ตอนที่ 1781
“ใช่ แผนลึกมาก” โคโค่พูดขึ้นบ้าง “หัวหน้าไม่รู้หรอกว่า ตอนนั้นแบล็กพิมพ์ข้อความอ่อยพวกเราเสร็จ ก็นัดเจอหน้ากัน เพราะจะได้ทายใจว่าหัวหน้าคิดยังไง จะว่าไปมันก็เป็นแค่การแสดง บอกตรงๆ นะ ถ้ามีผู้หญิงมาจีบฉันแบบนี้ ฉันก็ยอม”
ฉินมั่วจับประเด็นเด็ดได้ “แสดงว่าจริงๆ แล้วเขาไล่จีบฉัน”
“แหงดิ” คนอย่างหัวหน้าน่ะหรือ จะไปไล่จีบใคร ต่อให้สนใจเจ้าแบล็ก ก็มีแต่ล่อเด็กให้มาจีบตัวเองเสียมากกว่า
“แต่หัวหน้า ก็เหมือนอย่างที่ดาวประจำทีมอย่างหลินเฟิงว่านั่นแหละ หัวหน้าชอบเจ้าแบล็กมากจริงๆ อ่อ ชอบมากๆ เลย หัวหน้าไม่รู้หรือว่า ตอนที่พวกเราเห็นหัวหน้ากับเจ้าแบล็กคุยกันในเวยป๋อนะ แทบช็อกเลยล่ะ พวกเราขอแอดเฟรนด์กับหัวหน้าตั้งหลายครั้ง แต่หัวหน้าก็ไม่เคยตอบพวกเราเลย” พูดมาถึงตรงนี้ ดวงตาของโคโค่ก็เปลี่ยนไปขุ่นเคืองหน่อยๆ ทว่าฉินมั่วไม่ได้ใส่ใจในรายละเอียดอีกแล้ว บวกับสิ่งที่หลินเฟิงพูดเมื่อกี้นี้
หลินเฟิงเห็นหัวหน้ามองตัวเองอีกครั้ง รีบพูดต่อทันที “หัวหน้า แล้วพวกเราจะรวมทีมเล่นต่อไหม?”
“รอเดี๋ยว” ฉินมั่วเอียงศีรษะ กำมือของคนบางคนที่เพิ่งจะนั่งลงไว้ในอุ้งมือ โดยไม่มองเจ้าตัว แต่มองคนอื่นแทน “เราขอเวลาส่วนตัวหน่อย” พูดจบก็ดึงตัวไปเลย
สมาชิกทีมไดมอนด์ที่อยู่ในห้องคอมพิวเตอร์ล้วนแต่มองตากัน แล้วหันไปมองหลินเฟิง โดยวันนี้หลินเฟิงได้รับสายตาของทุกคนชนิดเกินความพอเพียง คนบื้อแบ๊วอย่างเขาไม่เข้าใจ ถึงกับเกาศีรษะ “พวกนายมองฉันทำไมวะ?”
“เปล่า…” ว่าแล้วก็มองบน ต่อไปเวลาพวกเขามีแฟน จะต้องหยุดปากดาวประจำทีมให้ได้ พาเพื่อนล่มจมจริง ๆ
คุณตาพ่อบ้านเห็นเหตุการณ์อยู่ด้านข้าง ถึงกับมือกุมขมับ ได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา ท่าทีของคุณตาสง่ามาก
ในฐานะที่เป็นคุณพ่อบ้านมืออาชีพ จะไม่ต้องรับแขกในภาวะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ได้ยังไง? ดังนั้นในระหว่างที่ทุกคนต่างแอบมองว่าหัวหน้าจะคุยอะไรกับเจ้าแบล็ก คุณตาก็นำขนมที่กินกับน้ำชามาเสิร์ฟให้อย่างมีความรับผิดชอบ ทั้งยังสกัดเส้นทางทุกคน โดยยิ้มให้ “ผมคิดว่า ตอนนี้พวกคุณคงอยากทานของหวาน”
อินอู๋เย่าไม่สนใจขนมพวกนั้น แต่โคโค่ต่างออกไป เมื่อเห็นขนม เขาถึงกับตาลุกวาว ก่อนจะยัดเข้าปากอันหนึ่ง กินหมดก็ชวนเฮียเย่าให้กินด้วย “เฮีย พลาดอันนี้ไม่ได้นะ สุดยอด จริงๆ นะ”
เฮียเย่ายังไม่พูด หลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ ก็เข้ามา “อุว้าว น่ากินจัง หู่ มากินเร็ว”
อวิ๋นหู่และอินอู๋เย่า “…”
ขนมหวานไม่กี่ชิ้น ทำให้ทั้งสองลืมไปแล้วว่ามีอะไรสนุกๆ รออยู่ นั่นไงพวกเพื่อนพาล่มจมมักมีบางอย่างที่เข้าถึงกันเสมอ ชนิดที่โดนซื้อแล้วยังอุตส่าห์ช่วยนับเงินอีกต่างหาก
คุณตายิ้มสุภาพ บางครั้งการรักษาภาพพจน์ให้นายน้อย ก็ถือเป็นสิ่งที่คุณพ่อบ้านมืออาชีพเขาทำกัน แต่หนนี้คุณตากลับรู้สึกประหลาด เพราะปกติแล้วนายน้อยไม่เคยทำให้เขาเป็นห่วง แต่ตอนนี้กลับมีคนรื้อเรื่องน่าขายหน้าในอดีต
คุณตาประคองล็อกเก็ตนาฬิกาสีเงินขึ้นมาดู อืม ได้เวลาเตรียมอาหารค่ำแล้ว ไม่รู้ว่านายน้อยจะพูดอะไรอีกหรือเปล่า
เฮ้อ ไล่จีบคนมาเยอะ ช่างไม่สมกับที่เขาเคยอบรมบทเรียนว่าด้วยความเป็นกุลสตรีให้เลย
…………………………………….
ตอนที่ 1782-1 การลงโทษที่แสนหวาน
ป๋อจิ่วที่ถูกท่านเทพพามาที่ห้องรู้ดี ท่านเทพจะชำระบัญชีกับเธอ เจ้าดาวประจำทีมที่เป็นเพื่อนพาล่มจมทำร้ายเธอเข้าให้จริงๆ แต่หากรอให้โดนเล่นงาน สู้เป็นฝ่ายรุกเองก่อนดีกว่า อันเป็นสไตล์ของป๋อจิ่วมาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อเข้าห้อง เธอก็เอ่ยขึ้นก่อนด้วยสีหน้าจริงใจ “ฉันอธิบายได้”
“อ้อ?” ฉินมั่วมองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง พลิกไพ่ในมือ พอได้ยินก็โยนไพ่บนโต๊ะกาแฟ ก่อนจะเอนหลังอย่างไม่รีบร้อน
ป๋อจิ่วยิ้ม “พี่ดูสิ ฉันเป็นผู้หญิงใช่ไหมล่ะ”
“อื้ม?” ฉินมั่วเลิกคิ้วนิดหนึ่ง ทำท่าแบบเธอเริ่มแสดงได้เลย
ป๋อจิ่วรู้สึกว่าเขาทำแบบนี้ เท่ากับไม่ให้เกียรติเธอเลย จึงยื่นมือไปประคองหน้าชายหนุ่ม เอ่ยต่อ “คุณตาสอนฉันให้เป็นกุลสตรีมาตั้งแต่เด็ก บอกว่าทำอะไรก็ต้องเรียบร้อย”
ฉินมั่วถึงกับหัวเราะในทันทีที่ได้ยิน
“หัวเราะอะไร?” ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว
ฉินมั่วดึงมือเธอออกไป เอ่ยช้าๆ “งั้นเธอก็คือเคสความล้มเหลวทางการศึกษา”
ป๋อจิ่วหัวเราะอย่างไม่แคร์ “ยังไงในฐานะของกุลสตรี ฉันก็ต้องรักษาหน้าตัวเอง ถูกไหม พี่อุตส่าห์ลืมประวัติที่น่าอายของฉันไปแล้ว ฉันย่อมบอกว่าพี่จีบฉันดิ ไม่เห็นจะแปลกเลย พี่มั่ว”
“ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ดูเหมือนเธอจะดีใจที่ฉันเสียความทรงจำเลยนะ” ฉินมั่วดีดมือเธอให้หลุดจากตัวเขา “อยู่ห่าง ๆ”
ป๋อจิ่ว…อะไรอ่ะ แค่แต๊ะอั๋งก็ไม่ยอมแล้วเหรอ?
“ท่าทางสายเปย์ของฉันจะจับประเด็นสำคัญไม่ได้” ฉินมั่วยิ้ม มุมปากหยักนิดหนึ่ง “ขอเปลี่ยนวิธีถามนะ พอเห็นหน้าตาดีๆ ก็เที่ยวไปสารภาพรักกับเขาหมด อันนี้เป็นความชอบของเธองั้นเหรอ?”
ป๋อจิ่วรีบปฏิเสธ “ไม่อยู่แล้ว แค่เข้าใจผิดกันน่ะ”
“เหรอ? งั้นลองมาคุยกันหน่อยซิว่า ฉันเป็นคนที่เท่าไรที่เธอสารภาพรักด้วย” ท่าทางยิ้มบางๆ ของฉินมั่ว ทำให้คนรู้สึกกลัว
ป๋อจิ่วเงยหน้า “คนแรก แล้วก็เป็นคนเดียวด้วย”
ฉินมั่วมองดูนัยน์ตาดำขลับที่ช่างสดใสราวกับจะสะท้อนเงาเขาออกมาได้ เขาไม่คิดว่าจะได้คำตอบเช่นนี้ เพราะพวกคำพูดชวนอ้วกเหล่านี้ไม่น่าจะปลอมแปลงชนิดหามูลไม่เจอ
ป๋อจิ่วพูดถึงเรื่องนี้ เรียวปากบางเม้มนิดๆ “พูดตรงๆ พี่มั่ว พี่หน้าตาดีขนาดนี้ นอกจากพี่แล้ว ฉันจะต้องไปสารภาพรักกับใครอีกล่ะ”
อ้อ พูดเพื่อเอาใจเขา คิดน่ะคิดได้ แต่ฉินมั่วในเวลานี้ หันไปอีกทาง มุมปากยิ้มกระจ่าง
ท่าทางจะมุขนี้ได้ผลแฮะ
ป๋อจิ่วไม่เห็นรอยยิ้มนั่น ยังเจื้อยแจ้วต่อ “ตอนนี้พี่ลืมไปแล้ว พี่น่ะจีบยากจะตาย ตอนเด็กๆ ที่ฉันเพิ่งรู้จักพี่อ่ะ พี่เหมือนตุ๊กตาเลยนะ ก็เพราะพี่หน้าสวยมาก ฉันเกือบจะพูดเสียงดังใส่ พี่ไม่รู้หรอกว่าตอนเล็กๆ ฉันดุแค่ไหน แต่ฉันก็อ่อนโยนกับพี่นะ น่าเสียดายที่พี่ไม่เห็นคุณค่า ชอบหาว่าฉันว่าสกปรก แถมมาล้างมือให้ฉัน ก่อนกินข้าวก็ต้องล้าง ก่อนนอนก็ต้องล้าง ทำเหมือนรำคาญฉันตลอดเวลา แต่คนเขาว่าสายตาเราเห็นคนรักดีเลิศเหมือนซีซือ[1]เสมอ ถึงพี่จะเป็นแบบนั้น ฉันก็เห็นว่าพี่น่ารักอยู่ดี”
ไม่งั้นจะคิดว่าพี่เป็นเด็กผู้หญิงทำไม…แน่ล่ะ ประโยคหลัง เธอย่อมไม่พูดอยู่แล้ว
“ตอนนั้นฉันก็รู้แล้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับพี่ อุตส่าห์หอบกระปุกออมสินไปหาสารภาพรักกับพี่แบบเขินๆ” พูดมาถึงตรงนี้ ป๋อจิ่วก็เม้มปากอีก “แต่ ก็ยังไม่สำเร็จ”
ฉินมั่วได้ยินแล้ว กวาดตามองเธอ “เขิน? แน่ใจนะว่าจะใช้คำนี้” เขานึกภาพอ่อนโยนอย่างนั้นไม่ถูกเลยว่า คนอย่างเธอจะทำได้
[1] สายตาเราเห็นคนรักดีเลิศเหมือนซีซือ เป็นสำนวนที่อธิบายว่าเวลามีคนรักเราจะเห็นคนรักเหมือนซีซือ ซึ่งเป็นหนึ่งในสุดยอดสาวงามในวรรณคดีจีน