ก่อนหน้านี้ ไนโตะ ไม่อยากติดต่อกับ โอโรจิมารุ
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไนโตะ รู้สึกรังเกียจเขามากเพราะพฤติกรรมของเขา ไนโตะ ไม่เคยเข้าใจเขาเลย
ถึงอย่างนั้น ไนโตะ ก็ไม่กลัว โอโรจิมารุ
เพราะความแข็งแกร่งของ ไนโตะ นั้นห่างชั้นกว่า โอโรจิมารุ!
แม้ว่า โอโรจิมารุ จะแข็งแกร่งขึ้น แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นศัตรูของ ไนโตะ
พลังสั่นสะเทือนของ ไนโตะ นั้นพัฒนาขึ้นเรื่อง ๆ จนในปัจจุบันมันกลายเป็นขีดจำกัดสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก นอกจากนี้ คลื่นสั่นสะเทือนวิญญาณ ของเขาก็แข็งแกร่งขึ้น และภูมิคุ้มกันต่อคาถาลวงตาของเขาก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
และหาก โอโรจิมารุ พยายามที่จะชิงดาบของเขาไป นั่นจะกลายเป็นจุดจบของ โอโรจิมารุ!
นินจาทุกคนมีจุดอ่อนของตัวเอง ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบในโลกใบนี้ แต่ประโยคนี้ไม่ได้ใช้กับ ไนโตะ พลังของเขาไม่ได้เป็นของโลกใบนี้
ยิ่งเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ ไนโตะ ก็ยิ่งใกล้เข้ากับความสมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อย ๆ
……
ภายในฐานมืดใต้ดิน
ไนโตะ เดินไปอย่างเงียบ ๆ ในห้องโถง ทั้งสถานที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงหินที่เหมือนเกิดขึ้นเองตามธรรมาชาติ
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็เดินไปจนเห็นแสงสว่างอยู่ด้านหน้า
ร่าง ๆ หนึ่งกำลังยืนอยู่ที่นั่น และรอการมาถึงของ ไนโตะ ด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
“น่าแปลกจริง ๆ ที่เธอมีเวลามาที่ฐานของฉัน!”
สีหน้าของ โอโรจิมารุ นั้นยากเสมอที่จะเข้าใจความคิดได้
“แล้วที่นี่ไม่ยินดีต้อนรับผมเหรอ?”
ไนโตะ มองไปที่ โอโรจิมารุ
โอโรจิมารุ ยิ้มและพูดว่า “ฉันยินดีต้อนรับเธออย่างแน่นอน เธอเป็นแขกของฉัน ตามฉันมาสิ”
เมื่อเขาพูดจบ เขาก็หันหลังกลับและเดินนำไป
เมื่อเห็นดังนั้น ไนโตะ ก็เหลือบดูอย่างสงบ แล้วเดินตาม โอโรจิมารุ เข้าไปในห้องทดลองของเขา
สถานที่นี้ใหญ่มาก แต่ด้วยสัมผัสพิเศษของ ไนโตะ เขาจึงสามารถสัมผัสได้ทุกอย่าง
ไนโตะ ไม่สนใจการทดลองในห้องทดลองนี้นอกจากการวิจัยของ โอโรจิมารุ ที่ทดลองเกี่ยวกับวิญญาณ
การวิจัยเกี่ยวกับวิญญาณได้กินเวลาการทดลองส่วนใหญ่ของ โอโรจิมารุ และค่อย ๆ กลายเป็นการทดลองหลักของเขา
ตอนนี้ โอโรจิมารุ ได้เริ่มศึกษาการสร้างวิชา คาถาสัมภเวสีคืนชีพ แล้ว
“นี้สำหรับคุณ”
หลังจากมองไปรอบ ๆ ไนโตะ ก็หยิบม้วนคัมภีร์ออกมาแล้วโยนมันให้ โอโรจิมารุ เขารับมันในขณะที่เขากำลังแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากด้วยท่าทางแปลก ๆ
หลังจากเปิดมันออกมาดู โอโรจิมารุ ก็เบิกตากว้างจากนั้นเขาก็ยิ้มให้ ไนโตะ
ไนโตะ ไม่ดูไม่ออกว่าเขามีความสุขหรือไม่ เพราะไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร รอยยิ้มของเขาก็ดูชั่วร้ายอยู่เสมอ
“เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ ขั้นที่ 3 ต้องใช้พลังสายฟ้าจากธรรมชาติภายนอกเพื่อยกระดับคุณสมบัติจักระสายฟ้าของผู้ใช้วิชา”
“ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับการทดลองดัดแปลงร่างกายของฉันได้เป็นอย่างมาก”
โอโรจิมารุ ปิดคัมภีร์กลับไปแล้วกลืนมันลงไปในท้อง และมองไปที่ ไนโตะ อีกครั้ง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่ ไนโตะ มอบให้เขาก็คือความลับของ อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 ที่ ไนโตะ ได้สรุปและเขียนขึ้นมานั้นเอง
โอโรจิมารุ เป็นคนที่ให้คัมภีร์วิชา อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 แก่ ไนโตะ และตอนนี้ ไนโตะ ได้ให้คัมภีร์วิชา อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 แก่เขา ไนโตะ ไม่คิดว่ามันจะมีประโยชน์มากสำหรับเขา แต่จากน้ำเสียงของเขาแล้วดูเหมือนว่าเขาจะสนใจมันจริง ๆ
“คุณต้องการอะไรถึงให้คัมภีร์อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 2 กับผมในตอนนั้น?”
ไนโตะ ถาม โอโรจิมารุ ไปตรง ๆ เพราะเขาขี้เกียจเกินกว่าที่จะเล่นเกมใจกับ โอโรจิมารุ
“ก็…”
โอโรจิมารุ ยิ้มแล้วพูดว่า “มีบางคนไม่ต้องการให้เธอได้มันไป ฉันไม่ชอบมัน และฉันไม่ชอบเป็นกลาง”
“ตอนนี้ฉันคิดว่าการตัดสินใจของฉันไม่ผิดเลย ด้วยคัมภีร์ที่เธอนำมาให้ฉัน เธอช่วยฉันมากกว่าที่ฉันช่วยเธอเสียอีก”
โอโรจิมารุ หัวเราะอย่างมีเล่ห์สนัย แต่หลังจากที่ ไนโตะ คุยกับเขาซักพัก ไนโตะ ก็เริ่มชินกับมัน
แต่การที่ได้ยินว่า โอโรจิมารุ รู้สึกขอบคุณ ไนโตะ ที่นำคัมภีร์มาให้เขา ทำให้ ไนโตะ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ท้ายที่สุดแล้ว อาภรณ์สายฟ้า ก็ไม่เหมาะกับรูปแบบการโจมตีของ โอโรจิมารุ
“คุณต้องใช้มันในการทดลองงั้นเหรอ?”
“แน่นอน”
โอโรจิมารุ ยิ้มแล้วเขาก็เดินไปยังอีกห้องหนึ่ง
ไนโตะ ขมวดคิ้วเล็กน้อยจากนั้นก็เดินตามเขาไป
โอโรจิมารุ จับคนธรรมดาและศัตรูจากหมู่บ้านอื่นไว้ในห้องนี้ ดูเหมือนว่า โอโรจิมารุ จะยังไม่ได้เริ่มทำการทดลองกับ นินจาของโคโนฮะ แต่ทว่าเขาก็มีโอกาสที่ดีในช่วงสงครามเพื่อจับคนเหล่านี้
ด้านในสุดของห้องนี้ มีประตูบานหนึ่ง ที่จะนำไปสู่อีกห้องหนึ่ง ที่เขาใช้ทำการทดสอบกับสัตว์
“ฉันไม่รู้ว่า คุณไนโตะ เคยได้ยินเรื่องนี้หรือเปล่า เรื่องที่ว่า ในโลกแห่งนี้ยังมีพลังงานอีกอย่างหนึ่ง ที่นอกเหนือจากที่นินจาใช้อยู่”
ประโยคของ โอโรจิมารุ ทำให้ ไนโตะ เกือบที่จะพูดออกมา
พลังงานธรรมชาติ!
ในเวลาเดียวกัน ไนโตะ ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ โอโรจิมารุ สนใจในพลังงานธรรมชาติตั้งแต่ตอนนี้ แม้ว่าเขาจะยังไม่เคยเรียนรู้วิธีการใช้มันก็ตาม
ภูเขาเมียวโบคุ (วิชาเซียนกบ) , ถ้ำริวจิ (วิชาเซียนงู) และ ป่าชิโคซึ (วิชาเซียนทาก) ทั้ง 3 แห่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังงานเฉพาะเป็นของตนเอง และทั้งหมดถูกกล่าวถึงในการ์ตูน แม้ว่า ป่าชิโคซึ จะไม่เคยปรากฏให้เห็นก็ตาม
ในช่วง มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 คาคุโตะ สามารถเรียนรู้พลังงานธรรมชาติและเหนือกว่า โอโรจิมารุ ได้
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ คิดว่า โอโรจิมารุ จะไม่สามารถไปถึงระดับที่สามารถใช้โหมดเซียนได้ เพราะร่างกายของเขาอ่อนแอลงมากหลังจากที่เขาสูญเสียมือทั้ง 2 ข้าง โดยการผนึกของ รุ่นที่ 3!
โดยไม่พูดถึงว่า การย้ายร่างทำให้ของเขาอ่อนแอลงไปอีก
ติดตามข่าวสารจากเพจ Facebook : Chan’s Translation นิยายแปลไทย@TranslatedByMild