บทที่806 หมั้นอะไรกัน
“หืม? ” เหมือนกับว่าตวนมู่เจ๋อคว้าข้อมูลอะไรได้บางอย่าง “งานหมั้นอะไรกัน? ใครจะหมั้นกับใคร? ”
ตวนมู่เสว่ชำเลืองมองเขา แต่ก็ไม่สนใจเขา
ตวนมู่เจ๋อมองเขา รู้สึกตลกนิดหน่อย “ทำไม พี่ก็แค่ไปไกลนิดไกลหน่อยเท่านั้นเอง ก็เกิดเรื่องที่พี่ไม่รู้ขึ้นยังงั้นเหรอ? แล้วสายตาของเธอนี่มันยังไงกัน? เหมือนกับว่าพี่ทำเรื่องอะไรผิดต่อเธอยังงั้นแหละ? ”
“คือแบบนี้”ตวนมู่อ้าวเทียนให้ความสำคัญกับหลายทั้งสองคนของเขาเสมอ เพราะฉะนั้นก็เลยออกปากอธิบายให้ตวนมู่เจ๋อฟัง “ก่อนหน้านี้ครอบครัวของเรามีสัญญาการแต่งงานกับตระกูลยู่ฉือ แต่แค่ว่าตอนนั้นลูกสาวของยู่ฉือจินไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ เพราะฉะนั้นทั้งสองครอบครัวก็เลยไม่ได้เกี่ยวดองกันอย่างน่าเสียดาย ปู่กับยู่ฉือจินปรึกษากัน ลูกสาวลูกชายไม่ได้เกี่ยวดองกัน ถ้ายังงั้นก็ให้หลานๆ เกี่ยวดองกันแทนก็ได้ ช่วงนี้ตาแก่ยู่ฉือจินพึ่งจะตามหาหลานชายแท้ๆ ของตัวเองเจอ ก็เลยเตรียมจะให้ทั้งสองครอบครัวแต่งงานกัน”
พอได้ยินดังนั้น ตวนมู่เจ๋อก็เลิกคิ้ว “ตามหาหลานชายแท้ๆ กลับมา? ผู้ชายเหรอ? ”
“ใช่”
ตวนมู่เจ๋อเหลือบมองตวนมู่เสว่ที่อยู่ด้านข้าง เขายิ้มพร้อมกับพูดว่า “คุณปู่ จะช่วยให้เสี่ยวเสว่ได้หมั้น จากนิสัยเอาแต่ใจของเธอแล้วไม่น่าจะรับปากง่ายๆ แล้วอีกอย่าง……พวกปู่ทั้งสองคนก็อายุเยอะขนาดนี้กันแล้ว ยังมาสนใจเรื่องจับคู่หนุ่มสาวอีกงั้นเหรอ? ”
“พี่ กำลังพูดจามั่วซั่วอะไรกันอยู่? ไม่อนุญาตให้พี่พูดถึงคุณปู่แบบนี้นะ”
ตวนมู่เสว่ยื่นมือออกมาปกป้องตวนมู่อ้าวเทียน พร้อมกับพูดด้วยความโกรธ
พี่น้องเป็นแบบนี้ทุกวันอยู่แล้ว ตวนมู่อ้าวเทียนพูดอย่างร่าเริงว่า “แกคิดว่าปู่อยากจะเป็นแม่สื่ออย่างเดียวเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเจ้าเด็กเสี่ยวเสว่นี่……”
“เสี่ยวเสว่?”ตวนมู่เจ๋อหรี่ตาลง “เธอทำไมเหรอ? ”
“แกก็ถามเธอเองสิ ตอนที่เขาบาดเจ็บวันๆ ก็เอาแต่วิ่งไปตระกูลยู่ฉือ ตอนนี้เขาหายดีแล้วก็ยังไปทุกวัน บ่อยจนเหมือนกับส่งหลานสะใภ้ไปให้พวกเขาถึงบ้านแล้ว”
พอได้ยินดังนี้ ตวนมู่เจ๋อก็ฟังออกแล้ว “เสี่ยวเสว่หวั่นไหวงั้นเหรอ? ”
แปลกจัง สายตาของเสี่ยวเสว่เจ้าเล่ห์มาโดยตลอด หลายปีมานี้คนเดียวๆ ที่ทำให้เธออยากจะจีบก็มีแค่เย่โม่เซินคนเดียวเท่านั้น
แต่ว่าเย่โม่เซินพึ่งจะแต่งงานไปไม่นานนี่เอง หรือว่าสุดท้ายแล้วน้องสาวคนนี้ยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ?
ตวนมู่เสว่กัดริมฝีปากล่างของตัวเอง แล้วก็ถลึงตาใส่ตวนมู่เจ๋อ
“พี่ เรื่องของฉัน ฉันจัดการเองได้ ครั้งนี้พี่ห้ามยื่นมือเข้ามายุ่งกับเรื่องของฉัน”
ตวนมู่เจ๋อ “พูดเหมือนกับว่าพี่เข้าไปยุ่งเรื่องของเธอตลอดยังงั้นแหละ”
“แล้วครั้งที่แล้วไม่ใช่รึไง? ”
“ครั้งที่แล้ว? ครั้งที่แล้วมันเป็นสถานการณ์พิเศษโอเคไหม? ลองคิดดูสิ ถ้าเกิดว่าตอนนั้นพี่ไม่ได้ห้ามเธอ งั้น……”
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว เรื่องที่ผ่านมาแล้วมันไม่สำคัญอะไรแล้ว ฉันก็ไม่โทษที่ตอนนั้นพี่เข้ามาแทรกแซงหรอกนะ แต่ว่าพี่ต้องรับปากฉัน ว่าต่อไปนี้จะไม่เข้ามายุ่งเรื่องของฉันอีก”
ตวนมู่เจ๋อมองเธออย่างปวดหัว “นั่นพี่เรียกว่าช่วยเธอต่างหาก จะมาเรียกว่าพี่ไปยุ่งเรื่องของเธอได้ยังไงกัน? ”
“ยังไงพี่ก็ตอบมาเถอะ ตกลงไม่ตกลง? ”
“โอเคๆๆ พี่รับปาก”
จะพูดยังไงก็เป็นน้องสาวของตัวเอง ตวนมู่เจ๋อก็จำเป็นต้องรับปากเธอ
“ถ้ายังงั้นคุณปู่ ต้องช่วยเสี่ยวเสว่เอามาให้ได้นะครับ”
“ได้ ขอแค่เสี่ยวเสว่ชอบ ปู่ก็จะช่วยเอง วันนี้เหนื่อยมากเลยใช่ไหม? รีบไปพักผ่อนเถอะ”
“อืม ถ้ายังงั้นคุณปู่ห้ามลืมเรื่องนี้เด็ดขาดเลยนะ พรุ่งนี้ไปพูดที่ตระกูลยู่ฉือเถอะ หนูขึ้นข้างบนแล้วนะคะ”
พอเธอไปแล้ว ตวนมู่เจ๋อก็หรี่ตาลงอย่างอดไม่ได้ “หลานของตระกูลยู่ฉือนี่คือคนอะไรกัน? ถึงทำให้เสี่ยวเสว่หวั่นไหวได้? ”
คนอะไรกันงั้นเหรอ? ตวนมู่อ้าวเทียนยื่นมือมาลูบเคราของตัวเองพร้อมกับยิ้ม และพูดจาอย่างลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก “เป็นคนๆหนึ่ง ปู่เห็นแล้วก็ชอบเหมือนกัน ดูเป็นคู่ที่เหมาะสมกับเสี่ยวเสว่มากๆ เลย”
“แม้แต่ปู่ก็ยังชมไม่ขาดปาก ถ้ายังงั้นผมก็ต้องไปดูหน่อยแล้วว่าเป็นคนแบบไหนกันแน่”
วันที่สอง
ตวนมู่เจ๋ออยากจะพบกับคนที่ทำให้ปู่ของเขาชมไม่ขาดปาก แถมยังทำให้เสี่ยวเสว่ติดใจได้ว่าเขาเป็นคนยังไงกัน ก็เลยตรงไปที่บริษัทตระกูลยู่ฉือ
ตอนที่เขามาถึงแผนกต้อนรับนั้น หญิงสาวที่แผนกต้อนรับพอเห็นเขาก็ดึงสติกลับมาไม่ได้
“คุณ คุณคือ……”
ตวนมู่เจ๋อมีชื่อเสียงมากในแวดวงนี้ เพราะหน้าตาและฐานะของเขาทำให้สาวน้อยหลายคนตกหลุมรัก รูปภาพและข่าวสารมากมายเกี่ยวกับตวนมู่เจ๋อได้รับการเผยแพร่ในแวดวง WeChat รวมถึงนิตยสารต่างๆ
เขาเคยบอกว่าตัวเองชอบผู้หญิงที่ดวงตาใสสะอาด ผมยาว ตัวเล็กน่ารักลุคคาวาอี้ ทำให้หัวใจของสาวร่างสูงแตกสลาย
หลังจากนั้นสาวร่างเล็กก็พากันไว้ผมยาวทันที แล้วก็ตัดผมหน้าม้าด้วย
น่าเสียดาย ที่ไม่มีช่องทางที่จะได้เข้าใกล้ตวนมู่เจ๋อ ทำได้แค่ไปสมัครงานที่บริษัทตระกูลตวนมู่อย่างบ้าคลั่ง
“ผมนามสกุลตวนมู่ ชื่อว่าตวนมู่เจ๋อ อยากจะนัดพบท่านประธานยู่ฉือของพวกคุณได้ไหมครับ? ”
หญิงสาวแผนกต้อนรับเหม่อลอยอยู่นานกว่าจะดึงสติกลับมาได้ และรีบพยักหน้า “ได้แน่นอนค่ะ”
ตวนมู่เจ๋อคลี่ยิ้ม น้ำเสียงดูมีเสน่ห์ “ไม่ได้นัดก็ได้เหรอครับ? ”
“ได้ค่ะๆ เดี๋ยวดิฉันพาคุณขึ้นไป”
“ขอบคุณครับ”
หญิงสาวแผนกต้อนรับพาตวนมู่เจ๋อไปที่ลิฟต์ หัวใจของเธอเต้นแรงมาก พระเจ้า เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าช่วงนี้เธอจะได้ใกล้ชิดกับตวนมู่เจ๋อขนาดนี้ รู้สึกว่านี่เป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์จริงๆ
ระหว่างทางไปห้องทำงานของท่าประธาน ตอนที่เดินผ่านห้องเลขานั้น ก็มีคนๆ หนึ่งจากในนั้นเดินออกมาพอดี ตอนที่เดินสวนกันไปนั้น ตวนมู่เจ๋อก็เหมือนกับว่าได้เห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคย
เขาหยุดเดินอย่างรวดเร็ว แล้วหันกลับไปมองแผ่นหลังที่เดินไปไกลแล้ว หลังจากนั้นก็ค่อยๆ หรี่ตาลง
แผ่นหลัง……นี้ ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้มองผิดล่ะก็ นั่นมันหานมู่จื่อไม่ใช่เหรอ?
เมื่อหลายวันก่อนที่พบเธอที่ร้านอาหารตวนมู่เจ๋อยังรู้สึกประหลาดใจมาก ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกครั้งเร็วขนาดนี้ แต่ว่า……เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
ตวนมู่เจ๋อรู้สึกสงสัยมาก
หญิงสาวแผนกต้อนรับเห็นว่าเขาหยุดเดิน แล้วก็มองไปที่แผ่นหลังของหานมู่จื่อที่เดินไปไกลแล้ว หัวใจก็รู้สึกเจ็บในทันที
“ท่าประธานตวนมู่ คุณมองอะไรอยู่หรือคะ? ”
ตวนมู่เจ๋อชี้ไปที่แผ่นหลังของเธอ แล้วเอ่ยปากถาม “คนที่พึ่งเดินผ่านไปเมื่อกี้ คือใครเหรอครับ? ”
อะไรกัน ที่แท้ก็มองเธอจริงๆ ด้วย
เฮ้อ คนหน้าตาดีนี่มันช่างแตกต่างกันจริงๆ ด้วย แม้แต่ตวนมู่เจ๋อยังมองเธอถึงสองครั้ง แถมยังถามตัวเองอีกด้วย
หญิงสาวแผนกต้อนรับรู้สึกปวดใจ แต่ว่าก็ยังคงตอบว่า “นั่นคือผู้ช่วยเลขาที่เราพึ่งจ้างมาไม่นานค่ะ เธอมีความสุขมากเลยนะคะ เราหาผู้ช่วยเลขามานานมาก เธอเป็นคนแรกที่ผ่าน”
“ผู้ช่วยเลขางั้นเหรอ?? ” ตวนมู่เจ๋อพูดซ้ำอีกครั้ง ยังคงรู้สึกไม่เข้าใจ
เขามั่นใจ ว่าผู้หญิงคนนั้นคือหานมู่จื่อแน่นอน แต่ว่า……ทำไมเธอถึงมาเป็นผู้ช่วยเลขาที่นี่ได้
“พี่หลิน ท่านนี้คือประธานของบริษัทตระกูลตวนมู่ เขาอยากนัดพบท่านประธานของเราหน่อยค่ะ”
บริษัทตระกูลตวนมู่งั้นเหรอ?
พี่หลินรีบเงยหน้าขึ้นมา หลังจากเห็นตวนมู่เจ๋อแล้วนั้น “เชิญรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันไปรายงานท่านประธานก่อน”
พี่หลินพาเขามาหยุดอยู่หน้าประตูห้องทำงาน แล้วก็กลับออกมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว “เชิญด้านในเลยค่ะ”
ตวนมู่เจ๋อยิ้มให้เธออย่างมีมารยาท หลังจากนั้นก็จัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วก็เดินเข้าไป
ถ้าเกิดบอกว่า คนๆ นี้จะมาเป็นน้องเขยของตัวเองในอนาคตล่ะก็ ถ้ายังงั้นเขา……ก็ควรจะสร้างความประทับใจที่ดีให้กับน้องเขย
แต่ว่าพอตวนมู่เจ๋อเห็นผู้ชายที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานอย่างชัดเจนแล้วนั้น เขาก็ตะลึงไปเลย……