The Strongest Hokage – ตอนที่ 226

หลังจากที่ ไนโตะ ได้รับ คัมภีร์วิชาเพิ่มน้ำหนักหิน มาจาก โอโรจิมารุ เขาก็กลับออกมาจากฐานลับและเริ่มฝึกฝนวิชาคาถาดินนี้ในทันที

โดยทั่วไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะสามารเรียนรู้คุณสมบัติจักระได้ครบทุกธาตุ เหมือนกับ ซารุโทบิ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ที่สามารถควบคุมคุณสมบัติจักระได้ทั้ง 5 ธาตุ ดังนั้นเขาจึงสมควรที่จะได้รับการยกย่องว่าเป็นปรมาจารย์

มันอาจดูเหมือนง่าย แต่มันต้องใช้เวลานานมากกว่าที่จะสามารถควบคุมพวกมันได้ทั้งหมด

โชคดีที่ ไนโตะ สามารถควบคุมจักระได้เป็นอย่างดี

พรสวรรค์นี้ของ ไนโตะ ทำให้เขาสามารถใช้คาถานินจาได้แข็งแกร่งกว่าคนอื่น ๆ ซึ่งนั้นเป็นข้อดีที่ได้จากการใช้ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ

แต่ก็น่าเสียดายที่แม้ว่า ไนโตะ จะพยายามช่วยสอน ซึนาเดะ ในการใช้วิชา กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ แต่เธอก็ล้มเหลว

ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ที่ไม่มี คาถาแผ่นดินไหว ก็จะไม่สามารถทำมันได้สำเร็จต่อให้เห็น ซึนาเดะ ก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้นหาก ซึนาเดะ ยังไม่สำเร็จ วิชาเบียคุโก เธอก็คงจะได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้วจากการพยายามเปิดประตูด่านพลังแบบย้อนกลับ

หลังจากฝึกอย่างหนักไปได้ 1 สัปดาห์ ไนโตะ ก็สามารถใช้คาถาดินได้สำเร็จ หลังจากนั้น เขาก็ใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์ในการฝึกมันจนชำนาญ

หากเป็นคนอื่น พวกเขาจะไม่มีทางทำสิ่งนี้ได้ในเวลาเพียงแค่ครึ่งเดือน และแม้ว่าพวกเขาจะใช้เวลาฝึกถึงครึ่งปี พวกเขาก็จะไม่สามารถใช้คาถาที่ไม่ใช่คุณสมบัติจักระของตนเองได้

แต่สำหรับ ไนโตะ เขายังรู้สึกว่าวิธีนี้ช้าเกินไป

แม้ว่าในช่วงระยะเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมา ไนโตะ จะไม่ลืมที่จะฝึกร่างกายควบคู่ไปกับการฝึกคุณสมบัติจักระใหม่ของเขา แต่ผลที่ได้ก็เกือบจะเป็น 0

สิ่งนี้ทำให้ ไนโตะ ตัดสินใจได้ว่า เขาควรมุ่งเน้นไปที่การฝึกวิชา เพิ่มน้ำหนักหิน ก่อนที่จะฝึกร่างกายต่อไป แม้ว่ามันจะใช้เวลากว่าครึ่งปี หรือ 1 ปีก็ตาม มันก็คุ้มค่าที่จะทำ

ไม่เช่นนั้น การฝึกทางกายภาพอย่างต่อเนื่องของเขาจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย แม้ว่าเขาจะทำมันทุกวันนานเป็นเวลาเป็นเดือนเป็นปีก็ตาม

การฝึกวิชา เพิ่มน้ำหนักหิน ได้ช่วงชิงเวลาส่วนใหญ่ของ ไนโตะ ไป!

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาฝึกฝนวิชานี้ได้สำเร็จ ผลลัพธ์ก็ช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ

“คาถาดิน : เพิ่มน้ำหนักหิน!”

ตู้ม!!

ทันใดนั้นร่างกายของ ไนโตะ ที่ยืนอยู่บนกำแพงหินก็ทรุดตัวลงอย่างกระทันหันและน้ำหนักของเขาก็เพิ่มขึ้นทันที เขาใช้วิชานี้กับตัวเองทำให้กำแพงหินที่อยู่ใต้เท้าของเขาเริ่มเกิดรอยแตก!

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเพิ่มน้ำหนักแล้ว ไนโตะ ก็ยังไม่รู้สึกอึดอัดเลย แต่เขาก็ลองขยับร่างหายและพบว่าเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เหมือนก่อน จากนั้นเขาก็เริ่มแตะและต่อยหมัดง่าย ๆ ออกไป

วิชานี้เป็นการเพิ่มแรงโน้มถ่วงโดยตรงกับวัตถุ ซึ่งดีกว่าการยกน้ำหนักหรือถ่วงน้ำหนัก

การถ่วงน้ำหนักจะไม่สมดุลกับร่างกาย แต่แรงโน้มถ่วงที่ใช้โดยวิชานี้ทำให้ร่างกายเกิดความสมดุลมากและสามารถปรับน้ำหนักได้ตามปริมาณจักระของผู้ใช้

ราวกับว่าคุณมีแรงโน้มถ่วงเป็นของตัวเอง!

เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีใครในโลกที่ใช้วิชานี้เพื่อเพิ่มน้ำหนักตัวเองเพื่อใช้ในการฝึกฝนร่างกายของตัวเอง

แน่นอนว่ามีคนไม่มากที่สามารถทนต่อการฝึกฝนเช่นนี้ได้ มีแค่คนอย่าง ไมโตะ ได เท่านั้นที่ทำได้!

โดยไม่ต้องพูดถึงว่า คนส่วนใหญ่ที่เชี่ยวชาญในวิชากระบวนท่า มักไม่ถนัดในการใช้วิชาคาถา เพราะคนเหล่านั้นมีจักระที่จำกัด และมักจะมีปัญหาในการควบคุมมัน

ยกตัวอย่างชัด ๆ ก็อย่างเช่น ไมโตะ ได เขามีจักระเพียงน้อยนิดและไม่สามารถควบคุมจักระได้ ดังนั้นการใช้วิธีเพิ่มน้ำหนักด้วยคาถาเช่นเดียวกับ ไนโตะ นี้ จึงเป็นไปไม่ได้สำหรับเขา

ด้วยวิชานี้ ความก้าวหน้าของ ไนโตะ ก็เป็นไปอย่างรวดเร็วอีกครั้งและเนื่องจากสามารถปรับแรงโน้มถ่วงได้ความแข็งแรงของร่างกายของ ไนโตะ จึงแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน!

เมื่อใดก็ตามที่ ไนโตะ ต้องการเพิ่มระดับแรงโน้มถ่วง เขาก็แค่เพิ่มปริมาณจักระเข้าไป เพียงเท่านี้น้ำหนักของเขาก็จะเพิ่มมากขึ้น

ด้วยวิธีนี้ เส้นทางของ ไนโตะ ในการก้าวไปสู้การ เปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ก็กำลังจะสิ้นสุดลง

………..

โคโนฮะ

คฤหาสน์ ตระกูลอุจิฮะ

เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว นับตั้งแต่การสิ้นสุดลงของ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ความขัดแย้งต่าง ๆ ได้ถูกขจัดออกไป ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าสงครามครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้วอย่างแท้จริง

มีเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ บางแห่งอย่าง หมู่บ้านอาเมะ เท่านั้นที่ยังคงมีปัญหาอยู่

“สถานการณ์สงบลงในที่สุด…”

อุจิฮะ คาเงยาม่า เดินไปที่หน้าต่างและมองออกไปข้างนอก

ฝนกำลังตกลงมา เมฆฝนบดบังท้องฟ้าจนมิด ทำให้บรรยากาศดูน่าเบื่อเป็นอย่างมาก

“น่าแปลกที่จู่ ๆ โฮคาเงะ เลิกก่อกวนพวกเรา” คาเงยาม่า กระซิบคำเหล่านี้ขณะที่มีนินจาคนหนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหลังของเขา

เขาเป็นนินจาชั้นยอดของ ตระกูลอุจิฮะ และเป็นสมาชิกของกองกำลังตำรวจโคโนฮะ

“บางทีพวกเขาอาจจะกำลังคิดที่จะใช้เราเพื่อสร้างความสมดุลให้กับสถานการณ์ หลังจากการกลับมาของ ไนโตะ ยังไงส่ะ ไนโตะ ก็เป็นปัญหามากกว่าพวกเรา”

นินจายืนขึ้นและตอบ คาเงยาม่า

คาเงยาม่า พยักหน้าเบา ๆ จากนั้นก็ยิ้มเยาะออกมาแล้วพูดว่า “ใช่แล้ว ตอนนี้เราต้องทำให้พวกเขาเห็นว่าพวกเราสำคัญต่อพวกเขาขนาดไหน”

“แต่ยังไงก็ช่าง แค่คิดว่าพวกเขาต้องการให้เราช่วยเหลือเรื่อง ไนโตะ…แค่นี้ก็สนุกแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า”

หลังจากได้ยินประโยคที่ คาเงยาม่า พูด นินจาคนนั้นก็ดูสับสน จากนั้นเขาก็พูดว่า “แล้วเราจะทำตามคำสั่งไหม?”

คาเงยาม่า ค่อย ๆ เดินไปที่โต๊ะทำงานของเขา จากนั้นเขาก็หยิบกล่องสีดำขึ้นมาในขณะที่เขามีสีหน้าแปลก

“ไม่ คำสั่งของ โคโนฮะ ก็คงจะเป็นการจับตัว ไนโตะ…แต่เราจะไม่ทำแบบนั้น ตอนนี้สงครามได้จบลงแล้ว เราต้องทำอะไรสักอย่างกับเขา ไม่มีใครอยากเห็นเขาเติบโตไปมากกว่านี้อีกแล้ว!”

เมื่อพูดจบ คาเงยาม่า ก็ยื่นกล่องสีดำในมือให้นินจาคนนั้น แล้วพูดกับเขาว่า “นี้สำหรับเธอ…ใช้มันเพื่อฆ่า ไนโตะ…โคโนฮะ จะไม่มีทางสืบมาถึงเราได้”

“ฆ่า ไนโตะ?!”

นินจาคนนั้น ตกตะลึงแม้ว่าเขาจะเป็นสมาชิกของ ตระกูลอุจิฮะ และเป็นหนึ่งในหัวหน้าทีมของกองกำลังตำรวจโคโนฮะ เขาก็ยังรู้สึกตกใจกับประโยคนี้

คุณคิดว่า ไนโตะ เป็นใคร?

เขาเป็นคนที่ฆ่า ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 คนที่ได้ชื่อว่าเป็นอมตะ!

แล้วจะฆ่าคนที่ฆ่า ไรคาเงะ ได้ยังไง?!

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาเปิดกล่อง เขาก็ตกตะลึงแล้วสีหน้าของเขาก็แสดงถึงความกลัวอย่างชัดเจน

 

ติดตามข่าวสารจากเพจ Facebook : Chan’s Translation นิยายแปลไทย@TranslatedByMild

The Strongest Hokage

The Strongest Hokage

ผลปีศาจ เป็นที่รู้จักกันดีว่ามันเป็นผลไม้ที่ให้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่ง One Piece… ขีดจำกัดสายเลือด เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งนินจา Naruto… แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก ผลปีศาจ ถูกพบในโลกแห่งนินจา Naruto และถ้าหากมันถูกกินมันจะให้พลังแก่ผู้ที่กินมันเทียบเท่ากับพลังของขีดจำกัดสายเลือดหรือไม่ แล้วผู้ที่กินผลปีศาจเข้าไปจะทำอย่างไรกับพลังที่เขาได้รับมาบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นย้อนกลับไปก่อนมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset