มุกดาใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดของตัวเองแปลต้นฉบับการบรรยายของชลธีจนเสร็จ เสื้อเชิ้ตของเธอก็แห้งพอดี เวลาก็ถึงเวลาเลิกงานแล้ว
“ประธานชลธีฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อ” หลังจากมุกดาพูดเสร็จก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อของตัวเองในห้องรับรอง แต่ตนใส่เสื้อของชลธีมาสักพักแล้ว ควรจะเอากลับไปซักก่อนแล้วค่อยเอามาคืนให้เขา
“ประธานชลธี เสื้อของคุณ ฉันจะเอากลับไปซักก่อนแล้วค่อยเอามาคืนให้นะคะ” มุกดาบอกกับชลธี
ชลธีมองไปที่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวนั้นที่เธอสวมอยู่ ความแน่นอิ่มเอิบของหน้าอกไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ เลย
“ไม่ต้องหรอก เสื้อแบบนั้นฉันมีเยอะ โยนทิ้งไปเถอะ” ชลธีพูดอย่างโกรธเคือง เขาแทบไม่รู้แล้วว่าวันๆ หนึ่งเขาเอาความอึดอัดใจพวกนี้มาจากไหนมากมาย ชลธีท่านประธานแห่งมหาอำนาจบริษัทฮอนดากรุ๊ป เป็นคนไม่ตระหนกวิตกอะไรทั้งนั้น แต่ตอนนี้อารมณ์ของเขากลับถูกมุกดาจูงจมูกเดิน
สภาวะแบบนี้แย่มาก ชลธีต้องการกำจัดนิสัยความเคยชินนี้ของเขา ถ้าเขาคุ้นเคยกับการดำรงอยู่ของมุกดาขึ้นมาจริงๆ แบบนั้นเขาจะไม่กลายเป็นตัวตลกเหรอ
มุกดามองไปที่เสื้อตัวนั้น มันเป็นแบรนด์ดังจากต่างประเทศ หนึ่งตัวราคาตั้งหลายหมื่น แต่เพียงแค่เพราะตนใส่มันไปแล้ว เขาเลยไม่ต้องการมันอีก ข้างในใจของเขาต้องรังเกียจตนเองมากแค่ไหนกัน
มุกดารู้สึกว่าน่าเสียดาย เธอจึงม้วนเสื้อตัวนั้นและเตรียมจะเอากลับไปซัก
เมื่อเห็นมุกดาไปแล้ว ชลธีก็ไม่มีแรงจูงใจในการทำงานอีกเลย เขาเป็นอะไรไป? ทำไมถึงเป็นแบบนี้? เป็นเพราะตนเพิ่งจะได้สัมผัสกับจุดยอดเยี่ยมของผู้หญิงแหละมั้ง ก็แค่ชั่วคราวแน่นอน!
ชลธีปลอบใจตัวเอง เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่หมกมุ่นอยู่กับร่างกายของมุกดาอีกแล้ว นับตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป เขาจะไม่กลับไปอีกแล้ว
มุกดากลับมาถึงสำนักเลขาธิการ แต่กลับต้องพบกับปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดมาก ตอนนี้ได้เวลาเลิกงานแล้ว แต่ทุกคนในสำนักเลขาธิการยังอยู่ในห้องทำงานอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
แม้แต่ผู้อำนวยการไวพบก็ยังอยู่ ปกติคนพวกนี้คงจะกลับไปตั้งนานแล้ว มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นเหรอ?
ทันทีที่มุกดาเดินเข้าไป สายตาของคนเหล่านั้นก็กรีดแทงมาที่ร่างกายของเธอราวกับมีดคมยังไงอย่างนั้น
มุกดาไม่รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรให้พวกเขาขุ่นเคือง ตลอดบ่ายวันนี้เธอเพิ่งจะผ่านมรสุมตกนรกทั้งเป็นมาหมาดๆ
“โอ๊ะ มุก วันนี้โชคดีจังเลยนะ อยู่ห้องทำงานท่านประธานตลอดทั้งบ่ายแหนะ? เก่งมากเหมือนกันนะเนี่ย?” พี่ลิลลี่คนนั้นเบี่ยงตัวหันมา ตัวของเธอกลิ่นน้ำหอมรุนแรงฟุ้งกระจายออกมา
แต่เมื่อกลิ่นของเธอลอยมาเข้าจมูกของมุกดา มันกลับทำให้มุกดารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก
“ประธานชลธีให้ฉันแปลบทความการบรรยายให้เขา ดังนั้นฉันก็เลยต้องแปลจนถึงตอนนี้” มุกดาอธิบายให้ทุกคนฟัง เธอไม่เข้าใจ ตัวเองต้องไปอยู่ในที่แสนทรมานขนาดนั้นมาแท้ๆ คนพวกนี้คิดว่าตนไปเสพสุขมาหรือยังไง?
“มุก เธอเพิ่งจะอายุยี่สิบเองนะ เป็นช่วงอายุที่สดใสเหมือนดอกไม้ ต้องรู้จักเคารพตัวเองรักตัวเอง” ผู้อำนวยการไวพบก็เดินเข้ามาพูดกับมุกดาเหมือนกัน
มุกดายิ่งประหลาดใจไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ เธอไม่รักไม่เคารพตัวเองยังไง?
“ผู้อำนวยการไวพบ คุณหมายความว่ายังไงคะ?” มุกดาถามผู้อำนวยการไวพบ
“เฮ้อ วัยรุ่นสมัยนี้ ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ หาสักคนมาแต่งงานกันดีๆ ไม่ดีกว่าเหรอ? ทำไมถึงชอบไปเป็นเมียน้อยคนรวยมีเงินกันนะ” ผู้อำนวยการไวพบส่ายหน้าและเดินจากไป
“ผู้อำนวยการไวพบผู้อำนวยการไวพบ” มุกดารู้สึกว่าพวกเขาเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า เธอไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ
“ทำเรื่องเลวๆ มาก็เช็ดก้นให้สะอาดด้วยสิ เธอดูเธอสิ!” พี่ลิลลี่ชี้ไปที่หน้าอกของมุกดา กระดุมตรงหน้าอกของเธอมันกระเด็นหลุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ใบหน้าของมุกดาเป็นสีแดงจนถึงโคนหูภายในชั่วพริบตา ตอนนี้ต่อให้โดดลงแม่น้ำเหลืองก็คงชะล้างแก้ตัวให้สะอาดไม่ได้แล้ว
“มุก ในที่สุดเธอก็ออกมาสักที ประธานชลธีไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม?” จันวิภาเบียดผ่านฝูงชนเข้าไป เบียดไปยืนอยู่ข้างๆ มุกดา หล่อนตรวจสอบมุกดา
หล่อนเหลือบมองคนในสำนักเลขาธิการ ที่ยังคงมองไปที่มุกดาอยู่
“วันนี้พวกเธอว่างกันจังเลยนะ ไม่อยากเลิกงานเหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉันจะได้บอกกับแผนกบุคคลสักหน่อยว่าคนในสำนักเลขาธิการของพวกเธอร่วมใจกันทำงานล่วงเวลา!” ขณะที่พูดจันวิภาก็ล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
ในบริษัทฮอนดากรุ๊ป ถ้าหากต้องการทำงานล่วงเวลาจะต้องแจ้งไปยังแผนกบุคคลด้วย แบบนั้นแผนกบุคคลถึงจะสามารถทำเงินเดือนให้ได้
แต่ถ้าแจ้งแผนกบุคคลแล้วแต่ไม่ทำงานล่วงเวลา ก็จะถูกหักเงิน
เมื่อทุกคนได้ยินว่าจันวิภากำลังจะโทรหาแผนกบุคคล ทุกคนก็หันกลับไปเก็บข้าวของเตรียมตัวเลิกงานทันที
เพียงไม่นานคนในสำนักเลขาธิการก็หายไปหมดไม่เหลือ ในห้องทำงานขนาดใหญ่เหลือแค่มุกดากับจันวิภาเท่านั้น
“เป็นอะไรไป? คนในสำนักเลขาธิการรังแกเธอ?” จันวิภาถามมุกดา เธอมองออกว่าสายตาของคนในสำนักเลขาธิการที่มองมุกดานั้นไม่ดีเอามากๆ
“ไม่ใช่ วันนี้ท่านประธานประสาทนั่นเรียกให้ฉันไปที่ห้องทำงานของเขาให้ได้ แล้วก็ให้ฉันอยู่ที่นั่นเพื่อแปลต้นฉบับบทความกายบรรยายของเขา อยู่ตลอดทั้งบ่าย แบบนั้นพวกเขาเลยมองฉันแปลกไป” มุกดาก็รู้สึกว่าไม่มีอะไร ในเมื่อตัวเองบริสุทธิ์ พวกเขาอยากจะคิดยังไงก็ปล่อยให้คิดแบบนั้นไป
“คนพวกนี้ ก็แค่อิจฉาเธอ คนในสำนักเลขาธิการของพวกเธอเดิมทีก็มีแต่ผู้หญิง เธอคิดว่ามันเป็นสถานที่แห่งปัญหาเลยไหม? ช่างเถอะ วันนี้พวกเราไปกินข้าวกัน พี่ชายฉันเลี้ยงเอง พวกเราไปสถานที่ที่ค่อนข้างลับตาคน คงไม่บังเอิญเจอประธานชลธีอีกหรอก” จันวิภามองไปรอบๆ ก่อนจะกระซิบพูดกับมุกดาเบาๆ
“อืม โอเค วันนี้ฉันก็หดหู่มาพอแล้ว พวกเราออกไปสนุกกันสักหน่อยเถอะ!” มุกดารู้สึกว่าเธอโชคร้ายมากพอแล้ว
ในเมื่อตอนนี้รู้ว่าการล้มละลายของตระกูลแก้วสุทธิเกิดจากกลอุบายของธีรเมทแบบนี้แล้ว ค่อยจัดการง่ายขึ้นหน่อย ชลธีบอกว่าต้องทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นมาไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นมุกดาก็จะพยายามให้มาก
“ไฮ มุก จันทร์ พี่อยู่ทางนี้” ประวีร์เห็นสาวสวยทั้งสองคนเดินออกมาแต่ไกล
“ไฮ พี่ชาย พวกเรามาแล้ว” จันวิภามองเห็นประวีร์ที่กำลังยืนพิงรถอยู่ รูปลักษณ์หล่อเหลาสดใสของเขา ดึงดูดความสนใจของสาวๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาจำนวนมาก
ประวีร์เปิดประตูรถให้สาวทั้งสองท่านขึ้นไปนั่ง
สถานที่ที่ไปทานอาหารกันในครั้งนี้เป็นสถานที่ที่ค่อนข้างเปลี่ยวลับตาคน ทั้งสามคนสั่งอาหารมาเยอะมาก แถมยังมีไวน์แดงอีกหนึ่งขวด
มุกดากับจันวิภาดื่มด้วยกัน ทั้งสองคนดื่มไวน์เข้าไปไม่น้อยแล้ว
มุกดาดื่มมากขึ้นจนเดินโซเซหาทิศหาทางไม่เจอแล้ว เธอปวดปัสสาวะมาก อยากไปเข้าห้องน้ำ จันวิภาก็ดื่มไปไม่น้อยแล้ว นอนฟุบอยู่กับโต๊ะและประวีร์กำลังป้อนน้ำชาให้หล่อนดื่ม
ออกจากห้องส่วนตัวแล้ว มุกดาก็หาห้องน้ำจนเจอด้วยความงุนงง แต่ตอนที่เธอออกมากลับรู้สึกว่าท้องไส้ปั่นป่วนไม่สบายท้องเอามากๆ อยากกลับไปอาเจียนในห้องน้ำ แต่กลับมองสัญลักษณ์ชายหญิงไม่ชัดแล้ว เธอสุ่มเขาไปหนึ่งห้อง ยังไม่ทันเดินไปถึงก็กลั้นเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
ชายคนหนึ่งออกมาจากฝั่งตรงข้าม จับตัวมุกดาเอาไว้ เธอชี้ไปที่ชายคนนั้นและพูดอย่างเมามาย “นายอย่าขยับ ขยับจนฉันเวียนหัวไปหมดแล้ว ยืนนิ่ง ยืนนิ่งๆ” พูดยังไม่ทันจบ เธอก็อาเจียนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ในตอนนี้ธีรเมทกลับยิ้มออกมา มุกดานะมุกดา ในที่สุดเธอก็ตกมาอยู่ในมือฉันแล้วใช่ไหม? ฮ่าๆๆๆ เขามองไปรอบๆ ไม่มีใครสังเกตเห็นเขา เขาอุ้มมุกดาที่กำลังสะลึมสะลือเดินออกไปทันที