บทที่ 1231 คนแปลกหน้าแล้วจะทำไม
เซียวซู่มาถึงร้านกาแฟนั่งลงไปแล้ว ก็ยังไม่เห็นเงาของเจียงเสี่ยวไป๋
หากเขาสั่งกาแฟแค่แก้วเดียว มันก็จะดูไร้มารยาท เขาจึงได้สั่งชานมให้เจียงเสี่ยวไป๋หนึ่งแก้ว จากนั้นก็นั่งรออยู่ตรงนี้
หนึ่งนาทีสองนาที ห้านาที……..
สิบนาทีผ่านไปแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ยังไม่ปรากฏตัว
เซียวซู่ขมวดคิ้วขึ้น ก้มหน้ามองเวลาบนนาฬิกาที่สวมอยู่ในข้อมือ หรือว่าตัวเองจะโดนเทแล้ว? ผู้หญิงคนนี้กำลังแก้แค้นตัวเองอยู่เหรอ?
แต่มาคิดๆแล้วไม่น่าที่จะเป็นไปได้ น้ำเสียงของเธอฟังดูแล้วรีบร้อนมากทีเดียว น่าจะมีเรื่องที่ต้องให้ตัวเองช่วยเหลือจริงๆ
ขณะที่กำลังคิด คนที่ว่องไวดั่งพายุได้เข้ามาในร้านกาแฟ จากนั้นก็มองไปรอบๆ
แวบแรกเซียวซู่ก็จำเจียงเสี่ยวไป๋ได้แล้ว
เสื้อยืดสีขาวและกางเกงขาสั้นแบบผู้ชาย ผมก็มัดไว้อย่างลวกๆ ท่าทางที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวเลย
เป็นครั้งแรกที่เซียวซู่เห็นผู้หญิงที่ไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองเลย
โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงที่ไม่สนใจเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกก็มีเยอะมาก แต่ว่าที่ไม่สนใจรูปลักษณ์ในทุกๆสถานที่ คาดว่าก็คงมีแต่เจียงเสี่ยวไป๋
ในขณะที่เซียวซู่กำลังสังเกตเธออยู่นั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้มองเห็นเซียวซู่แล้ว เธอวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ได้ลากเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าเขานั่งลง
“ไฮ คุณเซียว คุณมาถึงเช้าจัง”
เซียวซู่เม้มริมฝีปาก แล้วกล่าวอย่างเย็นชา: “คุณสายไปสิบเอ็ดสิบสองนาที”
“เหรอ?” เจียงเสี่ยวไป๋ที่อายก็เอียงหัวเล็กน้อย “ระหว่างทางรถติดมาก ขอโทษด้วยนะ”
เขาไม่ได้หาข้อแก้ตัวให้กับตัวเองที่มาสาย แต่ได้รีบขอโทษเซียวซู่อย่างจริงใจ ขอโทษเสร็จก็นั่งลงแล้วยกแก้วชานมขึ้นแล้วถาม: “อันนี้คือสั่งให้ฉันเหรอ?”
เซียวซู่ก็พยักหน้าอย่างไม่ได้ยิน
“หากไม่ถูกปากก็สั่งใหม่ได้นะ”
“ไม่ค่ะไม่ค่ะ ฉันชอบดื่มชานมมาก ขอบคุณค่ะ”
พอดีอากาศอบอ้าวมาก เจียงเสี่ยวไป๋ที่เร่งเดินทางมาที่นี่ร่างกายเต็มไปด้วยไอร้อน เธอยกชานมขึ้นมาดื่มไปหลายคำ
“หาผมมีเรื่องอะไร?”
“อืม? คือ……….” เจียงเสี่ยวไป๋พบว่าตัวเองนั้นพูดไม่ค่อยออก
แต่ก่อนเธอเป็นคนที่พูดจาเสียงดังฟังชัด แต่ว่าตอนนี้เธอจะหาคนมาปลอมเป็นแฟนของตัวเอง จะให้พูดเรื่องแบบนี้กับผู้ชายที่เจอกันเพียงไม่กี่ครั้งทั้งที่ยังไม่ได้สนิทกัน มันช่าง……พูดออกมายากจริงๆ
ในเมื่อลูกธนูได้อยู่บนคันธนูแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋จะไม่ยิงก็ไม่ได้ การพูดอ้อมค้อมไม่ใช่นิสัยของเธอ จึงได้พูดเข้าประเด็นเลย
“คือว่า ฉันอยากจะให้คุณ…….มาเป็นแฟนปลอมๆให้ฉันหน่อย”
ได้ยินแบบนี้ เซียวซู่คิ้วขมวดเข้าหากัน
เจียงเสี่ยวไป๋รีบพูดขึ้นมา: “อย่าเข้าใจผิด แฟนปลอมๆเท่านั้น ไม่ใช่แฟนจริงๆ!
เซียวซู่ขมวดคิ้วลึกขึ้น เพราะคำพูดเหล่านี้ฟังดูไร้สาระ
อะไรที่เรียกว่าแฟนปลอมๆของเธอ?
เซียวซู่จ้องมองใบหน้าขาวของเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย: “คุณนักเขียนผี คุณล้อเล่นกับผมใช่มั้ย?”
“ไม่ๆๆ เจียงเสี่ยวไป๋โบกมืออย่างอึดอัด: “ฉันมาขอร้องคุณจริงๆ แม่ฉันบังคับให้ฉันไปดูตัวมาโดยตลอด แต่ว่าฉันไม่อยากไป ดังนั้นฉันหวังว่าคุณจะสามารถมาเป็นแฟนปลอมๆของฉันหน่อย หลอกเขาได้เชื่อ จากนี้เขาก็จะไม่ให้ฉันไปดูตัวอีก”
หลังจากอธิบายเสร็จ เจียงเสี่ยวไป๋พบว่าคิ้วของฝ่ายตรงข้ามยิ่งลึกลงไปอีก
“ความหมายคือ ให้ผมกับคุณไปโกหกผู้ใหญ่พร้อมกัน?”
เจียงเสี่ยวไป๋: “………..”
แม่งผู้ชายคนนี้มัน … ต้องซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาขนาดนี้เลยเหรอ!
“คุณเซียว แบบนี้เขาไม่เรียกว่าโกหกผู้ใหญ่นะ? ไม่ว่าเรื่องอะไรมันก็มีระดับความสำคัญของมัน อันนี้ไม่ถือว่าเป็นโกหกนะ”
“ยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องโกหก? แล้วแบบไหนถือจะใช่?” เซียวซู่จ้องมองสายตาของเธอด้วยสายตาที่จริงจัง
เจียงเสี่ยวไป๋โดนถามจนตอบไม่ถูก เธอนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นสักพัก จึงได้พูดขึ้นอย่างจำยอม: “เอาล่ะ ต่อให้มันเป็นเรื่องโกหก แล้วจะทำไม? ก็ฉันไม่อยากไปดูตัว ดังนั้นจึงได้คิดวิธีการแบบนี้เพื่อมาต่อต้าน เป็นแฟนปลอมๆก่อน จากนั้นก็ค่อยเลิกกัน ฉันรู้สึกว่ามันไม่น่าจะมีปัญหา เป็นเพราะเพื่อนผู้ชายของฉันล้วนแต่งงานกันไปหมดฉันก็ไม่รู้จะไปหาใครอีกแล้ว คนแปลกหน้าฉันก็กลัวจะโดนหลอก ดังนั้นจึงได้หาคุณ”
เพียงแต่เธอคิดไม่ถึงว่าเซียวซู่จะมีปฏิกิริยารุนแรงแบบนี้ เธอก็คิดว่าเซียวซู่ไม่น่าที่จะตกลง เพราะเรื่องเป็นแฟนปลอม แต่คิดไม่ถึงสิ่งที่เขาใส่ใจคือเรื่องหลอกลวงผู้ใหญ่
เป็นดังเช่นนี้ เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋พูดจบแล้ว เซียวซู่พูดอย่างจริงจัง: “ฉันไม่สามารถที่หลอกลวงผู้ใหญ่พร้อมกับคุณ ขอโทษด้วย เรื่องนี้คุณไปหาคนอื่นช่วยเถอะ”
เจียงเสี่ยวไป๋กัดริมฝีปากล่างของตัวเอง สีหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจ
“คุณเซียวฉันไม่รู้ว่าจะไปหาใครแล้วจริงๆ หากคุณไม่ช่วยฉัน ฉันคงทำได้เพียงไปถามคนแปลกหน้าตามท้องถนนว่าพวกเขาเต็มใจหรือเปล่า”
เซียวซู่ขมวดคิ้ว: “แม้ว่าผมจะติดหนี้บุญคุณคุณ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะยอมทำทุกเรื่อง ไปหาคนที่เก่งกว่าผมเถอะ”
พูดจบ เซียวซู่ก็ลุกขึ้นโดยตรง เจียงเสี่ยวไป๋เห็นเขาเดินไปที่แคชเชียร์ไปชำระเงิน จากนั้นก็จากไป
เธอเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมฟุบอยู่บนโต๊ะ ไม่คิดว่าแผนการที่ตัวเองวางไว้จะล้มเหลว
ในเมื่อเขาไม่ยินยอม เธอก็ไม่สามารถบังคับคนอื่นเขา ถึงเวลาหากความแตกต่อหน้าแม่ ผลจะยิ่งแย่กันไปใหญ่
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้แต่ถอนหายใจในใจ
ไม่งั้นลองไปถามดูมั้ย? และแล้วเจียงเสี่ยวไป๋ก็มองไปรอบๆร้าน พบว่าในร้านกาแฟมีผู้ชายที่นั่งอยู่คนเดียวจริงๆด้วย เพียงแต่ดูแล้วเหมือนอายุจะค่อนข้างมากทีเดียว ตัวผอมสวมแว่นตา
จู่ๆเดินเข้าไป มันก็น่าอายอยู่นะ?
แต่ว่าเธอจะทำอะไรได้ล่ะ? หรือว่าต้องไปดูตัวจริงๆ? เจียงเสี่ยวไป๋นั้นเข้าใจดีมาก หากตัวเองไปดูตัวแล้ว แม่ของเธอก็จะบังคับให้เธอแต่งงาน เมื่อถึงเวลา……….
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ปวดหัวทันที เธอวางชานมที่ถืออยู่ในมือลง ค่อยๆก้าวเดินไปทางที่ชายผอมๆคนนั้นนั่งอยู่
“เอ่อ…….ไม่ทราบว่า………” เจียงเสี่ยวไป๋กำลังจะพูด ร่างร่างหนึ่งก็ได้มาขวางอยู่ตรงหน้าของตัวเอง เจียงเสี่ยวไป๋สะดุ้งตกใจ เงยหน้าขึ้นมอง พบว่าเป็นเซียวซู่
“คุณไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไม……….”
ทำไมกลับมาอีกละ? เจียงเสี่ยวไป๋มองเขาด้วยความตกตะลึง
เซียวซู่คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะไปหาคนแปลกหน้าจริงๆ ทั้งๆเมื่อกี้เธอยังพูดว่าหาคนแปลกหน้าแล้วกลัวจะโดนหลอก ตอนนี้กลับใส่พานถวายตัวเอง?
เธอมีสมองหรือเปล่าเนี่ย?
ผู้ชายที่ผอมสูงได้ยินเสียงพูด เงยหน้ามาก็เห็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง เกิดความสงสัยเล็กน้อย: “ไม่ทราบพวกคุณคือ………..”
“จำคุณผิดครับ” เซียวซู่ตอบกลับคำถามอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็คว้าข้อมือของเจียงเสี่ยวไป๋ที่ยืนเซ่ออยู่ที่เดิม ดึงเธอออกมาจากร้านกาแฟ
เจียงเสี่ยวไป๋ที่ถูกดึงตัวออกมาจากร้านกาแฟมีสีหน้าที่ตกตะลึง สักพักจึงได้เข้าสู่ภาวะปกติ “เฮ้ย คุณปล่อยฉัน”
เซียวซู่ปล่อยมือเธอ เจียงเสี่ยวไป๋นวดเบาๆที่ข้อแขนตัวเอง: “คุณทำไมถึงกลับมาอีกละ? หรือว่าคุณตกลงจะช่วยฉันแล้ว?”
“………..ไม่” เซียวซู่นิ่งไปสองวินาที จากนั้นก็ปฏิเสธด้วยการส่ายหัว
“ไม่?” เจียงเสี่ยวไป๋มองเขาเหมือนมองคนที่เป็นโรคประสาท: “แล้วคุณกลับมาทำไม? ยุ่งชะมัดเลยคุณ ไม่ง่ายเลยกว่าฉันหาเป้าหมายเจอ!”
“เป้าหมาย? คนแปลกหน้าคนนั้นนะ?”
“คนแปลกหน้าแล้วไง ไม่แน่เขาอาจจะตกลงช่วยก็ได้? ฉันว่านะคุณเซียว คุณก็ไม่อยากจะช่วย ก็อย่ามายุ่งเลยกว่า?”