บรรยากาศที่มืดมนนี้ไม่มีผลกระทบ ไนโตะ เขาเดินเข้าไปในอาคารทันทีและตรงไปที่ห้องทดลองของ โอโรจิมารุ
อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะถึงประตู เขาก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอายุน้อยกว่าเขาประมาณ 2 – 3 ปีกำลังถือถาดที่มีขวดทดลองบางอย่างวางอยู่เดินออกมาจากห้อง
ช่วงเวลาที่เธอเห็นเขา เธอตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก จากนั้นเธอก็รู้ถึงตัวตนของเขาในทันทีและอดไม่ได้จนต้องร้องอุทานออกมา
“นะ…ไนโตะ!”
ทุกคนใน โคโนฮะ เคารพและนับถือ ไนโตะ และเด็กหญิงคนนี้ก็ไม่แตกต่างกัน
การได้เห็น ไนโตะ ยืนอยู่ข้างหน้าเธออย่างกะทันหันทำให้หัวใจเธอเต้นเร็วและทำให้เธอตกใจ จนทำให้มือเธอสั่นและขวดทดลองบนถาดก็หล่นลงมา
แย่แล้ว!
สิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เธอลนลานที่จะเก็บสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่เธอก็ตื่นตระหนกจนไม่สามารถทำได้ เธอได้แต่อุทานด้วยความตกใจ ในขณะที่ขวดกำลังจะตกถึงพื้น
ไนโตะ ยักคิ้วขึ้นเมื่อเห็นทดลองเหล่านี้กำลังลอยและล่วงหล่นลงอยู่ในอากาศ จากนั้นเขาก็เคลื่อนที่ชั่วพริบตาหลายครั้งแล้วนำขวดทดลองเหล่านี้กลับมาวางถาดที่เด็กหญิงคนนั้นถืออยู่
ในตอนแรก เธอคนนั้นทำได้แค่เพียงยืนหน้าซีดและรอให้ขวดทดลองหล่นแตกลงพื้น แต่เธอก็แปลกในมากเมื่อพบว่าขวดเหล่านั้นกลับมาอยู่บนถาด
“ขอบคุณ…ขอบคุณค่ะ ไนโตะ…”
เด็กสาวไม่คิดว่า ไนโตะ จะช่วยเธอและเธอก็ค่อนข้างปลื้มกับเรื่องนั้น เธอขอบคุณเขาด้วยรอยยิ้มที่น่ารักบนแก้มของเธอ
ไนโตะ มองเธออย่างประหลาด ตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเห็นเธอออกมาจากห้องทดลอง เขาก็รู้สึกว่าหน้าตาเธอดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงถามเธอออกไป
“เธอคือ มิตาราชิ อังโกะ ใช่ไหม ?”
การได้ยิน ไนโตะ พูดชื่อเธอก็ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เธอไม่คิดว่านินจาระดับสูงอย่าง ไนโตะ จะรู้ชื่อของเธอ นั่นทำให้หัวใจของเธอเต้นอย่างแรงเหมือนจะระเบิดออกมา ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถตอบสนองอะไรกลับไปได้เลย
เธอเป็นลูกศิษย์ของ โอโรจิมารุ และเธอยังเป็นผู้ช่วยของเขาอีกด้วย และคนที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดในใจของเธอนอกจาก โอโรจิมารุ ที่เป็นทั้งอาจารย์และเจ้านายของเขาก็คือ ไนโตะ
เมื่อมองดูปฏิกิริยาของเธอ ก็ทำให้ ไนโตะ รู้สึกประหลาดใจ เขาแค่เดาชื่อเธอ เขาไม่คิดว่าเธอจะจริงจังขนาดนี้
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว คาคาชิ ,ยูฮิ คุเรไน , ไก และ อังโกะ ก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
ฮาตาเคะ คาคาชิ เป็นนินจาที่มีความสามารถมากที่สุดในรุ่นนี้ ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะได้เป็น โจนิน เมื่อไม่นานมานี้
อาจเป็นเพราะ ซากุโมะ ยังไม่ตายเหมือนในการ์ตูน คาคาชิ จึงมีได้คำแนะนำจากพ่อของเขาและได้ มินาโตะ เป็นครูของเขา ซึ่งช่วยพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาให้เร็วกว่าในการ์ตูน ทำให้เขาเป็น โจนิน ได้ตั้งแต่เขาอายุเพียงแค่ 11 ปีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ไก ก็อยู่ไม่ไกลจากการเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 เมื่อเขาทำได้เขาก็จะมีพลังไม่น้อยไปกว่า คาคาชิ เลย และเมื่อเขาเปิดประตูด่านพลังบานที่ 6 ได้ เขาก็จะไปถึงระดับ คาเงะ
“ไม่คิดเลยว่าคนอย่าง ไนโตะ จะรู้จักลูกศิษย์คนนี้ของฉัน นี่ถือว่าเป็นเกียรติกับเธอมากเลยน่ะ”
โอโรจิมารุ เดินออกมาจากห้องทดลอง และดูประหลาดใจที่เห็น ไนโตะ และ อังโกะ อยู่ด้วยกัน
ในช่วงเวลานี้ อังโกะ ชื่นชมและเคารพ โอโรจิมารุ ในฐานะเจ้านายและอาจารย์ของเธอ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกอายที่ทำให้ โอโรจิมารุ ต้องหยุดงานและและออกจากห้องทดลองเพื่อมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
“ไม่มีอะไรเสียหายนิ…เธอไปได้แล้ว”
โอโรจิมารุ โบกมือให้กับ อังโกะ จากนั้นเขาก็มองไปที่ ไนโตะ แล้วพูดว่า “เพราะฉันต้องการผู้ช่วย ฉันเลยเลือกเธอ อย่างไรก็ตามคนรุ่นใหม่ย่อมดีกว่าเสมอ”
ไนโตะ ส่ายหัวแล้วเดินเข้าไปในห้องทดลอง
อังโกะ พยักหน้าอย่างเคารพ จากนั้นเธอก็ยกของไปที่ห้องถัดไป การแสดงออกของเธอดูสงบ แต่หัวใจของเธอเหมือนกำลังจะระเบิดออกมา
เธอไม่รู้ว่าทำไม ไนโตะ ถึงรู้ชื่อของเธอ
แม้ว่าเธอมักจะแอบดูเขาจากในฝูงชนอยู่บ่อยครั้ง แต่ ไนโตะ ก็ไม่เคยสนใจเธอเลย แต่เธอก็ไม่รู้สึกเสียใจเพราะเธอเองก็เพิ่งจบจากโรงเรียนนินจา และเขาก็อยู่ในจุดสูงสุดของโลก!
ระดับของเธอและเขาต่างกันมากจนเธอทำได้แค่ชื่นชมเขาอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น เธอไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะเข้าใกล้เขาได้เลย
แต่ตอนนี้เธอก็รู้ว่า ไนโตะ รู้จักชื่อเธอ ซึ่งทำให้เธออดไม่ได้ที่จะคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ความคิดของเธอนั้นก็สูงเกินไป
…..
ห้องทดลองของ โอโรจิมารุ
พลังสถิตร่างของ 4 หาง และ พลังสถิตร่างของ 5 หาง ถูกผูกมัดด้วยผนึกที่แข็งแกร่ง พวกเขาเค้นจักระออกมาบ้างเป็นครั้งคราว แต่พวกเขาก็ไม่สามารรถทำลายผนึกได้
“ดูเหมือนว่างานวิจัยของฉันจะไม่ได้ช่วยอะไรเธอสิน่ะ”
โอโรจิมารุ ดูเหมือนจะรู้ว่าทำไม ไนโตะ ถึงกลับมาที่นี่
นไนโตะ พยักหน้าเล็กน้อย เขาไม่ได้มาขอข้อมูลใหม่ แต่เขามาเพื่อให้แน่ใจว่า โอโรจมารุ ทำงานหนักกับ 4 หาง และ 5 หาง ที่เขานำมาให้อยู่จริง ๆ
“เธอต้องการความช่วยเหลือ ฉันก็ให้เธอไปหมดเท่าที่ฉันรู้แล้ว ตอนนี้เธอคงต้องการวิธีการที่ดีที่สุดเพื่อศึกษาพลังวิญญาณ”
โอโรจิมารุ ตอบพร้อมกับจ้องมองไปที่ใบหน้าของ ไนโตะ “และตอนนี้ เธอก็ได้มอบ พลังสถิตร่าง 2 คนนี้ให้ฉันแล้ว และฉันจะใช้พวกเขาอย่างระมัดระวัง”
“สัตว์หาง เป็นตัวทดลองที่สมบูรณ์แบบ ฉันเพิ่งได้พวกเขามาไม่กี่วันแต่ฉันก็พบกับคำตอบมากมาย…ที่จริงแล้วฉันสามารถให้ผลลัพธ์เหล่านี้กับเธอได้เลยตอนนี้”
คำขอเพียงอย่างเดียวของ โอโรจิมารุ ก็คือนำพลังสถิตร่างมาให้เขา และอย่างที่เห็น เขามีความตั้งใจและระมัดระวังเป็นอย่างมาก นอกจากนี้แล้ว งานวิจัยของเขาที่เกี่ยกับ คาถาสัมภเวสีคืนชีพ ก็เกี่ยวข้องกับ พลังวิญญาณ อันที่จริงมันเป็นแกนหลักของคาถานี้เลยก็ว่าได้
เมื่อได้ยินว่า โอโรจิมารุ จัดการกับเรื่องนี้อย่างระมัดระวังและตั้งใจ ไนโตะ ก็รู้สึกชื่นชมความสามารถของเขามากยิ่งขึ้น
เมื่อเทียบกับ 3 นินจาในตำนานคนอื่น เขามีพรสวรรค์ที่พิเศษที่สุดและกระหายการวิจัยยิ่งกว่า ซึนาเดะ
“ฉันจะรอ”
ไนโตะ ตอบอย่างใจเย็นแล้วเขาก็เดินออกไป เขาไม่รีบร้อนที่จะรู้สิ่งที่ โอโรจิมารุ เพิ่งจะตกผลึกมาได้ในช่วงไม่กี่วันนี้
สิ่งที่ถูกค้นพบในไม่กี่วันย่อมไม่สมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน มันต้องมีความสะเพร่าหรือความประมาทอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ทัศนคติของ ไนโตะ นั้นจริงจังเหมือนกับ โอโรจิมารุ
“การวิจัยจะสำเร็จในไม่ช้า”
โอโรจิมารุ พูดด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้ายบนใบหน้าของเขาในขณะที่เขาเฝ้าดู ไนโตะ เดินจากไป