เมื่อเห็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์ไม่ตอบ หัวใจเทรซี่พลันดำดิ่ง ราวกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง
ทันทีที่พลเรือโทโรคภัยเผยสีหน้าสิ้นหวัง ไคลน์หยิบเศษกระดาษออกจากกระเป๋าเสื้อและสะบัดข้อมือ ดีดไปด้านหน้าประหนึ่งไพ่
ท่ามกลางเสียงแหวกอากาศ เศษกระดาษแข็งตัวราวกับโลหะ ตัดผ่านใยแม่มุมล่องหน ผ่านผลึกน้ำแข็งสีใส และผ่านต้นแขนซ้ายของเทรซี่จนเลือดสดสาดกระเซ็น
กระดาษถูกย้อมกลายเป็นสีแดง พุ่งผ่านเทรซี่ไปทางด้านหลังและวกกลับมาหามือไคลน์
“…” เทรซี่เข้าใจว่ากระดาษแผ่นดังกล่าวจะตัดคอตน แต่กลับต้องผิดคาด เพราะท้ายที่สุดเฉือนโดนแค่ต้นแขน เธอจึงมึนงงไปพักใหญ่ จนกระทั่งเห็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์พับกระดาษหลายทบและวางลงบนกล่องบุหรี่เล็ก เทรซี่ตัดสินใจเปิดปากพูด “เป้าหมายที่แท้จริงของนายคือคาร์เทอริน่าสินะ”
ไคลน์เก็บกล่องบุหรี่โลหะกลับเข้าไปในกระเป๋าโดยไม่ตอบ แต่เป็นฝ่ายตั้งคำถาม
“เป็นทายาทของเธอหรือ”
ได้ยินคำพูดดังกล่าว เทรซี่ซึ่งถูกขังอยู่ในผลึกน้ำแข็งและใยแมงมุม ระเบิดเสียงหัวเราะ
“ไม่ใช่แค่ทายาท แต่ฉันเป็นลูกของเธอ”
ลูก… ลูกสาว… ไคลน์รู้ลึกโล่งใจที่ตนไม่ได้ฆ่าเทรซี่ส่งเดช ไม่อย่างนั้นอาจทำให้แม่มดขาวตระหนักถึงความผิดปรกติ ขณะเดียวกันก็พยายามวิเคราะห์ตามสามัญสำนึกว่า คาร์เทอริน่าเป็นพ่อหรือเป็นแม่ ‘สาวน้อยโรคภัย’ เทรซี่กันแน่
หากคาร์เทอริน่าเคยเป็นชาย เธอก็มีสิทธิ์เป็นพ่อของเทรซี่ แต่ปัญหาคือ เธอเป็นครึ่งเทพลำดับ 4 มาตั้งแต่ช่วงปลายยุคสมัยที่สี่ ‘ยุคสมัยแห่งความไร้ชีวิตชีวา’ ในทางกลับกัน สำหรับเส้นทางนักลอบสังหาร โอสถที่เปลี่ยนเพศคือลำดับ 7 แม่มด…
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าคาร์เทอริน่าเป็นพ่อของเทรซี่ นายพลโจรสลัดผู้นี้ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันสามร้อยปี แต่ผู้วิเศษลำดับ 5 ไม่มีทางอายุยืนยาวขนาดนั้น แม้แต่ลำดับ 4 ส่วนใหญ่ และลำดับ 3 บางคนก็ยังทำไม่ได้!
ถ้าอย่างนั้น คำตอบก็มีเพียงหนึ่งเดียว คาร์เทอริน่าเป็นคนคลอดเทรซี่ออกมา และน่าจะเพิ่งเกิดขึ้นในช่วงยี่สิบสามสิบปีที่แล้ว… แม่ที่มีอายุมากกว่าหนึ่งพันสามร้อยปี… ไคลน์พยักหน้าเล็กน้อย ถามหยั่งเชิงโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
“หล่อนเป็นแม่ของเธอ?”
