มุกดาโบกรถและนั่งกลับไป พอกลับถึงบ้าน นานมากแล้วที่ไม่ได้เต้น วันนี้พอเต้นแล้วก็รู้สึกสบายตัวมากจริงๆ
แต่แค่รู้สึกหิวเล็กน้อย เธอเดินเข้าประตูไป นัทธ์ก็มายืนรอเธออยู่ที่ห้องรับแขกแล้ว
“คุณผู้หญิง อาหารพร้อมแล้ว ไปล้องมือแล้วมารับประทานอาหารเถอะครับ”
ตรงเวลาเกินไปแล้ว ตัวเองพึ่งกลับมา อาหารก็พร้อมแล้ว ไม่ได้โทรหาพวกเขาเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองจะกลับมาเมื่อไหร่
หรืออาจจะเป็นเพราะความบังเอิญ มุกดาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เธอก็หิวพอดีเลย เธอจึงไปล้างมือแล้วมานั่งทานข้าว
บนโต๊ะเต็มไปด้วยซุปทั้งหมด ทั้งซุปไก่ ซุปปลา โจ๊ก ขนาดผักก็ยังเป็นแบบนุ่มเลย
มุกดามองนัทธ์ด้วยความซาบซึ้งใจ ลุงนัทธ์เป็นคนละเอียดอ่อนตลอดเลย ดูแลตัวเองแบบไม่ขาดตกบกพร่อง
“พวกนี้เป็นอาหารที่คุณชายรับสั่งมาครับ เขาว่าตอนที่คุณบาดเจ็บ เขาไม่ได้ไปอยู่กับคุณ ก็เลยต้องดูแลคุณดีๆ หลังจากที่คุณกลับมาที่บ้านครับ” นัทธ์คิดอยู่นานมาก สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่แย่งความดีความชอบของคุณชาย
แม้คุณชายจะไม่ให้พูด แต่ต้องให้คุณผู้หญิงประทับใจต่อคุณชาย งั้นก็ต้องยอมหักหลังคุณชายไปก่อน!
“อ้อ” มุกดาพูดตอบง่ายๆ ที่จริงแล้วกลับมีความหมายมากมายในหนึ่งคำ
สามีตัวเองแม้เธอจะไม่เคยเจอหน้ามาก่อน แต่กลับเป็นห่วงตัวเองอยู่เสมอ
ต่อไปคงต้องออกห่างจากนายชลธีหน่อยแล้วล่ะ เขาชอบช่วยเหลือตัวเองอยู่เสมอ บวกกับใบหน้าที่หล่อเหลาและความสามารถที่ล้นหลามของเขา มันง่ายต่อการทำให้เธอไขว้เขวได้
เธอกินอย่างระมัดระวัง มุกดาไปอาบน้ำ แต่กลับเริ่มคิดถึงสามีตัวเองขึ้นมา
กอดตุ๊กตาที่เพิ่มขึ้นมาบนเตียง สามีตัวเองเป็นคนละเอียดอ่อน รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่กับตัวเองบ่อยๆ ดังนั้นเลยเตรียมตุ๊กตานี้ให้ตัวเอง อยู่เป็นคู่กับตัวเอง
“ที่รัก ทำไมนายถึงไม่อยู่นะ นายรู้ไหมว่าฉันคิดถึงนาย? นายกินข้าวหรือยัง? คิดถึงฉันบ้างไหม?” มุกดาพูดกับตุ๊กตาตัวนั้น
ตุ๊กตาเป็นสุนัขน้อยตัวหนึ่ง มันมองมุกดาด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่ามุกดาจะพูดอะไร มันก็มีสีหน้าแบบนั้น
“ที่จริงนายรู้บ้างไหม ตุ๊กตาตัวใหญ่กับคนแตกต่างกันมากนะ ไม่ว่านายจะขี้เหร่แค่ไหน พิการมากแค่ไหน ฉันก็จะไม่รังเกียจนายเลย นายรักษาให้พ่อฉัน ในตอนที่ฉันลำบากที่สุด นายก็เป็นคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือฉัน ถึงแม้นายจะไม่รักฉันเลย แต่ฉันก็มีความรู้สึกดีๆให้กับนายแล้วนะ” มุกดาแม้จะพูดไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่เธอก็ฟังคำพูดของตัวเองออก
ทุกข์ทรมานอยู่บนเตียงคนเดียวสักพัก บวกกับการเต้นวันนี้ก็เหนื่อยมากแล้ว มุกดาไม่ได้ห่มผ้าเลยด้วยซ้ำ ก็กอดตุ๊กตาและหลับไปทันที
พอส่งธินิดากลับไปบ้านแล้ว น้ำตาของธินิดาทำให้ชลธีลังเลอีกครั้ง หัวใจของเขาแม้จะตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่กับมุกดาไปทั้งชีวิตแล้ว แต่ควรจะจัดการกับธินิดายังไงนี่สิเป็นปัญหาใหญ่
ตอนที่กลับมาคฤหาสน์ ก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว เขากลับมาเปิดก็เปิดไฟห้องนอน เดินเข้าไปในห้องนอนที่เป็นของเขากับมุกดาทันที
ภายในห้องเงียบมาก กลิ่นหอมหลังจากอาบน้ำของมุกดาแผ่ซ่านไปทั่วห้อง ชลธีสูดกลิ่นลึกๆไปหนึ่งที เขาชอบห้องที่มีกลิ่นของเธอและการอยู่ในห้องนี้ของเธอ
เขาเดินไปตรงหน้าเตียง มองดูคนตัวเล็กนอนขดตัวอยู่บนเตียงใหญ่ ในมือก็กอดตุ๊กตาไว้แน่น
ตุ๊กตาตัวนั้นไม่ใช่ของตุ๊กตาตัวใหม่อะไร แต่เป็นตุ๊กตาที่ชลธีชอบมากตั้งแต่เด็ก เขาชอบกอดตุ๊กตาตัวนั้นนอนอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้พอเห็นมุกดากอดมันไว้ เขาก็อดไม่ได้กระตุกยิ้มมุมปาก
เจ้าตัวเล็กคนนี้! ก็ยังดูแลตัวเองไม่เป็นสักที แม้จะอยู่ในห้อง แต่หน้าต่างก็ยังเปิดอ้าไว้ กลางคืนอากาศค่อนข้างหนาว เขากลัวว่าเธอจะป่วยขึ้นมาจริงๆ
ชลธีดึงผ้าห่มมาและห่มบนตัวของมุกดา
มุกดาพึมพำ ไม่รู้ว่าพูดอะไรบ้าง ช่วงนี้พูดไม่ค่อยชัด เวลาพูดก็น่าขำมากจริงๆ
ชลธีไปอาบน้ำเสร็จ เพิ่งขึ้นไปนอนบนเตียง ก็รู้สึกได้ถึงวัตถุที่เย็นเฉียบมาถูกตัวเขา
เจ้าตัวเล็กหนาวมานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย? ชลธีก็ใช้อ้อมกอดอุ่นของตัวเองกอดร่างกายมุกดาเอาไว้แน่น
พอได้รับความอบอุ่น มุกดาก็รู้สึกสบายมาก ยังเขยิบตัวเข้าไปหาชลธีเล็กน้อย หาท่านอนที่สบายตัวและโยนตุ๊กตาทิ้งไป จากนั้นก็กอดชลธีและนอนต่อไป
ถูกมุกดาเกาะตัวไว้เหมือนปลาหมึก ชลธีกลับรู้สึกอยากถูกเธอเกาะแบบนี้ไปตลอดชีวิตด้วยความเต็มใจ
ตอนเช้าตรู่มีแสงสาดส่องเข้ามาภายในห้องนอน มุกดาได้ยินเสียงนกร้อง เสียงนกที่เจี๊ยวจ๊าวบวกกับกลิ่นหอมรัญจวนทั่วห้อง ปลุกมุกดาให้ตื่นจากฝัน
เธอยืดเส้นยืดสายบิดขี้เกียจ เมื่อวานเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง เธอก็นึกไม่ออกแล้ว
นอนอยู่บนเตียงและครุ่นคิด เหมือนว่าเมื่อวานจะผิดใจกับชลธีอีกแล้ว จะพูดให้ถูกก็คือผิดใจกับธินิดาต่างหาก นั่นก็เหมือนกับผิดใจกับชลธี
ทำยังไงดี ตัวเองจะไปทำงานดีไหมนะ ทุกวันช่างทรมานจริงๆ
ทำใจสักพัก มุกดาก็ลุกขึ้นมาจากเตียง พอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้ว เธอก็ใส่กำไลที่นีรชาให้ตัวเองมา ก็แสนดีบอกว่ากำไลที่แม่เธอให้มาสามารถขจัดภัยอันตรายได้ งั้นวันนี้ก็ลองใส่ออกไปดูแล้วกัน
พอใส่เสร็จแล้ว มุกดาก็เดินลงบันไดมา นัทธ์เตรียมอาหารเช้าไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
พอเห็นมุกดาสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย นัทธ์ก็ถามไปว่า: “คุณผู้หญิงจะไปไหนเหรอครับ?” เมื่อวานเขาไม่ทันได้ถามว่าคุณผู้หญิงจะไปไหน สุดท้ายคุณผู้หญิงไปเต้นบัลเลย์มา ทำให้คุณชายเดือดมาก แล้วต่อว่าเขาไปทีหนึ่ง
“ทำงาน” พอได้กินโจ๊กแล้ว มุกดาก็ค่อยตอบ
“คุณผู้หญิงไม่ต้องไปทำงานเช้าขนาดนี้ก็ได้นะครับ ร่างกายคุณผู้หญิงยังไม่หายดี พักผ่อนให้ร่างกายดีกว่านี้ค่อยไปทำงานก็ได้นะครับ คุณชายพวกเรากับประธานชลธีสนิทกันมาก คงจะช่วยพูดให้ได้” นี่เกิดเรื่องยังไม่ถึงหนึ่งเดือน คุณผู้หญิงจะรีบไปทำงานทำไมกันนะ
“จะไป” มุกดาตอบอย่างเด็ดขาด เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไปทำงาน ถ้าต่อไปสามีเลิกกับตัวเองขึ้นมา ก็ต้องพึ่งตัวเองนี่ไม่ใช่เหรอ?
นัทธ์เห็นว่าโน้มน้าวมุกดาไม่ได้ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ไปก็ไปเถอะ ยังไงคุณชายก็อยู่ที่นั่น น่าจะไม่มีปัญหาอะไรมาก
“คุณผู้หญิง จะไปทำงานก็ได้ครับ แต่ตอนนี้ร่างกายคุณยังไม่หายดีมาก ช่วงนี้ให้ผมไปรับไปส่งคุณผู้หญิงทำงานนะครับ” นัทธ์ยังคงพยายามไม่เลิก
มุกดาครุ่นคิด ยังไงก็ไม่มีอะไรเสียหาย จะส่งก็ส่งเถอะ เธอก็เลยตอบตกลงไป
แผนกเลขาเปลี่ยนผู้อำนวยการคนใหม่แล้ว ย้ายมาจากแผนกอื่นในบริษัท ยังเป็นวัยรุ่นผู้หญิงด้วยนะ น่าจะสักยี่สิบกว่าได้
เธอเหมือนจะได้ยินเสียงอะไร พอเห็นมุกดามา ก็ยังคงพูดอย่างเป็นมิตร
“มุก ทำไมมาทำงานเร็วขนาดนี้ล่ะ? เป็นคนที่มีความเป็นมืออาชีพมากเลย มาแล้วก็ดี ตรงนี้ฉันยุ่งมากเลย เธอมาช่วยฉันดูเอกสารพวกนี้หน่อย ที่รู้สึกว่าสำคัญ ก็ใช้ปากกาแดงเช็กถูกไว้” ผู้อำนวยการคนใหม่ที่มาชื่อยุ้ย เป็นคนที่ปากหวานมาก ทั้งที่อยากให้มุกดาสบายๆหน่อย แต่กลับบอกให้มุกดามาช่วยตัวเองทำงาน
ครั้งแรกที่เห็นมุกดาก็รู้สึกประทับใจคนตรงหน้าทันที