บทที่ 1169 เขาไม่ได้หื่นขนาดนั้น
เสียงนี้เกือบทำให้ใจของเสี่ยวเหยียนละลาย
โอ้โห!
โคงโคงน่ารักจังเลย!
ทันใดนั้นเสี่ยวเหยียนก็นึกถึงเรื่องคืนนั้นที่โคงโคงมานอนอยู่ข้างตัวเอง คืนนั้นหล่อนรู้สึกไม่สบายใจมาก โคงโคงนอนอยู่ด้านข้างหล่อน คอยเอาหัวมาคลอเคลียกับแขนของหล่อนอยู่ตลอดเวลา ร้องเรียกเมี๊ยวๆ ถือเป็นยารักษาชั้นดีทีเดียว
ตอนนี้ก็เช่นกัน!
แต่หล่อนยังไม่ลืมว่าวันต่อมาโคงโคงก็ทำท่าทางรังเกียจหล่อน
เมื่อคิดถึงตอนนี้ หล่อนก็รีบพิมพ์ทันที
“ดูเหมือนว่าโคงโคงรังเกียจฉัน เช้าวันนั้นฉันจะลูบหัวมัน แต่พอมันเห็นฉันก็วิ่งหนีไปทันที รอครั้งต่อไป ถ้าฉันมีโอกาสได้ไป ฉันจะต้องลูบขนให้เกลี้ยงถึงผิวเลย!”
หลังจากที่ส่งออกไป เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่าตัวเองพูดตามใจเกินไป หานชิงจะคิดว่าหล่อนน่ารำคาญรึเปล่า?
ขณะที่กำลังคิดลังเล หานชิงก็ตอบข้อความกลับมา
“ไม่ต้องรอ พรุ่งนี้ก็มาได้เลย”
เสี่ยวเหยียนมาข้อความอย่างตกตะลึง จากนั้นวางมือถือลงและเอามือขึ้นมาปิดปาก จึงจะหยุดเสียงกรีดร้องไว้ได้
ยังคงรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นภาพความฝัน หานชิงเป็นแฟนกับหล่อนได้ยังไง? ทำไมถึง…เป็นแฟนกันแล้วล่ะ?
สรุปแล้วเรื่องนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นตอนไหนกัน? เขาชอบตัวเองรึเปล่า? ถ้าชอบ แล้วเริ่มชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ?
คำถามมากมายปรากฏขึ้นมาในหัวของเสี่ยวเหยียน ทำให้หล่อนคิดจนหัวแทบจะระเบิดออกมา
ตี๊ดๆ
มือถือดังขึ้นอีกครั้ง
“พรุ่งนี้ผมไปรับคุณ?”
เสี่ยวเหยียนรีบตอบกลับ
“แต่ พรุ่งนี้คุณต้องไปบริษัทนะ ต้องทำงานไม่ใช่เหรอ?”
“วันอาทิตย์”
อ๋อ ใช่แล้ว พรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์แล้วนี่นา
หลังจากทั้งสองตัดสินใจตกลงเป็นแฟนกันก็เป็นวันอาทิตย์พอดี ถ้าเป็นคู่รักปกติทั่วไป คงจะออกไปเดทกันบ้าง แต่สำหรับหานชิงแล้ว เสี่ยวเหยียนไม่กล้าคิดคาดหวังอะไร จากนั้นหล่อนจึงพิมพ์ตอบกลับไป
“ไม่ต้องมารับฉันหรอกค่ะ คุณส่งที่อยู่มาให้ฉันก็พอ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจัดการธุระเสร็จแล้วไปหาคุณเองค่ะ”
หานชิงไม่ติดขัดอะไร จึงส่งที่อยู่ไปให้หล่อนทันที
เสี่ยวเหยียนดีใจมาก พรุ่งนี้หล่อนตื่นขึ้นมาก็ไปตลาด ซื้อของเสร็จ ตอนบ่ายก็ไปหาหานชิง
ขณะที่เสี่ยวเหยียนกำลังมีความสุขและเตรียมตัวจะบอกฝันดีกับเขา หานชิงก็ส่งข้อความเสียงมาให้
“ไม่โทรแล้วเหรอ?” หล่อนกดฟังเสียงอันแหบแห้งของเขา กระพริบตาลง จากนั้นก็พิมพ์ต่อ
“นี่ก็ดึกมากแล้ว โทรวันอื่นก็เหมือนกัน คุณรีบไปอาบน้ำ แล้วก็พักผ่อนได้แล้ว ฝันดีค่ะ”
จากนั้นเสี่ยวเหยียนก็ส่งสติ๊กเกอร์ฝันดีให้เขา ในวีแชทมีสติ๊กเกอร์ที่น่ารักมากตัวหนึ่ง เป็นลูกบอลกลมๆ หูและมือเป็นสีแดง ตอนที่พูดว่าฝันดีจะหดตัวเข้าไปด้านใน จากนั้นหล่อนก็วางมือถือลงและนอนหลับไป
หานชิงจ้องมองสติ๊กเกอร์น่ารักตัวนี้ จนเหม่อไปสักพักใหญ่ จากนั้นก็ค่อยๆยิ้มขึ้น
“เจอกันพรุ่งนี้”
หลังจากเห็นหานชิงตอบกลับมาสามคำ เสี่ยวเหยียนก็นอนกอดมือถือกลิ้งไปมาบนเตียง จากนั้นก็มุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม ไม่นานนักก็ลุกออกมา นั่งเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง จากนั้นก็นอนห่มผ้าอีกครั้ง
เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าตัวเองดีใจมากเกินไป จนทำให้คืนนี้นอนไม่หลับ
QAQแง!
จากนั้นเสี่ยวเหยียนหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง เปิดคลิปเสียงที่หานชิงส่งมาให้ฟังทีละคลิปซ้ำวนไปมาเป็นสิบๆรอบ ฟังไปเรื่อยๆ จนเม้มริมฝีปากและแอบยิ้มขึ้นมา
เป็นแบบนี้ไปจนถึงกลางดึก เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า หล่อนจึงค่อยๆนอนหลับไป
หลังจากนั้นเสี่ยวเหยียนก็ฝัน หล่อนฝันเห็นคืนวันนั้นหานชิงพาหล่อนกลับไปที่บ้านพักส่วนตัว จากนั้นเสี่ยวเหยียนก็รู้สึกกลัวมาก จึงวิ่งไปบ้านด้านข้างหาเขา ต่อมาถูกใครบางคนกดตัวไว้ที่กำแพง และ….
ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่ม เสื้อผ้าของเสี่ยวเหยียนหล่นลงบนพื้น ทันใดนั้นหล่อนก็ตื่นขึ้นมา
จู่ๆก็ตื่นขึ้นมากลางคัน เสี่ยวเหยียนลืมตาขึ้น เหม่อลอยไปประมาณห้าวินาที และรีบปิดตาลงตา เห็นแต่ความมืดที่อยู่ตรงหน้า ไม่มีอะไรอีกแล้ว
ทำไม? ตอนช่วงเวลาสำคัญ หล่อนถึงตื่นขึ้นมาแบบนี้ ปกตินาฬิกาชีวิตไม่ตรงเวลาขนาดนี้ ทำไมวันนี้ถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?
เสี่ยวเหยียนโมโหจนแทบจะกระอักเลือด
แต่ผ่านไปไม่นานหล่อนก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็พลิกตัวกอดผ้าห่มคิดด้วยความหงุดหงิดใจ
ทำไมหล่อนฝันถึงหานชิงแบบนั้น? แย่จริงๆเลย หานชิงไม่ได้หื่นเหมือนที่หล่อนฝันสักหน่อย!
เมื่อคิดถึงตอนนี้ เสี่ยวเหยียนก็ยื่นมือขึ้นมานวดหัวของตัวเอง และตื่นไปล้างหน้าในห้องน้ำ
ขณะที่แปรงฟันอยู่ เสี่ยวเหยียนตกใจถึงกับต้องเดินถอยหลังจนเกือบล้มเพราะขอบตาอันดำคล้ำของตัวเอง โชคดีที่หล่อนยื่นมือออกมาจับด้ามประตูประคองตัวไว้ได้ทัน และยืนจ้องมองขอบตาดำของตัวเองในกระจกด้วยความเหม่อลอย
หล่อนไม่รู้ว่าเมื่อคืนตัวเองหลับไปตอนไหน จำได้เพียงว่านอนฟังคลิปเสียงที่หานชิงส่งมาตลอดทั้งคืน ฟังจนกระทั่งในหูของหล่อนมีแต่เสียงอันแหบแห้งของหานชิงดังสะท้อนไปมา ไม่นานนัก น้ำเสียงนั้นค่อยๆเลือนหายไป และเปลี่ยนเป็นคำพูดอัตโนมัติว่า: รีบนอน รีบนอน
ต่อมา เสี่ยวเหยียนรู้สึกหนักตามา และหลับไปอย่างรวดเร็ว
หลับไปตอนกี่โมงนั้น หล่อนไม่รู้เลย
แต่รอยขอบตาดำนี้ คงเป็นเรื่องหลังจากตีสาม ประกอบกับผมที่ยุ่งพันกันจนเหมือนรังนก เมื่อคืนเพิ่งสระแท้ๆ ทำไมวันนี้ถึงฟูได้ขนาดนี้แล้วล่ะ?
ภายใต้ความเหนื่อยใจนี้ เสี่ยวเหยียนจึงจำต้องสระผมใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็ออกไปทานข้าวเช้าด้วยขอบตาดำคล้ำ
เมื่อหลัวหุ้ยเหม่ยเห็นผมยาวที่เปียกชื้นของหล่อน อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ: “เมื่อคืนลูกเพิ่งสระผมไม่ใช่เหรอ? ทำไมวันนี้เพิ่งตื่นนอนก็สระอีกแล้วล่ะ?”
คำถามนี้ช่างทิ่มแทงใจเสี่ยวเหยียนเหลือเกิน หล่อนจึงตอบด้วยความทุกข์ใจ: “เพราะวันนี้ตื่นมาแล้วหัวฟูมาก หนูรู้สึกว่ามันน่าเกลียดเกินไป ก็เลยสระใหม่อีกรอบ”
“ตอนนี้รู้จักรักสวยรักงามขึ้นมาแล้ว? เมื่อก่อนตอนที่แม่บ่นลูก ลูกทำเป็นไม่สนใจไม่ใช่เหรอ?”
เสี่ยวเหยียน: “…”
“นั่นสิๆ”
พ่อจางที่นั่งอยู่ด้านข้าง นั่งกินข้าวต้มพลาง มองเสี่ยวเหยียนและถามขึ้น: “แล้วขอบตาดำของลูกมาได้ยังไง? เมื่อคืนนอนไม่หลับ?”
เสี่ยวเหยียน: “…”
หล่อนรู้สึกว่าการที่ตัวเองออกมากินข้าวเช้าถือเป็นเรื่องผิดอย่างหนึ่ง เมื่อคิดได้เช่นนี้ หล่อนจึงกินข้าวต้มเพียงครึ่งหนึ่ง จากนั้นวางถ้วยลง พูดขึ้น : “พ่อแม่ ช่วงสองวันนี้หนูติดธุระ ไม่ได้ไปที่ร้าน เรื่องที่ร้านรบกวนพ่อกับแม่ช่วยดูแลให้ด้วยนะคะ ถ้ามีเรื่องอะไร ถึงตอนนั้นหนูจะจ้างคนเพิ่มอีกสองคน”
เมื่อพูดจบ หล่อนก็ลุกขึ้นและกลับไปที่ห้องทันที
“ลูกยังกินข้าวต้มไม่หมดเลยนะ?” พ่อจางตะโกนตามหลัง
เสี่ยวเหยียนปัดมือ: “กินไม่ลงแล้ว”
หลังจากที่เข้าไปในห้องก็ปิดประตูดังปั้ง
พ่อจาง: “…เด็กคนนี้ แม้แต่อาหารเช้าก็ไม่กินแล้ว? ไม่กลัวว่าจะหิวบ้าง”
หลัวหุ้ยเหม่ยที่นั่งอยู่ด้านข้างหัวเราะและนั่งลง หยิบซาลาเปาขึ้นมากัดหนึ่งคำ จากนั้นหันไปเหลือบมองพ่อจาง “ครั้งนี้ลูกสาวคุณรั้งไว้ไม่อยู่แล้วนะ”
พ่อจาง: “เกิดอะไรขึ้นอีก?”
เหอะๆ ผู้ชายโง่เขลา หล่อนขี้เกียจจะอธิบายแล้ว
หลัวหุ้ยเหม่ยปิดปากเงียบและกินต่อ คุยกับชายแก่คนนี้ช่างลำบากเหลือเกิน
แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า ผู้ชายคนนั้นจะทำได้ไวขนาดนี้ เมื่อก่อนเห็นเสี่ยวเหยียนจะเป็นจะตายกับเขา หล่อนยังคิดว่าทำไมลูกสาวต้องทนทุกข์ต่อไปเช่นนี้ด้วย ใครจะไปคิดผ่านไปแค่ไม่กี่วัน…