The Strongest Hokage – ตอนที่ 421 : ทีม

“พูดก็พูดเถอะ คิมิมาโร่ ก็ดูเป็นผู้ชายที่หล่อเหล่ามากเลยทีเดียวนะ แต่ความสามารถของเขาก็น่าขนลุกไปหน่อย น่าเสียดายจริง ๆ คงจะมีแค่ ท่านไนโตะ เท่านั้นแหละที่…”

 

หลังจากที่เธอมองไปที่ คิมิมาโร่ และพูดแบบนั้น จู่ ๆ ไนโตะ ก็โผล่เข้ามาในความคิดของ คาริน

 

สำหรับ ฮาคุ เธอไม่สนใจเขาโดยสิ้นเชิง เขาหน้าตาดีก็จริง แต่เขาดูเหมือนเด็กผู้หญิงมากไปหน่อย และคำเดียวที่เธอใช้อธิบายเขาได้ก็คือความสวยงาม คาริน รู้ดีว่าสถานการณ์มันไม่เหมาะสมสำหรับการประเมินเช่นนี้ แต่เธอก็อดคิดไม่ได้

 

แกร๊ก! แกร๊ก!

 

ชั้นน้ำแข็งแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและทำให้ทุกอย่างรอบตัวกลายเป็นน้ำแข็งทันที ดังนั้น คิมิมาโร่ ที่อยู่ใกล้กับ ฮาคุ มาที่สุดจึงไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้และถูกแช่แข็ง

 

ยิ่งไปกว่านั้นน้ำแข็งยังคงเกาะตัวเขาและหนาขึ้นเรื่อย ๆ

 

คิมิมาโร่ ที่ถูกแช่แข็งในน้ำแข็งดูประหลาดใจและพึมพำในใจ “ น้ำแข็งนี่ ฮาคุ แข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว แต่…”

 

ทันใดนั้นแววตาที่เฉียบคมก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของ คิมิมาโร่

 

“วิชากระดูก : ระบำต้นเฟิร์น!”

 

หลังจากเสร็จสิ้นการแปลงโหมดเซียนขั้นที่ 2 คิมิมาโร่ ก็สามารถใช้วิชานี้ได้อย่างง่ายดายและไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเขา

 

แพ้ง! แพ้ง!!

 

ในทันใดนั้นกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากร่างของ คิมิมาโร่ ทะลุชั้นน้ำแข็งและบดขยี้ชั้นน้ำทันที

 

กระดูกเหล่านั้นยังคงแพร่กระจายออกไปและเจาะออกมาจากใต้เท้าของเขา จากนั้นก็ขยายออกไปทุกทิศทางจนเกือบจะทำให้ดินแดนน้ำแข็งของ ฮาคุ กลายเป็นป่ากระดูก!

 

สีหน้าของ ฮาคุ ดูจริงจังมาก เขากระโดดไปมาระหว่างกระดูกเหล่านี้ด้วยความยืดหยุ่นมากในขณะที่มือของเขากำลังประสานอิน

 

“คาถาน้ำแข็ง : เสาน้ำแข็ง”

 

แกร๊ก!!

 

เมื่อเขากระโดดขึ้นไปในอากาศ น้ำแข็งก็ปรากฏขึ้นที่เท้าของ ฮาคุ และจากนั้นก็กระจายออกไปในทันที จากนั้นก็เชื่อมต่อกับพื้นด้านล่างจนกลายเป็นพื้นน้ำแข็งสำหรับเขา

 

เมื่อเห็นสิ่งนี้ คิมิมาโร่ ก็กำลังจะพุ่งเข้าหา ฮาคุ และโจมตีเขา แต่จู่ ๆ เขาก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นในสนาม

 

“เอาล่ะ พอได้แล้ว”

 

พวกเขาไม่รู้ว่าเขาปรากฏตัวเมื่อไหร่ แต่ในขณะที่ ไนโตะ ก็อยู่ที่นั่นและน้ำแข็งรอบ ๆ สถานที่นั้นก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ

 

“ท่านไนโตะ!”

 

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ฮาคุ และ คิมิมาโร่ ก็หยุดเคลื่อนไหวพร้อมกันและทักทาย ไนโตะ ที่มาที่นี่

 

คาริน ที่เพิ่งนึกถึงเขาเมื่อสักครู่นี้ก็หน้าแดงขึ้นมาเมื่อเห็นเขา เธอแอบมอง ไนโตะ อย่างลับ ๆ และรู้สึกอายเล็กน้อยที่จะก้าวไปหาเขาเพราะตอนนี้เธอเพิ่งคิดเรื่องน่ารังเกียจมากมายกับเขา

 

ไนโตะ มองไปที่การทำลายล้างที่เกิดจากพวกเขา 2 คนในสนาม จากนั้นก็ยิ้มออกมาและพูดว่า “สงสัยครั้งหน้าพวกนายต้องไปฝึกนอกหมู่บ้านแล้วล่ะ ไม่งั้นหมู่บ้านคงจะถูกทำลายเข้าสักวันแน่นอน”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของ ไนโตะ ฮาคุ และ คิมิมาโร่ ต่างก็รู้สึกอับอายและก้มหัวให้ ไนโตะ อีกครั้ง

 

“ขอโทษครับ ท่านไนโตะ”

 

ไนโตะ ส่ายหัวอย่างสบาย ๆ แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ด้วยความสามารถของ ฮาคุ นาย 2 คนสามารถสร้างสรนามฝึกในทะเลได้”

 

เมื่อพูดถึงตอนนี้ ไนโตะ ก็หยุดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็มองไปที่ คาริน ที่อยู่ห่างออกไป

 

การแสดงออกและการเคลื่อนไหวแปลก ๆ ของเธอประกอบกับความเข้าใจในตัวละครของเธออย่างมากทำให้ ไนโตะ สามารถเดาได้คร่าว ๆ ว่าเธอมีความคิดที่น่ารังเกียจแบบไหนอยู่ในใจ

 

เมื่อพูดถึง คาริน ตอนนี้เธอก็แข็งแกร่งเช่นกัน อย่างไรก็ตามในตอนแรกเธอเป็นนินจาประเภทต่อสู้ซึ่งสามารถตรวจจับและวิเคราะห์ได้ดี พลังที่ซ่อนอยู่ของเธอไม่ได้ด้อยไปกว่า ฮาคุ และ คิมิมาโระ เท่าไรเลย

 

ในแง่ของการรักษา ด้วยความช่วยเหลือของการวิจัยของ โอโรจิมารุ และด้วยวิชานินจาแพทย์ของ ซึนาเดะ รวมกับความช่วยเหลือของ ไนโตะ และ คุชินะ ทำให้ความสามารถในการรักษาของเธอได้รับการพัฒนาในที่สุด และเธอก็สามารถใช้มันได้โดยไม่ต้องใช้การกัด ตอนนี้เธอสามารถรักษาคนอื่นได้ด้วยการสัมผัสพวกเขา

 

สรุปแล้วความสามารถในการรักษาของเธอช่างไร้สาระจริง ๆ

 

ไนโตะ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนินจาและมีพลังในระดับเซียน 6 วิถี , คุชินะ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสมาชิก ตระกูลอุซึมากิ ที่แข็งแกร่งที่สุด , ซึนาเดะ ปรมาจารย์ด้านวิชานินจาแพทย์ และ โอโรจิมารุ นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะผู้บ้าคลั่งและ

 

หากทั้ง 4 คนไม่ได้ช่วยเธอทำลายขีดจำกัดและพัฒนาความสามารถของเธอ ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับพวกเขา

 

“คาริน มานี่!”

