมเลยสักครั้ง ขนาดตัวเองขาดการติดต่อมาตั้งสามเดือนกว่า ก็ยังไม่มีการโทรศัพท์มาถามไถ่บ้างเลย
พ่อกลับมาแล้วจะพักอยู่ที่ไหน? บ้านของพวกเขาก็จำนองออกไปแล้ว จะให้พ่อไปนอนข้างถนนก็ไม่ใช่? หรือว่าจะเป็นที่นี่ เหอะ ไม่รู้ว่าตัวเองจะถูกไล่ออกไปเมื่อไหร่ เห้อ เป็นปัญหาที่ยากมากจริงๆ