บทที่ 50 ความมุ่งมั่นของเด็กน้อย[รีไรท์]
หลังจากได้ยินคำสั่งของหลิงตู้ฉิง หลิงยู่ชานกลับไปต่อสู้อีกครั้งกับเสื้อคลุมโลหิตผู้นั้น
แต่นักฆ่าผู้นั้นเป็นคนที่มีประสบการณ์ต่อสู้มาหลายร้อยครั้งและยังเผชิญกับการต่อสู้เป็นตายมานับไม่ถ้วน ส่วนหลิงยู่ชานที่ฝึกมายังไม่ถึงเดือนและไม่เคยมีประสบการณ์การต่อสู้กับคนอื่นมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสประสบการณ์ต่อสู้จริง
แม้ว่าเขาจะพยายามต่อสู้อย่างแข็งขันเพียงใด เขาก็ยังพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในฝั่งทางด้านของกลุ่มเสื้อคลุมโลหิต นักฆ่าที่กำลังสู้กับหลิงยู่ชานต้องพยายามยั้งมือตัวเองหลายครั้งหลายคราไม่ให้ลงมือหนักกับหลิงยู่ชานมากไป เนื่องจากเขาหวั่นเกรงว่าจะทำให้หลิงตู้ฉิงไม่พอใจ หลิงตู้ฉิงสามารถจำกัดระดับการบ่มเพาะของเขาได้ หากเขาไปสะกิดต่อมให้ไม่ถูกใจเมื่อไหร่หลิงตู้ฉิงคงฆ่าเขาได้เหมือนบี้มด
แต่ขึ้นชื่อว่าการต่อสู้จะไม่มีการสูญเสียได้อย่างไร
หลิงยู่ชานกระอักเลือดออกมาเต็มปากหลังจากเขาพ่ายแพ้อีกครั้ง เมื่อเห็นหลิงยู่ชานกระอักเลือด นักฆ่าเสื้อคลุมโลหิตออกอาการตัวสั่นด้วยความกลัวเขารีบเหลือบมองไปยังหลิงตู้ฉิง เขาคิดว่าหลิงตู้ฉิงต้องโกรธแน่ ๆ
แต่สิ่งที่เขาเห็นกลับผิดคาด หลิงตู้ฉิงยังมีท่าทีเฉยเมยทำเหมือนเขามองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
ตอนนี้เขาโล่งใจแล้ว เขาเริ่มโจมตีด้วยแรงที่มากขึ้นและผลก็คือหลิงยู่ชานบาดเจ็บมากขึ้น
เมื่อมองไปที่หลิงยู่ชานที่ได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ และอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช หลิงว่านถิงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า “ท่านพ่อ พี่ใหญ่ถูกตีจนอยู่ในสภาพเช่นนี้ ท่านยังต้องการให้เขาเอาชนะอีกหรือ? ท่านน่าจะสังหารคนพวกนี้ทั้งหมดให้สิ้นเรื่อง จากนั้นเราจะได้อยู่กันอย่างสงบเสียที”
หลิงตู้ฉิงจ้องมองหลิงว่านถิงและพูดว่า “ถ้าเจ้าต้องการให้เรื่องนี้จบไว ๆ เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปสู้เองไหมล่ะ เดี๋ยวพ่อจะหาคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมให้เจ้าอีกคน”
“แต่ข้ายังไม่ได้เริ่มบำเพ็ญเพียรเลยนะท่านพ่อ!” หลิงว่านถิงพูดอย่างขุ่นเคือง “ถ้าข้ามีโอกาสได้บ่มเพาะ ข้าก็ไม่กลัวพวกเขาหรอก!”
“เช่นนั้น พ่อหวังว่าเจ้าจะรักษาคำพูดของตัวเจ้าเองนะ” หลิงตู้ฉิงพูดด้วยรอยยิ้ม
พูดจบหลิงตู้ฉิงก็หันกลับไปมองหลิงยู่ชานที่กำลังโดนทุบตีและตะโกนว่า “ยู่ชาน เจ้าได้ยินสิ่งที่น้องสาวเจ้าพูดหรือไม่ นางเป็นห่วงว่าเจ้าจะไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้และนางก็อยากที่จะช่วยเหลือเจ้า”
“เจ้าเคยบอกว่าเจ้าจะพยายามฝึกฝนเพื่อปกป้องน้อง ๆ ของเจ้าและเจ้าก็ยังต้องการปกป้องข้าด้วยอีกต่างหาก วันนี้หากเจ้ายังไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้กระจอก ๆ ที่อยู่ตรงหน้าเจ้าได้ เจ้าก็อย่าได้หวังคิดไกลที่จะไปปกป้องใครได้ แม้แต่ตัวเจ้าเองตอนนี้ยังเอาตัวไม่รอดเพราะฉะนั้นลืมเรื่องเป็นห่วงคนอื่นไปได้เลย”
หลิงยู่ชานผู้ซึ่งพ่ายแพ้ไปจนถึงจุดที่เขาหมดกำลังใจทิ้งตัวลงบนพื้น เขารู้สึกว่าคู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งเกินไป
ถึงแม้ว่าระดับของคู่ต่อสู้จะถูกพ่อของเขาลดมาจนอยู่ในขอบเขตหลอมรวมลมปราณระดับ 2 แต่ในด้านประสบการณ์ ความแข็งแกร่งของร่างกายและเทคนิค คู่ต่อสู้ของเขานั้นอยู่เหนือกว่าเขาหลายขุม
ยิ่งกว่านั้นเขาเพิ่งเริ่มบำเพ็ญเพียรมาน้อยกว่า 1 เดือน แต่ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่น่าจะเคยฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน เขาจะเอาชนะได้อย่างไร?
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิง หัวของเขาแทบจะระเบิด
แน่นอนว่าเขาจำได้ว่าเขาเคยบอกว่าจะปกป้องน้องชายและน้องสาวของเขา
ตอนนี้ความรู้สึกที่พรั่งพรูเข้ามาในสมองของเขาคือ ความเจ็บใจ! เขาเจ็บใจที่ไม่สามารถเอาชนะคนที่อยู่ข้างหน้าเขาได้ เขาควรทำอย่างไรดี ถ้าเขายังอ่อนแอแบบนี้ต่อไป ในอนาคตเขาจะปกป้องครอบครัว…เขาจะปกป้องน้อง ๆ ของเขาได้อย่างไร?
ไม่! เขาต้องเอาชนะศัตรูที่อยู่ตรงหน้าเขาให้ได้!
ยิ่งกว่านั้นคนพวกนี้มาที่นี่เพื่อฆ่าพวกเขา และที่พวกเขายังรอดอยู่ได้ก็เป็นเพราะพ่อของพวกเขามีลูกเล่นบางอย่างที่ทำให้เขาสามารถควบคุมระดับของคนพวกนี้ได้ แต่ถ้าวันหนึ่งพ่อของเขาไม่ได้อยู่ด้วยล่ะจะเกิดอะไรขึ้น? หรือไม่ในวันหนึ่งมีบางสิ่งบางอย่างที่แม้แต่พ่อของเขาก็ไม่สามารถจัดการได้ปรากฏตัวขึ้นมา เมื่อวันที่น่ากลัวเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง เขาต้องยืนเฉย ๆ รอรับชะตากรรมเช่นนั้นหรือ?
คำตอบของเขาคือ ‘ไม่!!’
เขาจะต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้เพื่อรับมือกับศัตรูทั้งหมด และการที่เขาจะแข็งแกร่งขึ้นได้ เขาต้องเริ่มด้วยการชนะคู่ต่อสู้ที่อยู่ข้างหน้าเขาตรงนี้
เมื่อเริ่มคิดได้ หลิงยู่ชานพยายามยันตัวลุกขึ้นจากพื้น
หลิงตู้ฉิงรับรู้ความรู้สึกตั้งใจที่จะไม่ยอมแพ้จากหลิงยู่ชาน เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดว่า “เจ้าจำคำที่พ่อเคยสอนเจ้าได้ไหมยู่ชาน หากหัวใจตั้งมั่นแล้วไซร้ แค่หมัดเปล่าก็ไร้เทียมทาน ต่อให้เทพยดาขวางทาง ก็มิอาจต้านทานเจตจำนงค์ได้! หากเจ้าต้องการแข็งแกร่งขึ้นเจ้าต้องเอาชนะตัวเองให้ได้!”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของหลิงตู้ฉิง หลิงยู่ชานก็เดินเซไปเซมาไปยังคู่ต่อสู้ของเขาที่ยืนอยู่ข้างหน้า
นักฆ่าเสื้อคลุมโลหิตจ้องมองหลิงยู่ชานที่กำลังเดินเข้ามาด้วยแววตาดูถูก
ไร้เทียมทานบ้าบออะไร รนหาที่ตายล่ะสิไม่ว่า!
นักฆ่าผู้เป็นคู่ต่อสู้ของหลิงยู่ชานเหลือบมองไปยังหลิงตู้ฉิงแว่บหนึ่ง จากนั้นจึงระเบิดลูกเตะไปที่หน้าท้องของหลิงยู่ชาน เขาเห็นได้ชัดว่าเด็กชายข้างหน้าแทบจะไม่มีพลังเหลืออยู่แล้ว
จากท่าทางของหลิงตู้ฉิง เขาคิดว่าถ้าเขาชนะเด็กตรงหน้าเขาได้จริง ๆ หลิงตู้ฉิงจะต้องปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะลงมือกับเด็กคนนี้หลายต่อหลายครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเตะหลิงยู่ชานผู้ซึ่งดูเหมือนจะล้มลงไปกองกับพื้นได้ทุกวินาที สิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้น หลิงยู่ชานสามารถเบี่ยงตัวหลบการเตะของเขาได้ทันแบบฉิวเฉียด จากนั้นหลิงยู่ชานก็เหวี่ยงหมัดสวนตรงไปที่ช่องท้องของเขาทันที
หมัดของหลิงยู่ชานกระทบกับเป้าอย่างจัง ส่งผลให้นักฆ่าผู้นี้ลอยละลิ่วออกไปกระแทกกับกำแพงเรือนและหมดสติทันทีไม่สามารถกลับมาสู้ต่อได้
“คนต่อไป!” เสียงที่ไม่แยแสของหลิงตู้ฉิงดังไปถึงหูของเหล่าเสื้อคลุมโลหิต
หนึ่งในกลุ่มเสื้อคลุมโลหิตตระหนักได้ว่าร่างกายเขาสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว เขาจึงรีบพุ่งตัวไปหาหลิงยู่ชานทันที
เขาต้องการอาศัยจังหวะที่สภาพของหลิงยู่ชานร่อแร่เต็มทนเพื่อกุมความได้เปรียบ เขาจึงเข้าโจมตีหลิงยู่ชานอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้หลิงยู่ชานมีความคิดเพียงอย่างเดียวในใจ คือสู้ต่อไปจนกว่าจะเอาชนะศัตรูทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าได้
ร่างกายของหลิงยู่ชานค่อย ๆ เปล่งพลังสายเลือดที่ไหลวนอยู่ในตัวเขาออกมา
เมื่อรัศมีพลังสายเลือดเริ่มโคจรไปทั่วร่าง แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของหลิงยู่ชานจะยังหยุดนิ่งอยู่ที่ขอบเขตหลอมรวมลมปราณระดับ 2 แต่นักฆ่าที่กำลังพุ่งเข้าไปหาหลิงยู่ชานสัมผัสได้ว่า ความแข็งแกร่งของเด็กที่เขาเผชิญหน้าอยู่กลับเพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่า!
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ หลิงตู้ฉิงตะโกนไปยังกลุ่มของพวกนักฆ่าว่า “พวกเจ้าทั้งหมดเข้าไปโจมตีพร้อมกัน ถ้ารุมแล้วยังไม่ชนะ พวกเจ้าก็เตรียมตัวไปลงนรกได้เลย…”
พวกนักฆ่าทั้งหมดรู้สึกได้ว่าระดับการบ่มเพาะของพวกขายังคงถูกจำกัดอยู่ แต่ในตอนนี้พวกเขาสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิง พวกเขารู้ตัวได้ทันทีว่านี่อาจจะเป็นหนทางรอดตายของพวกเขา
ทุกคนรีบปรี่ไปหาหลิงยู่ชานเหมือนฝูงผึ้ง แต่นักฆ่าผู้ที่เคยอยู่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 3 นั้นค่อนข้างมีไหวพริบ แม้ว่าเขาจะเข้าไปรุมหลิงยู่ชานแต่เขาก็ไม่ได้ลงมือรุนแรงจนเกินขอบเขต
เขาเข้าใจได้ว่าหลิงตู้ฉิงต้องการใช้พวกเขาในการฝึกฝนเด็กคนนี้
หากเขาต้องการที่จะอยู่รอด เขาจะต้องออมมือให้เพื่อขัดเกลาประสบการณ์การต่อสู้ของเด็กที่อยู่ตรงหน้าเขา
เขารู้ว่าหากเขาไม่ขัดเกลาเด็กคนนี้จนหลิงตู้ฉิงพอใจ ต่อให้เขาเอาชนะเด็กคนนี้ได้ จุดจบของเขาและพวกของเขาก็คงไม่พ้นต้องไปพบกับยมบาลแน่นอน
ดังนั้นถึงแม้ว่าในบางท่วงท่าเขาจะใช้กำลังเต็มที่ แต่เขาก็เลี่ยงจุดสำคัญที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต บางครั้งเขาก็ติดตามทางหมัดของหลิงยู่ชานเพื่อนำทางในการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะยังไงเขาก็เป็นผู้บำเพ็ญเพียรในขอบเขตประสานทะเลปราณ การชี้นำลักษณะนี้ให้กับเด็กที่อยู่แค่ขอบเขตหลอมรวมลมปราณระดับ 2 จึงเป็นเรื่องง่ายมาก ๆ
เพียงครึ่งชั่วโมงผลลัพธ์ก็ออกมา