ไนโตะ มองลงไปที่ ราซา ด้วยสายตาเย็นชาในขณะที่ใบหน้าของ ราซา ดูหวาดกลัวและพูดไม่ออก
หลังจากนั้นเมื่อพวกเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นผู้ติดตาม 2 คนของ ราซา ก็ดูตกใจเป็นอย่างมาก
“ท่านราซา!”
“บ้าเอ้ย!”
แม้ว่าทั้ง 2 คนจะกลัว ไนโตะ มาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรีบวิ่งเข้าหา ไนโตะ เพราะหน้าที่ของพวกเขาคือปกป้อง คาเสะคาเงะ
ไนโตะ ปล่อยไหล่ของ ราซา จากนั้นเขาก็หันไปหาผู้ติดตาม 2 คนของ ราซา ที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเขา แต่คราวนี้เขาไม่แม้แต่จะโจมตี แต่จ้องที่พวกเขาอย่างเย็นชา
ฟึ้ม!!
การกระทำที่เรียบง่ายนั้นทำให้การเคลื่อนไหวของพวกเขาหยุดนิ่งในทันที พวกเขาตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ราวกับว่าพวกเขาถูกฟ้าผ่า
การจ้องมองนั้นดูเหมือนจะมีพลังที่น่ากลัวซึ่งสามารถทำให้โลกทั้งใบแตกสลายได้ พวกเขาหยุดเคลื่อนไหว หยุดคิด หยุดหายใจด้วยซ้ำ!
จนกระทั่งเขาหันกลับมาและไม่ได้มองพวกเขาอีกต่อไป ถึงขยับได้อีกครั้ง หัวใจของพวกเขาเต็มรัวไม่เป็นจังหวะและเสื้อผ้าของพวกเขาก็ชุ่มเหงื่อ
ตั้งแต่วินาทีที่เขาก้าวเข้ามาในห้องนี้บรรยากาศในห้องก็ดูน่ากลัว
ยกเว้นเสียงหายใจที่หนักหน่วงของผู้ติดตามทั้ง 2 คน ทุกคนก็เงียบสนิท หลังจากดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง ราซา ก็สามารถออกมาจากหลุมได้แต่ดูเหมือนว่าเขายังคงหวาดกลัวขณะที่เขามองไปที่ ไนโตะ
ในห้องนี้นอกเหนือจาก ไรคาเงะ รุ่น 4 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยต่อสู้กับ ไนโตะ และรู้ว่า ไนโตะ น่ากลัวเพียงใด คาเงะ คนอื่น ๆ ก็ดูเขาอย่างหวาดผวาเช่นกันรวมไปถึง ซารุโทบิ ด้วย
ไม่มีใครคิดว่าความเร็วของ ไนโตะ จะเร็วขนาดนี้ พวกเขาไม่สามารถมองเห็นความเร็วของ ไนโตะ ด้วยตาเปล่าได้ พวกเขาประหลาดใจพอ ๆ กับ คาเสะคาเงะ รุ่น 5 เมื่อ ไนโตะ ปรากฏตัวข้างหลังเขา!
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือถ้า ไนโตะ ตัดสินใจที่จะฆ่าพวกเขามันจะใช้เวลาเพียงชั่วครู่และพวกเขาจะไม่สามารถโต้ตอบได้เลย เว้นแต่พวกเขาจะเตรียมการล่วงหน้าและร่วมมือกันเพื่อขัดขวางการโจมตีของเขา
ไนโตะ เหลือบมองไปที่ ราซา อีกครั้ง จากนั้นก็ไม่สนใจเขาอีกเลย แล้วหันไปมอง โอโนกิ ซึจิคาเงะ รุ่น 3 ที่มีเหงื่อเย็นหยดที่หน้าผาก
ครั้งหนึ่ง โอโนกิ เคยต่อสู้กับ ไนโตะ และเขายังคงเห็นว่านิสัยของ ไนโตะ ไม่เปลี่ยนแปลงเลย
“ท่านซึจิคาเงะ รุ่น 3…เราได้พบกันอีกครั้งแล้วนะ”
เมื่อมองไปที่ โอโนกิ ไนโตะ ก็พูดออกมาอย่างไม่แยแส
“อือ”
โอโนกิ ซึจิคาเงะ รุ่น 3 หายใจเข้าลึก ๆ แล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แต่ดวงตาของเขาตื่นตัวมาก
ไม่มีใครในห้องนี้เป็นตัวละครธรรมดา ๆ แม้แต่ ราซา ในฐานะ คาเสะคาเงะ รุ่น 5 ที่ยังเด็กมากและสามารถเติมเต็มบทบาทนี้ได้ ให้เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกนี้
อย่างไรก็ตามต่อหน้า ไนโตะ เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เพียงแค่ ไนโตะ สัมผัสเขาเบา ๆ เขาก็ล้มลงกับพื้นโดยที่ไม่สามารถสู้กลับได้
ความเร็วและพลังนี้เหลือเชื่อมาก!
ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นเรื่องจริง ชายคนนี้มีพลังระดับเทพเขาไม่ต่างอะไรกับ เซนจู ฮาชิรามะ หรือ อุวิฮะ มาดาระ!
“ฉันคิดว่าท่านกำลังพูดถึง…สถานะ” ไนโตะ มอง โอโนกิ อย่างเย็นชาขณะยืนอยู่กลางห้องเขาหันกลับมาและพูดว่า “ซึนาเดะ เป็นครูของฉัน ดังนั้นฉันคิดว่าพวกท่านควรสุภาพกับเธอ จริงไหม?”
เมื่อพูดแบบนั้นเขาก็มองไปที่ โอโนกิ อีกครั้งจากนั้นก็เดินไปทีละก้าว
ในแต่ละก้าวแรงกดดันองเขาก็แพร่กระจายอย่างรุนแรงไปทุกทิศทาง!
แรงผลักดันที่น่าสยดสยองนี้ท่วมท้นทำให้ผู้คนที่อยู่ต่อหน้าเปิดเผยความสยดสยองของพวกเขา เมื่อเขาเดินไปได้ครึ่งทางพื้นดินใต้เท้าเขาก็ไม่สามารถแบกเขาไว้ข้างบนได้อีกต่อไปและทันใดนั้นมันก็แตก!
เมื่อแรงกดดันแผ่กระจายออกไปนอกห้อง ซามูไร ที่อยู่ข้างนอกก็ดูตกตะลึงและความรู้สึกกดดันที่ทำให้ร่างกายของพวกเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น
เมื่อแรงกดดันของเขาแข็งแกร่งขึ้นแม้แต่ผู้ติดตามของ 5 คาเงะ ก็ไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป!
พวกเขารู้สึกเหมือนคนแคระที่อยู่ต่อหน้ายักษ์!
“บ้าเอ้ย…”
โอโนกิ รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาเย็นลงราวกับว่าเวลาของเขามาถึงแล้วในทุกย่างก้าวที่ ไนโตะ ก้าวเข้าหาเขา เขารู้สึกราวกับว่ามีภูเขาลูกใหญ่กดทับที่หลังของเขาอยู่
เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ในขณะนั้นในที่สุด โอโนกิ ก็ตัดสินใจที่จะโจมตี
ทันใดนั้นเขาก็ตบมือทั้ง 2 ข้างและตะโกนว่า
“คาถาธุลี : แยกพิภพบรรพกาล!”
วาม!!!
ก้อนสีขาวก่อตัวขึ้นจากนั้นบินตรงไปยัง ไนโตะ
โอโนกิ ไม่ปรารถนาที่จะฆ่า ไนโตะ ได้ เขาเพียงแค่ต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของ ไนโตะ หรือหยุดการเคลื่อนไหวของ ไนโตะ เพื่อให้แรงกดดันจักระของ ไนโตะ ลดลงเท่านั้น
ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะไม่สามารถทนได้หากแรงกดดันจักระของ ไนโตะ แข็งแกร่งขึ้น!
นี่มันไม่ใช่วิชาอะไร มันเป็นเพียงพลังทางจิตวิญญาณของ ไนโตะ เท่านั้น!
อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับ คาถาธุลี ของ โอโรกิ ไนโตะ ก็ไม่ได้หยุด เขายังคงรักษาความเร็วเดิมและก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ
ในอดีต ไนโตะ เคยได้เผชิญหน้ากับ โอโนกิ มันเป็นการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิต ไนโตะ เป็นหนึ่งในศัตรูตัวฉกาจที่ครั้งหนึ่งเคยใช้ดาบฟันเขา แต่ตอนนี้ ไนโตะ อยู่คนละระดับกับเขา แม้แต่ คาถาธุลี…ก็เป็นแค่ฝุ่นผงต่อหน้า ไนโตะ!
เมื่อหันหน้าไปทางลูกบาศก์ที่พุ่งเข้าหาเขา ไนโตะ ก็ยื่นมือออกไปขณะที่จ้องมองไปที่ โอโนกิ เขาก็จับมันไว้ด้วยมือเปล่า!
ลูกบาศก์หยุดเคลื่อนไหวทันที!
แคร๊ก!!
ทันใดนั้นรอยแตกบนอากาศก็ห่อลูกบาศก์จากทุกทิศทางทำให้มันหดตัวลงจนเท่าขนาดมือของเขา!
ในที่สุด ไนโตะ ก็จับมันได้โดยตรงแล้วกดเบา ๆ
ฟิ้ง!!!
ทันใดนั้นแสงสีขาวก็สว่างวาบภายในฝ่ามือของ ไนโตะ ทำให้ทุกคนแสบตาจนมองไม่เห็น
แสงพราวนี้ดูราวกับว่าเกิดจากการระเบิดของดวงดาวบนท้องฟ้า แต่มันอยู่ได้ไม่นานและค่อย ๆ จางหายไป
เมื่อทุกคนพยายามลืมตาขึ้นและเห็นภาพในห้องได้อย่างชัดเจน
ไนโตะ ลดมือลงช้า ๆ โดยที่เขายังคงเดินไปหา โอโนกิ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทุกคนเงียบ
พวกเขามองอย่างตกตะลึงโดยเฉพาะผู้ติดตามของ โอโนกิ แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
เขา…สลาย คาถาธุลี ด้วยมือเปล่า?!
ในฐานะนินจาของ หมู่บ้านอิวะ พวกเขารู้ดีว่า คาถาธุลี นั้นแข็งแกร่งเพียงใด
แต่ คาถาธุลี ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดา ขีดจำกัดสายเลือด ทั้งหมด กลับพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย แม้ว่าเขาจะเป็น เทพเจ้าแห่งนินจา แต่เขาก็ไม่ควรมีพลังที่น่ากลัวเช่นนี้ มันเหลือเชื่อมาก!
เมื่อเทียบกับความสยองขวัญที่ 2 คนนี้รู้สึก โอโนกิ รู้สึกกลัวมากกว่านั้นหลายเท่า
ถ้าจะเป็นใครที่รู้จักพลังของ คาถาธุลี มากที่สุด คนคนนั้นก็คือ โอโนกิ อย่างไม่ต้องสงสัย
โอโนกิ ซึจิคาเงะ รุ่น 3 และ มู ซึจิคาเงะ รุ่น 2 เคยต่อสู้กับ อุจิฮะ มาดาระ แม้ว่าพวกเขาจะรอดชีวิตมาได้ แต่พวกเขาก็เกือบจะถูก มาดาระ บดขยี้ แต่ในตอนนั้นพลังของ คาถาธุลี ก็ได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของมันด้วยการทะลุทะลวง ซูซาโนะโอะ ของ มาดาระ
นอกจากนี้ โอโนกิ ยังเชื่อว่าแม้ว่าเขาจะได้เผชิญหน้ากับ โฮคาเงะ รุ่นแรก เซนจู ฮาชิรามะ ด้วย คาถาธุลี ของเขา เขาก็จะไม่หนักใจขนาดนี้!