The Strongest Hokage – ตอนที่ 255

“ท่านมาดาระ ไนโตะ หายตัวไปได้ 3 เดือนแล้ว”

เซ็ทสึ ยืนอยู่หน้า มาดาระ และรายงานสถานการณ์ต่าง ๆ ของโลกเบื้องบนเหมือนเช่นที่เขาเคยทำมาโดยตลอด

มาดาระ ดูพึงพอใจเล็กน้อย และด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เขาเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ได้เวลาแล้ว”

……..

ภูเขาเมียวโบคุ

น้ำมันไหลตกลงมาและไหลกลับไปยังสระน้ำ ในขณะที่ ไนโตะ กำลังนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่ที่ขอบสระ

พลังงานธรรมชาติกำลังก่อตัวเป็นรูปร่างคล้ายน้ำวนอยู่รวมตัวกันรอบ ๆ ไนโตะ ในขณะที่เขานั่งอยู่ในใจกลางของกระแสพลังงานที่วนอยู่นั้น และดูดซับมันอย่างต่อเนื่อง

การไหลของพลังงานธรรมชาติที่น่ากลัวและรุนแรงนี้ สามารถสัมผัสได้ทั่วทั้งภูเขา

“เจ้านั่นใช้เวลานานกว่า 2 เดือนแล้วใช่ไหม?”

“3 เดือนแล้ว และฉันก็ไม่เคยเห็นการฝึกแบบนี้มาก่อน”

กบตัวเล็ก 2 ตัวกำลังคุยกัน ในขณะที่พวกเขากำลังเฝ้าดู ไนโตะ จากระยะไกล

เกือบ 3 เดือนแล้วที่ ไนโตะ มาอยู่ที่นี่และเริ่มฝึก

ตั้งแต่เขาเริ่มทำการฝึก เขาก็ไม่ได้นอนและไม่ได้ดื่มหรือกินอะไรเลย สิ่งที่เขาทำก็คือดูดซับพลังงานอย่างต่อเนื่องเท่านั้น เขาอยู่นิ่งมากจนเหมือนกับเขาเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ

การไหลของพลังงานธรรมชาติรอบตัวเขาน่ากลัว แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในสถานที่นั้น

เพราะมีนกบินมาเกาะที่หัวของ ไนโตะ แต่มันก็ไม่เป็นอะไรเลย

ขณะนี้ ไนโตะ เติมพลังให้ประตูด่านพลังเต็มไปแล้วทั้งหมด 4 ประตู ยิ่งไปกว่านั้น ประตูด่านพลังบานที่ 5 ก็เกือบจะเต็มแล้วเช่นกัน

พลังงานธรรมชาติไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง แต่พลังงานเหล่านั้นก็ไม่ได้เข้าไปผสานเข้ากับจักระของเขา แต่มันไหลเข้าสู่ประตูที่ 5 ในทันทีที่ ไนโตะ ดูดซับเข้าไป

ในที่สุด ประตูด่านพลังทั้ง 5 บานก็เต็มไปด้วยพลังงานธรรมชาติ

ในขณะนี้ การไหลของพลังงานธรรมชาติที่น่ากลัวรอบตัวของ ไนโตะ ก็เริ่มหยุดและสงบลงอย่างช้า ๆ จากนั้นมันก็กลับสู่สภาวะปกติ

เปลือกตาของ ไนโตะ สั่นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

“ใช้เวลาไม่ถึง 3 เดือน…ก็แหงล่ะ พลังงานธรรมชาติที่นี่มหาศาลขนาดนี้”

หลังจากพึมพำกับตัวเอง ไนโตะ ก็ยืนขึ้น นั่นทำให้นกที่เกาะอยู่บนหัวของเขาตกใจและบินหนีไป

เขาบิดขี้เกียดทันทีหลังจากที่เขายืนขึ้น หลังจากไม่ได้เคลื่อนไหวมาเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน มันไม่ดีต่อสุขภาพแม้แต่กับนินจาก็ตาม มีแต่สิ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะเท่านั้นถึงจะทำแบบนั้นได้

ในตอนแรก เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่อาการก็หายไปได้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งไปกว่านั้น ไนโตะ ก็สามารถรู้สึกได้ถึงการพัฒนาของเขาอย่างชัดเจน เขาสามารถรู้สึกได้ถึงพลังที่ไม่มีใครเทียบได้ภายในร่างกายของเขา

ไนโตะ ไม่ลืมที่จะดูความสามารถในการฟื้นฟูของเขา

ไนโตะ ต้องการตรวจสอบความสามารถในการรักษาตัวเองของเขา ในตอนที่เขาสามารถเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ได้ ความสามารถในการรักษาของเขาก็ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากแล้ว แต่ตอนนี้หลังจากที่เขาเชี่ยวชาญโหมดเซียน และเข้าถึงบางส่วนของ โหมดเซียนขั้นที่ 2 ร่างกายของเขาก็เกือบจะเป็นอมตะแล้ว แต่แน่นอนว่ายังไม่ถึงระดับของ ฮาชิรามะ แน่นอน

เมื่อวิเคราะห์ความสามารถของร่างกายในตอนนี้ ไนโตะ ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ

“คงไม่ต้องดูดซับพลังงานธรรมชาติอีกแล้ว ตอนนี้ประตูด่านพลังทั้ง 5 บานได้รับการผสานเข้ากับพลังงานอย่างสมบูรณ์แล้ว หลังจากนี้เราก็จะดูดซับพลังงานแบบเดิม คงจะใช้เวลาอีกหลายเดือนละมั้ง”

หลังจากนั้นไม่นาน ไนโตะ ก็ค้นพบว่าระยะสัมผัสพิเศษของเขานั้นก็เพิ่มขึ้นอีกด้วย ดูเหมือนว่าการฝึกร่างอมตะจะช่วยเสริมพลังวิญญาณของเขาด้วย

เขาสัมผัสได้ถึงสัตว์ต่าง ๆ เช่น มด และกบที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถมองเห็นได้หมดทั้งภูเขา แต่เขาก็รู้ว่าบนภูเขาแห่งนี้มีกบอยู่เป็นจำนวนมาก

ไนโตะ ไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป เพราะเขาไม่ต้องการดูดซับพลังงานธรรมชาติอีกแล้วหลังจากที่เขาดูดซับมันมากว่า 3 เดือน และตอนนี้เขาก็พร้อมที่จะเดินทางกลับหมู่บ้าน

เขาจะกลับมาที่นี่อีกหลังจากผ่านไป 2 – 3 เดือน และทำแบบเดิมซ้ำอีกครั้ง

มันจะใช้เวลาไม่นานนัก เขาจะต้องทำซ้ำแบบนั้นอีก 2 – 3 ครั้ง แล้วเขาก็จะเข้าถึงโหมดเซียนขั้นที่ 2 อย่างสมบูรณ์

ฟึ๊บ!!

ทันใดนั้น ไนโตะ ก็เคลื่อนที่ชั่วพริบตาอยู่หลายครั้งเพื่อออกจากที่นี่

ปัจจุบันความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขานั้นเร็วมากจนดูเหมือนจะเห็นหนึ่งในวิชาเคลื่อนที่ชั่วพริบตา

ในไม่ช้า ไนโตะ ก็ออกจาก ภูเขาเมียวโบคุ

ก่อนที่เขาจะเริ่มการฝึก ไนโตะ ได้ขอให้กบส่งข้อความไปถึง โคโนฮะ และเนื่องจากพวกกบและ โคโนฮะ มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน พวกเขาจึงยินดีที่จะส่งข้อความไปให้

จิไรยะ ตกใจมากเมื่อรู้ว่า ไนโตะ ไปที่ ภูเขาเมียวโบคุ เพื่อฝึกโหมดเซียนขั้นที่ 2 แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อว่ามันเป็นความจริง

ตอนนี้ จิไรยะ สามารถเข้าสู่โหมดเซียนได้แล้ว แต่เขาก็ยังไม่เชี่ยวชาญเท่าไรนัก และทุกครั้งที่เขาเข้าโหมดเซียน ร่างของเขาก็จะเปลี่ยนไปคล้ายกับกบ และเมื่อเขาได้ยินจากกบว่าร่างของ ไนโตะ ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อยมันทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น ไนโตะ ยังมีโหมดเซียนที่แข็งแกร่งกว่า โหมดเซียนของ ภูเขาเมียวโบคุ นั่นยิ่งทำให้เขาตกใจมากยิ่งขึ้นไปอีก

ในตอนแรก จิไรยะ ต้องการพา มินาโตะ ไปที่ ภูเขาเมียวโบคุ เพื่อฝึกวิชาเซียน อย่างไรก็ตามตอนนี้ มินาโตะ ก็กำลังฝึกหนักกับวิชา เทพอัสนีเวหา ของเขาอยู่ เขาจึงไม่มีเวลาไปที่นั้น

ดังนั้นในช่วงเวลาที่ ไนโตะ อยู่ที่ ภูเขาเมียวโบคุ จึงไม่มีใครมารบกวนเขา เหมือนกับที่ เซียนกบใหญ่ กามะมารุ สั่งเอาไว้

ตลอดทางเดินข้างหน้า ไนโตะ ไม่พบอุปสรรคใด ๆ เขาเคลื่อนที่ผ่าน แคว้นแห่งไฟ มาได้ครึ้งทางอย่างรวดเร็ว และเข้าใกล้หมู่บ้านเรื่อย ๆ

“ในที่สุดเราก็ได้กลับสักที คุชินะ คงจะคิดถึงเราจะแย่อยู่แล้วมั้ง”

ในขณะที่ ไนโตะ มองไปยังทิศทางที่ตั้งของหมู่บ้าน เขาก็ยิ้มเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่ได้ออกเดินทางมาเป็นเวลานาน แต่สำหรับ คุชินะ แล้ว แม้ว่าเขาจะหายไปแค่ 3 เดือน แต่มันก็เหมือน 3 ปีสำหรับเธอ

แต่ทันใดนั้น ในขณะที่ ไนโตะ กำลังเข้าใกล้หมู่บ้านขึ้นเรื่อย ๆ เขาก็ต้องเบิดตากว้างด้วยความตกใจ

“เกิดอะไรขึ้น?!”

ไนโตะ เร่งความเร็วขึ้น ในขณะที่สีหน้าของเขาแสดงถึงความตกใจเป็นอย่างมาก

โลกกำลังมีช่วงเวลาที่สงบสุข และไม่มีสัญญาณของการเกิด สงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 แล้วทำไมเขาถึงสัมผัสได้ถึงการสั่นสะเทือนรุนแรงที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน

การสั่นสะเทือนที่ทรงพลังนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือสัญญาณของการต่อสู้ที่ดุเดือด!

The Strongest Hokage

The Strongest Hokage

ผลปีศาจ เป็นที่รู้จักกันดีว่ามันเป็นผลไม้ที่ให้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่ง One Piece… ขีดจำกัดสายเลือด เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งนินจา Naruto… แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก ผลปีศาจ ถูกพบในโลกแห่งนินจา Naruto และถ้าหากมันถูกกินมันจะให้พลังแก่ผู้ที่กินมันเทียบเท่ากับพลังของขีดจำกัดสายเลือดหรือไม่ แล้วผู้ที่กินผลปีศาจเข้าไปจะทำอย่างไรกับพลังที่เขาได้รับมาบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นย้อนกลับไปก่อนมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset