ลำนำบุปผาพิษ – บทที่ 1528+1529

บทที่ 1528 คลุมถุงชน 4

เมิ่งซู่เหยียนส่ายหน้า “เขาเคยเป็นคนมีความสามารถที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมือง เป็นอัจฉริยะ ดูดีมีสง่า…ข้าก็รู้สึกว่าตัวเองโง่งมยิ่งนัก”

กู้ซีจิ่วตบบ่านางเบาๆ “ตอนนั้นเจ้ายังเด็กนี่ ชอบคนกากเดนก็มิแปลก เคราะห์ที่เจ้าไม่ได้แต่งงานกับเขาจริงๆ ถอนตัวออกมายามนี้ก็ยังไม่สาย ถึงแม้บนโลกใบนี้มีผู้ชายกากเดนมากมาย แต่ก็ยังมีผู้ชายดีๆ อีกมากมายนี่ อย่างเช่นพี่ชายข้า…”

เมิ่งซู่เหยียนหลุบตาลง ส่ายหน้าเล็กน้อย “พี่หลัวเป็นผู้ชายที่ดี…แต่ข้า…ซีจิ่ว ข้าไม่อยากมีความรักอีกต่อไปแล้ว”

กู้ซีจิ่วแสดงความเข้าอกเข้าใจ อย่างไรเสีย เมิ่งซู่เหยียนก็รักผู้ชายคนหนึ่งมาตลอดสิบกว่าปี ถึงแม้ท้ายที่สุดแล้วจะรู้ว่าไม่คุ้มค่า ทว่าความรักครั้งนี้ไม่ใช่บอกว่าปล่อยวางแล้วจะวางลงได้ทั้งหมดในทันที ยังต้องใช้เวลาให้มันค่อยๆ จางหายไป…

เมิ่งซู่เหยียนรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก การระบายออกในครั้งนี้ทำให้ความมืดมนในจิตใจของนางลดลงไปไม่น้อย นางพักเรื่องราวในใจของตัวเอง หันมาถามกู้ซีจิ่ว “ซีจิ่ว เจ้ากับท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะแต่งงานกันเมื่อใด? ข้ายังรั้งอยู่ที่นี่รอดื่มสุรามงคลของเจ้านะ”

กู้ซีจิ่วหัวเราะออกมา “ยามนี้ด้านนอกยังมีเรื่องราวมากมายถึงเพียงนี้ เขายุ่งมาก ข้ากับเขาเพียงแค่จัดงานแต่งงานชดเชยเท่านั้นเอง ไม่รีบร้อน วางใจเถิด เมื่อใดที่กำหนดวันได้แล้วข้าจะแจ้งทุกคนทราบ”

เธอดื่มสุรากับเมิ่งซู่เหยียนอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง หลังจากเริ่มเมาเล็กน้อย เธอจึงขอตัวลา

เธอดื่มสุราไปค่อนข้างเยอะ เมื่อคิดที่จะเคลื่อนย้ายในพริบตากลับจวนแม่ทัพ ผลสุดท้ายเคลื่อนย้ายมากไปหน่อย จึงเคลื่อนย้ายมายังริมคูเมือง เกือบจะหัวทิ่มลงไปในน้ำ

เธอยืนแน่นิ่งอยู่ริมแม่น้ำ มองดูสองข้างทาง อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างคุ้นตา ครุ่นคิดไปมา ก็คิดออกแล้ว ตอนเธอทะลุมิติมาได้ไม่นาน เคยพบเจอกลอุบายของคนลึกลับที่ริมคูเมืองนี้ บอกว่ามีความแค้นอะไรกับเธอ แถมยังหยิบเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาทำสิ่งลึกลับ ทำให้ทหารรักษาการณ์บนกำแพงเห็นเข้า…

อืม ตอนนั้น เจ้าคนชั่วช้าผู้นี้ใช้อุบายเล่นเล่ห์กับเธอไม่น้อย!

ตอนนั้นเธอเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟ มาคิดดูตอนนี้กลับรู้สึกขบขันยิ่งนัก

เธอหาก้อนหินก้อนหนึ่งนั่งลง คิดถึงตอนที่ตัวเองเพิ่งทะลุมิติมาก็ถอดเสื้อผ้าเขา จนเขาเหลือแค่เพียงเสื้อตัวในชิ้นหนึ่ง อีกทั้งยังจับน้องชายของเขาทีหนึ่ง คาดว่าคงไปยั่วโมโหเขาเสียแล้ว ถึงได้บอกว่ามีความแค้นต่อเธอ…

เรื่องราวในอดีตดังเมฆหมอก เธอนั่งคิดจนเหม่อลอย เมื่อได้สติกลับคืนมา แสงจันทร์บนท้องนภาก็เคลื่อนไปทางทิศตะวันตก ค่ำคืนมืดมนแล้ว

ไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไร? อยู่ที่ไหนนะ?

อยู่ๆ เธอก็อยากเจอเขาขึ้นมา!

เลือดอันร้อนรุ่มของเธอพุ่งพล่านชั่วขณะ เธอหยิบยันต์ถ่ายทอดเสียงออกมาลองติดต่อเขา

ยันต์ถ่ายทอดเสียงส่องแสง ไม่มีคนรับอยู่เป็นเวลานาน

เธอแหงนหน้ามองแสงจันทร์ เวลานี้เขาพักผ่อนแล้วหรือยัง?

ช่างเถิด วันนี้ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ค่อยติดต่อเขาก็เหมือนกัน

ในขณะที่เธอกำลังจะปิดยันต์ถ่ายทอดเสียง ฝั่งนั้นกลับติดต่อได้แล้ว น้ำเสียงที่ดึงดูดของเขาส่งผ่านมา “ซีจิ่ว?”

หัวใจกู้ซีจิ่วดุจระลอกคลื่นลอยล่องในอากาศ พลันโพล่งถ้อยคำที่ไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองออกไป “ท่านจะมาขอข้าแต่งงานที่จวนแม่ทัพเมื่อใด?”

อีกฝั่งนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง น้ำเสียงของตี้ฝูอีกหนักแน่นมั่นใจ “ซีจิ่ว ยามนี้มีเรื่องมากมายที่ต้องรีบจัดการโดยด่วน…รอให้สะสางอีกสักพักหนึ่งค่อยว่ากันเถิด”

กู้ซีจิ่วพูดจาอันใดไม่ออก

เธอหยุดชะงัก “ความจริงการขอแต่งงานไม่ยุ่งยาก ท่านมาบอกสถานการณ์ให้กระจ่างแจ้งก็พอแล้ว จัดพิธีเล็กๆ เพื่อเป็นสักขีพยานว่าพวกเราแต่งงานกันแล้วก็ได้” ยามนี้เธอแต่งงานแบบหลบๆ ซ่อนๆ นอกจากคนเหล่านั้นในเขตหวงห้าม คนภายนอกไม่มีแม้สักคนที่รู้ว่าเธอเป็นภรรยาของเขาแล้ว

ตี้ฝูอียิ้ม น้ำเสียงอบอุ่น “ซีจิ่ว เจ้าติดต่อข้ามาดึกดื่นป่านนี้เพราะอยากพูดเรื่องนี้?”

————————————————————————————-

บทที่ 1529 คลุมถุงชน 5

“ใช่แล้ว ข้าจะบอกท่านไว้นะ แม่ทัพกู้ยังไม่รู้ว่าพวกเราแต่งงานกันแล้ว เขายังคิดจะจัดงานเลี้ยงดูตัวให้ข้าอยู่หลายครั้ง เขาบอกว่าเขารู้จักชายหนุ่มหล่อเหล่าเปี่ยมความสามารถมากมาย…” กู้ซีจิ่วพูดขู่เขา

ตี้ฝูอีกลับไม่เก็บมาใส่ใจ “มีชายหนุ่มคนใดหล่อเหลาเปี่ยมความสามารถได้เท่าข้าเล่า? เจ้าย่อมไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาอยู่แล้ว ซีจิ่ว ข้าวางใจในตัวเจ้ายิ่งนัก”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย…

เธอยังไม่ถอดใจ พูดคุยกับอีกหลายประโยค แต่ตี้ฝูอีมักจะมีวิธีเบี่ยงเบนหัวข้อสนทนาอยู่เสมอ

ถึงอย่างไรกู้ซีจิ่วก็ร่ำสุรามา ยามนี้ความเมามายครอบงำอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง จึงถามออกมาตรงๆ “ท่านบ่ายเบี่ยงเฉไฉเช่นนี้ เพราะไม่อยากให้คนนอกพวกนั้นรู้ว่าข้าคือภรรยาของท่านใช่ไหม?”

ตี้ฝูอีเงียบไปครู่หนึ่ง ถอนหายใจแล้วเอ่ยตอบ “เจ้าคิดมากไปแล้ว ซีจิ่ว เจ้าดื่มสุราหรือ?”

กู้ซีจิ่วร้องอืมคราหนึ่ง ตอบอย่างซื่อตรงยิ่งนัก “ใช่แล้ว ท่านอยากมาดื่มกับข้าสักจอกไหมล่ะ?”

“พูดจาเป็นเด็กไปได้! เอาล่ะ ดื่มสุรามากพอแล้วก็รีบเข้านอนซะ ดึกมากแล้ว อย่าได้อดหลับอดนอนเกินไป จะไม่ดีต่อสุขภาพของเจ้า”

ยันต์ถ่ายทอดเสียงถูกตี้ฝูอีตัดสายทันที กู้ซีจิ่วนั่งอยู่ริมแม่น้ำ มองยันต์ถ่ายทอดเสียงในมือที่ไม่ส่องแสงอีกแล้วขมวดคิ้วนิ่งงันอยู่ครู่หนึ่ง เธอรู้สึกอยู่ตลอดว่าท่าทีที่ตี้ฝูอีมีต่อตนไม่ค่อยปกติ ราวกับรับมือแบบขอไปที…

หรือเขาจะสัมผัสถึงความโกรธที่เธอมีต่อเขาไม่ได้?

แม้แต่ทีท่าว่าจะโอ๋เอาใจก็ไม่มีเลย

ฤทธิ์สุราขึ้นหน้าแล้ว ยามนี้กู้ซีจิ่วกระทำการด้วยอารมณ์ชั่ววูบยิ่งนัก ใช้ยันต์ถ่ายทอดเสียงติดต่อเขาอีกครั้ง ฝ่ายนั้นเพิ่งจะกดรับ เธอก็ถามเข้าประเด็นเลย “ท่านอยู่ไหน? ข้าจะไปหาท่าน”

“ไม่ต้องหรอก คืนนี้ดึกมากแล้ว” ตี้ฝูอีปฏิเสธทันที

กู้ซีจิ่วหัวร้อนแล้ว “แต่ข้าอยากเจอท่านจริงๆ นี่ ท่านไม่อยากเจอข้าหรือ? ตอนนี้ข้าอยู่ที่คูเมือง…ถ้าท่านไม่มาข้าจะกระโดดน้ำซะดีไหม?”

น้ำเสียงตี้ฝูอีค่อนข้างจนปัญญา “เอาล่ะ อย่าวุ่นวาย พรุ่งนี้ข้าจะไปหาเจ้า ตอนนี้รีบเข้านอนได้แล้ว”

ด้วยเหตุนี้ ยันต์ถ่ายทอเสียงจึงถูกตัดสายอีกครั้ง

กู้ซีจิ่วมีน้ำโหขึ้นมาทันที เจ้าคนผู้นี้ไม่กลัวเธอจะกระโดดน้ำเลย…

จากนั้นทึ้งผมอีกทีหนึ่ง ดูเหมือนเขาไม่กลัวเธอจะกระโดดน้ำจริงๆ เนื่องจากทักษะทางน้ำของเธอกีกว่าเขาทุกอย่าง ไม่จมน้ำตายแน่นอน

เอาเถอะ เธอใช้อุบายนี้ขู่เขาไม่ได้แล้ว

กู้ซีจิ่วนั่งรับลมเย็นๆ อยู่ริมแม่น้ำอีกสักพัก ก็ใช้วิชาเคลื่อนย้ายไปที่จวนทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายของเขาโดยตรง

หลายวันมานี้ตี้ฝูอีล้วนพำนักสะสางเรื่องราวอยู่ที่จวนของเขา ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะไม่ได้ติดต่อกับเขา แต่ข้างกายเธอก็มีสายข่าวอยู่มากมาย สอบถามเล็กน้อยก็ทราบร่องรอยของเขาแล้ว

จวนทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่เคยเงียบเหงาวังเวงได้รับการบูรณะใหม่อีกครั้ง กลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาอีกหน สาวใช้ข้ารับใช้ในจวนยังคงมีอยู่ไม่น้อย กระปรี้กระเปร่านัก

กู้ซีจิ่วนอยู่ในเรือนรอบหนึ่ง หาเงาร่างของตี้ฝูอีไม่พบเลย กลับพบเจอมู่เฟิงเข้า

มู่เฟิงค่อนข้างตกใจกับการปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของเธอ แต่เมื่อเห็นเธอก็ยังคงกระตือรือร้นยิ่งนัก เชื้อเชิญเธอไปที่โถงรับรอง

กู้ซีจิ่วถามถึงเบาะแสของตี้ฝูอี มู่เฟิงส่ายหน้า บอกว่าเบาะแสของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นปริศนามาโดยตลอด วันนี้ออกไปตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว ยามที่ออกไปไม่ได้บอกพวกเขาสี่คนอย่างชัดเจนว่าจะไปไหน เพียงแต่คาดว่าคืนนี้คงไม่กลับมา

กู้ซีจิ่วพูดคุยสัพเพเหระกับมู่เฟิงอยู่หลายประโยค

เธอหลอกถามเขาอยู่นานสองนาน ถึงด้ทราบจากปากของมู่เฟิงว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไม่ได้ลอบตระเตรียมงานวิวาห์อันใดเลยจริงๆ…

กู้ซีจิ่วรู้สึกผิดหวัง ถ้าตี้ฝูอีลอบจัดเตรียมงานวิวาห์จริงๆ ก็เป็นไปได้ที่จะปิดบังสี่ทูตด้วย ยามนี้พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน นั่นยืนยันได้ว่าตี้ฝูอียังไม่มีแผนการนี้ชั่วขณะจริงๆ

เขาไม่ได้จะเซอร์ไพรซ์เธอ…

ความผิดหวังของเธอแทบจะห้อยเอาไว้บนหน้า ในเมื่อที่นี่หาตัวตี้ฝูอีไม่เจอ อีกทั้งได้รับข่าวที่เธอต้องการ เธอจึงลุกขึ้นกล่าวอำลา

————————————————————————————-

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset