ตอนที่ 1822-1
เมลินยังมองไม่ออก ทว่าผู้บรรยายในสนามกลับรู้ดี “ถ้าเทียบกับการสู้ร่วมกันของยูกิชินกับโฮชิโนะแล้ว การสู้ร่วมกันของฉินมั่วกับแบล็กพีช Z ก็เด่นไม่แพ้กัน”
“คุณหมายความว่า การจับคู่ของทั้งสองทีมสูสีกันเหรอ?”
“ไม่ ยังมีส่วนที่แตกต่าง ลองดูเลนล่างของทีมไดมอนด์ก็จะเข้าใจ”
เมื่อผู้บรรยายเสนอมาเช่นนี้ ทุกคนต่างรวมตัวกันไปจับจ้องยังเลนล่าง
โฮชิโนะมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร? ไม่เพียงแต่โฮชิโนะ แต่ยังมียูกิชินด้วย พวกเขาเดาออกใช่ว่าโซนป่าของตัวเองไม่เหลือแล้วหรือ? ไม่งั้นเวลาอย่างนี้ต้องล่าทีมมินเนี่ยนกับตีมอนสเตอร์สิ แต่พกเขากลับแล่นมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ในทันใดด้วยความเร็วเท่ากับแสงชนิดที่ไม่แม้แต่จะลังเล แล้วโจมตีใส่หลินเฟิงที่กำลังล่าทีมมินเนี่ยน โดยอวิ๋นหู่ที่เห็นเหตุการณ์ กะเข้าไปช่วยให้การสนับสนุน จากนั้นยูกิชินส่งสัญญาณทำดาเมจ หลินเฟิงถูกตรึงร่างอยู่กับที่ ไม่เหลือเวลาให้สู้กลับ มือขวาของเจ้าตัวจับคีย์บอร์ดไว้ มือซ้ายขยับขึ้นลง กะจะใช้การเดินตำแหน่งหลบหนีพลังคู่แข่ง ทั้งนี้หลินเฟิงทำได้ แถมด้วยอวิ๋นหู่เข้ามารับความเสียหายแทน แต่เดิมที่คิดว่าพอเข้าป้อมแล้วจะเดินต่อได้ ทว่าทีมมินเนี่ยนของฝั่งอาทิตย์อุทัยดันโจมตีเข้ามา บวกกับตัวยิงไกลสร้างดาเมจของคู่แข่งก็อยู่ด้วย
โฮชิโนะกุมดาบวงพระจันทร์ข้ามป้อมโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เมื่อแสงดาบฟาดลงมา ทั้งดูดและดึง เล่นงานจนหลินเฟิงเลือดเกือบหมดตัว จากนั้นก็ฟาดอีกดาบจึงคว้าชีวิตอีกฝ่ายจนสำเร็จ พลางกระโดดหนีรัศมีการโจมตีของป้อมได้อีกด้วย
แสงสีเงินสว่างท่วมหน้าจออย่างชัดแจ้ง
การเดินตำแหน่งที่เฉียบคมและการโจมตีเช่นนี้ ใครๆ ก็นึกไม่ออกว่าโฮชิโนะจะเล่นได้ เพราะต่างไปจากบุคลิกของเจ้าตัว แต่แฟนคลับที่คุ้นเคยกับเขากลับไม่แปลกใจในวิธีการเล่นดังกล่าว ชนิดที่เสียงเอฟเฟกต์ยังไม่ดังออกมา ก็รู้แล้วว่าผลจะเป็นอย่างไร จึงร้องออกมา “เทพโฮชิโนะ ตื่นสักที!”
ประโยคนี้มีที่มา ด้วยโฮชิโนะเป็นคนชอบนอน แม้ดูภายนอกเป็นคนสุภาพอ่อนโยน แต่อันที่จริงหลังจากที่แฟนคลับจับได้ถึงสามครั้งก่อนการแข่งว่า เจ้าตัวนอนหลับอยู่ในเขตพักผ่อน แต่พอเข้าสนามแข่ง เขาจะกลายเป็นอีกแบบ
แน่ล่ะ หากเป็นทีมธรรมดาๆ เทพโฮชิโนะของพวกเขาจะเล่นในสไตล์รูปลักษณ์ของเจ้าตัว ดูนุ่มนวลเหมือนแสงจันทร์ในยามฤดูใบไม้ผลิโปรยตัวทางช่องหน้าต่าง แต่หากคู่แข่งน่ากลัวล่ะก็ เขาจะเปลี่ยนวิธีเล่นไปเลย เสมือนเป็นอัศวินที่ตื่นขึ้นจากความฝัน ส่องแสงสว่างทั่วทุกแห่งที่เดินผ่าน เหมือนกับตัวละครที่เขาเลือกใช้ที่ได้รับการขนานนามว่า ‘รานีใต้แสงจันทร์ รบรัวสู้ไม่ถอย’
ดูเหมือนจะเป็นการตอบรับเสียงร้องของแฟนคลับ เพราะคะแนนบนหน้าจอเปลี่ยนไปทันที
2:1!
ตัวละครของหลินเฟิงนอนกองลงบนพื้นในสภาพเลือดท่วมตัว ทีมอาทิตย์อุทัยคะแนนนำอีกครั้ง! แต่สิ่งที่สำคัญกว่านี้ยังไม่จบ ด้วยทุกคนต่างเห็นป้อมของทีมไดมอนด์ที่อยู่เลนล่างใกล้จะแตกแล้ว และอวิ๋นหู่คนเดียวย่อมสู้การโจมตีจากคนสามคนไม่ไหว!
“คงต้องถอย” ผู้บรรยายเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา ซึ่งอวิ๋นหู่ก็ถอยออกมาจริงๆ เพราะหากอยู่ต่อไปอาจจะโดนฆ่าได้
………………………………….
ตอนที่ 1822-2
เสียงป้อมถล่มดังขึ้นจากหน้าจอ ผู้บรรยายสบตากัน “ตอนแรกยังคิดว่าทีมอาทิตย์อุทัยจะจับเลนกลางไม่ปล่อย แต่ตอนนี้ดูเหมือนเราจะประเมินไม่แม่นยำเสียแล้ว”
“จริงด้วย ไม่ว่าจะเป็นเลนไหน ขอแค่เจอโอกาสโจมตี พวกเขาก็จะไม่ปล่อย เราจะใช้แนวความคิดธรรมดาในการวิเคราะห์ทีมอาทิตย์อุทัยไม่ได้จริงๆ”
“ครั้งนี้ทีมไดมอนด์เล่นลำบากมาก ท่าทางเลนล่างจะพังแล้ว ทีมไดมอนด์สู้เรื่องทีมมินเนี่ยนได้ยากเหลือเกิน”
มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เลนล่างมีทีมมินเนี่ยนของทีมอาทิตย์อุทัยอยู่ แถวด้วยตัวยิงไกลทำดาเมจก็อยู่ด้วย ความเร็วในการโจมตีของป้อมจะต้องเร็วกว่าเดิมสูง!
“แข่งกันมาถึงตอนนี้ ผมยิ่งรู้สึกว่าการที่ทีมหนึ่งจะชนะหรือไม่ แม้จะเกี่ยวพันกับฝีมือการเล่น แต่การวางแผนก็มีผลเหมือนกัน ฝีมือการเล่นของฉินมั่วอาจจะไม่มีอะไรผิดพลาด แต่มาถึงตอนนี้ผมกลับเห็นว่า ความสามารถด้านการวางแผนของเขายังแสดงออกมาได้ไม่ดี”
“แล้วยังมองออกไม่ยากว่าสภาพจิตใจของทีมไดมอนด์กำลังระส่ำระสาย นักเวทเลนกลางก็ไม่กล้าออกมาสู้ แสดงให้เห็นว่า พวกเขารู้เหมือนกันว่า ถ้าออกจากป้อมอาจต้องเจออันตราย ฝีมือของโคโค่ถือว่าไม่เป็นรองใครในประเทศก็จริง แต่การเล่นแบบกลัวนั่นกลัวนี่ สะท้อนให้เห็นถึงสภาพจิตใจของเขาที่คิดว่า จะโดนฆ่าอีกไม่ได้ กระทั่งจะเดินตำแหน่งยังต้องลองเชิงอย่างระวัง มันไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะยิ่งเป็นแบบนี้ก็จะยิ่งโดนซุ่มเล่นงาน” ผู้บรรยายเพิ่งพูดจบก็เห็นทีมอาทิตย์อุทัยทั้งหมด เว้นแต่นักเวท กระทั่งตัวแทงค์ที่เหลือแค่เลือดครึ่งหลอดยังออกมาด้วย แค่ตัวแทงค์เลือกเดินที่พุ่มไม้ ต้องยืนอยู่ที่มุมของทีมอาทิตย์อุทัยถึงจะเห็น หมายความว่าโคโค่เองอาจจะไม่รู้ตัวว่ามีคนจากฝ่ายตรงข้ามอยู่ตรงนี้สองคน หนึ่งในนั้นเป็นตัวแทงค์ที่มีสกิลสตัน ทำให้รู้ว่าหากเขาออกจากป้อมไป จะต้องเจออันตรายแน่นอน แต่เขาเหมือนจะไม่รู้เท่าทัน แค่เห็นนักเวทคู่แข่งเดินตำแหน่งพลาด ก็ฉวยโอกาสออกมาสู้!
“เฮ้ย!”
“หลงกลแล้ว!”
“ฉันพอจะเข้าใจโคโค่ พอเห็นคู่แข่งพลาดท่าก็คิดจะฆ่า จะได้ลากคะแนนให้เท่ากัน แต่นักเวทของทีมญี่ปุ่นจงใจเดินพลาดชัดๆ เพราะเกมเมอร์ของทีมอาทิตย์อุทัยจะเล่นแบบง่ายๆ ได้ไง เขาทำเพราะจะล่อโคโค่ให้หลงกลต่างหาก” เหมือนกับเป็นการพิสูจน์คำพูดของเกมเมอร์เกมชั้นสูงเลยทีเดียว เพราะนักเวทของคู่แข่งที่ดูเหมือนจะเล่นแบบกระวนกระวาย กลับเหยียดขาทั้งสอง แล้วซัดสกิลจับตัวแข็งไปที่ร่างของโคโค่
เวลานี้ตัวแทงค์ของทีมอาทิตย์อุทัยก็กระโดดออกมาจากพุ่มไม้ กะจะสตันโคโค่ให้อยู่หมัด! แต่กลับนึกไม่ถึงว่า ในเวลาที่เขากระโดดออกมา อีกร่างหนึ่งก็กระโดดออกมาจากพุ่มไม้เช่นกัน ร่างในชุดขาวบริสุทธิ์เหมือนหิมะ ถือดาบยาวไว้ในมือ ฟาดขวับไปที่ใดก็ทิ้งแสงสีเงินเอาไว้
เมื่อดาบยาวตวัดฟาด กลุ่มดาบลอยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวแทงค์หรือนักเวทของทีมญี่ปุ่น ต่างถูกลดความเร็วภายใต้ฝนดาบ
ต่อให้ทีมอาทิตย์อุทัยจะระวังแต่อย่างใด แต่ก็หลบภัยไม่รอด เพราะความเร็วนั่นสูงมาก มาก…จนทำให้ไม่มีใครไหวตัวทัน! ทว่าทีมคู่แข่งก็ไม่กระจอก เมื่อพบว่ามีคนโจมตี นักเวทของทีมอาทิตย์อุทัยก็เดินตำแหน่งหลบการทำความเสียหายที่ฉินมั่วสร้างอย่างหลักแหลม แต่กลับคิดไม่ถึงว่า เป้าหมายของฉินมั่วจะไม่ใช่ตนเอง เพราะแสงสีเงินจากดาบกระทบไปที่ร่างของตัวแทงค์ถึงสามครั้งต่างหาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็คาดไม่ถึง ทว่าการกระทำดังกล่าว กลับไม่ทำให้ชายหนุ่มสูญเสียพลังไปเปล่า ยิ่งทำให้โคโค่ได้โอกาสร่วมมือกับหัวหน้าตัวเอง ฆ่าฝ่ายตรงข้ามไปหนึ่งชีวิต!
2:2! คะแนนถูกลากขึ้นมาให้เท่ากัน
……………………………………..
ตอนที่ 1822-3
เสียงเอฟเฟกต์ในเกมดังขึ้นอีกครั้ง ป้อมที่เลนบนของทีมอาทิตย์อุทัยถูกทำลายไปหนึ่งแห่ง ผู้ที่ทำลายไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นแบล็กพีช Z ที่ไม่รู้ว่าเส้นทางของเธออยู่ที่ไหน!
เมลินเห็นการแข่งสนามนี้แล้ว ควรต้องพูดว่าผู้ไม่รู้จึงไม่กลัว? คงอธิบายได้อย่างนี้ ทีมอาทิตย์อุทัยเพิ่งเอาชีวิตคู่แข่งไปหนึ่งหัว ทีมไดมอนด์ก็เอาคืนกลับมาอีกหนึ่งหัวเช่นกัน กระทั่งทำลายป้อมยังไม่ต่างกัน ทว่าต่อให้เป็นแบบนี้ต่อไป ทีมอาทิตย์อุทัยก็นำหน้าอยู่ดี
เมลินส่ายหน้า พูดออกมาจากใจจริงว่า “เป็นการเอาคืนตามหลังทีมอาทิตย์อุทัยทุกครั้ง ทีมอาทิตย์อุทัยเป็นผู้นำจังหวะการเล่นจริงๆ หวังว่าทีมไดมอนด์จะคิดได้เสียที แต่การแข่งมักจะมีอะไรที่เหนือความคาดหมายเสมอ แต่หากเล่นกันในรูปแบบนี้ต่อไป ทีมไดมอนด์จะเอาคืนก็ย่อมยาก คนที่เข้าใจเรื่องการแข่งขันคงจะรู้ แม้ว่ายอดชีวิตที่ถูกฆ่าของแต่ละทีมจะเท่ากัน แต่ในด้านทีมมินเนี่ยนทีมไดมอนด์ดูจะอ่อนกว่า แถมด้วยตัวยิงไกลทำดาเมจของทีมไดมอนด์ก็ตายไปครั้งหนึ่งแล้ว ในขณะที่ฝ่ายตัวทำดาเมจของทีมอาทิตย์อุทัยยังอยู่ครบ ฉะนั้นการพาทีมมินเนี่ยนล้มป้อมจะทำได้เร็วกว่าทีมไดมอนด์มาก”
มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ สิ่งที่เมลินวิเคราะห์ มันตรงกับสิ่งที่ผู้บรรยายพูดต่อมาอย่างไม่ได้นัดหมาย ทว่าแม้แบล็กพีช Z จะอยู่ที่นั่น โฮชิโนะที่ซุ่มอยู่เลนล่างยังอดหันหัวกลับมาแล้วเหาะไปยังโซนป่าของตัวเองไม่ได้ เพราะอาศัยความเข้าใจของเขาที่มีต่อ Z แล้ว หลังจากที่เจ้าหล่อนทำลายป้อมพวกเขา แต่ไม่พาทีมมินเนี่ยนมาด้วย แสดงว่าจะต้องฆ่ามอนสเตอร์ของพวกเขาแน่ เขารู้ซึ้งถึงประโยคที่ว่า “โซนป่าของคู่แข่งก็คือบ้านของฉัน” เป็นอย่างดี แค่ผู้ชมบางส่วนไม่เข้าใจว่าทำไมโฮชิโนะถึงไม่ล่าทีมมินเนี่ยน แต่กลับเหาะไปที่โซนป่า
แต่พอขยายแผนที่โซนป่าให้กว้างขึ้น ถึงได้เข้าใจว่าที่แท้แบล็กพีช Z กำลังล่ามอนสเตอร์ชุดที่สองนี่เอง ผู้กำกับเปลี่ยนไปถ่ายมุมของโฮชิโนะอีกครั้ง จึงเห็นเขาบินด้วยความเร็วสูง กุมดาบวงพระจันทร์ไว้ในมือ เหมือนจะเปล่งแสงจันทร์ออกมา
ไล่ตามทัน!
ไม่เพียงแต่ไล่ตามทัน แต่ยังกักแบล็กพีช Z ไว้ที่โซนป่าได้อีกด้วย! หากดูจากเวลา ตอนนี้แบล็กพีช Z น่าจะล่าเอาเลือดของมอนสเตอร์มาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นในวินาทีต่อมา ทุกคนกลับเงียบลง เพราะเรดบลัฟในโซนป่ายังคงอยู่ แต่กลับไม่เห็นร่างของเธอคนนั้นแล้ว
โฮชิโนะถือดาบวงพระจันทร์ไว้ในมือ เดินไปยังโซนป่า คมดาบกวาดพุ่มหญ้าข้างเรดบลัฟ จะว่าไปนี่เป็นครั้งแรกที่โฮชิโนะสู้กับแบล็กพีช Z ตัวต่อตัว
ทุกคนในสนามแข่งต่างกลั้นลมหายใจ เดาว่าผลของการเผชิญหน้าจะเป็นอย่างไร เวลาเหมือนถูกลากให้ยาวขึ้น ทั้งที่ผ่านไปไม่ถึงสองวินาทีเท่านั้น
บนหน้าจอ โฮชิโนะออกตัวในทันใด คมดาบไม่ได้แตะต้องพุ่มหญ้าข้างเรดบัฟ แต่เหาะไปที่ริมแม่น้ำ
“ซ่อนขนาดนี้ก็ยังเจออีกแฮะ” ป๋อจิ่วเหยียดยิ้ม กระโดดไปทางซ้ายมือ “การสู้กับคนที่สนิทกันนี่ ยากเป็นบ้า”
โฮชิโนะได้ยินแล้วถึงกับยิ้ม คมดาบแหลมในมือกับยิ้มน่าเอ็นดู เปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง “ตอนแรกก็ไม่เห็นหรอก แต่เพราะเป็นคุณเลยต้องคิดมากหน่อย”
เหล่าผู้ชมต่างไม่เคยเห็นการสู้กันแบบนี้มาก่อน เวลาความเป็นความตายแบบนี้ ทั้งสองยังจะอารมณ์ดีคุยกันอีก แถมยังเป็นศัตรูกันด้วย ทำไมถึงทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นแบบไม่มีที่ไปที่มาอย่างนี้ล่ะ?
ทว่าจะบอกว่าเป็นความอบอุ่นก็ไม่ถูก เพราะตอนที่โฮชิโนะพูดเช่นนี้ออกมา ก็มีแสงสว่างเหมือนดวงจันทร์ ดาบวงพระจันทร์กลายเป็นลำแสงพุ่งไปหาร่างที่อยู่ไม่ไกลจากตัว ก่อนจะเหาะไปด้วยรังสีอำมหิตมหาศาล…
…………………………………………….