ตอนที่ 1958
คุณแฟน
หนังยังคงฉายต่อไปเรื่อยๆ
หลังจากพูดคุยกันครู่หนึ่ง หลินเฟิงก็ได้ดูอย่างมีสมาธิเสียที
ในระหว่างที่เขาตัดสินใจจะดูอย่างสบายๆ และผ่อนคลาย เสียงของอวิ๋นหู่กลับดังข้างหู “ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ครั้งนี้พูดค่อนข้างใกล้ตัวเขา เหมือนกำลังถือเครื่องดื่มในมือ แต่ความจริงกลับถามเขาอยู่
หลินเฟิงพยักหน้าโดยอัตโนมัติ
แต่กลับได้ยินเขาพูดอีกว่า “คิดให้ดีๆ ก่อนตอบนะ คุณแฟน”
คะ คุณแฟนอะไร
หลินเฟิงถึงกับหัวใจเต้นผิดจังหวะเมื่อได้ยินคำนี้
เมื่อเหลือบมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลานั้น ก็ไม่ได้ถึงขั้นบื้อแบ๊วจนมองจากสีหน้าไม่ออก
จึงไอเบาๆ แล้วเปลี่ยนคำพูด “ไม่ได้ชอบ แค่ชื่นชมจากใจจริง ก็เหมือนที่ฉันชื่นชมจ้าวซานพั่งนั่นแหละ ดูเถอะ เขาอ้วนจะตาย ฉันยังชื่นชมเขาเลย”
อวิ๋นหู่ได้ยินคำอธิบายที่ว่าจึงค่อยรู้สึกสบายใจขึ้น วางแก้วเครื่องดื่มลง ทว่าไม่ได้ดึงมือกลับ แต่ยังอยากกุมมือหลินเฟิงไว้แบบนั้น
ดังนั้นเด็กชายหลินเฟิงที่เป็นชายแท้ จึงได้แต่กระชากคอเสื้ออย่างขัดเขิน แถมยังไม่เคยชินอีก
นอกจากรู้สึกเขินแล้ว หัวใจยังเต้นรัวเร็ว อย่างกับเป็นโรคหัวใจเต้นผิดปกติ
อวิ๋นหู่มองออก รู้ว่าบางเรื่องต้องใช้เวลาตอบสนองช้าๆ
หลินเฟิงเป็นชายแท้ขนาดไหน เขาย่อมรู้ดี เมื่อก่อนใช่ว่าจะไม่มีคนชอบเจ้านั่น
และมักจะโดนหลินเฟิงเตะกระเด็นอย่างแรง ‘แม่งเอ๊ย ดูดีๆ เว้ย ฉันเป็นผู้ชายนะ มันชวนอ้วกไหมล่ะ’
เป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายแท้มักไม่ชอบเกย์
ไม่ได้เป็นพวกแสดงความเป็นผู้ชายแท้อย่างบ้าคลั่งเหมือนที่คนเขาพูดกัน
ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครอยากโดนนึกถึงอยู่ตลอดแบบที่ยอมรับไม่ได้
ดังนั้นเมื่อมาถึงขั้นนี้ อวิ๋นหู่ก็รู้จักพอแล้ว
ส่วนอย่างอื่นเขาจะค่อยๆ สอนเอง
เขาไม่ใช่พ่อพระอะไร
ความรักไม่แบ่งแยกเพศอยู่แล้ว
เขาอยากได้หลินเฟิงมาครอง
ตั้งแต่ตอนยังวัยรุ่น จนมาถึงตอนนี้ หลินเฟิงก็ยังไม่ได้สังเกตสายตาของเพื่อนเลย
เขาทุ่มสมาธิให้กลับกรุ๊ปวีแชทเพื่อจะได้เบี่ยงเบนความสนใจ แถมยังจะได้ขับให้เห็นมาดอันดุดันเขาด้วย
อ้วนหล่ออันดับหนึ่งของโลก “นายมีมาดดุไม่พอหรอกเวลาอยู่ต่อหน้าอวิ๋นหู่ หลินเฟิง เอาอย่างนี้ พอถึงเวลาที่นายเจ็บปวดก็มาร้องไห้ในอ้อมกอดเฮียแล้วกัน เฮียน่ะปลงตกกับเรื่องความรักแล้ว เดี๋ยวนี้คนเขาดูกันที่หน้าตา ไม่ใช่เพศ เฮียหล่อจะตายยังไม่มีอะไรให้คนอื่นสนใจเลย เว้นเสียแต่ว่าจะมีคนเห็นความสามารถของเฮียเข้าสักวัน นั่นแหละถึงจะเป็นรักแท้ของฉัน”
ป๋อจิ่วเห็นช่องว่างก็รีบเสียบ “งั้นนายคงหารักแท้เจอยากหน่อย”
อ้วนหล่ออันดับหนึ่งของโลก “เจ้าแบล็ก ต่อไปอยู่ห่างจากฉินมั่วหน่อย ไปเรียนรู้อะไรมาก็ไม่รู้ เฮ้อ!”
เดิมก็เป็นแค่การพูดคุยกันธรรมดา
แต่อยู่ๆ ก็มีคนโพล่งประโยคหนึ่ง “เอ้อ มีคนบอกว่าลั่วลั่วมีนัดดูตัว? แถมพวกนายยังเข้าไปเห็นด้วย เรื่องจริงปะ?”
ป๋อจิ่วตอบเรียบๆ “จริงหรือไม่ ก็ไม่เห็นเป็นอะไร ลั่วลั่วโสดมานาน แค่จะกินข้าวเจอหน้าผู้คนบ้างก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ ใครเป็นคนเอามาเล่าเนี่ย”
คนคนนั้นร่ายต่อ “แสดงว่าจริงล่ะสิ? ท่าทางข่าวเสียหายของลั่วลั่วในตอนนั้นก็เป็นเรื่องจริงล่ะสิ”
ป๋อจิ่วหรี่ตาลง แววตาจ้องมอง เรียวปากฉายความเย็นชา
จากนั้นก็ได้เห็นข้อมูลเด้งเตือนว่า คนที่ถามคำถามดังกล่าวถูกบล็อกออกจากกลุ่มโดยคนสองคน
หนึ่งในนั้นคือฉินมั่วที่นั่งข้างเธอ ส่วนอีกคนหนึ่ง…
………………………………………….
ตอนที่ 1759
ลั่วลั่วจะทำอะไร
เซียวจิ่ง
ป๋อจิ่วเลิกคิ้วเมื่อเห็นชื่อนี้ กระทั่งแววตายังแฝงแววขำ ก่อนจะกระทุ้งๆ หลินเฟิง “พี่หลิน”
หลินเฟิงหันมามอง “ทำไม?”
“รีบนัดเพื่อนมาเจอหน้าลั่วลั่วเถอะ รู้สึกว่ามีความบันเทิงรออยู่”
หลินเฟิงไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เจ้าแบล็กถึงได้สนใจเรื่องแนะนำคนให้ลั่วลั่วรู้จัก แต่เขาต้องโพสต์ลงในกลุ่มให้ได้ว่า “ดีดออกไปได้ดีมาก”
แบล็กพีช Z “ดีดออกไปได้ดีมาก +1”
กรุ๊ปวีแชทนี้สร้างกันมานานแล้ว อาจเป็นเพราะเพิ่งจะมีทีมลีกส์อาชีพก็เลยสร้างกลุ่มไว้ไว้คุยกัน ต่อมาหลังเมื่อกลุ่มนี้ถูกส่งต่อให้ฉินมั่วและเซียวจิ่งดูแล เลยกลายเป็นกลุ่มนินทากาเล ทว่าพวกที่มีจิตใจไม่ดี ย่อมไม่เป็นที่ต้องการ
ไม่ว่าจะเป็นอาชีพไหน หากเริ่มแตะต้องเรื่องส่วนตัวคนอื่น กระทั่งนำมาบูลลี่ใช้ในชีวิตจริงหรือเอามาค่อนแคะรูปร่างหน้าตาและประวัติการศึกษา มันต้องไม่ดีแน่
คนที่เล่นเกมจริงจังจะไม่ใช่คนแบบนั้น กรุ๊ปนี้มีไว้เพื่อผ่อนคลายและแลกเปลี่ยนความรู้สึกนึกคิด รวมถึงหยอกล้อกันระหว่างทีมทั้งหลาย แม้พวกเขาจะไม่ได้อยู่ในทีมเดียวกัน แต่ก็อยู่ในวงการอาชีพเดียวกัน จึงยิ่งต้องเคารพอีกฝ่าย ทั้งยังเข้าใจตรงกันด้วยว่าการเดินบนเส้นทางนี้ไม่ง่าย นี่คือเจตนาแรกของการตั้งกลุ่ม
แต่เห็นได้ชัดว่าบางคนเริ่มจะแตกแถว แถมยังเอาเรื่องที่ตัวเองถูกดีดออกจากกลุ่มไปโพสต์ลงในบอร์ดออนไลน์ ทำให้ลั่วลั่วมีข่าวไม่ดีมากขึ้น
บางคนก็หาว่าบ้าอำนาจ ทำตัวเองแท้ๆ แต่ไม่ยอมให้คนอื่นพูดถึง เทพเซียวปกป้องคนแบบนี้ คิดจะให้อนาคตอันรุ่งโรจน์ดับลงไปใช่ไหม
บางคนก็ว่าลั่วลั่วคือนางฟ้าของพวกเขาตลอดกาล
แต่ไม่ว่าจะพูดกันอย่างไร ทุกอย่างต้องจบลง เพราะเมื่อลั่วลั่วกลับถึงบ้าน ไม่รู้ด้วยเหตุใด เธอที่ควรจะได้ไลฟ์สดในวันต่อมากลับเล่นเกมจัดอันดับเพียงลำพัง
เธอเล่นตัวละครที่มีบทบาทนักเวทครบทุกตัว
การเล่นในครั้งนี้ มีคนสังเกตลำดับนักเวทที่เธอเลือกเล่น
นักเวทตัวแรก เป็นตัวที่เธอเล่นเมื่อครั้งเข้าทีมเซียงหนาน
นักเวทตัวที่สอง เป็นตัวที่เธอเล่นเมื่อเข้าแข่งชิงแชมป์ประเทศ
นักเวทตัวที่สาม เป็นตัวที่เธอเลือกใช้ในการสู้กับฉินมั่ว ร่วมกับจ้าวซานพั่งและหัวหน้าเซียว
นักเวทตัวที่สี่ เป็นตัวที่เธอใช้เล่นเมื่อแข่งรอบชิงชนะเลิศจนได้แชมป์ประเทศมา
มีคนบอกว่า ปีนั้นผู้คนได้รู้จักฝีมือนักเวทอย่างเทพลั่วอย่างแท้จริง ร่ายมนต์เก่งและยังทำดาเมจรุนแรง เล่นได้อย่างมีเซนส์ของเกมอย่างเต็มตัว
นับจากนั้นมาก็ไม่มีใครพูดอีกว่าผู้หญิงเล่นเป็นอาชีพไม่ได้
เวลานี้เธอเล่นถึงสี่นัดด้วยกัน แต่ละนัดล้วนแต่พิถีพิถันในการออกไอเทม ใช้สกิลต่อสู้ สร้างสเตตัส ช่วยสนับสนุนที่โซนป่า
เธอเหมือนจะไม่เปลี่ยนไป ในหลายปีที่ผ่านมาเธอยังมีคงบุคลิกของความเป็นแชมป์หญิง เวลายิ้มยิ่งสวยเข้าไปใหญ่ “เข้าใจแล้วใช่ไหม?”
คอมเมนต์ชุดหนึ่งลอยขึ้นกลางจอ “กำลังจำอยู่ พี่ลั่ว รอเดี๋ยวนะ”
หลายคนเคยบอกว่าพวกนั้นเอาแต่คิดว่าเทพลั่วอาศัยหน้าตาอยู่ในวงการ เอาละไม่ผิดหรอก ยอมรับจริงๆ ว่าเธอสวยมาก ทว่าแม้จะได้รับการยอมรับว่าสวย บางคนยังโพสต์ภาพที่เธอดูน่าเกลียด หรือหาว่าจะเล่นเกมก็เล่นไปสิ ตอนนี้มาอาศัยหน้าตาทำไม นี่มันค่านิยมอะไรกัน
แต่ไม่เคยมีใครพูดถึงว่า เธอเป็นคนเดียวที่ไม่เคยขายความแบ๊วหรือขอให้ซื้อสติกเกอร์สนับสนุนในการเล่นไลฟ์สด ทั้งยังเป็นเกมเมอร์หญิงมืออาชีพที่เน้นเรื่องความสามารถและประสบการณ์เพียงอย่างเดียว…
…………………………………..