The Strongest Hokage – ตอนที่ 145

การแสดงออกของ ซึจิคาเงะ สงบลงหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ แตจิตสังหารของเขายังคงเต็มเปี่ยม

เขามองไปทาง ไนโตะ และ ซาคุโมะ ที่ตอนนี้ทั้งคู่มายืนรวมกันแล้ว จากนั้นเขาก็ลอยตัวสูงขึ้นไปบนอากาศ

เป็นเรื่องปกติที่จะต้องไม่ปล่อยให้ศัตรูเข้าสู่พื้นที่ศัตรูได้เปรียบ เมื่อเห็นดังนั้น ไนโตะ และ ซาคุโฒะ จึงไม่ยอมให้ ซึจิคาเงะ ลอยขึ้นไปบนอากาศตามที่เขาต้องการได้อย่างง่าย ๆ ดังนั้นทั้งคู่จึงพยายามสกัดเขา

ฟึ๊บ!!

พวกเขาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจนดูเหมือนลำแสง ที่กำลังพุ่งตรงไปยัง ซึจิคาเงะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นภาพนี้ใบหน้าของ โอโนกิ ก็แสดงให้เห็นถึงความเย็นชา ในขณะที่เขายกมือทั้ง 2 ข้างมาไว้ที่กลางอก

วิ้ง!!

ภายใต้การไหลของจักระที่บ้าคลั่ง แสงสีขาวปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือของ โอโนกิ จากนั้นมันก็กลายเป็นก้อนแสงลูกบาศก์ 4 เหลี่ยม

มันคือ คาถาธุลี อีกครั้ง!

“มาแล้ว!”

“จักระของ ท่านซึจิคาเงะ กลับมาแล้ว”

“เยี่ยมมาก เขาจะฆ่า 2 คนนั้นได้อย่างแน่นอน!”

การได้เห็นภาพนี้ แม้แต่ดวงตาของ โอโนกิ ก็ส่งประกายความตื่นเต้นออกมาเช่นกัน

โอโรจิมารุ และนินจาระดับสูงคนอื่น ๆ ของโคโนฮะ เมื่อเห็นภาพนี้พวกเขาก็ขมวดคิ้วด้วยความจริงจัง

“มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ ถึงยังไงเขาก็เป็น คาเงะ…”

“อย่างไรก็ตาม คาถาธุลี ทีเรียกได้ว่าเป็นขีดจำกัดสายเลือดที่ทรงพลังที่สุด ก็ถูกหยุดได้โดยคาถาแผ่นดินไหว ทำให้สูสีกันทั้ง 2 ฝ่าย”

พวกเขามองดูการต่อสู้ของ ไนโตะ และ ซาคุโมะ ที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับ ซึจิคาเงะ จากระยะไกล

ในอีกด้านหนึ่ง โอโนกิ ก็พร้อมที่จะระเบิดทั้ง ไนโตะ และ ซาคุโมะ ให้กลายเป็นฝุ่นแล้ว

นี่เป็นสิ่งที่อันตรายมาก และ ไนโตะ อยู่ใกล้ โอโนกิ มากกว่า ซาคุโมะ

เมื่อ ซึนาเดะ เห็นภาพนี้ เธอก็มองด้วยความโกรธเล็กน้อย เธอเข้าร่วมสงครามนี้ด้วยเช่นกัน แต่เธอกลับไม่สามารถช่วยอะไร 2 คนนั้นได้เลย

ในความเป็นจริง ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้เลย คนที่สามารถเผชิญหน้ากับ ซึจิคาเงะ ได้ก็มีเพียงแค่ ไนโตะ และ ซาคุโมะ เท่านั้น

ในขณะนี้ แม้แต่สนามรบก็ไม่สำคัญอีกต่อไป การต่อสู้ในอีกด้านหนึ่งคือสิ่งที่จะชี้ชะตาผลของสงครามครั้งนี้

“คาถาธุลี : แยกพิภพบรรพกาล!!”

หลังจากคาถาพร้อมแล้ว โอโนกิ ก็ไม่ลังเลเลยที่จะโยนมันเข้าหาพวกเขา

แสงสีขาวกำลังเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยบรรยากาศที่น่ากลัว โดยไม่ส่งเสียงใด ๆ

ซาคุโมะ ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็กระโดดหลบมันทันที

ไนโตะ ถือ ดาบคุซานางิ ไว้ในมือ แต่เขาก็ไม่เคลื่อนไหวใด ๆ และในที่สุด ลูกบาศก์ 4 เหลี่ยม ก็คลอบตัวเขาไว้ แต่ทันใดนั้น เขาก็กลายเป็นควันและหายไป

มันเป็นเพียงแค่ร่างแยกเงา

แล้วทันใดนั้นร่างของ ไนโตะ ก็ไปปรากฏในที่ที่ห่างออกไป ในขณะที่จักระอันบ้าคลั่งไหลมาอยู่ที่ฝ่ามือของเขา โดยมีพลังสั่นสะเทือนอยู่ตรงศูนย์กลางของจักระ ทำให้เกิดเป็นรูปร่างคล้ายลูกบอล

นั่นคืออะไร?!

โอโนกิ ขมวดคิ้วและใบหน้าของเขาก็แสดงถึงความสงสัย

เขาจะหยุด คาถาธุลี ด้วยลูกบอลลูกเล็ก ๆ นั้นนะเหรอ?!

หากเขาเลือกที่จะหลบ คาถาธุลี เขาก็จะมีเวลาเพียงพอที่จะพุ่งเข้าไปโจมตี โอโนกิ ได้เลยด้วยซ้ำ

คาถาที่ โอโนกิ ใช้ในครั้งนี้แตกต่างจาก คาถาธุลี แบบปกติ ครั้งนี้มันเป็นการโจมตีด้วยลูกบาศก์เพียงครั้งเดียว ซึ่งทำให้มันหลีกเลี่ยงได้ง่ายกว่า แต่พลังของมันก็มากกว่า คาถาธุลี แบบปกติหลายเท่า

พลังของคาถานี้มหาศาลและไม่มีอะไรจะหยุดมันได้!

โอโนกิ บินอยู่บนฟ้า มองดู ไนโตะ ด้วยสายตาน่าสมเพชราวกับว่านี้คือจุดจบของ ไนโตะ

แต่ในวินาทีต่อมา ไนโตะ ก็ขว้างลูกบอลนั้นตรงไปที่ คาถาธุลี !

“มันขว้างออกไปได้งั้นเหรอ?!”

โอโนกิ ตกใจเป็นอย่างมาก เขาคิดว่า ไนโตะ จะพุ่งเข้าหา คาถาธุลี แล้วกดลูกบอลเข้ากับคาถาของเขา

โอโนกิ ไม่คิดเลยว่าวิชาของ ไนโตะ จะสามารถขว้างออกไปได้

แต่ โอโนกิ ก็คิดว่าถึงมันจะสามารถขว้างออกไปได้ มันก็ไม่สามารถหยุด คาถาธุลี ของเขาได้

โอโนกิ มั่นใจเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาก็ตั้งสติแล้วมองกลับไปที่ ไนโตะ ด้วยสายตาราวกับว่าเขาเห็นผลลัพธ์แล้ว

ในไม่กี่วินาทีต่อมา ลูกบอลเล็ก ๆ ก็ปะทะเข้ากับ คาถาธุลี

“คาถาแผ่นดินไหว : กระสุนทำลายล้าง!!”

ไนโตะ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยดวงตาที่ดูมั่นใจมาก เขาไม่ได้มั่นใจว่าเขาจะสามารถเอาชนะ โอโนกิ ได้ แต่เขามั่นใจในขีดจำกัดสายเลือดของเขา!

คาถาแผ่นดินไหว จะไม่มีทางแพ้ คาถาธุลี อย่างแน่นอน!

เปี้ยง!!!

นี่เป็นการปะทะกันครั้งที่ 2 ระหว่าง คาถาธุลี กับ คาถาแผ่นดินไหว

ในไม่กี่วินาที กระสุนทำลายล้าง ก็เข้าสู่ศูนย์กลางของลูกบาศก์

ทันใดนั้น คาถาทั้ง 2 ก็ลอยนิ่งอยู่ในอากาศราวกับว่า พวกมันเป็นฟองอากาศที่ลอยอยู่บนฟ้า

แต่ที่จริงแล้ว ในตอนนี้ทั้ง ไนโตะ และ โอโนกิ ต่างก็กำลังควบคุมพลังของคาถานินจาของพวกเขาอยู่

แล้วจู่ ๆ การแสดงออกของ โอโนกิ ก็เปลี่ยนไป ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงร่องรอยของความสยองขวัญ

“บ้าเอ้ย!!”

โดยไม่ลังเล โอโนกิ ที่ลอยอยู่บนฟ้า ก็ลอยพุ่งสูงขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็วในทันที

ในเวลาเดียวกัน ทั้ง ไนโตะ และ ซาคุโมะ ก็พุ่งถอยออกไปไกลให้ห่างจากการปะทะของคาถาทั้ง 2 ออกไปไกลจากเนินเขานั้น

ทันใดนั้น คาถาทั้ง 2 ก็บดขยี้เข้าหากัน ทำให้เกิดเป็นการระเบิดครั้งใหญ่!

ลำแสดงหลายพันเส้นพุ่งเข้าหากัน มันเหมือนกับกลุ่มดาวโคจรกันอย่างรวดเร็วในสนามรบ เกิดเป็นแสดงสว่างจ้าจนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ จากนั้นในที่สุด มันก็ระเบิดออกและกระจายไปทั่วทุกทิศทาง

ไม่มีเสียงอะไรเลย ตั้งแต่ต้นจนจบ

แต่ดูเหมือนว่าแสงสว่างเหล่านั้นจะแฝงไปด้วยพลังที่รุนแรงที่ไม่สามารถมองเห็นได้แต่เมื่อมันชนเขากับอะไร สิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นผงในทันที!

ภายใต้สายตาที่จับจ้องของผู้คนนับไม่ถ้วน เนินเขาขนาดใหญ่ก็กลายเป็นผุยผงและหายไปทันที!!

ซึจิคาเงะ รู้สึกกลัวมาก แต่ไม่ใช่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น…แต่ความจริงที่ว่า ไนโตะ สามารถหยุด คาถาธุลี ของเขาได้ นั้นคือสิ่งที่ทำให้เขากลัวมากที่สุด!

ยิ่งไปกว่านั้น คาถาที่เขาเพิ่งใช้ไปเป็นคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา และมันก็ไม่ได้ถูกลดทอนพลังลงเลยแม้แต่น้อย แต่ ไนโตะ ก็สามารถเอาชนะ คาถาธุลี ของเขาด้วยการปะทะกันซึ่ง ๆ หน้าอย่างแท้จริง!

ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ !

ในโลกแห่งนี้ ยังมีขีดจำกัดสายเลือดที่เหนือกว่า คาถาธุลี อยู่อีกจริง ๆ หรือ?

ไม่ เป็นไปไม่ได้!

ผู้ที่มีสายเลือดคัดสรรที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก จะไม่มีทางยอมรับการมีอยู่ของผู้ที่แข็งแกร่งกว่าอย่างเด็ดขาด

ที่จริงแล้ว พลังสั่นสะเทือนของ ไนโตะ ยังพัฒนาไปไม่ถึงขั้นสูงสุด แต่ก็สามารถหยุดพลังสูงสุดของ คาถาธุลี ได้!

เมื่อคิดได้แบบนั้น โอโนกิ ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากสูดหายใจลึก ๆ แล้วจ้องมองไปที่ ไนโตะ อีกครั้ง

เขาใช้เวลานานกว่าจะถึงระดับนี้!

แต่ ไนโตะ ในวัยแค่นี้ ก็สามารถก้าวข้ามระดับของเขาไปได้แล้ว!

 

The Strongest Hokage

The Strongest Hokage

ผลปีศาจ เป็นที่รู้จักกันดีว่ามันเป็นผลไม้ที่ให้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่ง One Piece… ขีดจำกัดสายเลือด เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งนินจา Naruto… แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก ผลปีศาจ ถูกพบในโลกแห่งนินจา Naruto และถ้าหากมันถูกกินมันจะให้พลังแก่ผู้ที่กินมันเทียบเท่ากับพลังของขีดจำกัดสายเลือดหรือไม่ แล้วผู้ที่กินผลปีศาจเข้าไปจะทำอย่างไรกับพลังที่เขาได้รับมาบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นย้อนกลับไปก่อนมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset