เสื้อผ้าของทั้ง 4 คนไม่พอดีกับตัว ไนโตะ แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องเปลือยกายอีกต่อไป แล้วเขาจะสามารถหาเสื้อผ้าใหม่ได้เมื่อเขาเจอเมืองต่อไป
ไนโตะ ขี้เกียจเกินกว่าที่จะทำลายศพเหล่านี้ หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเขาก็หันหน้ากลับและเดินไปมองที่ด้านล่างภูเขา
ไนโตะ มองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากเมฆที่ล้อมรอบภูเขาอยู่
อย่างไรก็ตาม การใช้สัมผัสพิเศษของเขา ทำให้เขาสามารถสัมผัสได้ถึงทุกสิ่งที่ชัดเจนรอบตัวเขาและรัศมีการรับรู้ของเขาก็มากกว่าเดินอย่างไม่น่าเชื่อ
มันคงเป็นเพราะการต่อสู้ระหว่างเขากับ ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 ที่ทำให้พลังของเขาแข็งแกร่งขึ้นและทำให้พลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน
ความมุ่งมั่นของแต่ละบุคคล เป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างพลังวิญญาณของคนนั้น
และเนื่องจากพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นจึงทำให้ คลื่นสั่นสะเทือนวิญญาณ ของเขาแข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน แม้แต่นินจาระดับสูงก็ไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป
“โอเค ได้เวลาลงไปแล้ว”
ไนโตะ มองไปที่ก้อนเมฆรอบ ๆ ตัวเขา จากนั้นเขาก็ยิ้มเยาะและกระโดดลงไปที่ด้านล่างของภูเขา!
ฟึ๊บ!!
ราวกับว่าเขาเป็นดาวตกที่กำลังตกลงมาจากท้องฟ้า ทะลุผ่านเมฆและตกลงมาเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด และทันทีที่เขาลงมาถึงพื้นก็เกิดเสียงดังลั่นและพื้นดินก็แตกออก
ไนโตะ ยืนขึ้นและเหยียดร่างกายของเขาอีกครั้งด้วยสีหน้าพึงพอใจ
เมื่อเขาฆ่า นินจาคุโมะ ทั้ง 4 คน เขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาลง แต่ตอนนี้ หลังจากที่เขากระโดดลงจากภูเขาแล้ว ไนโตะ ก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก
เวลาในการฝึก 3 เดือนนี้ มีค่าเท่ากับการฝึกเกือบ 2 ปีในตอนที่ขาออกกำลังกาย!
ไม่นานหลังจากที่ ไนโตะ เดินทางออกไป เขาก็มาถึงเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง และเขาก็หาเสื้อผ้าเปลี่ยน
ตอนหลัง ไนโตะ ก็รู้ข่าวที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมาก ทั้งโลกคิดว่าเขาตายแล้วจริงหรือ?!
ไม่น่าแปลกใจที่นินจาที่ผ่านไปผ่านมามองเขาราวกับว่าพวกเขาเห็นผี เพราะพวกเขาคิดว่า ไนโตะ ได้ตายไปพร้อมกับ ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 แล้ว!
นั่นทำให้ ไนโตะ รู้สึกโกรธเล็กน้อย
ในขณะเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาไม่ตำหนิพวกเขา เพราะเขาไม่ได้รายงานกลับไปที่หมู่บ้าน และตอนนี้ คุชินะ ก็น่าจะคิดว่าเขาตายไปแล้วเช่นกัน
โลกนี้ไม่เหมือนกับโลกที่เขาจากมา คนที่นี่ไม่ได้พูดโกหก และเมื่อพูดถึงความรัก พวกเขาก็สามารถสละชีวิตเพื่อคนที่พวกเขารักได้ และตอนนี้ คุชินะ ก็คงจะเศร้ามาก เธอคงจะคิดว่าการตายของ ไนโตะ เป็นความผิดของเธอเอง
“ถึงเวลาที่ต้องกลับไปแล้วสินะ”
ไนโตะ มองดูภูเขาเป็นครั้งสุดท้ายจากระยะไกล จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและเดินออกไป
ตลอดทางกลับ แม้ว่าจะมี นินจาคุโมะ อยู่บนถนนทุกสาย แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหยุด ไนโตะ ได้
ที่จริงแล้ว นินจาคุโมะ ได้ปิดกั้นถนนทุกสายที่มุ่งเข้าสู่หมู่บ้านของพวกเขา เพราะพวกเขาพยายามซ่อนความจริงเกี่ยวกับการตายของ ไรคาเงะ รุ่นที่ 3
แม้ที่สุดแล้ว พวกเขาจะพบศพของ ไรคาเงะ แล้ว แต่พวกเขาก็ยังพยายามปล่อยข่าวลืออื่น ๆ ที่จะกลบเกลื่อนเรื่องนี้ เช่น 8 หาง หนีไปได้ และ ไรคาเงะ ก็กำลังออกตามล่ามันอยู่เป็นต้น
นอกจากนี้ก็ยังมีข่าวลืออื่น ๆ อีกมากมายเช่นนี้
แต่ ไนโตะ ก็ขี้เกียจเกินกว่าที่จะให้ความสนใจกับข่าวลือเหล่านี้ เขาได้สิ่งที่เขาต้องการแล้ว เขาได้ฆ่า ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 และได้รู้ความลับของ อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3
เขาฝึกฝนมันเป็นเวลา 3 เดือน และ ไนโตะ ก็พอใจมากกว่าสิ่งอื่นใด
ระหว่างทางกลับไปที่ โคโนฮะ ไนโตะ ก็ได้ลองลงไปที่ตลาดมืด เขาไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายที่มีฉายาว่า ‘มือเลือด’
ในช่วงเวลาที่ ไนโตะ กำลังฝึกอยู่ มือเลือด ได้ปรากฏตัวขึ้นใน หมู่บ้านคุโมะ และทำการลอบสังหารสมาชิกระดับสูงของหมู่บ้านบางคน แล้วหลังจากที่เขาทำภารกิจนั้นสำเร็จ เขาก็ได้หายตัวไปและไม่โผล่ออกมาอีกเลย!
เมื่อ ไนโตะ รู้ข่าวนี้ เขาก็ตกใจเล็กน้อย
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นตอนที่เขากำลังจดจ่ออยู่กับการฝึกของเขา
และตอนนี้การหา มือเลือด จะยากยิ่งกว่าเดิม
และ ไนโตะ ก็สงสัยว่างานลอบสังหารที่ มืดเลือด ทำใน หมู่บ้านคุโมะ อาจเป็นงานจ้างจาก โคโนฮะ และถ้าเป็นอย่างนั้น แน่นอนว่าต้องเป็นคำสั่งของ ดันโซ อย่างแน่นอน
“ช่างมันเถอะ เดี๋ยวเราก็เจอเขาในสักวัน ยังไงส่ะเราก็ได้ อาภรณ์สายฟ้าขั้นที่ 3 มาแล้ว”
หลังจากที่ ไนโตะ ส่ายหัว เขาก็เดินออกจากตลาดมืด และเดินตรงไปที่ แคว้นแห่งไฟ โดยไม่ได้แวะไปที่ไหนอีก
แคว้นแห่งไฟ ได้ขยายดินแดนพวกเขาเข้าไปใน แคว้นแห่งดิน และ แคว้นแห่งสายฟ้า ซึ่งทั้ง 2 หมู่บ้านใหญ่พยายามอย่างหนักที่จะต่อต้านการรุกรานของ โคโนฮะ แต่ โคโนฮะ ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นกองทัพใหญ่ ดังนั้นจึงไม่ได้เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ขึ้นเหนือดินแดนเหล่านี้
แต่ โคโนฮะ ก็ยังเป็นกังวลอยู่ว่า เมื่อ อิวะ และ คุโมะ ยุติความขัดแย้งกันแล้ว พวกเขาจะสามารถมุ่งเน้นไปที่การยึดพื้นที่ดินแดนของพวกเขาคืนได้
“เราออกจากหมู่บ้านมาเกือบครึ่งปีแล้วสินะ”
เมื่อมองดูหมู่บ้านจากระยะไกล ไนโตะ ก็แสดงรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่เขาก็รู้สึกถึงความรู้สึกที่ซับซ้อนในใจของเขา
ไนโตะ ขี้เกียจเกินกว่าที่จะตัดสินหมู่บ้านนี้อีกต่อไป
เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาเรียกที่นี่ว่าบ้านก็เพราะที่นี่มี คุชินะ อยู่ และอีกอย่างหนึ่งก็คือความคุ้นเคยที่ ไนโตะ มีต่อหมู่บ้าน
แม้ว่ามันจะมีความลับดำมืดอยู่ แต่มันก็เหมือนบ้านมากกว่าที่อื่น ๆ ในโลกนี้
เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้จะคงอยู่อีกนานแค่ไหน…
ไนโตะ ถอนหายใจ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในเขตหมู่บ้านทีละก้าว ผ่านม่านพลังที่ครอบคลุมทั้งหมู่บ้านอยู่
การผ่านเข้าม่านพลังนี้ ๆ ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เนื่องจากมันจะใช้ได้เฉพาะเมื่อศัตรูข้ามเข้ามาเท่านั้น
แต่มันก็ยากที่จะระบุได้ว่าคนที่ผ่านเข้ามานั้นเป็นใคร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ไนโตะ เพราะเขาสามารถปิดกันพลังและจักระของเขาได้จนเขาเป็นเหมือนกับคนธรรมดา
การกลับมาของ ไนโตะ ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของนินจาตรวจสอบที่ทำหน้าที่เฝ้าระวังอยู่
หลังจากที่เขาผ่านม่านพลังเข้ามา และจากนั้นในที่สุดเขาก็มาถึงประตูหลักของหมู่บ้าน และพยายามเดินเข้าไปอย่างคนปกติ
ไนโตะ ไม่ได้พยายามซ่อนตัว
ในเวลานี้ของวัน ผู้คนจำนวนมากต่างเดินกันเข้าออกหมู่บ้านอย่างขวักไขว่
ในช่วงเวลาที่เกิดสงครามแบบนี้ โคโนฮะ เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด นักธุรกิจหลายคนจึงเลือกที่นี่เป็นที่พักพิงชั่วคราวและบางคนก็จ้างนินจาของ โคโนฮะ ไว้เป็นผู้คุ้มกัน
ติดตามข่าวสารจากเพจ Facebook : Chan’s Translation นิยายแปลไทย@TranslatedByMild