โธรณีมองมุกดาด้วยอาการยกย่อง ราวกับว่าน้อยมากที่จะเจอกับเด็กสาวน้อยที่สามารถแบกรับความรับผิดชอบเรื่องนี้ได้ ส่วนใหญ่ก็คือการผลักดันความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับคนอื่น ส่วนเธอนั้นช่างโง่เขลาที่หาเรื่องใส่ตัว
“ถ้าฉันโยนความผิดให้แกแล้ว ถ้าเกิดว่าประธานชลธีไล่แกออกแล้วจะทำยังไง? ยังก็โยนมาให้ฉันเถอะ ถึงอย่างไรฐานะทางบ้านของฉันก็ดีอยู่แล้ว ไม่กลัวการถูกไล่ออกหรอก” โธรณีเองก็เป็นเด็กสาวที่มีความรับผิดชอบคนหนึ่งเช่นเดียวกัน เธอไม่สามารถจะเอาภาระความรับผิดชอบโยนให้คนอื่นได้
“งั้นเดี๋ยวค่อยว่ากันแล้วกันนะ ถ้ามีเรื่องอีกมากมายแล้วมันไม่ได้ย่ำแย่ไปตามที่พวกเราคิดล่ะ ฉันมั่นใจมากในเอกสารที่ฉันเป็นคนแปลออกมา ไม่ต้องกลัวนะ” ก่อนที่จะเข้าไป มุกดากำมือโธรณีเอาไว้แน่น
ทั้งสองคนเดินจูงมือเข้าไปยังห้องประชุม ด้านในมีคนนั่งอยู่กลุ่มหนึ่ง ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมามองชลธีให้พวกเธอสองคนนั่งอยู่ด้านข้างของตนเอง ส่วนธินิดานั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
“สวัสดีค่ะ วันนี้ความร่วมมือระหว่างบริษัทสตรอมแมนเริ่มต้นขึ้นแล้ว อันดับแรกพวกเราเรียนเชิญคุณประวีร์ประธานของบริษัทสตรอมแมนกล่าวเปิดงาน” น้ำเสียงอันอ่อนโยนของธินิดาดังไปทั่วทั้งห้องประชุม
มุกดาและโธรณีนั่งลงแล้วก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตา พวกเธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองรอบๆ
แต่ก็สามารถรับรู้ได้ว่ามีคนกำลังจ้องมองตนเองอยู่ มุกดาก็ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นเช่นเดิม
“ครับ ผมขอพูดเกี่ยวกับเนื้องานของความร่วมมือของพวกเราสักหน่อย อีกสักครู่ตัวแทนของพวกเราจะมาอธิบายให้อย่างละเอียดอีกครั้ง” เสียงอันคุ้นเคยนั้น ทำให้มุกดาเงยหน้าขึ้นมา
ผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามคนนั้น ใส่สูทสีดำทั้งตัว เสื้อเชิ้ตสีขาวติดกระดุมอย่างเรียบร้อยพิถีพิถัน ทรงผมที่ปกติปล่อยตามสบายก็จัดทรงอย่างเรียบแปล้ ประวีร์ในสไตล์แบบนี้ มุกดาเพิ่งเคยเป็นครั้งแรก
เมื่อครู่แนะนำตัวว่าอย่างไรนะ พี่ประวีร์เป็นประธานบริษัทสตรอมแมนงั้นเหรอ? เขาเป็นหมอไม่ใช่เหรอ?
ประวีร์มองดวงตาของมุกดามีแต่คำถามมากมายเหลือเกิน เขาก็เห็นกับตา แต่เขาก็ยังคงกระแอมเล็กน้อย พลางพูดต่อไป
ไม่ว่าประวีร์พูดว่าอะไรออกมาบ้าง มุกดาฟังไม่เข้าหัวสมองสักประโยค สมองเธอสับสนมาก สองสามวันก่อนยังเป็นพี่ประวีร์ของตนเองอยู่เลย เป็นคุณหมอประวีร์ ทว่าวันนี้กลับกลายเป็นประธานบริษัทสตรอมแมนบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มือชื่อเสียงระดับโลกไปได้ซะนี่ เรื่องนี้มันทำให้เธอรับไม่ไหวจริงๆ
“มุก มุก” โธรณีมองอาการเหม่อลอยของมุกดา พลางใช้ข้อศอกกระทุ้งเธอเบาๆ
“หือ?” มุกดาเพิ่งได้สติกลับมาตอนนี้เอง
“ทางตัวแทนอีกฝ่ายเริ่มพูดแล้ว ประธานชลธีให้แกแปล” โธรณีกระซิบพูดกับมุกดา
เมื่อเห็นท่าทางเหม่อลอยของมุกดา ชลธีรู้สึกสับสนตาม ประธานกรรมการบริษัทสตรอมแมนป่วยจนไม่สามารถมาเจรจาธุรกิจด้วยตนเอง เลยให้ลูกชายมาเป็นคนเจรจาแทน เขาคิดว่าน่าจะลูกชายคนโตธวัชชัยมา ทว่าไม่คิดเลยว่าจะเป็นประวีร์ลูกชายคนที่สามมาแทน
ตัวแทนของอีกฝ่ายเป็นชาวเยอรมัน แถมยังพูดอย่างรวดเร็วมาก ในบริษัทฮอนดากรุ๊ปไม่มีคนที่ตามการพูดของเขาได้ทัน ทุกครั้งก็จะเชิญล่ามจากนอกบริษัทมาแปลงาน ก็แค่เป็นการแปลได้อย่างพอไปวัดไปมาได้
ดังนั้นทุกคนย่อมทราบดีว่าการเผชิญหน้ากับบริษัทสตรอมแมนนั้นเป็นบริษัทที่รับมือได้ยากมากอีกบริษัทเลยก็ว่าได้
คนที่เป็นคนเสนอให้มุกดากับโธรณีมานั้นคือธินิดา เธอพูดกับชลธีว่าทั้งสองคนนี้มีความสามารถมาก ทว่าในใจของเธอนั้นหวังว่าให้ทั้งสองคนนั้นอับอาย จากนั้นก็ถูกไล่ออกทันที
หลังจากที่มุกดาตั้งสติได้และตั้งใจฟังชาวเยอรมันคนนั้นพูดออกมาอย่างตั้งใจ ในสมองของเธอแล่นปรู๊ดปร๊าดตามพลางแปลภาษาเยอรมนีเป็นภาษาจีนทันที จากนั้นก็พูดแปลความหมายออกมาทันควัน
หลังจากที่ชาวเยอรมันพูดจบแล้ว มุกดาเองก็แปลเสร็จแล้วเช่นเดียวกัน แววตาของประวีร์มีแต่ความชื่นชม มุกดาแปลได้ตรงมาก เหล่านักแปลที่ชำนาญการมากด้วยประสบการณ์ยังแปลไม่ได้เลย
ชาวเยอรมันคนนี้ปรบมือให้ก่อนเป็นคนแรกในตอนนั้น แม้ว่าเขาฟังจะไม่เข้าใจ ทว่าท่ามกลางการเจรจามานานหลายปีแล้ว การที่มุกดาสามารถแปลงานด้วยความรวดเร็วเช่นนี้เขาก็ไม่เคยพบเจอมาก่อน
จากนั้นคนที่นั่งอยู่ต่างปรบมือให้กับมุกดา มีเพียงการปรบมือของธินิดาเท่านั้นมีดูไม่เป็นธรรมชาติเป็นอย่างมาก
ท่ามกลางการแปลงานในการเจรจาทางธุรกิจทำให้มุกดาและโธรณีโดดเด่นมีชื่อเสียงขึ้นทันที จนทำให้สามารถเซ็นสัญญากับการเจรจาความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายได้อย่างเสร็จสมบูรณ์ การเจรจาในครั้งนี้ถือว่าเป็นการใช้เวลาได้น้อยที่สุด ทว่าผลลัพธ์ที่ได้กลับทรงประสิทธิภาพดีมากที่สุด
“ประธานชลธี ไม่คิดเลยว่าลูกน้องของคุณจะมีคนที่ฉลาดคล่องแคล่วได้ถึงเพียงนี้ คุณต้องตอบแทนให้ดีๆนะ ไม่เช่นนั้นผมจะดึงตัวพวกเธอทั้งสองคนไปแทน” ในเวลานั้นตอนที่พูดเสร็จแล้วสองฝ่ายจับมือกัน ประวีร์ก็มองมาทางมุกดาตอนที่พูดกับชลธี
“เรื่องนี้คงไม่ต้องให้ประธานประวีร์คอยกังวลใจไปหรอก พนักงานของผม ผมต้องดึงตัวไว้ให้ได้อย่างแน่นอน”
ชลธีพูดอย่างไม่ยินดีนัก
ทำไมกัน? คุณต้องแย่งคนของผมไปด้วยเหรอ? มีสัญญาณตักเตือนดังขึ้นมาในสมองของชลธี
ประวีร์คนนี้เหมือนว่าจะรู้จักกับภรรยาของตนเอง แถมโดยเฉพาะสายตาที่มองมาที่มุกดา นั่นไม่ใช่สายตาที่เพื่อนธรรมดามองหน้ากัน เรื่องนี้ต้องระมัดระวังให้เป็นพิเศษ อย่าให้ประวีร์แทรกซึมเข้ามาในช่องว่างตรงกลางได้
“ฮ่าๆๆ งั้นก็ดี งั้นก็ดี” ประวีร์พูดเสร็จแล้ว ก็เดินตามเลขาฯของตนเองเดินออกไป
“ชลคะ คุณดูนะชล การทำงานของพวกมุกดาดีมากเลย ควรจะให้รางวัลกับพวกเธอสักหน่อยไหม?” ใจของธินิดาโมโหจวนเจียนจะไม่ไหวแล้ว ทว่าเธอก็ต้องแสดงภาพลักษณ์ด้านจิตใจแสนดีของตนเองออกมา
“นี่มันเป็นสิ่งที่พวกเธอต้องทำอยู่แล้ว ไม่มีรางวัลอะไรให้หรอก” ใจของชลธียังดูไม่สงบลง เขาเห็นที่เมื่อครู่มุกดาจ้องมองประวีร์อย่างเหม่อลอย ความรู้สึกเจ็บจี๊ดในหัวใจยังไม่หายไปไหน
ยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดของชลธี ความโกรธเคืองที่อยู่ในใจของธินิดาพลางดีขึ้นบ้าง แต่ว่ามุกดากับโธรณีนั้นไม่อยากได้รางวัลอะไรเลย ขอแค่ไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นก็ดีมากแล้ว
จากนั้นก็บอกลาชลธี ทั้งสองคนเดินจูงกันเพื่อลงไปด้านล่าง ตอนที่มาถึงชั้น20 ประตูลิฟต์เปิดออก พลางเห็นประวีร์กำลังรอเธออยู่ตรงประตูลิฟต์พอดี
“พี่ประวีร์ คุณกำลังรอฉันอยู่หรือคะ?” มุกดาจ้องมองมาที่ประวีร์อย่างเซอร์ไพรส์มาก พี่ประวีร์ของเธอช่างโดดเด่นเหลือเกิน
“อื้อ มุก คุณนี่ยอดเยี่ยมมากเลยนะ ถ้าถูกบริษัทฮอนดากรุ๊ปรังแกเอา สามารถมาที่บริษัทสตรอมแมนของพวกเราได้นะ พวกเราจะเปิดประตูใหญ่ต้อนรับคุณอยู่ตลอดเวลา” ดวงตาทอประกายของประวีร์จ้องมองมายังมุกดา
มุกดาเองก็มองประวีร์เช่นเดียวกัน เธอกับจันวิภาเดินติดสอยห้อยตามเดินตามตูดของประวีร์ตั้งแต่เด็กๆแล้ว รู้แค่ว่าทางครอบครัวของประวีร์มีคุณแม่ที่ทั้งจิตใจดีและสวยมากๆ ทว่ากลับไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าประวีร์จะมีพื้นฐานครอบครัวที่มั่นคงถึงเพียงนี้
“มุก วันนี้ผมยังมีงานอื่นต่อ ถ้าคุณอยากจะถามอะไร งั้นก็รอให้ตอนที่ผมเลี้ยงข้าวคุณแล้วค่อยมาถามนะ” ประวีร์พูดจบ เขาก็โบกมือให้มุกดา จากนั้นก็เดินเข้าลิฟต์และจากไป
“มุก เมื่อกี้แกทำท่าเหม่อลอยให้กับประธานประวีร์เหรอ ไม่คิดเลยว่าพวกแกจะรู้จักกันด้วย?” โธรณีคอยจ้องมองความหล่อเหลาสุดเหวี่ยงของประวีร์อยู่ด้านข้างอยู่ตลอด จู่ๆ เธอก็เกิดความคิดว่าประวีร์ชายหนุ่มแสนสุภาพเรียบร้อยช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกับมุกดามากกว่าล่ะ?
โธรณีรีบส่ายหน้าไปมาทันที ถ้าเกิดว่าแม่กับพี่ใหญ่รู้เรื่องที่ตนเองคิดแบบนี้ ต้องตีเธอตายแน่ๆ
“โห ลงมาได้สักทีนะ ดูจากท่าทางของพวกคุณแล้ว การทำงานในวันนี้ไม่เลวเลย!”