เมื่อมุกดาได้ยินคำพูดของนัทธ์ ในใจของเธอก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาเล็กน้อย แต่เธอก็สามารถปรับอารมณ์ของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ดูก็ไม่ดูสิ เผื่อว่าภายในสองปีนี้เกิดความรู้สึกขึ้นมา แล้วถึงตอนนั้นเขายังไม่ชอบตัวเองมันต้องน่าอายขนาดไหน แบบนี้ดีแล้ว แค่นอนด้วยกันทุกวันเท่านั้น เวลาอื่นๆ ยังสามารถทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำได้
“ลุงนัทธ์ วันพรุ่งนี้ฉันอาจจะยังต้องออกไปข้างนอกสักหน่อยนะคะ” มุกดาบอกกับนัทธ์
“ครับ คุณผู้หญิงอยากไปที่ไหนก็สามารถไปได้ครับ เพียงแต่ว่าที่นี่ค่อนข้างอยู่ห่างจากตัวเมือง อยากจะเรียกแท็กซี่หรือว่านั่งรถเมล์ค่อนข้างจะยาก ผมจะจัดคนขับรถไว้คอยรับส่งคุณ คุณเก็บเบอร์โทรศัพท์ของผมไว้ จะกลับมาเมื่อไหร่ก็โทรหาผมได้เลย ผมจะให้คนขับรถไปรับคุณ” นัทธ์จัดการวางแผลนทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้ว จนมุกดาไม่สามารถหาช่องว่างได้เลย
มุกดากำลังเตรียมตัวจะกลับไปที่ห้อง นัทธ์ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณผู้หญิง วันนี้คุณสัมภาษณ์งานเป็นยังไงบ้างครับ? ผ่านไหมครับ?”
“อ้อ สัมภาษณ์งานวันนี้เหรอคะ ฉันเดาว่าฉันคงจะไม่ผ่านค่ะ ฉันเลยคิดว่าวันพรุ่งนี้จะออกไปหางานทำต่อ” มีคนจิตใจคับแคบคนนั้นอยู่ ตนสัมภาษณ์ผ่านสิแปลก มุกดาแทบไม่มีความคาดหวังอะไรอยู่เลย
“อ้อ ไม่เป็นไรหรอกครับคุณผู้หญิง คุณค่อยๆ หาไปก็ได้ครับ ครอบครัวของเราเลี้ยงดูคุณได้อยู่แล้ว” นัทธ์ไม่เข้าใจ ทั้งที่มีสามีดีขนาดนั้นแล้ว ทำไมยังต้องออกไปทำงานอีก? ผู้หญิงใช้เงินของผู้ชายมันไม่ใช่บัญญัติสวรรค์ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่แล้วเหรอ?
“อืม โอเคค่ะ ลุงนัทธ์ฉันกลับห้องก่อนนะคะ ถ้ามีเรื่องอะไรลุงเรียกฉันได้เลยนะคะ” หลังจากพูดจบมุกดาก็เดินขึ้นชั้นบนไป วันนี้เธออารมณ์ไม่ดีเอามากๆ เลย
อย่างแรกไปสัมภาษณ์งาน ดันไปเจอเจ้าคนใจแคบคนนั้นซะได้ เธออยากไปบริษัทฮอนดากรุ๊ปมากๆ แค่ตอนนี้ก็ล้มเหลวแล้ว คนคนนั้นคงจะเป็นหัวหน้าแผนกสักแผนก ท่าทางเคร่งขรึมอึมครึมแบบนั้น แค่มองก็ทำให้รำคาญใจแล้ว
แล้วยังมีเรื่องหย่าอีก ช่างมันเถอะ ผู้ชายสารเลวแบบนั้นไม่พูดถึงจะดีกว่า!
สุดท้ายก็เรื่องแต่งงาน แค่หน้าตาสามีเป็นยังไงยังไม่รู้เลย ปากบอกว่าไม่สนใจ แต่ภายในใจก็ยังใส่ใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
ผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่อยากจะมีงานแต่งงานใหญ่โต ใส่ชุดแต่งงานสวยๆ อยู่เคียงข้างผู้ชายที่ตนเองรัก
แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่มีเลย แม้แต่ตอนแต่งงานกับธีรเมทเธอยังไม่ได้ใส่ชุดแต่งงานเลย ชีวิตนี้เธอเสียเปรียบมากจริงๆ หวังว่าการแต่งงานในครั้งต่อไปเธอจะได้สวมชุดแต่งงานสักครั้ง
มุกดาคิดไปเรื่อยเปื่อย ก่อนเธอจะสะลึมสะลือผล็อยหลับไป เมื่อคืนวานก็ถูกทรมานมาตลอดทั้งคืนแล้ว บวกกับตอนกลางวันออกไปสัมภาษณ์งานอีก ทำเอาห่อเหี่ยวซีดเซียวไปหมด
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย มุกดาง่วงนอนมากจนเดิมทีไม่คิดจะลุกไปรับสาย แต่เสียงโทรศัพท์กลับดังอยู่อย่างนั้นไม่ยอมลดละสักที เธอไม่มีทางเลือกจึงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาจากตู้ตรงหัวเตียง
เธอเห็นว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์หนึ่งที่ไม่คุ้นเคยอีกแล้ว ไม่รู้จัก จึงกดตัดสายโทรศัพท์ทิ้งไป
แต่โทรศัพท์กลับดังขึ้นมาอีกครั้ง มุกดากดรับสายโทรศัพท์อย่างโกรธเคือง เธอยังไม่ทันได้ระบายความโกรธออกมา น้ำเสียงอ่อนโยนเป็นมิตรจากปลายสายก็ดังขึ้นมาก่อนแล้ว
“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ ขออนุญาตถาม คุณใช่คุณมุกดาไหมคะ?” เมื่อได้ยินเสียงที่ไพเราะขนาดนี้ ความโกรธเคืองของมุกดาก็หายไปในทันที
“อืม ฉันเองค่ะ ขอถามคุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”
“อ้อ คุณมุกดา คืออย่างนี้นะคะ ฉันมาจากบริษัทฮอนดากรุ๊ปค่ะ วันนี้เมื่อตอนเช้าคุณเข้ามาสัมภาษณ์ที่นี่ยังจำได้ไหมคะ?” น้ำเสียงอ่อนโยนเป็นมิตรพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบและเป็นมิตร
“อืม อืม จำได้ จำได้ค่ะ” มุกดาพูดพลางพยักหน้าอยู่ข้างโทรศัพท์
“อืม ฉันโทรมาแจ้งคุณค่ะ ว่าคุณได้รับคัดเลือกเข้าทำงานจากทางบริษัทฮอนดากรุ๊ปของเราแล้ว พรุ่งนี้สามารถเข้ามารายงานตัวที่แผนกบุคคลได้เลยนะคะ” ในที่สุดเสียงอ่อนโยนเป็นมิตรนั้นก็พูดจบแล้ว
“จริงเหรอคะ?” เสียงของมุกดาสูงขึ้นแปดระดับในชั่วพริบตา ความง่วงนอนหายไปไม่มีเหลือแล้ว
“อะแฮ่มๆ จริงค่ะคุณมุกดา” อีกฝ่ายคงจะตกใจไปด้วยเหมือนกัน
“อ้อ โอเคค่ะ โอเคค่ะ วันพรุ่งนี้ฉันไปแน่นอนค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” แล้วมุกดาก็กดวางสาย เธอกระโดดโลดเต้นอยู่บนเตียงอย่างตื่นเต้นดีใจ เมฆหมอกความอึมครึมภายในใจตลอดหนึ่งวันนี้ของเธอสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“คุณผู้หญิง คุณทานอาหารสักหน่อยเถอะครับ” นัทธ์มองมุกดาที่เอาแต่กินข้าวเปล่า แถมยังยิ้มอย่างโง่เขลาออกมาเป็นระยะๆ เขาเป็นกังวลแทนคุณชายของเขาจริงๆ เด็กสาวคนนี้คงจะไม่ได้ป่วยเป็นอะไรใช่ไหม?
“อ้อ โอเคค่ะ” ถึงตอนนี้มุกดาถึงได้สติตื่นขึ้นมา ความสุขเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป เธอจึงยังคิดเกี่ยวกับมันอยู่
ในที่สุดเธอก็สามารถไปทำงานที่บริษัทฮอนดากรุ๊ปได้แล้ว และจะมีเงินไปซื้ออาหารเสริมให้พ่อได้แล้วด้วย
แม้กระทั่งตอนที่ชลธีกลับมาถึงที่บ้าน ผลักประตูเปิดออก เสียงหัวเราะอย่างกะทันหันของมุกดาก็ทำเอาเขาตกใจไปด้วยเหมือนกัน
จากนั้นมุกดาก็พลิกตัวนอนหลับไปอีกครั้ง ชลธีปิดประตูห้อง
วันนี้เขามีประชุมจนถึงดึกดื่นเที่ยงคืน ปกติในเวลาแบบนี้เขาจะพักผ่อนอยู่ที่ห้องทำงานตลอดทั้งคืน แต่ตอนนี้เขากลับอยากกลับบ้านมาก ความรู้สึกเมื่อมีผู้หญิงเข้ามาอยู่ในบ้านมันช่างแตกต่างมากจริงๆ
ชลธีมองมุกดาภายใต้แสงจันทร์ ผิวของเธอมันเงา ยืดหยุ่นมาก หน้าตาสะสวย นับว่าเป็นหญิงสาวที่หน้าตาสวยไม่เลวคนหนึ่ง
ชลธีโน้มตัวลงไป จุมพิตลงบนใบหน้าของมุกดา หนึ่งที ก่อนจะไปอาบน้ำ