ตอนที่ 1952-2
องครักษ์พิทักษ์คนสวย
หลายคนเกาะกระแสทันที ส่วนมากจะถามรายละเอียด
ในวงการนี้มักมีคนชอบให้คำตอบมากมาย มีผู้หญิงคนหนึ่งในทีมกระโดดออกมาทำเหมือนไม่รู้เรื่อง ‘มิน่าล่ะ คืนนั้นพี่ลั่วถึงไม่ไปกับพวกเรา ที่แท้ก็มีนัดนี่เอง น่าแปลกจัง ท่าทางพี่ลั่วไม่ได้เป็นคนแบบนั้นซะหน่อย ว่าละ โบราณว่าไว้ว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ’
จนถึงตอนนี้ ลั่วลั่วยังไม่รู้ว่าเวลานั้นมีคนแอบว่าเธอมากแค่ไหน แต่ทุกการแข่งเธอมักจะได้รับสายตาแปลกๆ
สายตาเหล่านั้นเอาแต่จับจ้องจนเธออยากจะพูดอะไรบ้าง ทว่าในขณะเดียวกันเธอก็รู้ดี ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ไม่มีใครฟัง เพราะพวกเขาจะถามกลับว่าทำไมถึงไม่พูดออกมาในตอนนั้น แถมยังว่าด้วยว่าถ้าไม่ยอมก็อย่าไป หรือบ้างก็บอกว่าเธอทำเพื่อเงิน ไม่งั้นต้องออกมาแฉนานแล้วเป็นต้น
นับตั้งแต่เกิดเรื่องจนลาออกจากทีมนั้น เธอต้องเจอวันเวลาแห่งความหดหู่ถึงสามเดือน แต่ก็ไม่คิดจะท้อถอย เวลาอยู่คนเดียวเธออยากร้องไห้ แต่เธอจะร้องไม่ได้ เพราะหลายคนจับจ้องอยู่ รอให้เธอแพ้ชนิดลุกไม่ขึ้น แม้พวกเขาจะมาแทนที่เธอไม่ได้ แต่ก็ยังเอาเรื่องเธอมานินทาได้ เพราะถือว่าเป็นศัตรูของพวกเขา
เวลาไลฟ์สด คำด่าก็จะกระจายเต็มหน้าจอ ถึงแม้เป็นอย่างนั้น แต่เธอยังต้องไลฟ์สดตรงตามเวลา ไม่อย่างนั้นจะโดนหาว่าวัวสันหลังหวะ ไม่กล้าสู้หน้าคนอื่น
เรื่องนี้ติดตัวเธอจนมาเข้าทีมเซียงหนาน
หลังจากที่ผลการแข่งออกมา สถานการณ์ก็ดีขึ้น ลั่วลั่วยังคิดว่าในที่สุดเธอก็พิสูจน์ตัวเองได้สักที แต่เวลานี้มันกลับไม่ใช่ ผู้คนยังเห็นแต่สิ่งที่ตัวเองอยากจะเห็น
ห้วงเวลาดังกล่าว ลั่วลั่วคิดว่าเธอจะสู้เพื่ออะไร การจะยอมรับว่าตัวเองเล่นเกมบ้าๆ มันยากเหลือเกิน การจะถือว่าการเล่นเกมเป็นอาชีพก็ช่างลำบากเกินทน
แล้วจะทำยังไงได้ ไม่มีใครเชื่อว่าเรารักมันจริงๆ
ชายคนนั้นเห็นลั่วลั่วหน้าซีดก็ยิ่งได้ใจ “ถึงได้บอกว่าอย่าทำตัวโอหังนัก เรื่องของคุณน่ะเล่าลือกันจนคนเขาเบื่อหมดแล้ว ยังทำตัวเป็นนางฟ้าอีก โดนคนแย่ง…”
ทว่าครั้งนี้เขายังพูดไม่ทันจบ น้ำเสียงเนิบนาบก็แทรกกลางขึ้นมา “เขาเป็นนางฟ้ามานานแล้ว”
ป๋อจิ่วนั่นเอง เธอเดิมล้วงกระเป๋ากางเกงเข้ามา เสี้ยวหน้าหล่อเหลา ไม่เห็นความเป็นผู้หญิงเลยสักนิด
ทว่าเส้นผมยุ่งๆ นั่นกลับเข้ากันกับเสื้อกันลมตัวดำ ทำให้รู้สึกถึงอำนาจบารมีที่โจมตีเข้ามาหา เธอพาดแขนบนไหล่ลั่วลั่วราวกับเป็นองครักษ์พิทักษ์คนงาม เท่สุดๆ
“คุณคนนี้คงเข้าใจฐานะของตัวเองผิด อันดับแรก คุณยังสูงไม่เท่าฉันเลย ไม่เหมาะกับเทพลั่วแน่นอน ข้อที่สอง ฝีมือของลั่วลั่วติดอันดับท็อปของประเทศ เขาเคยเป็นตัวแทนประเทศ ได้แข่งกับทีมญี่ปุ่น ไม่ได้เล่นเกมบ้าบออย่างที่คุณพูด นอกจากนี้ ถ้าการที่คนเราหน้าตาดีถือเป็นกรรม งั้นพวกเราก็จนปัญญาละ เพราะคุณคงรับรู้ถึงความรู้สึกนี้ไม่ได้ คนเราขี้เหร่ยากจนก็ไม่เป็นไรหรอก แต่พอได้ยินคนเขาว่าไม่เหมาะสม ก็โจมตีความเป็นคนของเขาแทน เอ่อ คุณจางใช่ไหม? แม่คุณไม่เหมือนคนทำงานด้านการศึกษาเลยนะ เพราะแค่เรื่องพื้นฐานคุณยังไม่รู้เลย ถึงคุณจะไม่ชอบบางอาชีพ แต่ก็อย่าดูถูกคนอื่นเขาสิ”
………………………………………..
ตอนที่ 1953
ฮีโร่รูปหล่อมาช่วยคนสวยแล้ว
ชายคนนั้นถูกยั่วให้โมโหจนใบหน้าเต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์
เขาโดนยกยอจนเคยชิน ไม่เคยเจอะเจอกับเหตุการณ์แบบในตอนนี้ เขายังได้ยินเสียงนินทารอบด้านเหมือนกำลังด่าทอเขา ชายคนนั้นอับอายจนโมโห “คุณลั่ว ตลกจริงนะ ในเมื่อมีผู้ชายของตัวเองอยู่แล้วจะมานัดดูตัวทำไม”
ป๋อจิ่วที่นัยน์ตาโค้งเป็นรอยยิ้มกลับกลายเป็นหรี่ตาลง เข้าไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย ยิ้มให้อย่างร้ายกาจ “ท่าทางคุณจางจะสายตาไม่ดี ดูยังไงว่าฉันเป็นผู้ชาย? แต่ก็จริง เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ตัวสูงสู้ผู้หญิงไม่ได้ จะดูไม่ออกก็ไม่แปลก”
“แก!” ชายคนนั้นเกลียดที่สุดเวลามีคนว่าเขาเรื่องความสูง แทบจะฉีกเนื้ออีกฝ่าย แต่เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะจากแถวๆ นั้นก็เอ่ยเสียงหนัก “สมัยนี้ก็ประหลาดเนอะ พวกไม่ใช่ผู้ชายแล้วก็ไม่ใช่ผู้หญิงมีเยอะมาก คิดๆ ดูแล้วก็มีแต่แบบคุณลั่วนั่นแหละที่เหมาะสมกับนาย”
ลั่วลั่วแววตาเปลี่ยนไปเมื่อได้ยิน เธอก้าวเดินไปหา แต่กลับโดนฉุดข้อมือจากด้านหลัง
จากนั้นแผ่นหลังพลันกระแทกเข้ากับอ้อมแขนที่มีกลิ่นน้ำยาทดลอง กลิ่นนั่นคุ้นจมูกมาก เธอจะได้กลิ่นมันทุกครั้งที่เจอปัญหาในระหว่างการฝึกซ้อม ชายหนุ่มจะกำเมาส์ของเธอจากด้านหลังเพื่อแสดงการเล่นที่แม่นยำให้เธอดู
ลั่วลั่วมองนิ้วมือของชายหนุ่มที่กำลังจับเธอโดยอัตโนมัติ แม้จะอยู่ด้วยกันบ่อยๆ แต่ไม่เคยใกล้ชิดขนาดนี้มาก่อน
หญิงสาวก้มหน้า เส้นผมไล้ที่ข้อมือเขา ส่งผลให้ตัวเกร็งทื่อ
เขามาที่นี่ได้ยังไง? แล้วได้ยินมากแค่ไหน? เห็นตลอดเหตุการณ์เลยหรือเปล่า?
ลั่วลั่วไม่อยากให้เขาเห็นเธอในสภาพอ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นด้านไหนก็ตาม
“ที่เธอบอกว่ามีธุระ นี่เหรอธุระเธอ” เซียวจิ่งยังสวมชุดกาวน์ตัวยาวสีขาว น่าจะเพิ่งออกจากห้องวิจัยมา ชายหนุ่มเอียงศีรษะ เสี้ยวหน้าดูสง่าหล่อเหลา
ลั่วลั่วรู้สึกถึงเรียวปากบางของอีกฝ่ายที่เข้ามาใกล้ตัว ชะงักเล็กน้อย “ตอนแรกคิดว่าเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ”
เซียวจิ่งมองเธอด้วยแววตาลุ่มลึก ไม่ได้พูดอะไรและไม่ปล่อยมือเธอไป จากนั้นหันไปจ้องผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ
ชายคนนั้นตอนแรกยังเดือดดาลหนัก ทว่าพอเห็นหน้าตาของเซียวจิ่งชัดก็ชะงักงัน ไม่ใช่เพราะอะไร ต่างก็ทำงานด้านวงการแพทย์เหมือนกันทั้งนั้น ทว่าความแตกต่างอยู่ตรงที่พวกเขาต้องพยายามยื้อแย่งกันเพื่อฟังอีกฝ่ายสอน
ผู้ชายคนนี้อายุน้อยๆ ก็ได้เป็นศาสตราจารย์แล้ว เรียกว่าแทบจะหาคนแบบนี้ในประเทศจีนไม่ได้อีก
เขาคนนี้นี่แหละที่ทำการวิจัยด้านการแพทย์ได้เยี่ยมยอดมาก แถมที่สุดยอดไปกว่านั้นก็คือ ฝีมือการปลูกถ่ายอวัยวะของเขาถือว่าอยู่ในระดับโลกเลยทีเดียว
ชายคนนั้นคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าในหมู่คนเล่นเกมจะมีคนเก่งสุดยอดแบบนี้ด้วย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยรับรู้ข่าวในวงการอีสปอร์ตเลย ไม่งั้นคงไม่รู้ว่าคนที่ตนอุตส่าห์ประจบประแจงจะเป็นหัวหน้าทีมเซียงหนาน
“อาจารย์เซียว…” ชายคนนั้นยิ้มเจื่อน พยายามจะแก้ตัว “เข้าใจผิดน่ะครับ เข้าใจผิดจริงๆ”
เซียวจิ่งช้อนสายตามอง คนที่พูดน้อยอย่างเขากลับเอ่ยขึ้นในตอนนี้ว่า “เข้าใจผิดจริงๆ ด้วย ที่ลั่วลั่วมาพบคุณก็เป็นเพราะเขาไม่ได้บอกกับทางบ้านไว้ ไม่งั้นคุณคิดว่าทำไมเขาถึงไม่มาหาผม แต่กลับมาพบคุณได้?”
…………………………….
ตอนที่ 1954
ตบหน้าผู้ชายคนนั้น
หากเมื่อครู่บอกว่าสีหน้าของชายคนนี้มีหลากหลายอารมณ์น่าชม
ตอนนี้เขาก็หน้าแข็งจนยิ้มไม่ออก
คนที่มีตาต่างมองออกว่าชายทั้งสองต่างกันมากแค่ไหน ต่อให้เป็นคนไม่เล่นเกมก็ยังเห็นถึงความแตกต่างที่ว่า
อุตส่าห์มีแฟนหล่อเหลาแล้วก็ไม่ต้องออกมาดูตัวหรอก แถมเซียวจิ่งที่สวมแว่นตากรอบทองและใส่ชุดกาวน์สีขาวในเวลานี้ ยิ่งเหมือนคุณหมอที่ออกมาจากการ์ตูน ทำให้คนรู้สึกถึงบุคลิกที่เลอเลิศ เหมาะสมกับลั่วลั่วที่เขากุมมืออยู่ชนิดที่เรียกได้ว่าหนุ่มหล่อสาวสวย
ไม่ว่าจะส่วนสูงหรือหน้าตา ล้วนแต่ทำให้คนตรึงตราตรึงใจ ราวกับมีเพียงผู้ชายคนนี้เท่านั้นที่จะเอาความสวยของลั่วลั่วอยู่
ถึงได้บอกว่าผู้หญิงหน้าตาสวยไม่ใช่กรรม แต่ต้องดูว่าจะเข้าคู่กับใคร แถมหลังจากที่เซียวจิ่งพูดจบก็ไม่ได้มีเพียงแค่เขาที่ยืนข้างเธอ กระทั่งหลินเฟิง อวิ๋นหู่ และฉินมั่วยังเดินเข้ามายืนข้างเธอด้วย บวกกับเด็กผมสีเงินอย่างป๋อจิ่วอีกคน
ทั้งหมดยืนเรียงเป็นแถวหน้ากระดาน หน้าตาครบทุกสไตล์ บรรยากาศที่นั่นโดดเด่นยิ่งกว่าดารามารวมตัวกันเสียอีก แค่ใบหน้าของฉินมั่วก็เรียกเสียงกรี๊ดได้แล้ว
น่าเสียดายที่วันนี้เขาสวมผ้าปิดปาก ไม่อย่างนั้นคงสะกดได้ทุกสายตา
“สวรรค์ นั่นเทพฉินนี่!”
“ว้าว ฉันได้เห็นเขาแล้วในที่สุด แถมยังมีคู่เฟิงอวิ๋นกับแบล็กพีชด้วย”
“เท่อะ ได้เห็นท่านเทพของฉันตั้งเยอะขนาดนี้ โชคดีจนอยากเป็นลม”
“บอกตรงๆ ท่าทางแบบนี้ ช่วยหาเสียงให้เจ้ลั่วคนสวยชัดๆ เมื่อกี้ฉันก็อยากจะพูดอยู่แล้วเชียว ผู้ชายคนนั้นมีสิทธิ์อะไรมาดูถูกเทพลั่ว ใครบ้างที่ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น แต่จากคำพูดของเขาก็พอจะมองออกมาเป็นพวกถือตัวเองว่าเป็นชายแท้อย่างบ้าๆ แถมยังเป็นลูกแหง่ติดแม่ เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ดันให้ผู้หญิงหาเงิน แถมพูดอย่างกับตัวเองดีเลิศเลอ รังเกียจการศึกษาของผู้หญิง เทพลั่วก็ช่างมีการอบรมดี ถ้าเป็นฉันละก็นะ รับรองเอากาแฟสาดหน้าไปแล้ว ไม่รู้ว่าคนที่เชื่อถือผู้ชายคนนี้คิดอะไรกันแน่”
“เดาว่าวันนี้เขาได้เจอเทพเซียว คงโดนตบหน้าจนเจ็บระบม”
ชายที่มาดูตัวได้ยินเสียงวิจารณ์รอบด้านจึงหันมามองคนกลุ่มนี้ และรู้สึกร้อนฉ่าที่หน้าโดยพลัน เพราะแต่ละคนที่ยืนอยู่ล้วนสูงกว่าเขาถึงหนึ่งช่วงศีรษะ จึงคิดจะเดินหนีไป
ทว่าเซียวจิ่งไม่คิดจะปล่อยอีกฝ่ายไป ช้อนตามอง “อีกอย่าง รบกวนคุณจากทำความเข้าใจเสียใหม่ ที่ลั่วลั่วมาถึงจุดนี้ได้เป็นเพราะเธอตั้งใจกว่าทุกคน เวลาที่ผู้หญิงคนอื่นนัดไปกินข้าวเธอก็นั่งฝึกซ้อม เวลาผู้หญิงคนอื่นไปช้อปปิ้งเธอก็ไปแข่ง เธอเป็นนักเวทที่เก่งที่สุดในทีมเซียงหนาน ไม่มีใครเทียบได้ เวลาไปแข่งที่เมืองนอก ต่อให้มีแรงกดดันถาโถมนับไม่ถ้วนเธอก็ไม่เคยล้มเลิก เพราะอยากเห็นธงชาติจีนโบกสะบัดเหนือประเทศอื่น เวลากรรมการลืมเปิดเพลงชาติจีนเธอก็เป็นคนไปเตือน เธอไม่ได้เล่นเกมบ้าๆ บอๆ แต่เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เล่นนักเวทได้จนติดบอร์ดโลก ต่อให้เธอไม่เล่นกีฬาประเภทนี้ต่อไป เธอก็สมควรจะได้รับความเคารพจากคนอื่น เธอที่เป็นแบบนี้ ขอโทษนะที่พูดตรงๆ คุณไม่มีสิทธิ์รังเกียจ”
แต่ละตัวอักษรดังขึ้นข้างหูลั่วลั่ว ทำให้ความขัดเคืองเมื่อครู่ก็ดี ความน่าน้อยใจเมื่อครู่ก็ดี เหมือนจะสลายหายไปในเวลานี้
ขอแค่มีคนเห็นความตั้งใจและความรักในอาชีพของเธอก็พอแล้ว
………………………………….