ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] – ตอนที่ 16 โศกนาฏกรรมนั้นเมื่อห้าปีก่อน(1)

บทที่ 16 โศกนาฏกรรมนั้นเมื่อห้าปีก่อน(1)

ฉินเย่ใช้เวลาใคร่ครวญครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มเอ่ย “ตอนนั้นเรื่องนี้ค่อนข้างจะเป็นข่าวอื้อฉาวอยู่ ข่าวนี้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเวยป๋อ[1] วีแชท [2] และไซต์ข่าวต่าง ๆ แม้แต่คนดังยังรีโพสต์และให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถือได้ว่าเป็นข่าวไวรัลข่าวหนึ่งเลย ห้าปีก่อน ชู้รักคนนั้นได้โพสต์ประจานลงหน้าเวยป๋อ บอกว่าซีอีโอของไฮแอตต์คอร์ปถูกบีบบังคับให้มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับเธอขณะที่เธอยังเป็นผู้เยาว์”

“เธอเสริมว่าเธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าซีอีโอคนนั้นแต่งงานแล้ว และมีบุตรที่อายุไม่ห่างจากเธอมากเท่าไหร่ เธอเสริมว่าซีอีโอหวังบอกเธอว่าเขายังโสด ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอคือเรื่องจริง ตอนนั้นเธอพบว่าความมั่งคั่งร่ำรวยจากการเป็นคุณนายของซีอีโอเป็นความฝันที่หอมหวาน ความใจกว้างของซีอีโอหวังที่มีต่อเธอทำให้เธอใจฟู จนในที่สุดเธอก็ตกลง”

อาร์ทิสเอ่ยความคิดออกมาดัง ๆ “เป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายจะรู้สึกเสน่หาต่อผู้หญิง”

ฉินเย่ส่ายหน้า “แต่นี่ยังเป็นแค่เริ่มต้น มันมีจุดหักมุมอยู่…ซึ่งตามมาหลังจากนั้นสัปดาห์เดียว”

“โพสต์นี้เดิมทีก็ไม่มีอะไรมาก แต่เมื่อคำว่า ผู้เยาว์ กระแทกใจคนบางคนเข้า คนจำนวนหนึ่งก็เริ่มอยากรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ลับของซีอีโอแห่งไฮแอตต์คอร์ป เขาไม่ค่อยจะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมในฐานะเจ้าสัวอสังหาริมทรัพย์เหมือนอย่างตระกูลของเขาเท่าใด กล่าวกันว่า มันมักจะมีคนบางคนในโลกนี้ที่คิดว่าตัวเองรู้ดีไปหมดทุกเรื่อง มีตาเป็นสับปะรดมองเห็นได้ทุกอย่าง และมีความสามารถเป็นผู้ปกป้องโลก คนพวกนี้จะป่าวประกาศอย่างเร่าร้อนด้วยเสียงอันอ่อนแอขี้ขลาดของพวกเขา หวังว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้พวกเขาสามารถมีที่ยืนในโลกนี้ได้ในท้ายที่สุด”

“โพสต์นั้นปรากฏต่อสาธารณะหน้าเว็บเวยป๋อ ตอนนี้มันยังคงเข้าไปอ่านได้อยู่ ฉันไม่ได้ดูโพสต์ของเธอเป็นการส่วนตัวหรอกตอนที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น กล่าวได้ว่าฉันได้ยินมาจากหลายแหล่งข่าวที่หลายคนที่ได้อ่านข่าวนั้นเริ่มวิจารณ์เธอแทน กล่าวหาว่าเธอเป็นพวกโหนกระแสสังคมและขายตัวเองเพื่อแลกกับเงินและชื่อเสียง คำกล่าวหาพวกนี้มาจากคนที่ยึดอยู่ในบรรทัดฐาน อันสูงส่งของตนเองและกล่าวหาคนที่เหลือในสังคมว่าเป็นขยะ ดังนั้น…”

สายตาของเขาจับจ้องลึกซึ้งที่ซีอีโอหวัง “หนึ่งอาทิตย์ต่อมา ด้วยความโกรธแค้น ชู้รักคนนั้นก็ได้ปล่อย…คลิปเสียงและภาพหลุดออกมา”

เกิดความเงียบชั่วขณะหนึ่ง

วิญญาณของหวังเจ๋อหมินสั่นเทิ้มอย่างทรงตัวไม่อยู่ แต่ฉินเย่ก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย “หนทางที่ง่ายที่สุดในการเป็นจุดสนใจบนอินเทอร์เน็ตน่ะเหรอ? ก็คือการทำสิ่งที่ไม่ธรรมดา ซึ่งบังเอิญว่าชู้รักคนนั้นก็จัดว่าเป็นคนสวยคนหนึ่ง ยิ่งกว่านั้น…ขนาดของซีอีโอหวัง…ก็เป็นสิ่งที่คนอื่น ๆ อยากจะดูซ้ำอีกรอบ…อืม…แม้แต่ข้ายังอยากดูซ้ำเลย”

“ท่านยังจำเรื่องประตูปลาไหลได้ไหม? [3] ทุกวันนี้เป็นเรื่องง่ายทีเดียวในการเป็นไวรัส ที่คุณต้องทำก็คือทำตัวให้สวยแล้วทำสิ่งที่คนธรรมดาไม่กล้าทำกัน และถ้ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเซ็กซ์ มันก็แทบจะเป็นเรื่องที่กลายเป็นไวรัสได้ในทันที การสร้างคอนเทนต์แบบนี้ขึ้นมาไม่ต่างอะไรกับการโยนเนื้อชุ่มเลือดลงไปในบ่อฉลาม มนุษย์ผู้ตะกละตะกลามที่รอข่าวไวรัสชิ้นต่อไปอยู่ ก็จะรีบฮุบและเสพในทันที เหมือนกันกับโพสต์ของชู้รักคนนั้นที่ติดท็อปเทรนด์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ มันก็กลายเป็นจุดสนใจของคนส่วนใหญ่ในแพลตฟอร์มข่าวซุบซิบในที่สุด และถูกกล่าวขานอย่างต่อเนื่องในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะรูปร่าง และขนาด ไฮแอตต์คอร์ปที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันนักก็พลันมีชื่อเสียงขึ้นมาในชั่วข้ามคืน”

อาร์ทิสตอบรับด้วยอาการครุ่นคิด

“เพียงคืนเดียว รูปถ่ายและคลิปเสียงของเธอก็กลายเป็นไวรัสแพร่กระจายทั่วอินเทอร์เน็ตราวกับไฟลามทุ่ง คนติดตามนับพันที่คิดว่าพวกเขาได้ความจริงของเรื่องนี้ก็พุ่งตรงมาที่เว็บไซต์อันเงียบสงบของไฮแอตต์คอร์ป ชาวเน็ตพ่นคำด่าทอและคำวิพากษ์วิจารณ์ใส่เต็มที่ พวกเขาคือเหล่าวายร้ายที่คิดว่าตัวเองมีจิตใจสูงส่งพอที่จะด่าประณามคนอื่นด้วยคำพูดที่รุนแรงที่สุด ซึ่งพวกเขาคิดว่ามันคือสิทธิ์ของพวกเขา”

หวังเจ๋อหมินถอนหายใจอย่างอ่อนแรงและเอ่ยพึมพำยืนกราน “ฉันไม่ได้ทำ”

“แต่ในจุดนี้เสียงของฉันเบาเกินกว่าที่จะมีความสำคัญแล้ว ฉันจำได้เกี่ยวกับโพสต์ในเว่ยป๋อ แต่เสียงของฉันแทบจะถูกกลืนหายไปในทันทีจากการพ่นวาจาของคนที่คิดว่าพวกเขาเป็นกระบอกเสียงในเรื่องนี้! การสร้างเหตุการณ์เรื่องเดียวของชู้รักคนนั้นโดยใช้แค่แอคเคาท์เดียวทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตพวกนี้เริ่มก่นด่าฉันอย่างสาดเสียเทเสีย แม้กระทั่งการหยิบยก ช่องโหว่ ที่ไม่มีอยู่จริงในแอคเคาท์ของฉันมาทำให้ฉันแปดเปื้อนด้วย!”

“ฉันปิดเว็บไซต์บริษัทในทันทีและเริ่มสืบหาความจริงด้วยตัวเอง เจาะข้อมูลเพื่อค้นหาผู้กระทำผิด ในที่สุดฉันก็พบว่าคนคนนี้เป็นใคร เธอ…ความจริงแล้วเป็นลูกจ้างใหม่อายุยี่สิบห้าปีในบริษัทของฉันเอง! ไม่ใช่ผู้เยาว์เลยแม้แต่น้อย!”

“แค่สัปดาห์เดียว เธอก็ติดต่อมาเพื่อร้องขอค่าแรงเพิ่ม แต่ฉันปฏิเสธเธอด้วยตัวเอง มีลูกจ้างไม่กี่คนภายในไฮแอตต์คอร์ป และฉันก็เป็นคนดูแลเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเอง เธอกล่าวหาว่าค่าจ้างของเธอต่ำเกินไป จริง ๆ แล้วค่าจ้างของเธอก็ค่อนข้างต่ำนั่นแหละ แต่…ไม่มีนายจ้างคนไหนเต็มใจจ่ายค่าแรงพนักงานมากเกินความจำเป็นหรอก! ให้ตายเถอะ เราทั้งหมดต่างพยายามจ่ายให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้กันทั้งนั้น! ในเย็นวันนั้นเอง และมันก็ลงตัว ข้อตกลงพวกนี้เกิดขึ้นได้เพราะคนหนึ่งเต็มใจจะให้บทลงโทษ ขณะที่อีกฝ่ายก็ยินดีรับมัน มันเป็นข้อตกลงที่ต้องเห็นด้วยกันทั้งสองฝ่าย หากคุณรับข้อตกลงพวกนี้ไม่ได้คุณก็ไปหางานใหม่ อย่างน้อยที่สุดนี่ก็เป็นสิ่งที่ฉันคิดว่าสังคมดำเนินไปอย่างไร แต่ฉันไม่นึกเลยว่าจิตใจมนุษย์จะต่ำช้าได้ถึงขนาดนี้!”

ฉินเย่พยักหน้า “นั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงเลือกที่จะฟ้องร้อง”

หวังเจ๋อหมินแค่นหัวเราะขื่นขณะเหลือบมองเพดาน “ท่านเคยคิดเรื่องนี้ไหมล่ะ? ท่านเคยคิดไหมว่าหัวใจของมนุษย์บิดเบี้ยวแค่ไหน? ทันทีที่เราเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายในชั้นศาล ทั้งเว่ยป๋อพลันเงียบสนิท”

“พวกสอดรู้ที่ชอบอวดเบ่งยกเมฆนับไม่ถ้วนถึงกับรีบเปลี่ยนสีและใคร่ครวญถึงความเป็นไปได้ว่ามันมีเรื่องลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น เราผิดงั้นหรือ? เรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่มันน่าจะเป็นเลย ปฏิกิริยาเหล่านี้เห็นได้ดาษดื่นเลยล่ะ”

“การฟ้องคดีประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ความจริงยังไงก็คือความจริง ไฮแอตต์ชนะ ฉันชนะ แต่ว่า…ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่เป็นไปตามที่ฉันคิดนัก”

เสียงของเขาแหลมขึ้น “ในที่สุด…ทั้งหมดที่ฉันได้รับคือข้อความนับร้อยที่บอกว่า ฉันขอโทษ หรือไม่ก็ ฉันผิดไปแล้ว!!”

“เพียงชั่วข้ามคืน มันก็ดูราวกับว่าคำพูดเยาะเย้ย ถากถาง สาปแช่งนับแสนคำที่เหลือไม่เคยถูกเอ่ยขึ้นมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว! คำพูดสามคำคือสิ่งที่ฉันได้รับ! ข้อความขอโทษที่ยาวที่สุดยาวไม่ถึงสิบคำด้วยซ้ำ! แล้วข้อความที่ยาวตั้งแต่สามคำจนถึงสิบคำจากคนสองร้อยคนหรือประมาณนั้นก็เป็นคำพูดแสดงความเสียใจที่ฉันได้รับท่ามกลางคนนับแสนที่เคยทำผิดต่อฉัน! คนส่วนใหญ่เลือกที่จะลืมเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตไปเสียดื้อ ๆ !! ไม่ต่างจากหมาบ้าที่ซ่อนตัวอยู่หลังบ้าน รอเนื้อชิ้นต่อไปที่จะปรากฏมาให้พวกเขาได้เสพระงับความกระหายอยากเท่านั้น!!”

เสียงของเขาค่อย ๆ เร่งดังขึ้นจนถึงขีดสุดและก้องไปทั่วทั้งมุมอับของบ้าน ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็ก้มหน้าลงอีกครั้งและขบเคี้ยวฟัน “นี่คงเป็นสิ่งที่คอยย้อมใจเกรียนคีย์บอร์ดพวกนี้ หากกฎหมายไม่ลงโทษคนชั่วช้าพวกนี้ คนชั่วช้าที่ดูเหมือนไม่อันตรายพวกนี้ก็จะกลายเป็นมะเร็งสังคมในที่สุด!”

“ในสายตาของพวกเขา พวกเขาไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการพูดคำพูดไม่กี่คำ แต่การกระทำของพวกเขาบีบให้ฉันต้องหนีออกจากเขตตงไห่ไปพร้อมๆ กัน”

อาร์ทิสเงียบไป อา นางเห็นการจากลามามากเหลือเกินในชั่วชีวิตของนาง เหมือนตอนที่นางกล่าวคำอำลาต่อ ผู้หญิงคนนั้น…

ความจริงแล้ว อาร์ทิสเพียงเกิดความสงสัยและใช้เวลาใคร่ครวญเรื่องนี้ “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงกลายเป็นวิญญาณร้ายได้ล่ะ?”

ฉินเย่ตอบอย่างสงบ “เพราะผลลัพธ์ที่ออกมามันชัดเจนและง่ายนิดเดียว กระแสอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนทิศในทันทีที่คำตัดสินออกมา คนที่เคยก่นด่าสาปแช่งไฮแอตต์ก็หันกลับมาแว้งกัดชู้รักคนนั้นอย่างโหดร้ายยิ่งกว่า”

“เพราะว่าพวกเขาต้องการ…ยิ่งกว่าต้องการ…ปกปิดเจตนาผิดพลาดของพวกเขาเอง พวกเกรียนอินเทอร์เน็ตเหล่านี้เดิมทีก็ไม่ได้มีสติอยู่แล้ว แต่ความอับอายเล็กน้อยที่ยังคงอยู่ในใจสั่งให้พวกเขากระทำบางอย่างเพื่อจบละครฉากนี้ในชีวิตของพวกเขา แล้วอะไรที่เป็นหนทางที่ดีที่สุดของพวกเขาน่ะเหรอ? ทิ้งคอมเมนต์ไว้ใต้การตอบกลับของไฮแอตต์งั้นเหรอ? ไม่หรอก พวกเขาไม่รู้จักการสำนึกผิดหรอก พวกเขาเลือกที่จะทำตัวโหดร้ายเหมือนเดิมแทน ราวกับต้องการบอกซีอีโอหวังว่า ดูนะ ฉันกำลังช่วยคุณอยู่ ตอนนี้ฉันด่าเธอให้คุณแล้วนะ ส่วนเรื่องเลวร้ายของไฮแอตต์น่ะเหรอ คนพวกนี้เลือกที่จะลืมมันไปเท่านั้น เป็นเรื่องยากที่จะตบหน้าตัวเอง ตบหน้าคนอื่นยังเป็นทางเลือกที่เห็นผลชัดเจนกว่าในสองทางนี้”

อาร์ทิสเดาะลิ้น “จุ๊ ๆ ๆ…มนุษย์หนอมนุษย์…นี่คือเวลาที่เหล่ามนุษย์ดูน่ารังเกียจมากกว่าผีเสียอีก”

“แต่แน่นอน” สายตาของฉินเย่ดูลึกซึ้งแจ่มชัด “ผีก็ยังคงเป็นผี แต่มนุษย์ในบางครั้งก็กลายเป็นอมนุษย์ได้”

“เราไม่พอใจชู้รักคนนั้น แต่ขณะเดียวกันเราก็เห็นใจเธอเช่นกัน เนื่องเพราะหลังได้รับข้อความดูถูกและคำพูดรุนแรงนับไม่ถ้วนที่หลั่งไหลเข้ามา ในที่สุดเธอก็เลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง”

“เธอกระโดดลงมาจากหลังคาของไฮแอตต์คอร์ป”

หวังเจ๋อหมินหัวเราะ “ท่านรู้อะไรไหม? ในตอนแรกที่ฉันรู้ว่าเธอกระโดดตึกตาย ผมเป็นคนออกคำสั่งว่าห้ามใครหน้าไหนทั้งนั้นเก็บศพของเธอ ฉันรู้สึกมีความสุขมาก มันสุขใจอย่างเหลือล้น ความจริงก็คือฉันไม่เคยรู้สึกเปรมปรีดิ์กับอะไรมาก่อนเลย! ในตอนนั้นฉันรู้สึกราวกับว่าความเกลียดชังที่มีต่อเธอจบสิ้นลงหลังจากได้เห็นศพของเธอตากแดดตากลมอยู่ตลอดสามวันสามคืน…”

ทันใดนั้น เสียงประหลาดใจก็ดังจากมุมห้อง “พ่อ?”

ฉินเย่ตกใจและรีบหันหลังไปทันที หวังเฉิงห่าวได้สติกลับมาเมื่อใดไม่รู้ และเขาก็มองเหตุการณ์ทั้งหมดจากมุมห้องด้วยอาการตกตะลึง

คะ…เคร้ง…ทันใดนั้นเอง ชามข้าวที่อยู่ตรงหน้าแท่นบูชาก็พลิกคว่ำ ข้าวพลังหยินหกกระจายทั่วพื้น พรึ่บ ๆ ๆ ๆ …ไฟในบ้านดับพร้อมกันหมดทุกดวงในเวลาเดียวกัน

มันคือการปะทะกันระหว่างพลังหยินกับพลังหยาง และก็เป็นผีที่ดับไฟทั้งหมด

“เร็ว! เข้าประเด็นเร็วเข้า!” ฉินเย่ตะโกน “เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น? ท่านตายได้อย่างไร?”

หวังเจ๋อหมินอึ้งไป ไม่นานนักตัวตนของเขาก็เริ่มจางลงเป็นเงาโปร่งแสงมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาเหลือบมองมือของตัวเองแล้วก็ตะโกนออกมาอย่างร้อนรน “หลังผู้หญิงคนนั้นตาย ฉันก็ทรมานกับฝันร้ายทุกวัน! จากนั้นหนึ่งอาทิตย์ต่อมา ก็มีบุคคลนิรนามส่งหินชิ้นหนึ่งมาให้ แล้วฉันก็เก็บมันอย่างดีในตู้เซฟในออฟฟิศของฉัน! รหัสคือ 200086 วันเกิดของอาห่าว! วันมะรืนนี้คือวันเกิดของเขา!”

“ส่วนฉันตายยังไงนั้น…ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้สึกเหมือนฉันหลับไปแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย…”

ทันทีที่เขาพูดจบ เสียงโซ่ก็ดังจากอากาศเบื้องบนพวกเขา หวังเจ๋อหมินก็ได้หายไปจากมิติโลกมนุษย์พร้อมกับคำพูดที่ยังพูดไม่จบ

เงียบกริบ

ฉินเย่หยิบชามใส่เลือดไก่ขึ้นมาและสาดไปทั่วทั้งแท่นบูชาด้วยสีหน้าว่างเปล่า วิธีนี้คือการลบร่องรอยพลังหยินทั้งหมด จากนั้นฉินเย่ก็เดินตรงไปที่หวังเฉิงห่าว ซึ่งหวังเฉิงห่าวจ้องมองฉินเย่ด้วยอาการงุนงงขณะถามขึ้นมา “นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ว…วิญญาณของพ่อฉันเหรอ? มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย? ก่อนหน้านี้…”

ก่อนที่เขาจะพูดพร่ำจบ ฉินเย่ก็สับเข้าที่สันคอของเขาอย่างแรง ดวงตาของหวังเฉิงห่าวเหลือกขึ้นและเขาก็สลบเหมือดไปในทันที

เมื่อไฟสว่างอีกครั้งหนึ่ง ก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา ทั้งคู่จมอยู่ในความคิดของตัวเอง

“แสดงว่าอัตตาที่ผู้หญิงคนนั้นยังยึดมั่นอยู่ก็คือความจริงที่เธอไม่ได้เป็นภรรยาของซีอีโองั้นหรือ? น่าขัน” อาร์ทิสพึมพำเรียบเฉย

ฉินเย่แค่นหัวเราะเบา ๆ ขณะถือจอกชาในมือ “ข้าจินตนาการได้เลยว่าต่อให้เจ้ามีชีวิตอยู่มานานขนาดนี้ เจ้าก็คงจะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนเป็นแน่ ๆ มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด เมื่อไม่เห็นความหวังอยู่ตรงหน้า เราก็จะทำเพียงรอหายนะของเราเงียบ ๆ แต่เมื่อใดที่เรามีประกายความหวังขึ้นมา เราจะอยู่เฉยรอให้มันหายไปอีกครั้งหนึ่งน่ะเหรอ? ความรู้สึกสิ้นหวังอย่างท่วมท้นก็เพียงพอแล้วที่จะเปลี่ยนคนที่ดีที่สุดให้กลายเป็นสิ่งชั่วร้ายที่สุด”

“ถ้างั้นเจ้าวางแผนจะทำอะไรต่อ?”

“ง่ายนิดเดียว” ฉินเย่เหลือบมองหวังเฉิงห่าว “ทุกสิ่งทุกอย่างจะจบลงก็ต่อเมื่อเขาได้หินกลับไปไม่ใช่เหรอ?”

ความเงียบเกิดขึ้นในทันใด

ชั่วขณะต่อมา อาร์ทิสก็ย้ำประเด็นด้วยความไม่อยากเชื่อบางส่วน “เจ้ากำลังจะบอกว่า….เจ้าไม่ได้ตั้งใจที่จะปลดปล่อยผีตนนี้น่ะเหรอ?”

นี่เป็นความจริงที่เกิดขึ้นน่ะหรือ?

ฉินเย่เหลือบมองโปเกบอลอย่างเย้ยหยัน “แน่นอน! ทำไมต้องปะทะกับฝ่ายศัตรูตรง ๆ ด้วยล่ะ ในเมื่อเราสามารถยึดป้อมจากใต้จมูกของพวกมันได้? เป้าหมายก็คือการยึดป้อม ไม่ใช่ล่าหัวพวกมันนี่นา!”

“แต่…ไม่นานมานี้เจ้าบอกว่าจะลงมือตาแรกด้วยทุกอย่างที่มีไม่ใช่หรือไง? ทำไมเกิดเปลี่ยนใจกะทันหันล่ะ?”

ฉินเย่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนหยิบยกคำคมปรัชญาขึ้นมา “อย่างที่ผมบอกเมื่อก่อนหน้านี้ เมื่อไม่มีความหวัง มนุษย์อย่างเราก็ทำเพียงรอหายนะราวกับคนขี้เกียจ แต่ในทางกลับกันก็เป็นเรื่องจริงที่ว่า เมื่อใดที่เห็นความหวังอยู่ลิบ ๆ มนุษย์จะทำทุกอย่างด้วยพลังที่มีในการก้าวไปสู่เป้าหมาย”

“เป็นคำตอบที่กะล่อนและหลอกลวงสิ้นดี อีกอย่างมันเป็นความคิดที่ดีแล้วหรือในการไว้ชีวิตผีร้ายต่อหน้าอดีตตุลาการอย่างข้า? เมื่อก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้ออกแรงสู้สักหน่อยหรือ? หากเจ้ายังมุ่งมั่นและทำงานหนักกว่านี้ สักวันหนึ่งเจ้าก็คงจะทำให้ข้าประทับใจได้!”

“ท่านขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อยู่นะ!” ฉินเย่เอ่ยเสียงแข็งขณะตอบรับด้วยท่าทีมุ่งมั่น “ต่อให้ข้าถูกต้อนจนมุม มันก็ไม่ใช่วิสัยที่ข้าจะดิ้นรนหรอก ไม่ใช่ในชีวิตนี้แน่นอน!”

[1]เวยป๋อ (微博)เป็นแอปหนึ่งที่คนจีนเอาไว้ใช้ติดตามข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ ถือว่าเป็นแหล่งข่าวที่ใหญ่และสำคัญในจีน

[2]วีแชท(微信)เป็นที่รู้กันว่าจีนไม่สามารถเล่นไลน์ได้ ดังนั้นแอบวีแชทจึงเป็นแอปที่ทำหน้าที่คล้ายกับไลน์ของไทย

[3]เรื่องนี้มีที่มาจากเหตุการณ์ในเดือนมีนาคม 2017 เมื่อผู้ประกาศข่าวหญิงต้องการเพิ่มยอดวิวและยอดไลค์ เธอก็เลยสอดปลาไหลเข้าไปในช่องคลอด สตรีมของเธอกลายเป็นไวรัสในทันที ทำให้ผู้เกี่ยวข้องในเรื่องประตูปลาไหลถูกจับกุมในเดือนพฤษภาคม 2017 และถูกดำเนินคดี Kiki ที่เป็นตัวการหลักถูกสั่งให้จำคุกหนึ่งปีเก้าเดือนพร้อมกับถูกปรับเป็นเงินห้าหมื่นหยวน

ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]

ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]

ฉินเย่เด็กหนุ่มมัธยมปลายที่ไม่มีวันแก่ เพราะกิน “เห็ดเทียนสุ่ย” เข้าไปทำให้มีชีวิตอยู่ระหว่างสองโลก เป้าหมายในชีวิตของเขาเพียงต้องการมีชีวิตเล่นเกมอยู่ไปวัน ๆ เท่านั้น แต่ดูเหมือนนรกจะไม่ได้ยินเสียงเรียกร้องของเขา เมื่อนรกถึงกาลอวสาน ผีร้ายออกอาละวาดบนโลกมนุษย์ ทำให้ฉินเย่ที่เป็นยมทูตคนสุดท้ายต้องรับหน้าที่จ้าวนรกเพื่อพิทักษ์โลกใบนี้!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset