จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) – บทที่ 70 ก่อกวนงานวิวาห์![รีไรท์]

บทที่ 70 ก่อกวนงานวิวาห์![รีไรท์]

“ปิดเดี๋ยวนี้!”

หยุนไป่ซานคำราม เรื่องนี้ไม่ควรให้คนภายนอกรู้ มิฉะนั้นตระกูลหยุนถึงคราวจบสิ้นแน่!

งานแต่งงานของวันนี้อยู่ภายใต้ความปลอดภัยโดยตระกูลหยุน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการ์ดคุ้มกันของตัวเอง เมื่อได้ยินคำสั่งแล้วบอดี้การ์ด 2-3 คนก็รีบขยับไปที่เวที

“เจ้าฟาน!”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงของชายชรา ชายที่อยู่ข้างกายของชายชราก็รีบออกไปซัดบอดี้การ์ด 2-3 คนจนนอนหมอบกับพื้น บอดี้การ์ดสองคนกระอักเลือดก่อนจะถูกโยนออกไป

“ใครกล้าปิดหน้าจออีกไหม?” ชายผู้นั้นยืนอยู่บนเวที ดวงตาของเขาซึ่งมีตาที่แหลมคมเหมือนตาเหยี่ยว

ถ้าหากว่าฉู่ชวิ๋นอยู่ที่นี่ก็จะรู้ทันทีว่าชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น เขาคือซูฟาน และผู้หญิงคนนั้นเป็นนักพนันหญิง

ฝีมือของซูฟาน ทำให้เหล่าบอดี้การ์ดถึงกับยืนอึ้งไม่กล้าออกไป เมื่อภาพยังคงเล่นอยู่ ประตูห้องมืดถูกเปิดออกกว้างและคนสองคนเดินเข้ามา หนึ่งในนั้นคือหยุนหนานเฟิงที่ยืนอยู่บนเวที ข้างกายคือชายที่ดูมีความร้ายกาจ

ทันใดนั้นก็เกิดความปั่นป่วนในหมู่แขกที่มาร่วมงาน ปรากฏว่าไม่ได้มีเพียงแค่สองคนนี้ แต่ชายที่มีความร้ายกาจยังหิ้วผู้หญิงคนหนึ่งไว้อยู่ในมือ เพราะว่าหัวของเธอก้มลงจึงทำให้มองไม่เห็นใบหน้า แต่เมื่อดูจากการแต่งตัวก็รู้ว่าเป็นสาววัยรุ่น

ในเวลานี้มีอสูรกายสีดำเคลื่อนตัวไหวและเขาหันมามองทั้งสองในจังหวะนี้แขกมากมายสูดลมหายใจเข้าพร้อมกัน เพราะรูปลักษณ์ของปีศาจตนนี้น่ากลัวเกินไป ดวงตามีเพียงสองหลุมดำ ไม่มีจมูก ไม่มีริมฝีปาก มีฟันแหลมคมสองแถว น้ำลายเหนียวข้นทำให้คนรู้สึกน่าขยะแขยง

“พวกแกมาช้า!” อสูรกายพูดภาษามนุษย์ก็จริง แต่เสียงก็เหมือนเหล็กเสียดสีซึ่งฟังแล้วดูอึดอัด

ชายที่ดูชั่วร้ายคุกเข่าลงอย่างรวดเร็วแล้วพูด “ท่านปีศาจใจเย็นเถิด ผู้หญิงที่เกิดในคืนเดือนมืดในเมืองหยุนหยานหายากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว”

อสูรกายจ้องมองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ขยับตาของเขามองหยุนหนานเฟิงและเกิดเสียงของเหล็กกล้าเสียดสีกัน จนแทบทนฟังไม่ได้ดังขึ้นอีกครั้ง

“แล้วหญิงสาวในตระกูลฮวา ที่ชื่อว่า ฮวาชิงหวู่ล่ะ?”

“ขออนุญาตตอบท่านปีศาจ ตอนนี้เราแกะรอยของเธอได้แล้ว พบว่าเธอหนีไปที่เมืองกู่เจียง เราได้ส่งคนไปตามหาแล้ว ข้าน้อยเชื่อว่าจะจับกลับมาได้ในเร็ว ๆ นี้”

“ในเร็วๆ นี้? มันจะอีกนานแค่ไหน?” อสูรกายโกรธจนเข้าไปคว้าคอของหยุนหนานเฟิงเอาไว้ “ฉันรอมานานเต็มทีแล้ว สุดจะทนกับรูปลักษณ์ของอสูรกายเต็มที”

“ขออภัยท่านปีศาจ ท่านผู้นำตระกูลหยุนกล่าวว่าการจะจัดการกับฮวาชิงหวู่จะใช้ไม้แข็งไม่ได้ หากข่าวรั่วไหลออกมามันจะดึงดูดความสนใจของกองกำลังอื่นๆ เป็นการดีกว่าที่จะให้เธอแต่งงานเข้ามาในตระกูลหยุน จากนั้นควบคุมเธอ และให้เธอเข้าไปนำสิ่งที่ท่านต้องการออกมาจากสถานที่นั้น” ตอนนี้ปลายนิ้วเท้าของหยุนหนานเฟิงแตะที่พื้น แล้วขึ้นพูดอย่างยากลำบาก

หลังจากได้ยินปีศาจก็เงียบไปนานพร้อมกับเริ่มหัวเราะ “แกหมายความว่าแกจะแต่งงานกับฮวาชิงหวู่งั้นเหรอ?”

“เป็นความคิดของผู้นำตระกูลหยุนครับ” หยุนหนานเฟิงกล่าวอย่างรีบร้อน

“แล้วแกตกลงหรือยัง?” เจ้าปีศาจถามอย่างเย็นช้า

“ผมรู้ตัวดีว่าผมไม่มีทางเลือก ย่อมต้องทำตามคำสั่ง” หยุนหนานเฟิงรีบตอบ

“ดี! เจ้าควรจดจำตัวตนของตัวเองเอาไว้ แกเป็นเพียงตัวแทนและฉันเป็นหยุนหนานเฟิงตัวจริง….” เมื่อเสียงของปีศาจได้เงียบลง แขกในงานก็เกิดความโกลาหล!

“เกิดอะไรขึ้น?”

“ไม่ทราบครับ! ไอ้ปีศาจนั่นมันบอกว่า มันคือหยุนหนานเฟิง แล้วคนที่ยืนอยู่บนเวทีคือใครกัน?”

“ทุกคนดูนั้น” มีใครบางคนอุทานขึ้นมา!

ตอนนี้ทุกสายตาพุ่งตรงไปที่หน้าจอ และเห็นว่าปีศาจค่อยๆ ปล่อยมือจากหยุนหนานเฟิง ตาหลุมดำลึกคู่นั้นมองเห็นผู้หญิงที่อยู่ในเงื้อมือชายที่ดูร้ายกาจ

ชายคนนั้นดึงสติกลับมาแล้วรีบวางผู้หญิงไว้ในมือของเขาบนโต๊ะข้างๆ ในเวลานี้ผู้หญิงคนนั้นนอนหงายหน้าซีดและเธอมีใบหน้าที่สวยงาม ดวงตาของเธอหลับสนิทและดูเหมือนว่าเธอตายไปแล้ว

“หยิงหยิง….” ทันใดนั้น ชายวัยกลางคนในท่ามกลางแขกจ้องมองไปที่หน้าจอและตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด

ชายวัยกลางคนนั้นคือผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฮุ่ยเฟิง สกุลของเขาคือหาน หลายคนรู้จักเขาดี

“ประธานหาน เธอคือไม่ใช่ลูกสาวที่หายไปเมื่อ 2 ปีก่อนของคุณไม่ใช่เหรอ?” คนที่รู้จักเขาดีคนหนึ่งกล่าวขึ้น

ชายวัยกลางคนหูอื้อไปเสียแล้ว และจับจ้องไปที่หน้าจอ ทันใดนั้นปีศาจก็ก้มศีรษะลงแล้วกัดคอของเด็กผู้หญิงคนนั้น หญิงสาวดิ้นรนไประยะหนึ่งแล้วก็ไม่มีการเคลื่อนไหว เกือบจะในทันทีร่างของเธอก็บี้แบนเหมือนลูกโป่งรั่ว ผิวของเธอกลายเป็นสีเทาซีดแล้วเธอก็กลายเป็นเพียงซากศพ

เมื่อมองดูปีศาจอีกครั้ง มันเหมือนมีการขยายตัว ผิวหนังที่อยู่บนกระดูกขยายตัวช้า ๆ และในที่สุดก็กลายเป็นสีแดงก่ำและมันแวววาว ท้ายที่สุดมันก็เหมือนการเกิดใหม่กลายเป็นชายหนุ่มรูปงาม แต่เลือดที่มุมปากของมันทำให้ดูน่าหวาดกลัวสุดหัวใจ

“ไอ้เดรัจฉาน…แก!” ประธานหานส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเศร้าโศก ซึ่งทำให้ผู้คนในปัจจุบันรู้สึกเศร้าอย่างลึกซึ้ง

“หยุนไป่ซาน คืนชีวิตลูกสาวฉันมา…” ชายวัยกลางคนตาแดงก่ำ รีบเร่งสาวเท้าไปอยู่เบื้องหน้าหยุนไป่ซานอย่างดุดัน

โชคร้าย เขาถูกขัดขวางโดยผู้คุ้มกันของตระกูลหยุน

ทุกสิ่งตกลงในความเงียบงัน มีเพียงเสียงคำรามขู่ของชายวัยกลางคนเท่านั้น

หยุนหนานเฟิงที่อยู่ในตระกูลหยุนเป็นตัวปลอม หยุนหนานเฟิงตัวจริงเป็นอสูรกาย และมันดื่มเลือดหญิงสาวที่เกิดในคืนเดือนมืด

ชายชราของตระกูลซูมีใบหน้าเศร้าโศก ในฐานะที่เขาเคยเป็นทหารมาตลอดชีวิตเคยเห็นสิ่งแปลก ๆ มามากมายนอกจากนี้เขายังเป็นจอมยุทธ์ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นความโหดร้ายเช่นนี้ ตระกูลหยุนไม่สมควรคงอยู่ต่อไป!

“แกทำแบบนี้ทำไม? หลังจากวันนี้ไป เมื่อลูกชายของฉันหนานเฟิงจะกำเนิดใหม่ แกจะได้เป็นอิสระ” หลังจากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหยุนไป่ซานก็ยังคงใจเย็นและถามหยุนหนานเฟิงตัวปลอม

“หยุนไป่ซาน ทำไมถึงต้องทำแบบนี้เหรอ? แกน่าจะเข้าใจดีนะ เป็นเพราะพวกแกบังคับฉัน” ทันใดนั้นหยุนหนานเฟิงที่อ่อนโยนก็แผดเสียงดังลั่นใส่หยุนไป่ซานอย่างบ้าคลั่ง

หยุนไป่ซานเงียบไปสักครู่แล้วถอนหายใจ “เพราะน้องสาวของแก เสี่ยวหนิงสินะ!”

“ฮ่าฮ่า” หยุนหนานเฟิงตัวปลอมหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง น้ำตาไหลนองและชี้ไปที่หยุนไป่ซาน “แกพาฉันและน้องสาวออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เลี้ยงพวกเราอย่างดี ให้ฉันเข้าโรงเรียนที่ดีที่สุด แกรู้ไหมว่าพวกเราสองพี่น้องรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งมากแค่ไหน? ฉันเคยสาบานว่าในชีวิตนี้ฉันจะไม่ทรยศแกเด็ดขาด แต่แกทำให้ครอบครัวเพียงคนเดียวของฉันต้องตาย ทำไมถึงให้ไอ้เดรัจฉานนั้นมันดูดเลือดน้องสาวของฉันจนแห้งเหือด? ทำไม…ทำไม!”

หยุนไป่ซานมองไปที่หยุนหนานเฟิงที่บ้าคลั่งแล้วพูดอย่างเจ็บปวด “จริง ๆ แล้ว ฉันปฏิบัติต่อแกและน้องสาวของแกเหมือนลูกคนหนึ่งจริง ๆ แกเองก็รู้ว่าฉันก็ไม่อยากทำให้เสี่ยวหนิงต้องตาย แต่ถ้าเธอไม่ตายหนานเฟิงก็ต้องตาย”

“เดรัจฉาน พวกแกทุกคนในตระกูลของแกเป็นสัตว์เดรัจฉาน คำพูดไร้ยางอายแบบนี้ แกยังกล้าพูดออกมาได้อีกเหรอ? ลูกชายของแกมันไม่ใช่คน! มันเป็นอสูรกายดูดเลือด มันสมควรตายไปตั้งนานแล้ว หลังจากที่เสี่ยวหนิงตาย ฉันก็สาบานว่าจะเอาตระกูลหยุนทุกคนไปนอนตายเป็นเพื่อนเธอ พวกแกตระกูลหยุนก็รอความตายไปเถอะ!”

“แกจะทำอะไร?”

หยุนหนานเฟิงตัวปลอมหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฉันจะทำลายตระกูลหยุนทุกคน ทำให้พวกแกทุกคนไม่ตายดี…” เขากดรีโมทที่อยู่ในมืออย่างรุนแรง

เมื่อภาพที่อยู่บนหน้าจอเปลี่ยนไป ทั้งหน้าจอเต็มไปด้วยหญิงสาวที่มีมากกว่า 200 คน

“นี่คือหญิงสาวที่ถูกฆ่าโดยอสูรกายตนนั้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทุกคนที่หายตัวไปที่เมืองหยุนหยาน ถูกจับตัวไปโดยตระกูลหยุน เพื่อที่จะนำไปเลี้ยงดูอสูรกายที่คนก็ไม่ใช่ อสูรกายก็ไม่เชิง”

คำพูดหยุนหนานเฟิงเป็นดังเช่นก้อนหินที่ลงไปในทะเลสาบอันสงบเงียบ และกลายเป็นคลื่นหลายพันลูก ท่ามกลางแขกที่มาร่วมงานมากกว่าหนึ่งในสิบคน มีเสียงคำขุ่นเคืองและเสียงเศร้า เพราะมีญาติของพวกเขาอยู่ในนั้นด้วย

“ตระกูลหยุน ไอ้พวกอำมหิต!”

“หยุนไป่ซาน แกมันสัตว์เดรัจฉาน เอาชีวิตลูกสาวฉันคืนมา!”

“ทำลายตระกูลหยุนให้วอดวาย เมืองหยุนหยานไม่ต้องการมีตระกูลที่สกปรกแบบนี้!”

ด้วยความโหดเหี้ยม อำมหิต ความน่าเกลียดชัง สมาชิกของตระกูลหยุนหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาวและดูหวาดกลัว!

แม้แต่หยุนไป่ซานเองก็เหมือนกัน

การจัดการกับตระหยุนเพียงคนเดียว แค่ชายชราซูตัวคนเดียวพวกเขายังสามารถรับได้ คนสิบคนมาจัดการกับตระกูลหยุน พวกเขาก็รับมือไหว แต่ถ้ามาเป็นร้อยล่ะ? สมาชิกทุกคนในตระกูลหยุนรู้ดีว่าคราวนี้ตระกูลหยุนจบสิ้นแล้ว

เหล่าผู้มีบารมีเริ่มหารือกัน อย่าว่าแต่ตระกูลหยุนเลย ถึงเป็นพวกคนใหญ่คนโตจากเมืองหลวงก็ยังต้องถอยไปหลายก้าว

“หยุนไป่ซาน แกนึกเสียใจบ้างไหม? คงนึกไม่ถึงว่าตระกูลหยุนจะมีวันนี้สินะ?” หยุนหนานเฟิงตัวปลอมโกรธจัด

หยุนไป่ซานมองเขาด้วยสายตาที่ซับซ้อน “ฉันเสียใจ แต่ไม่ใช่เพราะตระกูลหยุนจบแล้ว ฉันเสียใจที่เลือกให้แกให้มาเป็นตัวแทนหนานเฟิง”

“ทำเรื่องชั่วมามากมายจะลงโทษตัวเองบ้างไหม? ไม่ว่าวันนี้แกจะผิดหวังแค่ไหน หลังจากวันนี้ไป มันจบแล้ว ตระกูลหยุนจบสิ้นแล้ว ถึงเวลาที่เดรัจฉานอย่างพวกแกต้องไปรายงานตัวในนรกแล้ว”

“นรก? แกคงไม่คิดว่าคนอย่างแกจะสามารถทำลายตระกูลหยุนของเราได้จริง ๆ หรอกนะ? ไร้สาระ” หยุนไป่ซานชี้ไปที่ฮวาชิงหวู่ “ฉันจะบอกให้นะ แค่จับตัวเธอได้ หลังจากที่หนานเฟิงหายดี มันจะยากแค่ไหนกันที่จะสร้างตระกูลหยุน?”

หลังจากสิ้นเสียง หยุนไป่ซานก็ตะโกนออกมา “กุ่ยเซิ่งจื่อ กุ่ยเม่ย ลงมือ!”

เมื่อสิ้นเสียงก็เห็นร่างสองร่างวิ่งมาจากระยะไกลด้วยความเร็วสูงและอีกไม่กี่ก้าวก็จะเข้ามาใกล้ฮวาชิงหวู่แล้ว

ชายหญิงคู่นี้คือผู้ที่ตามหยุนหนานเฟิงตัวปลอมไปรับเจ้าสาวด้วย ชายชื่อว่ากุ่ยเซิ่งจื่อ หญิงชื่อว่ากุ่ยเม่ย

“เดรัจฉาน!” ประธานหานจำได้ทันทีว่าชายคนนี้เป็นคนมอบลูกสาวของเขาให้กับอสูรกาย

กุ่ยเซิ่งจื่อมองเขาด้วยหางตาอย่างรังเกียจแล้วยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วพูดขึ้น

“ไอ้เฒ่า ที่เธอได้เป็นอาหารให้กับอสูรผู้ยิ่งใหญ่ มันเป็นความโชคดีอย่างหนึ่ง แกควรจะขอบคุณฉันนะ”

“คุณชายซู ได้โปรดฆ่ามันเถอะ ผมยินดียกบริษัทให้ท่าน” ชายวัยกลางคนมองไปที่ซูฟานและขอร้องออกมา

กุ่ยเซิ่งจื่อแววตาชั่วร้ายและยิ้มอย่างชั่วร้าย “จะฆ่าฉันเหรอ? งั้นแกก็ไปตายคนแรกเลยแล้วกัน!”

กุ่ยเซิ่นจื่อกระโจนไปที่ชายวัยกลางคนแล้วตะโกน “กุ่ยเม่ย เธอไปพา

ฮวาชิงหวู่มา”

“แกกล้าฆ่าเขาเหรอ?” ซูฟานสีหน้าเต็มไปด้วยไอสังหาร เขากระโจนเข้าหากุ่ยเซิ่งจื่อทันที

“ไสหัวไป!” กุ่ยเซิ่นจื่อหยุดเคลื่อนไหวแล้วหันกลับไปชกกำปั้นใส่ซูฟาน

ซูฟานร้องหัวเราะอย่างเยือกเย็น ร่างกายของเขากระโดดสูงราวกับเหยี่ยวในท้องฟ้า และชกกำปั้นปะทะกับอีกฝ่าย

“ตู้ม!”

หมัดรุนแรงทั้งสองปะทะกันเกิดเป็นลมพัดอย่างรุนแรงกลางอากาศ

กุ่ยเซิ่นจื่อสั่นสะท้านก้าวถอยหลังไปสองก้าว ซูฟานหงายหลังกลางอากาศ เมื่อเท้าเหยียบพื้นก็เซถอยไปสองก้าวจึงจะตั้งตัวได้

ต่างคนต่างมองหน้ากัน การต่อสู้ระยะสั้น ๆ ไม่ได้มีใครได้เปรียบกว่ากันฝีมือสูสีกันมาก!

จักรพรรดิเซียนหวนคืน

จักรพรรดิเซียนหวนคืน

เรื่องย่อ จักรพรรดิ์เซียนหวนคืน เมื่อความแค้นทำให้เขาต้องกลับมา.. ฉู่ชวิ๋น เด็กหนุ่มผู้ใสซื่อถูกจับเข้าคุกในข้อหาที่เขาเองก็ยังสงสัยมามันคืออะไร อีกทั้งชีวิตในคุกของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จนกระทั้งเขาถูกกระทืบตาย หลังจากที่เขาตายแล้ววิญญาญได้ข้ามไปยังโลกแห่งผู้ฝึกตน คนอื่นใช้เวลาหมื่นปีเป็นจักรพรรดิ์เซียน แต่สำหรับเขานั้น ใช่เวลาเพียง 3000 ปีก็อยู่บนจุดสูงสุดของจักพรรดิ์เซียน แต่ในเวลานั้นจิตใจของเขายังคงสับสนเพราะต้องการรู้ความจริงที่เกิดขึ้นในภพชาติก่อน เขาจึงใช้พลังเซียนทั้งหมดเพื่อเปิดประตูมิติ ส่งวิญญาณของเขากลับมาที่ร่างเก่าที่อยู่ในคุก ก่อนวันที่เขาจะตายเพียงหนึ่งวัน……….. นี้คือการกลับมาล้างแค้นและค้นหาความจริงแต่เขานั้นไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปเขาคือ จักรพรรดิเซียน!

Options

not work with dark mode
Reset