ตอนที่827 คุณรู้จักกับเขามาก่อนแล้วเหรอครับ
หานมู่จื่อที่อาบน้ำเสร็จเตรียมจะเข้านอน ได้ยินเสียงโทรศัพท์สั่น เธอจึงกดอ่านข้อความ ก่อนจะย่นคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ช่วยเหลือเรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ
แล้วยังเป็นเรื่องของเธอกับเย่โม่เซินอีก
หานมู่จื่อคิดได้เร็วมาก พอเชื่อมโยงเรื่องราวในช่วงหลายวันมานี้ เธอก็พิมพ์ข้อความตอบกลับไป
หานมู่จื่อ :ใช่เรื่องของคุณตายู่ฉือหรือเปล่าคะ
จื้อจื้อตัวน้อย:โอ้โห พี่สะใภ้จะฉลาดเกินไปแล้ว คุณเดาออกได้ยังไงว่าเป็นเรื่องนี้
“…”
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องนี้จริงๆด้วยสินะ
สีหน้าของหานมู่จื่อเคร่งขรึม หรือว่าคุณท่านยู่ฉือจะสังเกตความผิดปกติได้แล้ว มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ก็เขาเล่นมากินข้าวที่ห้องของเธอทุกวัน ถึงแม้ทางบ้านโทรมาเร่งเร้าให้เขากลับบ้าน เขายังไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย
รวมถึงเรื่องที่เขาปฏิเสธการแต่งงาน จะไม่ให้ทางตระกูลยู่ฉือสงสัยได้ยังไงกัน
ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ เฉียวจื้อก็ส่งข้อความมาอีกครั้ง
จื้อจื้อตัวน้อย:พี่สะใภ้ ผมปิดความลับไว้ให้แล้ว แต่หลังจากนี้อาจจะทำไม่ได้แล้ว คุณกับยู่ฉือระวังตัวไว้บ้าง อย่าหาว่าผมขู่นะ การจะคบกับคนในตระกูลใหญ่ก็เป็นแบบนี้แหละครับ
เธอเข้าใจความหมายที่เฉียวจื้อต้องการจะสื่อ เขากลัวว่าเธอจะตกใจหนีไปซะก่อน
พอคิดได้แบบนี้ หานมู่จื่อก็ยิ้มออกมา
หานมู่จื่อ:ขอบคุณค่ะ ฉันไม่ถอยง่ายๆแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
จื้อจื้อตัวน้อย:แม่เจ้า ซาบซึ้งใจมากเลยครับ พี่สะใภ้มั่นคงมาก แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่า… คุณกับยู่ฉือดูผูกพันกันมาก ทั้งๆที่พวกคุณเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน
พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวจื้อก็ลูบคางตัวเองอย่างครุ่นคิด
เขานึกถึงตอนที่เจอกับหานมู่จื่อครั้งแรกในลิฟต์ เธอแอบหลบอยู่ด้านหลังคนอื่น ไม่กล้ามองหน้ายู่ฉือเซิน แล้วยังวิ่งหนีไปเมื่อประตูลิฟต์เปิดอีกต่างหาก
และแววตาที่เธอมองมาทางยู่ฉือเซิน ก็ดูลึกซึ้งมาก ไม่มีอะไรปกปิดได้เลย
บางครั้งเฉียวจื้อก็ยังคิดเลย ว่าพี่สะใภ้จะต้องรู้จักกับยู่ฉือเซินมาก่อนหน้านี้
พอคิดถึงตรงนี้ เฉียวจื้อก็รู้สึกน่าสนใจขึ้นมา ก่อนจะส่งข้อความไปให้หานมู่จื่ออีกครั้ง
จื้อจื้อตัวน้อย:พี่สะใภ้ เมื่อก่อนคุณกับยู่ฉือเคยเป็นแฟนกันมาก่อนเหรอครับ
ตอนที่เห็นข้อความนี้ หานมู่จื่อก็มือสั่นจนโทรศัพท์ตกใส่หน้าของเธอ เธอรู้สึกเจ็บจนน้ำตาแทบจะไหลออกมา แต่หัวใจกลับกำลังเต้นแรง
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วอ่านข้อความที่เฉียวจื้อส่งมาอีกครั้ง แล้วคิดทบทวน
ผู้ชายคนนี้เจ้าเล่ห์แสนกลไม่เบา เขาดูออกได้ยังไงกัน หานมู่จื่อไม่รู้ว่าควรจะบอกความจริงกับเขา หรือว่าจะปกปิดไว้เหมือนเดิมดี
ในขณะที่หานมู่จื่อกำลังลังเลอยู่ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
จื้อจื้อตัวน้อย:พี่สะใภ้ ผมก็แค่ลองถามดู ไม่ได้คิดร้ายอะไร เพราะเดิมทียู่ฉือก็ไม่ได้เติบโตที่นี่ แต่เพิ่งปรากฏตัวออกมากะทันหัน เรื่องในอดีตของเขา เขารู้จักและคบหากับใครมาบ้างผมเองก็ไม่รู้ แต่ครั้งแรกที่ได้เจอกับคุณ ผมรู้สึกว่าสายตาที่คุณมองยู่ฉือดูแตกต่างออกไป ผมก็เลยเดาว่าคุณเคยรู้จักกันมาก่อน
พออ่านจบ หานมู่จื่อก็เม้มปาก เฉียวจื้อเองก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร และเขายังคอยช่วยเหลือเธอมาตั้งแต่แรกด้วย รวมถึงสถานการณ์ที่ซับซ้อนในตอนนี้ บางที บอกทุกอย่างให้เขารู้… อาจจะไม่เป็นไรก็ได้
พอคิดได้แบบนี้ หานมู่จื่อก็ค่อยๆพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
หานมู่จื่อ :เฉียวจื้อ คุณฉลาดมากค่ะ
เฉียวจื้อก็แค่ลองถามดู เพราะเขาเห็นว่ายู่ฉือเซินไม่ตอบคำถามเขา ในขณะที่กำลังเก็บโทรศัพท์แล้วเดินกลับเข้าไป พอเห็นข้อความที่หานมู่จื่อตอบกลับมา เขาก็ตกใจจนแทบทรุดตัวลงบนพื้น
โอ้แม่เจ้า
เฉียวจื้อเบิกตาโตอย่างตกใจ พอเห็นข้อความที่หานมู่จื่อส่งมา
หรือว่า เขาจะเดาถูกแล้ว
เมื่อก่อนพี่สะใภ้กับยู่ฉือเป็นแฟนกันจริงๆ
สุดยอด
เฉียวจื้อรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ พี่สะใภ้เป็นเคยเป็นคนรักของยู่ฉือ เขารู้สึกเหมือนตัวเองพลาดไปหลายเรื่องเลย
มิน่าล่ะ ยู่ฉือเซินผู้ที่ไม่เคยแม้แต่จะสนใจผู้หญิงคนไหน ถึงได้ปฏิบัติกับเธอแตกต่างจากคนอื่น
เฉียวจื้อรีบพิมพ์ข้อความตอบกลับอย่างบ้าคลั่ง
จื้อจื้อตัวน้อย:ผมเดาถูกอย่างนั้นเหรอเนี่ย คุณกับยู่ฉือเคยเป็นคนรักกัน แล้วเมื่อก่อนพวกคุณคบกันได้ยังไงครับ ทำไมต่อมาถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ แล้วคุณตามหาเขาเจอได้ยังไง
พอเห็นคำถามพวกนี้ หานมู่จื่อก็สามารถเดาได้เลยว่าตอนนี้เฉียวจื้อคงกำลังทำท่าทางบ้าคลั่งแค่ไหน เธอพิมพ์ข้อความตอบกลับ :วันนี้ดึกมากแล้วค่ะ พรุ่งนี้เราหาเวลามาเจอกัน ฉันจะเล่าให้คุณฟัง
จื้อจื้อตัวน้อย:ได้ครับ ได้ครับ พี่สะใภ้ พรุ่งนี้เที่ยงผมไปหาคุณที่บริษัท
หานมู่จื่อ:อืม
หลังจากที่ทั้งสองตกลงกันแล้ว หานมู่จื่อก็วางโทรศัพท์ลง แล้วนอนหลับพักผ่อน
ส่วนเฉียวจื้อทำกำลังจะกลับบ้าน ยู่ฉือเซินก็ตอบข้อความกลับมาหาเขา แต่มีแค่คำว่า รู้แล้ว กับขอบคุณ
หึ เฉียวจื้อยกยิ้ม ในขณะที่กำลังจะพิมพ์ข้อความไปล้อเลียนเขา แต่พอมาคิดดูดีๆเขาก็หยุดมือไว้ซะก่อน
ทันใดนั้นเอง เขารู้สึกเหมือนตัวเองได้รู้ความลับที่สำคัญมากอยู่เลย แหะแหะ
วันต่อมา
เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง เธอก็เจอเข้ากับเฉียวจื้อที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้องทำงานของเลขา เหมือนลูกสุนัขพันธุ์ปั๊กกำลังจ้องมองเธออยู่อย่างตื่นเต้น “พี่สะใภ้ ในที่สุดคุณก็ออกมาสักที ผมรอคุณมาตั้งนานแหนะ”
หานมู่จื่อ “…”
เฉียวจื้อ “ไปกันเถอะครับ ผมเลี้ยงข้าวคุณเอง พวกเรากินข้าวไปด้วยคุยกันไปด้วย”
หานมู่จื่อนิ่งคิด ก่อนจะพูดตอบ “ฉันต้องไปบอกเขาก่อนค่ะ ไม่อย่างนั้น…”
“บอกอะไรล่ะครับ ถ้าหากยู่ฉือรู้ว่าคุณจะออกไปกับผม เขาต้องไม่อนุญาตแน่ๆ ไปกันเถอะครับ”
พอพูดจบเฉียวจื้อก็ไม่สนใจอะไรอีก เขารีบจูงมือหานมู่จื่อเดินออกไปทันที
หานมู่จื่อยังไม่ทันจะพูดอะไร ก็ถูกเขาลากเข้าลิฟท์ไปแล้ว พอพี่หลินที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องทำงานของเลขา ก็ร้อง เอ๊ะ ออกมาอย่างสงสัย
ว่ามู่จื่อไปสนิทสนมกับเฉียวจื้อตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่พอนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับท่านประธาน จึงพอจะเข้าใจได้
หานมู่จื่อถูกเฉียวจื้อลากขึ้นรถ จนมาถึงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขาถึงขั้นจองห้องอาหารสุดหรูไว้ด้วย
หลังจากเข้าไปแล้ว หานมู่จื่อถึงได้พบว่าเป็นร้านอาหารเจ
“พี่สะใภ้เหมือนจะไม่ค่อยกินอาหารมันๆเลี่ยนๆ ร้านอาหารที่พวกเราไปครั้งที่แล้วอาหารมันและเลี่ยนเกินไป พี่สะใภ้ก็เลยอ้วกออกมาแบบนั้น ดังนั้นวันนี้ผมก็เลยเลือกร้านนี้โดยเฉพาะ พี่สะใภ้ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพวกเราค่อยๆกิน ไม่ต้องรีบร้อน”
เขาอยากจะรู้อดีตของยู่ฉือจนแทบจะบ้าอยู่แล้ว
โดยเฉพาะเรื่องอดีตคนรักของเขาด้วย
หานมู่จื่อ “…”
ในตอนนี้ เธอรู้สึก… ไม่รู้ว่าจะอธิบายออกมายังไงดี
หลังจากนั่งลง เฉียวจื้อก็เทน้ำใส่แก้วให้เธอ แล้วยกมาวางไว้ตรงหน้าเธอ
“มามามา พี่สะใภ้ดื่มน้ำก่อนครับ แล้วพวกเราค่อยๆคุยกัน
“…”
เธอหนีไปตอนนี้ยังทันไหม
“พี่สะใภ้ พี่สะใภ้ เมื่อก่อนคุณกับยู่ฉือเคยคบกันจริงๆเหรอครับ แล้วพวกเขาหาเขาเจอได้ยังไงกัน ผมรู้จักกับยู่ฉือมาตั้งนาน รู้แค่ว่าเขาถูกตระกูลยู่ฉือช่วยขึ้นมาจากทะเล แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องในอดีตของเขาเลย และคนในตระกูลยู่ฉือก็เหมือนจงใจไม่พูดถึงเรื่องนี้ด้วย”
“อืม…”หานมู่จื่อพยักหน้ารับ “ เรื่องนี้…ต้องเริ่มพูดตั้งแต่เมื่อสองเดือนก่อน”