หลังจากที่ ไนโตะ สั่งให้ 7 หาง หยิบ พลังสถิตร่าง ของ 1 หาง ขึ้นมา ไนโตะ ก็เหลือบไปมอง นินจาซึนะ ที่อยู่ห่างออกไปอีกฝากหนึ่งของสนามรบ
พวกเขาเกือบทั้งหมดเหมือนถูกแช่แข็งอยู่กับที่ในขณะที่มองไปที่ ไนโตะ และหลังจากที่พวกเขาสังเกตเห็นว่า ไนโตะ มองกลับมาที่พวกเขา พวกเขาก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจและเหงื่อก็ปรากฏขึ้นมาบนหน้าของพวกเขาจนชุ่ม
ไม่แปลกที่พวกเขาจะกลัว
“ฉันจะปล่อยพวกคุณไป”
หลังจากที่ ไนโตะ พูดจบ เขาก็กระโดขึ้นไปบนหลังของ 7 หาง ในขณะที่ นินจาโคโนฮะ ยังคงยืนอยู่เฉย ๆ
จากนั้น 7 หาง ก็บินออกจากสนามรบพร้อมกับ ไนโตะ ที่อยู่บนหลังของเขา
เมื่อ ไนโตะ จากไป สถานการณ์ของทั้ง 2 ฝ่าย ก็เปลี่ยนไปทันที
นินจาโคโนฮะ จ้องมองไปที่ นินจาซึนะ ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของสนามรบ และแสดงจิตสังหารออกมาอย่างชัดเจน พวกเขาคิดว่าในที่สุดโอกาสที่พวกเขาจะได้แก้แค้นก็มาถึง!
ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง นินจาซึนะ กลับดูหวาดกลัว ทันใดนั้นใครบางคนก็ออกคำสั่งให้ล่าถอย จากนั้นพวกเขาก็วิ่งหนีกันอย่างไม่คิดชีวิต
แน่นอนว่า กองกำลังของโคโนฮะ จะไม่ปล่อยพวกเขาให้หนีไปได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน ทันทีที่เห็นพวกเขาวิ่งหนี นินจาโคโนฮะ ก็ตามไล่ล่าพวกเขาทันที!
ขณะที่ กองกำลังของโคโนฮะ บุกไล่ล่า นินจาซึนะ แต่ คาคาชิ ก็ยังคงจ้องมองไปยังทิศทางที่ ไนโตะ และ 7 หาง บินจากไปด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว ในเวลานั้นดูเหมือนว่าในที่สุดเขาก็เข้าใจคำพูดของพ่อ
แน่นอนว่าเมื่ออยู่ต่อหน้า ไนโตะ ไม่มีใครมีสิทธิ์เรียกตัวเองว่า อัจฉริยะ!
คาคาชิ ไม่รู้ว่าเขาจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ไปถึงระดับนั้น ระดับที่มนุษย์ไม่สามารถไปถึงได้ ระดับที่เหนือกว่าอัจฉริยะ!
“นี่สินะคือพลังที่แท้จริงของ เทพเจ้า…พลังของ ไนโตะ…” คาคาชิ อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาเบา ๆ
ซาคุโมะ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา ตบไหล่เขาเลา ๆ แล้วพูดว่า “คนบางคน ต่อให้เราทำยังไงเราก็ไม่มีวันตามเขาทัน มันเป็นแบบนั้นเสมอ แม้ว่าเขาจะยังเด็กอยู่ก็ตาม”
“ถึงจะพูดอย่างงั้น แต่เมื่อก่อนเขาก็เคยอ่อนแอเหมือนกัน ถ้า ไนโตะ เก่งขึ้นได้ ลูกก็มีโอกาสทำได้เหมือนกันนะ…ถ้าลูกอยากรู้ว่าทำยังไงก็ลองถามเขาดูละกัน”
…….
หลังจากที่ ไนโตะ ยึด พลังสถิตร่าง มาได้ เขาก็ไม่สนใจสนามรบอีกต่อไป เขาสั่งให้ 7 หาง มุ่งหน้าไปยัง โคโนฮะ ทันที และในไม่ช้าบินข้าม แคว้นแห่งไฟและไปถึงท้องฟ้าเหนือ หมู่บ้านโคโนฮะ
เขามองไปที่หมู่บ้านที่อยู่เบื้องล่าง และมันก็ยังคงเหมือนกับในความทรงจำของเขา มันยังคงเป็นเหมือนกับดินแดนที่แสนเงียบสงบและมีชีวิตชีวาเหมือนเช่นเดิม
แต่อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในตอนนี้ก็ดูมืดหม่นกว่าแต่ก่อน ราวกับว่าทุกคนในหมู่บ้านรู้สึกได้ถึงแรงกดดันของ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3
มี นินจาโคโนฮะ คอยเดินลาดตระเวนอยู่ตลดเวลาทั่วทั้งหมู่บ้าน
พวกเขาพยายามมองหาสายลับที่อาจลักลอบเข้ามาในหมู่บ้าน ในขณะเดียวกัน นินจาคนอื่น ๆ ก็กำลังจับตาดูศัตรูที่อาจโจมตีพวกเขามาจากท้องฟ้า
ในโลกนี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถบินได้ แต่ก็มี สัตว์หาง ที่บินได้อยู่!
หมู่บ้านคิริ มีคาถานินจาลับสายหมอกหลายคาถาที่สามารถช่วยให้พวกเขาจู่โจม โคโนฮะ ได้อย่างไม่ทันตั้งตัว
หมู่บ้านอิวะ มีอุปกรณ์พิเศษที่ช่วยให้พวกเขาโจมตีจากใต้ดินได้
ในขณะที่ หมู่บ้านคุโมะ มีนินจาที่มีความเร็วสูงที่สามารถบุกโจมตีได้อย่างรวดเร็ว
โคโนฮะ สามารถถูโจมตีได้จากทิศทุกทางในทุกเวลา ดังนั้น โคโนฮะ จึงต้องมีนินจากระจายตัวอยู่ทุกซอกทุกมุมของหมู่บ้าน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีทุกรูปแบบ
ในขณะนั้น นินจาบางคนก็สังเกตเห็นบางอย่างแปลก ๆ บนท้องฟ้าที่กำลังใกล้เข้ามา
และทันทีที่สิ่งนั้นเขามาใกล้จนสามารถมองเห็นเป็นรูปเป็นร่างได้ พวกเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที
ฟื้ว!!
7 หาง กำลังมุ่งหน้าสู้หมู่บ้านด้วยความเร็วสูง
“นั่นมัน…สัตว์หาง ไม่ใช่เหรอ?!”
“7 หาง งั้นเหรอ?!”
“แย่แล้ว!!”
เหล่านินจาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า พวกเขาทั้งหมดดูหวาดกลัว พวกชาวบ้านยิ่งแล้วใหญ่ บางคนก็วิ่งกรีดร้องไปทั่วเพื่อพยายามหาทางหนี
7 หาง กำลังรู้สึกสนุกเมื่อได้เห็นผู้คนหวาดกลัวเขา
ไนโตะ ที่ยืนอยู่บนหลังของ 7 หาง เขารู้ว่าการกระทำของ 7 หาง กำลังทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว แต่เขาก็ขี้เกียจเกินกว่าที่จะห้าม 7 หาง เขาปล่อยให้ 7 หาง ทำตามใจชอบ ซึ่งทำให้ 7 หาง เล่นสนุกต่อไปเรียบ ๆ
7 หาง ปล่อยแรงดันจักระที่รุนแรงมากออกมาจนทำให้ ซารุโทบิ และคนอื่น ๆ ต้องออกมาเพื่อจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ซารุโทบิ ได้รับรายงานจากสนามรบแล้วว่า ในที่สุด ไนโตะ ก็มาช่วยพวกเขาและเขาก็สามารถเอาชนะ 1 หาง และจับ พลังสถิตร่าง ของ 1 หาง มาได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม ซารุโทบิ ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความตกใจออกมาเมื่อเห็น ไนตะ ยืนอยู่บนหลังของ 7 หาง
ไนโตะ ไม่เคยทำล้มเลวเลยในการทำให้เขาทึ่งได้แบบนี้
นินจาและชาวบ้านบางคนมองเห็น ไนโตะ ที่ยืนอยู่บนหลังของ 7 หาง ทำให้พวกเขาต้องตะโกนออกมา
“นั่นใช่…ไนโตะ หรือเปล่านะ?!”
โคโนฮะ ไม่เคยคิดว่า ไนโตะ เป็น นินจาถอนตัว หรือเรียกการกระทำของเขาว่าเป็นกบฏ ดังนั้นในสายตาของชาวบ้านและนินจาทั่วไป พวกเขาคิดว่า ไนโตะ แค่เดินทางไปทั่วโลกและจบลงด้วยการต่อสู้กับ หมู่บ้านอาเมะ และต้องขอบคุณความกล้าหาญของเขาที่เขายอมเป็นผู้นำ หมู่บ้านอาเมะ เพื่อเปลี่ยนแปลงที่นั่น
การได้เห็น ไนโตะ ยืนอยู่บนหลังของ 7 หาง ทำให้พวกเขาทุกคนรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังมองเห็นเทพเจ้าด้วยสายตาของพวกเขาเอง ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกถึงทั้งความกลัวและความชื่นชมในเวลาเดียวกัน
ช่วงเวลานั้น ทำให้ความรู้สึกของพวกเขาเปลี่ยนไปเป็นและความสุขก็เข้าควบคุมหัวใจของพวกเขา
เมื่อ ไนโตะ อยู่ที่นี่ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 ก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป!
ในสายตาของหลาย ๆ คน ไนโตะ เป็นเทพเจ้า แม้แต่ชื่อเสียงของ ซารุโทบิ ในฐานะ โฮคาเงะ ของ โคโนฮะ ก็ไม่สามารถเทียบกับ ไนโตะ ได้
ภายใต้การจ้องมองของทุกคนในหมู่บ้าน ไนโตะ ก็กระโดดลงจากหลังของ 7 หาง และลงสู่พื้นด้านหน้าของ ซารุโทบิ
“ไนโตะ เธอมา…”
เมื่อ ซารุโทบิ มองไปที่ ไนโตะ เขาก็รู้สึกสับสบ เขาไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเขาควรจะรู้สึกอย่างไรกับการมาถึงของ ไนโตะ กันแน่ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาถอนหายใจในใจ เขาก็ทักทาย ไนโตะ ด้วยรอยยิ้ม
น่าเหลือเชื่อว่า โฮคาเงะ ที่แข็งแกร่งกลับต้องรู้สึกประหม่าเมื่ออยู่ต่อหน้า ไนโตะ!
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นั้นก็อันตราย มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตและความตายของ โคโนฮะ และมีเพียง ไนโตะ เท่านั้นที่สามารถช่วยพวกเขาให้พ้นจากวิกฤตินี้ได้ แม้ว่าเขาจะเป็น โฮคาเงะ แต่เขาก็จำเป็นต้องทำตัวให้เป็นมิตรที่สุดกับ ไนโตะ
เกือบทุกครั้งที่ ไนโตะ เจอ ซารุโทบิ ความคิดและทัศนคติของ ซารุโทบิ จะเปลี่ยนไป
ในตอนนี้ ถึง ซารุโทบิ จะยิ้ม แต่เขาก็ไม่สามารถซ่อนความกังวลที่อยู่ในใจของเขาได้
ไนโตะ กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดีกับชายคนนี้ที่ทำให้ คุชินะ ต้องทนทุกข์มาอย่างยาวนาน เพราะบุคลิกที่อ่อนแอและวิสัยทัศน์แคบ ๆ ของเขา แต่ ไนโตะ ก็เลือกที่จะไม่ทำอะไร ท้ายที่สุดแล้ว ซารุโทบิ ก็ไม่ใช่คนที่ไม่ดีหรือคนที่เลวร้าย และอย่างน้อยเขาก็ดีกว่า ดันโซ
ติดตามข่าวสารจากเพจ Facebook : Chan’s Translation นิยายแปลไทย@TranslatedByMild