The Strongest Hokage – ตอนที่ 371

“เด็กน้อย…เธอมาทำอะไรตรงนั้น?”

 

ไก มองเด็กน้อยอย่างแปลก ๆ และถามออกไป เขารู้สึกว่ามีคนกำลังแอบดูพวกเขาอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นแค่เด็กน้อยคนนี้

 

แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับคนถามของ ไก แต่เด็กน้อยก็ไม่ตื่นตระหนกและตอบอย่างใจเย็นว่า “เปล่าครับ…ผมแค่มาฝึกดาวกระจายอยู่แถว ๆ นี้แล้วบังเอิญได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง ผมเลยลองเดินมาดู”

 

“อย่างนั้นเหรอ…”

 

ไก ยิ้มให้เด็กชาย เขาดูไม่ใส่ใจเท่าไหร่

 

อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ที่ยืนอยู่ที่นั่นก็มองไปที่เด็กคนนั้นด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง

 

ถึงแม้ว่าเขาจะยังเป็นเด็ก แต่ ไนโตะ ก็สามารถจำเขาได้อย่างง่ายดาย เขาคือ อุจิฮะ อิทาจิ

 

ซาสึเกะ เกิดมาได้สักพักแล้ว และสำหรับ นารูโตะ…ตัวตนของเขาถูก ซารุโทบิ ปกปิดเอาไว้และเขาก็ไม่ได้ใช้นามสกุลของพ่อ เขาใช้นามสกุลของแม่เหมือนในการ์ตูน

 

อุจิฮะ อิทาจิ ไม่เคยเห็น ไนโตะ มาก่อน อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่เขารู้ว่าทั้ง 2 คนที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นแข็งแกร่งมาก

 

อิทาจิ ไม่รู้ว่า ไนโตะ แข็งแกร่งขนาดไหนเพราะภายนอกแล้ว ไนโตะ ก็ดูเหมือนคนธรรมดา แต่ ไก ก็ดูแข็งแกร่งมากและดูเหมือนว่า ไนโตะ จะเป็นอาจารย์ของ ไก ดังนั้นเขาจึงแน่ใจว่า ไนโตะ ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน

 

แม้ว่า อิทาจิ จะยังเด็ก แต่วิธีคิดของเขานั้นแตกต่างจากคนในวัยเดียวกันอย่างสิ้นเชิง

 

“ขอโทษที่มารบกวนครับ ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้เลย”

 

อิทาจิ ก้มหัวเล็กน้อยให้กับ ไนโตะ และ ไก จากนั้นเขาก็หันหลังและเตรียมตัวออกไป

 

ในขณะนั้น ไก ก็สังเกตเห็นสัญลักษณ์ที่ด้านหลังเสื้อของ อิทาจิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ ตระกูลอุจิฮะ

 

ตระกูลอุจิฮะ?!

 

เขาประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่สนใจอะไรมาก

 

เมื่อ อิทาจิ จากไป ไนโตะ ก็ส่ายหัวแล้วตบไหล่ ไก เบา ๆ

 

ฟึ๊ม!!

 

ทันใดนั้น ไก ก็รู้สึกได้ว่าแรงโนมถ่วงนั้นรุนแรงมากขึ้นราวกับว่ามีใครเอาภูเขามาวางไว้บนร่างกายของเขา นี่คือ คาถาดิน : เพิ่มน้ำหนักหิน

 

ไก ไม่สามารถฝึกวิชา อาภรณ์สายฟ้า ได้ และเขาก็ไม่สามารถใช้คาถาดินได้ แต่เขายังมี ไนโตะ คอยช่วยเขาอยู่

 

“เจ๋ง! ต่อไปก็วิดพื้นอีก 500 ครั้ง!”

 

เมื่อรู้สึกได้ถึงน้ำหนักบนร่างกายของเขา ใบหน้าของ ไก ก็ตื่นเต้นและฝึกต่อไป

 

ขณะที่ ไนโตะ มองไปยังทิศทางที่ อุจิฮะ อิทาจิ จากไป ใบหน้าของเขาก็แสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมา

 

……

 

ๆอุจิฮะ อิทาจิ กลับไปที่ฝึกซ้อมของเขาและเริ่มฝึกต่อ เขาจ้องมองไปที่เป้าที่ติดอยู่ที่ลำต้นของต้นไม้ จากนั้นเขาก็หยิบดาวกระจายหลายอันออกมาแล้วขว้างพวกมันไปที่เป้าทันที

 

ปั๊กปั๊กปั๊ก!!

 

ดาวกระจายเหล่านั้นพุ่งเข้าปักเป้าหมายด้วยความแม่นยำ

 

อิทาจิ เหลือบมองไปที่เป้าที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นเขาก็กัดฟันแน่นแล้วหยิบดาวกระจายออกมา 2 อันและขว้างมันออกไป

 

เป้ง!!

 

เมื่อดาวกระจายทั้ง 2 บินไปได้ครึ่งทางพวกเขาก็ชนกันกลางอากาศแล้วอันหนึ่งก็เปลี่ยนวิถีและพุ่งเข้าหาเป้าที่อยู่ด้านข้าง

 

อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้เข้ากลางเป้า แต่มันปักเข้าที่ขอบ

 

“ต้องเพิ่มพลังหมุนเข้าไปมากกว่านี้…”

 

เมื่อมองไปที่ภาพนี้ อิทาจิ ก็พึมพำออกมา จากนั้นก็เดินไปหยิบดาวกระจายกลับมา

 

ในขณะเดียวกันเขาก็นึกภาพ ไก ตอนกำลังฝึกขึ้นมา

 

“ร่างกายของเขาแข็งแกร่งมาก เขาฝึกให้บรรลุระดับความแข็งแกร่งของร่างกายถึงขั้นนั้นได้ยังไง?”

 

ด้วยสีหน้าครุ่นคิด อิทาจิ ก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมา

 

จากนั้น อิทาจิ ก็นึกถึง ไนโตะ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไก

 

“คนที่สวมเสื้อคลุมสีขาวดูเหมือนไม่ใช้คนธรรมดา แต่เรารู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้รวมเข้ากับธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์”

 

“ถ้าเราถามพวกเขา พวกเขาจะยอมบอกเราไหมน่ะ?”

 

อิทาจิ ลังเลเล็กน้อยจากนั้นก็ส่ายหัวในที่สุด

 

ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง อิทาจิ กลับไปที่บ้านของเขาและทันทีที่เขาถึงบ้านเขาก็ไปหา ซาสึเกะ น้องชายของเขาก่อน จากนั้นเขาก็มารวมตัวกับครอบครัวเพื่อรับประทานอาหารค่ำ

 

ในห้องอาหาร อิทาจิ ก็พูดคุยกับพ่อของเขา , ฟูกาคุ ถึงเรื่องคนที่เขาในป่าทั้ง 2 คน

 

เมื่อ ฟูกาคุ ได้ยิน อิทาจิ อธิบายถึงลักษณะของคนที่เจอ เขาก็เบิกตากว้างและจำภาพหนึ่งขึ้นมาได้ทันที ภาพที่ ไมโตะ ได พ่อของ ไก เปิดประตูด่านพลังบานที่ 8 และจัดการกับ 4 หาง และ 5 หาง ได้ด้วยหมัดเดียว

 

แม้ว่า ฟูกาคุ จะไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนั้น เพราะเขาก็เป็นคนนำ กองกำลังตำรวจแห่งโคโนฮะ ไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในหมู่บ้าน แต่เขาก็ยังสามารถมองเห็นภาพที่น่าตกใจนี้ได้

 

ที่จริงแล้วนินจาทุกคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น ยกเว้นเด็ก ๆ อย่าง อิทาจิ พวกเขามองเห็นเป็นเพียงแค่ลำแสงที่โจมตี สัตว์หาง ทั้ง 2 ตัวเท่านั้น

 