สีหน้าเทรซี่เริ่มบิดเบี้ยว
“เปล่า… เป็นแม่ผู้ให้กำเนิด”
ขณะไคลน์กำลังจะถามว่าต่างกันตรงไหน เทรซี่กล่าวจิกกัดตัวเอง
“ตอนนี้แม่ของฉันเป็นคนอื่น… คนที่เคยเป็นพ่อ”
ครอบครัวของพวกแม่มดนี่น่าปวดหัวฉิบ… แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลให้เธอต้องนำหายนะมาสู่โลก… ไคลน์อาศัยพลังตัวตลกเพื่อควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้า ขณะเดียวกันก็ยังคงจ้อง ‘สาวน้อยโรคภัย’ ต่อไป
เทรซี่ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง เริ่มปลงและถอนหายใจยาว ชิงหัวเราะเยาะตัวเองก่อนที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์จะได้กล่าวคำใด
“บางที ทุกสิ่งมันอาจจะผิดเพี้ยนมาตั้งแต่ตอนที่ฉันเกิด”
“พ่อแม่ที่ผิดเพี้ยน ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ผิดเพี้ยน และนิกายที่ผิดเพี้ยน ทุกสิ่งหล่อหลอมตัวฉัน ขณะเดียวกันก็กัดกร่อนฉัน… ตอนอายุแปดขวบ ฉันพบว่าพ่อที่ตัวเองยกย่องมาตลอดกลายเป็นผู้หญิง… ร่างกายพ่ออ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง แต่กลับบริหารเสน่ห์เก่งขึ้นทุกวัน… ในภายหลังพ่อได้คบหากับเพื่อนชายและคลอดน้องชายออกมา… นายพอจะจินตนาการความรู้สึกออกไหม? เมื่อฉันตัดสินใจหนีออกจากบ้านและผจญภัยในทะเล ผ่านการทำงานหนักนานหลายปี ในที่สุดสภาพจิตใจของฉันก็กลับเป็นปรกติ เข้าสังคมได้เหมือนคนทั่วไป และเริ่มมีความฝันเป็นของตัวเอง… แต่ทันใดนั้น โอสถก็เปลี่ยนให้ฉันเป็นผู้หญิง… ฮะฮะ! ผู้หญิงล่ะ…”
ไคลน์ที่ฟังอย่างเงียบงัน กล่าวโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
“กระตุ้นคนเก่งเหมือนกันนี่”
“…” เทรซี่อ้าปากค้าง ก่อนจะถอนหายใจและยิ้มขื่นขม “ฉันยอมรับว่าฉันพยายามกระตุ้นความเห็นอกเห็นใจของนาย… ไม่ว่าใครก็อยากมีชีวิตรอดทั้งนั้น จริงไหม? แต่ว่า… ฉันไม่ได้โกหกนะ ที่เล่ามาคือประสบการณ์ชีวิตจริงๆ”
หญิงสาวเว้นวรรค หยุดทำสีหน้าโศกเศร้าและเจ็บปวด
“ก่อนที่จะถูกฆ่า… ฉันอยากถามคำถามง่ายๆ ที่นายน่าจะตอบได้”
“ว่ามา” ไคลน์จ้องหน้าแม่มดฝั่งตรงข้าม
เทรซี่ลังเลสักพัก ก่อนจะถามออกมาในที่สุด
“เอลเลนรู้เรื่องที่นายจะมาลอบสังหารฉันเมื่อคราวก่อนไหม”
ไคลน์เงียบไปครู่หนึ่ง
“เธอไม่รู้ว่าฉันจะทำอะไร”
ใบหน้าเทรซี่มีชีวิตชีวาขึ้นมาเล็กน้อย
“เป็นความจริงหรือ?”
แต่ไม่เปิดโอกาสให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์พูด เทรซี่กล่าวด้วยสีหน้าซับซ้อน
“ก่อนจะตาย ฉันขอร้องนายสักเรื่องได้ไหม… ถ้าได้พบเอลเลนอีก ช่วยบอกเธอว่าฉันรู้สึกผิดกับสิ่งที่ผ่านมา แต่ไม่เสียใจที่ได้ทำลงไป”
กล่าวจบ เทรซี่พยายามส่ายหน้า แต่ก็ถูกพันธนาการด้วยผลึกน้ำแข็งและใยแมงมุมล่องหน ผลลัพธ์จึงล้มเหลว
เธอพูดประชดตัวเอง
“เปลี่ยนใจแล้ว นายไม่จำเป็นต้องบอก… รีบลงมือเถอะ”
กล่าวจบ เทรซี่หลับตาลง
ผ่านไปหลายวินาที หญิงสาวไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างที่คาดหวัง แต่กลับได้ยินเสียงทุ้มลึกของเกอร์มัน·สแปร์โรว์แทน
“พูดตามฉัน ไม่ว่าใครก็ห้ามรบกวนฉัน”
“…” เทรซี่ประหลาดใจมาก ภายในใจเต็มไปด้วยความสับสน ถึงขั้นแสดงออกทางสีหน้า
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเตรียมใจตายไว้แล้ว เรื่องเล็กน้อยแบบนี้จึงไม่ใช่ปัญหา เธอเปิดปากตะโกนออกไปโดยไม่คิดมาก
“ไม่ว่าใครก็ห้ามรบกวนฉัน”
ทันทีที่กล่าวจบ เสียงแบบเดียวกันก้องกังวานไปทั่วกาฬมรณะ
ไม่มีโจรสลัดคนใดตั้งคำถาม ราวกับคำสั่งประหลาดเช่นนี้คือสิ่งที่ยอมรับได้ เพียงก้มหน้าทำงานของตัวเองและพยายามเลี่ยงห้องกัปตัน
กัปตันบอกว่าห้ามรบกวน ดังนั้น พวกมันห้ามเข้าใกล้ด้วยประการทั้งปวง!
ขณะเดียวกัน เทรซี่เห็นเกอร์มัน สแปร์โรว์ถอดหมวกทรงกึ่งสูง นำลงมาทาบหน้าอกและโค้งศีรษะประหนึ่งเตรียมอำลา
จากนั้น เธอรู้สึกราวกับถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง บรรยากาศรอบตัวเงียบงันสุดขีด แม้แต่นักผจญภัยเสียสติก็ไม่อยู่แล้ว
เธอได้รับสภาพแวดล้อมไม่ถูกรบกวนตามที่พูด
นี่คือพลังขยายและบิดเบือนของเส้นทางนักกฎหมาย!
น้ำแข็งบนลำตัวเทรซี่เริ่มละลาย แต่ใยแมงมุมล่องหนกลับยังพันธนาการแน่นหนา กีดกันมิให้เธอกระดุกกระดิก กระทั่งการเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงร่างกายก็ยังทำไม่ได้
สิ่งเดียวที่เทรซี่ทำได้คือการยืนแน่นิ่งราวกับหุ่นขี้ผึ้ง
“หมอนั่นไม่ฆ่าเรา…” เทรซี่มองตรงด้วยสายตาเหม่อลอย ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งเกิด
เธอไม่คิดว่าเกอร์มัน สแปร์โรว์จะไว้ชีวิตเพราะสงสาร ต้องไม่ลืมว่า นักผจญภัยเสียสติรายนี้ฆ่าโจรสลัดไปมาก และทุกครั้งก็ไม่เคยลังเล แม้เทรซี่จะมั่นใจว่าตนมิได้ชั่วร้ายเหมือนกับแม่มดปรกติ แต่ในฐานะโจรสลัด มีหรือที่จะไม่เคยทำเรื่องผิดกฎหมาย ทั้งค้ามนุษย์และปล้นเรือโดยสาร เธอเคยทำมาหมดแล้ว
ในทำนองเดียวกัน เทรซี่ไม่คิดว่าเกอร์มัน สแปร์โรว์จะหลงเสน่ห์ตน เพราะดวงตาอีกฝ่ายเปี่ยมไปด้วยความเย็นชาราวกับจ้องมองคนตาย
“ต้องมีเหตุผลอื่นแน่…” เทรซี่เปลี่ยนมุมมองความคิด ลองเชื่อมโยงกับสิ่งที่เธออาจมีส่วนเกี่ยวข้อง จากนั้นก็วิเคราะห์ “เรากับท่านแม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอย่างใกล้ชิด และแม่มดที่เก่งกาจมักถนัดเวทคำสาป หากเราตาย ท่านแม่จะรู้ทันทีว่ามีปัญหาเกิดขึ้นและไหวตัวทัน ส่งผลให้แผนการถัดไปของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ล้มเหลว… ดูเหมือนว่า ไม่สำคัญว่าแผนการขั้นถัดไปของนักผจญภัยเสียสติจะสำเร็จหรือไม่ แต่มีโอกาสที่เขาจะย้อนกลับมาฆ่าเรา… หากต้องการมีชีวิตรอด เราต้องช่วยตัวเองให้ได้เท่านั้น”
เดิมที เทรซี่มิได้สนิทสนมกับคาร์เทอริน่าผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้ามากนัก เพราะ ‘แม่มดยุพนิรันดร์’ รายนี้มีชีวิตอยู่มานาน ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่กับชายหนุ่มอายุน้อยเพื่อรักษาสภาพจิตใจที่อ่อนเยาว์ การคลอดลูกแต่ละครั้งจึงแทบไม่ตื่นเต้น มีเพียงนานๆ ทีที่จะรู้สึกพิเศษกับลูกคนใหม่
ทว่า เมื่อเทรซี่โตขึ้น คาร์เทอริน่าเริ่มมองว่าเทรซี่เหมือนตนในอดีต จึงคอยให้ความช่วยเหลือมากเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม เทรซี่ไม่ต้องการความรักแบบนั้น ความรักที่ทำให้เธอสูญเสียเพศเดิมและต้องเผชิญความเจ็บปวด
“ฮะฮะ… ทั้งที่เราเกลียดเธอและมักจะโวยวายใส่ แต่ลึกๆ ในใจกลับยังพึ่งพาโดยไม่รู้ตัว แอบหวังว่าเธอจะเคารพความคิดของเรามากขึ้น… และหวังว่าเธอจะหนีจากเงื้อมมือเกอร์มัน·สแปร์โรว์พ้น…” เทรซี่เริ่มดิ้นรนอีกครั้ง พยายามทำให้ตัวเองหลุดจากสภาวะถูกจองจำ
ในแง่หนึ่ง เธอต้องการช่วยเหลือตัวเอง แต่ในอีกแง่หนึ่ง เธอต้องการแจ้งข่าวให้คาร์เทอริน่าทราบโดยเร็ว จะได้คอยระวังเกอร์มัน สแปร์โรว์
แน่นอน เทรซี่ยังคงคลางแคลงว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์ซึ่งน่าจะเพิ่งเป็นลำดับ 4 ได้หมาดๆ จะเอาชนะแม่มดยุพนิรันดร์ที่รอดชีวิตมาจากยุคสมัยที่สี่ได้เชียวหรือ อย่างไรก็ตาม เทรซี่ยังไม่ลืมว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์มีสุดยอดตัวช่วยอย่าง ‘กงสุลมรณะ’ ที่แม้แต่มารดาของเธอยังหวาดกลัว!
ตุ้บ!
ในที่สุดเทรซี่ก็ล้มลงบนพื้น เธอพยายามเกลือกกลิ้งไปที่โต๊ะทำงาน แต่ไม่ว่าจะพยายามสักเพียงใด ร่างกายก็ไม่ยอมขยับ
สิ่งที่เธอกำลังต่อสู้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นตัวเธอเองที่ถูกบิดเบือนและขยาย!
…
เหนือสายหมอกสีเทา ไคลน์บนเก้าอี้เดอะฟูล วางกระดาษที่เปื้อนเลือดพลเรือโทโรคภัยลงบนโต๊ะ
ทันทีหลังจากนั้น มันเสกปากกาและกระดาษ ตามด้วยการเขียนคำทำนาย
“ตำแหน่งปัจจุบันของคาร์เทอริน่า มารดาของพลเรือโทโรคภัย เทรซี่”
วางปากกาลง ไคลน์ถือกระดาษสองแผ่นไว้ในมือสองข้าง เอนหลังพิงพนักเก้าอี้พลางท่องประโยคที่เพิ่งเขียนด้วยเสียงแผ่ว
เมื่อครบเจ็ดหน มันส่งตัวเองเข้าสู่ดินแดนความฝันและได้เห็นหอระฆังสไตล์โกธิกสูงเด่นตระหง่านท่ามกลางโลกสีเทา
ข้างหอระฆัง คาร์เทอริน่าที่แต่งกายด้วยชุดคลุมสีขาวศักดิ์สิทธิ์ ยืนอยู่ในเงามืดที่ฉายซ้อนทับจากอาคารหลายหลัง กิริยาท่าทางเป็นไปอย่างสง่างาม เธอกำลังมองไปรอบตัวคล้ายกับค้นหาบางสิ่ง ท้องฟ้าด้านบนมีพระจันทร์สีแดงลอยสูง เป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่ไคลน์เคยทำนายถึงคาร์เทอริน่ามาก่อน
สิ่งนี้หมายความว่า แม่มดขาว คาร์เทอริน่ายังคงอยู่ในเบ็คลันด์ เขตตะวันตก และกำลังไล่ตามเป้าหมายบางอย่าง
………………………………….