 

“ทะ ท่านไนโตะ…”

 

คาริน ตะโกนใส่ ฮาคุ และ คิมิมาโระ ตลอดทั้งวัน แต่พออยู่ต่อหน้า ไนโตะ เธอก็ไม่กล้าที่จะทำให้เขาขุ่นเคือง

 

ไนโตะ มองไปที คาริน ที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ แต่จู่ ๆ ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและใช้ฝ่ามือจับศีรษะของเธอแล้วก็หมดสติไปกับพื้น

 

“อ่า~~”

 

คาริน ปิดหน้าผากของเธอส่งเสียงแปลก ๆ

 

ฮาคุ “…”

 

คิมิมาโร่ “…”

 

ไนโตะ “…”

 

ถ้าเขาไม่รู้จักบุคลิกปกติของเธอ เขาคงโดนเธอหลอกแน่ ๆ

 

หลังจากส่ายหัว ไนโตะ ก็เริ่มให้คำแนะนำกับ ฮาคุ และ คิมิมาโร่ และวิธีที่พวกเขาจะสามารถปรับปรุงทั้ง วิชากระดูก และ คาถาน้ำแข็ง ได้

 

ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ได้ใช้วิชาเหล่านี้คงจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะช่วยพวกเขาหรือสอนพวกเขา

 

แม้ว่าจะเป็น ไนโตะ ที่เปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ได้ถึงประตูที่ 6 แล้วมันก็ยังเป็นเรื่องยาก และเขาทำได้แค่สอนวิธีควบคุมจักระให้ดีขึ้นเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ที่เข้าสู่ระดับเซียน 6 วิถี และเริ่มคุ้นเคยกับขีดจำกัดสายเลือดทั้งหมดเพราะการดูดซับพลังของ เนตรสังสาระ และ เนตรจุติ

 

ไนโตะ รู้สึกได้ว่าเขาอยู่ไม่ไกลจากการเปิดประตูบานสุดท้ายของ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังแบบย้อนกลับ และเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ เนตรสังสาระ และ เนตรจุติ เพิ่มพลังให้ทั้งทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของเขา

 

หลังจากช่วย ฮาคุ และ คิมิมาโร่ ฝึกซ้อมแล้ว ไนโตะ ก็ฝึกให้ คาริน และชี้ให้เธอเห็นบางสิ่งที่เธอต้องทำก่อนที่การเรียนจะจบ

 

เนื่องจาก ฮาคุ และ คิมิมาโร่ ผ่านขั้นทั้ง 2 ของการแปลงโหมดเซียนแล้ว ดังนั้น ไนโตะ จึงไม่ต้องสอนอะไรพวกเขาอีกต่อไปและหากไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นนั้นก็คงจะเป็นสิ่งสุดท้ายแล้วที่เขาจะได้สอนพวกเขา

 

ทั้ง 2 ไม่ต้องรับการสอนอะไรเพิ่มอีกแล้วเพราะถนนตรงหน้าของพวกเขานั้นชัดเจนมาก

 

ตอนนี้ทั้ง ฮาคุ และ คิมิมาโร่ อายุได้ 15 ปีแล้ว แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ถึงระดับ คาเงะ แล้ว และไล่ตาม อุจิฮะ อิทาจิ มาติด ๆ!

 

แม้ว่าเธอจะไม่ได้ฝึกฝนมากนัก แต่ความแข็งแกร่งของเธอก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่า ฮาคุ และ คิมิมาโร่ และเธอก็แข็งแกร่งถึงระดับ คาเงะ แล้วด้วยเช่นกัน

 

อธิบายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ความแข็งแกร่งของทั้ง 3 คนนี้อาจใกล้เคียงกับระดับ สุดยอดคาเงะ แล้ว แต่ก็ยังไม่ดีเท่ากับ อิทาจิ ที่เพิ่งจะอายุ 13 แต่สามารถปลุก เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ได้แล้วและไปถึงระดับ สุดยอดคาเงะ แล้ว ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นอัจฉริยะที่แท้จริง

 

The Strongest Hokage

The Strongest Hokage

ผลปีศาจ เป็นที่รู้จักกันดีว่ามันเป็นผลไม้ที่ให้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่ง One Piece… ขีดจำกัดสายเลือด เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งนินจา Naruto… แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก ผลปีศาจ ถูกพบในโลกแห่งนินจา Naruto และถ้าหากมันถูกกินมันจะให้พลังแก่ผู้ที่กินมันเทียบเท่ากับพลังของขีดจำกัดสายเลือดหรือไม่ แล้วผู้ที่กินผลปีศาจเข้าไปจะทำอย่างไรกับพลังที่เขาได้รับมาบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นย้อนกลับไปก่อนมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset