ตอนที่ 1812-2
พิธีกรเองก็เป็นผู้ที่มีแฟนคลับมากมายเช่นกัน “การแข่งใกล้จะเริ่มแล้ว ซึ่งการแข่งระดับเอเชียจะถูกจัดทุกปี แต่ปีนี้จะฮอตเป็นพิเศษ เทพซีพอจะเดาได้ไหมว่าเป็นเพราะอะไร?
“อันดับแรก การแข่งระดับเอเชียในปีนี้จัดที่บ้านเรา ซึ่งแฟนคลับเกมออนไลน์ในบ้านเราต่างรอคอยกันมาก เพราะเมื่อก่อนต้องไปดูที่ต่างประเทศ กระทั่งตารางการเดินทางก็ยังไม่สะดวกมาก แต่ตอนนี้มาจัดอยู่หน้าบ้านเรา ทำให้ความรู้สึกและยอดการเข้าชมต่างไปจากเดิม กระทั่งเพื่อนเก่าผมยังบอกว่าผมต้องหาบัตรให้พวกเขาให้ได้สองใบ กลุ่มคนที่เล่นเกมเลเจนด์ จะมากจะน้อยต้องอยากดูท่านเทพที่ตัวเองชื่นชอบกันบ้างล่ะ มันตัดกันไม่ขาดหรอกครับ แถมตัวแทนประเทศจีนในปีนี้ไม่ใช่ทีมเซียงหนาน แต่เป็นทีมไดมอนด์ ทีมนี้แกร่งถึงขั้นไหนต่างรู้ดีกัน ในฐานะที่เป็นคนเก่าคนแก่ที่ถอนตัวจากวงการกันแล้ว ถ้าไม่เพราะติดภารกิจ เพราะผมต้องไปนั่งจ้องดูที่สนามสดแน่นอน”
“เอ๊ะ” ดูเหมือนพิธีกรจะค้นพบอะไรบางอย่าง ชี้นิ้วไปที่หน้าจอ “พูดถึงทีมเซียงหนาน ดูเหมือนพวกเขาจะมาที่สนามสดเหมือนกัน”
“ปกติออก เพราะการแข่งสนามนี้น่าดูออก”
พิธีกรได้ยินแล้วถามขึ้น “ฟังจากเทพซีแล้ว ดูเหมือนจะรู้สึกดีต่อทีมไดมอนด์มาก ไม่ทราบว่าคุณได้ดูการสัมภาษณ์เมื่อเช้าไหม มีคนบอกว่า ทีมไดมอนด์น่าจะเอาชนะในนัดนี้ได้ลำบาก”
“ก็ยากจริงๆ ล่ะ ฉะนั้นทีมไดมอนด์จะต้องสู้สุดฝีมือ ไม่งั้นอาจจะโดนทีมอาทิตย์อุทัยกดดันแน่ๆ”
“เอ๋? ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ หรือว่าเพราะฉินมั่วไม่อยู่ด้วย?” พิธีกรเองอยากฟังคำวิเคราะห์ของคนในวงการอีสปอร์ตเช่นกัน
“เดี๋ยวคุณดูการแข่งขันแล้วก็จะรู้เอง การจะสู้กับทีมอาทิตย์อุทัยถือเป็นเรื่องที่กดดันมาก ทีมนี้โดดเด่นตรงที่นักกีฬาของเขาเก่งมากทุกคน กระทั่งตัวเด็กฝึกก็ยังมีความสามารถเทียบเท่ากับนักกีฬาลีกส์อาชีพของเรา ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่เพราะดูแคลนประเทศตัวเองนะครับ แต่ทุกคนต่างรู้สถานการณ์ในเวลานี้ดี พวกเขาได้เปรียบตรงที่มีพรสวรรค์ด้านอีสปอร์ตมาก แถมยังมีภูเขายักษ์อย่างยูกิชินและโฮชิโนะกันไว้อยู่ ทุกทีมที่ได้เจอเขา ยังต้องกลับไปคิดอย่างใจเย็นเลย เพราะไม่ว่าจะใช้เทคนิคการแข่งยังไงก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้ คนที่เล่นเกมออนไลน์ทุกคนรู้กันทั้งนั้นว่า โฮชิโนะประเมินเหตุการณ์แม่นยำแค่ไหน ถึงจะไม่ใช่หัวหน้าทีม แต่ก็ถูกขนานนามว่าเป็นเทพแห่งการประเมินเหตุการณ์ล่วงหน้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยูกิชินเลย แค่เห็นเขาเล่นเกมเดียว ก็ทำคำนวนการเดินตำแหน่งกับความถนัดของเขาได้เลยล่ะ เมื่อเขาเข้าแข่งขัน เราจะยิ่งเห็นถึงความน่ากลัวของเขาว่ามีมากแค่ไหน”
พิธีกรได้ยินแล้วตกใจ “เทพซีหมายความว่า ต่อให้ฉินมั่วลงแข่ง แต่โอกาสแพ้ก็ยังเยอะอยู่”
“เปล่า ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ต้องดูว่าทีมไดมอนด์จะเตรียมพร้อมสภาพจิตใจยังไง ตอนนี้สิ่งที่ตรงหน้าของพวกเขาคือ สุดยอดเทพในหัวใจของทุกคนที่แข่งลีกส์อาชีพมาหลายสนาม จะมากจะน้อยย่อมมีบางคนที่เข้าสู่วงการนี้เพราะเคยดูคลิปการเล่นของเขา ไม่ว่าจะเป็นโฮชิโนะหรือยูกิชิน ถ้าได้เจอพวกเขาอย่างน้อยก็ต้องใจเสีย เราหันกลับมาพูดถึงเรื่องฉินมั่วก่อน เขาจะลงแข่งได้หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ เพราะเราไม่เห็นเขาในการแข่งขันนัดที่ผ่านมา แถมจากข่าวในโลกออนไลน์ก่อนหน้านี้ แสดงว่าเขาน่าจะสูญเสียความทรงจำจริงๆ ซึ่งต่อให้เขาลงแข่ง แต่คงไม่เก่งเท่าเมื่อก่อน นี่แหละเป็นสิ่งที่ทุกคนกังวลใจมากที่สุด…”
“ได้ยินเทพซีวิเคราะห์ คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น” พูดมาถึงตรงนี้ พิธีกรก็ชะงัก ก่อนจะร้องด้วยความตื่นเต้น “มาแล้ว ทีมไดมอนด์มาแล้ว!”
………………………………………..
ตอนที่ 1812-3
หลังจากที่ได้ยินเสียงของพิธีกรสาว ทุกคนต่างหันไปมองที่หน้าจอ รถ MPV ที่ราคาสูงลิบถูกขับเข้ามา ทุกคนต่างรู้ดีว่าทีมไดมอนด์ไม่เคยขาดเงิน ดังนั้นข้าวของเครื่องใช้ของลูกทีมถึงเป็นของดีที่สุด รวมถึงรถประจำทีม
เมื่อเห็นรถคันดังกล่าว พวกนักข่าวต่างกรูกันไปรุมล้อม โดยคนที่ลงมาเป็นคนแรกคือเฟิงอี้ เขายังคงสวมสูทเหมือนเดิม มุมปากยังประดับรอยยิ้ม ยกมือทั้งสองขึ้น เพื่อกันนักข่าวไว้
สมาชิกในทีมทยอยลงจากรถทีละคนๆ ก่อนจะถูกยามพาไปส่งที่ลิฟต์ ถึงจะดูผ่านหน้าจอ แต่ก็เหมือนรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่ร้อนแรงได้
พิธีกรมองดูเหตุการณ์ดังกล่าวจบ ก็ส่ายหน้าอย่างเสียดาย “ทุกคนคงเห็นแล้วว่า นี่เป็นรถของทีมไดมอนด์ และเทพฉินไม่ได้อยู่ในรถคันนี้ เกรงว่าจะเหมือนอย่างที่เทพซีพูด การแข่งในครั้งนี้คงถูกทีมอาทิตย์อุทัยกดไว้แน่นอน…”
การที่ฉินมั่วไม่ได้ปรากฎตัว ทำให้หัวใจของเหล่าแฟนคลับถึงกับสั่นคลอน อันที่จริงคนที่หมดอาลัยตายอยากที่สุดคือสมาชิกทีมต่างหาก หลินเฟิงที่พูดมากยังไม่พูดสักประโยคเลยในวันนี้ เขาสวมเสื้อขนเป็ดทับเสื้อทีม ทั้งยังคลุมศีรษะด้วยฮู้ด บอกตรงๆ ว่าไม่ได้เก็กขรึม แต่พราะคนเยอะมาก เมื่อทำแบบนี้แล้วจะสงบใจเสียหน่อย ส่วนคนอื่นๆ ก็แปลกไป ทว่าเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว เฟิงอี้ยังไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร
ส่วนคุณชายโคโค่รู้ว่าแต่ละคนต่างมีคิดอะไรในใจ ดังนั้นต่อให้หดหู่มากแค่ไหน เขาก็ไม่แสดงออกมา
แต่ก็ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ด้วยไม่มีใครส่งเสียงเลยสักคน ตลอดเส้นทางยาวจากประตูทางเข้าจนมาถึงห้องพัก
เฟิงอี้รู้ดีว่าหากเขาสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้นขึ้นมาก็ทำได้ เพราะพวกนี้จะให้ความร่วมมือ แต่หัวใจพวกเขายังคงหดหู่ มันช่างเหมือนเมื่อปีที่พวกเขาแพ้ ต้องสูญเสียสิทธิ์รอบคัดเลือก ตอนนั้นไม่มีใครพูดอะไร เพราะรู้สึกเศร้าภายในใจ เศร้าซึม ไม่ยอมแพ้ โทษตัวเอง ต่างเงียบขรึมเพราะหลากหลายอารมณ์ที่รุมเร้า แต่คงเพราะรู้สึกว่าเงียบเกินไป หลินเฟิงจึงถามขึ้นว่า “ห้องพักของพวกเราอยู่ที่ไหน?”
“ด้านหน้า” เฟิงอี้พูดจบ หลินเฟิงก็ส่งเสียงรับรู้ เขาเป็นคนแรกที่มาถึง ตอนแรกเขาถอดเสื้อคลุมพลางผลักประตูออก ทว่าหลังจากที่เปิดประตู เขาก็ตะลึงงันไปทั้งตัว
ขะ เขา เขาไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม?
หะ หัวหน้า! หลินเฟิงกำลังคิดว่าตัวเองเห็นภาพลวงตาหรือเปล่า แต่คนที่ยืนสง่าอยู่ตรงหน้า พับแขนเสื้อมาครึ่งหนึ่ง ทำให้คนรู้สึกถึงคำว่าสูงส่งต้องห้าม คนที่สวมเสื้อทีมได้เหมือนเป็นเครื่องแบบของเจ้าหน้าที่ คงมีแต่หัวหน้าคนเดียวเท่านั้น!
“ยืนขวางอยู่หน้าประตูทำไม?” โคโค่ว่าพลางก็ผลักอีกฝ่าย ไม่คิดว่าพอผลักอีกฝ่ายสำเร็จจะตะลึงงันเป็นคนที่สอง
ทว่าโคโค่ไม่ได้สมองฟ่อ คนที่เป็นลงมือทำจริงอย่างเขาร้องเรียกหัวหน้า พลางกระโจนเข้าไปหา ป๋อจิ่วที่ยืนอยู่ด้านข้างยื่นมือกันไว้ แย้มมุมปากยิ้ม “โคโค่ ต่อให้นายเป็นผู้ชาย ก็โปรดรักษาระยะห่างกับแฟนฉันด้วย อย่าคิดจะกระโดดใส่ก็กระโดดใส่เสียอย่างนั้น” เพราะเธอเป็นคนเดียวที่กระโดดใส่ท่านเทพได้
หลังจากที่โคโค่ถูกผลักออก ก็ไม่เสียใจแต่อย่างใด กลับดีใจมากจนยิ้มเห็นเขี้ยวเสน่ห์ “ฉันรู้แล้วว่าเจ้าแบล็กต้องหาวิธีจนได้ ทั้งหล่อทั้งเก่งแบบนี้ เรื่องเล็กๆ แบบเอาหัวหน้ากลับมา ต้องไม่ยากสำหรับนายอยู่แล้ว”
“อื้ม นายเข้าใจก็ดีแล้ว เรื่องแบบนี้จริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาหรอก ถึงฉันจะชอบฟังก็เหอะ”
นี่เป็นคำตอบของคนที่ไม่เคยรู้จักคำว่าถ่อมตนเป็นอย่างไร ส่วนเซวียเหยาเย่าและอินอู๋เย่าที่อยู่หน้าประตูต่างยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ เหราหรงเองก็ตาเป็นประกาย หันไปมองฉินมั่ว คิดว่าต่อให้เสียความทรงจำไป แต่ชายหนุ่มควรคนมาปิดการแข่งขันในสนามนี้อยู่ดี
……………………………………….
ตอนที่ 1812-4
หลินเฟิงอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเร่อร่าออกมา ลากคอของเจ้าแบล็ก กะจะขยี้ผมเจ้านั่นเสียหน่อย
แน่ล่ะ! เขาแค่คิดเท่านั้น! เพราะเมื่อเขายกมือขึ้น กะจะไปเกาะบ่าเข้าแบล็ก แววตาของหัวหน้าก็ไม่เหลือความอบอุ่นอีกเลย จ้องเขาเขม็งอย่างกดดัน! เล่นเอาหลินเฟิงแทบขนหัวลุก รีบดึงมือกลับทันที ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน!
“มาก็ดีแล้ว” เฟิงอี้เดินเข้ามา ยิ้มบนหน้าของเขาในเวลานี้ถือว่าเป็นของจริง เขาอุตส่าห์เตรียมใจแล้วว่าเจ้าแบล็กจะไม่มา คิดไม่ถึงว่าไม่ใช่แค่เจ้าแบล็ก กระทั่งคุณชายฉินก็กลับมาด้วย!
เวลานี้ ก้อนหินที่ถ่วงในหัวใจของเฟิงอี้ร่วงลงมาเสียที หลายปีที่ผ่านมา เขาติดค้างการแข่งสนามใหญ่เช่นนี้ต่อชายหนุ่ม แต่เพราะในทีมยังมีสมาชิกคนอื่นๆ อีก จึงไปแข่งในนัดที่ใหญ่กว่านี้ไม่ได้ เขาจำเป็นต้องพิจารณาให้รอบด้าน ทั้งๆ ที่สามารถสร้างชื่อได้ในงานแข่งระดับนานาชาติ แต่เพราะปัจจัยจากตัวทีมเอง ทำให้ไม่อาจไปแข่งในสนามที่ใหญ่กว่านี้
หากจะบอกว่ามีใครเป็นตัวถ่วง ก็ต้องบอกว่าทั้งทีมไดมอนด์ที่ถ่วงฉินมั่วเอาไว้ ไม่เหมือนกับทีมเซียงหนานที่มีตัวสำรองที่เยอะมากพอจะเอามาใช้ได้ ถือเป็นเงื่อนไขชั้นเยี่ยมเลยล่ะ
ตอนแรกหากเขาไปอยู่กับทีมเซียงหนาน ด้วยฝีมือเล่นขั้นเทพของชายหนุ่ม ชื่อเสียงจะต้องระบือลือไกลในระดับโลกตั้งนานแล้ว
ทีมไดมอนด์ถือว่าใหม่มาก หาผู้เล่นเก่งๆ ไม่ค่อยได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีคนเล่นเข้าคู่กับฉินมั่วได้น้อยมาก
ทุกครั้งชายหนุ่มจะเป็นผู้เล่น MVP ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะที่เพลี่ยงพล้ำหรือนำฟอร์มการเล่น แต่จนท้ายที่สุด ทีมไดมอนด์กลับไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าแข่งขัน นี่คือคำบรรยายของทีมไดมอนด์ในอดีต
ทั้งๆ ที่มีคะแนนนำ แต่ไม่อาจเข้ารอบได้เพราะทีม ทำให้ทุกอย่างสูญเปล่า แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เวลาที่ทีมอื่นๆ มาชวนเขาไปเข้าทีม เขากลับไม่ไป จากนักฆ่าที่เก่งฉกาจชนิดที่มาไม่บอกไปไม่กล่าว ต้องกลายเป็นตัว CC ที่คุมเชิงอยู่ใต้ป้อม ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เขาอุทิศให้กับทีมไดมอนด์
ยังดีที่ปีนี้ไม่เหมือนเดิม เฟิงอี้รู้สึกโชคดีที่มีเจ้าแบล็กอยู่ด้วย เธอไม่เพียงแต่พาตัวคุณชายฉินกลับมา กระทั่งเรื่องเกม…
บางทีหลายคนอาจมองไม่ออก แต่เขาเข้าใจดี สิ่งที่ฉินมั่วอุทิศให้ มันชัดเจนมาก และเมื่อเจ้าแบล็กปรากฎตัวออกมา ชายหนุ่มเล่นเกมได้อย่างมีความสุข เพราะไม่ต้องระวังอะไร สามารถลงแข่งด้วยเล่นบทบาทที่ถนัดที่สุด เหมือนที่เขาได้เห็นชายหนุ่มเป็นครั้งแรก
เฟิงอี้เชื่อว่าแม้จะเสียความทรงจำไปแล้ว แต่เขายังทำให้คนในสนามแข่งตกตะลึงได้
ฝ่ายหลินเฟิงไม่คิดมาก เขาถามเพียง “เจ้าแบล็ก สุขภาพนายไม่มีปัญหาใช่ไหม?” ก็เมื่อวานเล่นกลับไปในสภาพแบบนั้น แถมติดต่อใครก็ไม่ได้ เขาต้องเป็นห่วงสิ
ไม่คิดเลยว่า กลับถูกยัดอาหารหมาใส่โครมเบ้อเร่อ “สุขภาพเหรอ? ไม่มีปัญหานี่ เมื่อคืนแค่ไข้ขึ้น พี่มั่วดูแลฉันทั้งคืนเลยล่ะ เดี๋ยวๆ ก็เอาหน้าผากวัดอุณหภูมิให้ฉัน เดาว่าพี่หลินคงไม่เคยเจออะไรที่อ่อนโยนแบบนี้มาก่อนชัวร์”
หลินเฟิง “…”
……………………………………………