ทุกคนยกย่องให้ ได เป็นวีรบุรุษ และโดยธรรมชาติแล้วผู้คนก็ต้องเป็นห่วง ไก ลูกชายของเขาเป็นอย่างมาก

 

แน่นอนว่านั้นเป็นแรงบันดาลใจให้กับนินจาหลายคนและทำให้พวกเขาพยายามฝึกฝน กระบวนเปิดประตูด่านพลัง แต่พวกเขาส่วนใหญ่ก็ยอมแพ้อย่างรวดเร็ว แม้ว่ามันจะได้รับพลังมหาศาลแต่เพื่อการฝึก พวกเขาต้องละทิ้ง วิชาคาถา และ วิชาลวงตา เกือบทั้งหมดและทุ่มเทให้กับความแข็งแกร่งของร่างกายเท่านั้น

 

ไม่อย่างนั้นคุณก็จะไม่สามารถไปถึงระดับนั้นได้

 

และพูดตามตรง และมีคนจำนวนไม่มากที่มีความตั้งใจจริงที่จะฝึกฝนอย่างหนักแบบนั้น

 

การพูดถึง ไก ทำให้ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวของ ฟูกาคุ แต่เขาก็ยังคงเก็บกดมันไว้และยังคงกินข้าวต่อไป

 

แต่เมื่อ อิทาจิ อธิบายถึงอีกคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็น ไนโตะ การเคลื่อนไหวของ ฟูกาคุ ก็ชะงัดไปทันที

 

“ลูกแน่ใจเหรอ?! ไก เรียกเขาว่าอาจารย์เหรอ?” สีหน้าของ ฟูกาคุ เคร่งขรึมขึ้นทันที

 

“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”

 

อิทาจิ จ้องมองไปที่พ่อของเขาอย่างแปลกใจด้วยความสงสัยว่าทำไมพ่อของเขาถึงใส่ใจเรื่องนี้มากขนาดนี้

 

ฟูกาคุ ไม่คิดว่า ไนโตะ จะยังอยู่ที่ โคโนฮะ แต่ถ้าเขาอยากจะอยู่ ใครจะขัดเขาได้ ไม่มีใครในโลกที่จะห้ามไม่ให้เขาทำอะไรได้ ฟูกาคุ บ่นในใจอย่างลับ ๆ พร้อมกับความกลัวที่ดวงตาของเขา

 

ฟูกาคุ หายใจเข้าลึก ๆ เขาแทบจะไม่สามารถสงบสติของเขาได้ เขามองไปที่ อิทาจิ แล้วพูดว่า “ถ้าลูกเจอเขาอีก อย่าบอกเขาเด็ดขาดว่าลูกเป็น อุจิฮะ และทำความเคารพเขาส่ะ และอย่าพยายามท้าทายเขาเด็ดขาด!”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ อิทาจิ ได้เห็นพ่อของเขาพูดอย่างจริงจังขนาดนี้ แม้ว่าพ่อของเขาจะพูดถึง ซารุโทบิ , โฮคาเงะ รุ่น 3 พ่อของเขาก็ไม่เคยแสดงออกแบบนี้

 

คนแบบไหนที่ทำให้พ่อของเขาดูหวาดกลัวได้มากขนาดนี้ แม้ว่าจะเป็นแค่การเอ่ยถึงชื่อคนคนนั้นทั้ง ๆ ที่คนคนนั้นไม่ได้อยู่ตรงนี้ก็ตาม!

The Strongest Hokage

The Strongest Hokage

ผลปีศาจ เป็นที่รู้จักกันดีว่ามันเป็นผลไม้ที่ให้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่ง One Piece… ขีดจำกัดสายเลือด เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งนินจา Naruto… แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก ผลปีศาจ ถูกพบในโลกแห่งนินจา Naruto และถ้าหากมันถูกกินมันจะให้พลังแก่ผู้ที่กินมันเทียบเท่ากับพลังของขีดจำกัดสายเลือดหรือไม่ แล้วผู้ที่กินผลปีศาจเข้าไปจะทำอย่างไรกับพลังที่เขาได้รับมาบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นย้อนกลับไปก่อนมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset