บทที่ 5 ข่าวร้ายและความเศร้า
ปีนี้โคโนฮะได้ชนะสงคราม หมู่บ้านทรายได้ยอมแพ้ หมู่บ้านสายหมอกไม่สามารถเข้าสู่ดินแดนแห่งไฟได้ มีแค่หมู่บ้านเมฆและหมู่บ้านดินเท่านั้นที่ทำสงครามซึ่งอยู่ๆโคโนฮะก็โผล่ขึ้นมาทำให้ได้รับชัยชนะไปเต็มๆ
ข่าวการชนะสงครามได้ถูกส่งกลับมาทำให้ชาวบ้านและนินจาถอนหายใจด้วยความโล่งอก สงครามจบแล้ว! ทุกคนได้ไปยืนต้อนรับฮีโร่ภายในหมู่บ้านเป็นแถวยาวเหยียด ต้อนรับการกลับมา
“ดูสิ พวกเขากลับมาแล้ว”
นินจาตรวจจับได้พบเจอกับสัญญาณของกองทัพของพวกเขากลับมา และชาวโคโนฮะที่ได้เห็นฉากนั้นก็ได้ร้องเฮขึ้นมาด้วยความดีใจ
เรียวเขย่งตัวเพื่อมองท่ามกลางฝูงชน เขาเห็นสามนินจาในตำนาน ซึนาเดะ จิไรยะ และโอโรจิมารุ ตามมาด้วยเขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ ซาคุโมะ
โอโรจิมารุตั้งหลักที่แคว้นนํ้าถึง 2 ปีเพื่อป้องกันการโจมตี ซาคุโมะได้สังหารผู้ใช้หุ่นเชิดที่เก่งที่สุดในหมู่บ้านทราย จิไรยะยังคงสอนนางาโตะเกี่ยวกับวิชานินจา
หัวขบวนของพวกเขาเป็น ซารุโทบิ ฮิรุเซ็น โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ชาวบ้านยิ้มต้อนรับการกลับมาของพวกเขาอย่างอบอุ่น
โฮคาเงะรุ่นที่สามภูมิใจในศิษย์ของตนเป็นอย่างมาก ตอนนั้นพวกนั้นยังเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ ตอนนี้กลับสามารถปกป้องโคโนฮะจากสงครามได้
หลังจากที่ปรบมือเพื่อการต้อนรับแล้ว เหล่านินจาก็กระจายตัวเพื่อขนเปลห่ามนินจาที่ได้รับบาดเจ็บเป็นร้อยๆคน นินจาเหล่านี้มีสภาพครึ่งเป็นครึ่งตาย หลายคนต้องทอดร่างทิ้งไว้ที่สนามรบ
รุ่นที่สามได้กล่าวเอาไว้ว่า การบาดเจ็บเช่นนี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรียวเองก็สะเทือนใจกับเหตุการณ์นี้เช่นกัน เขาเป็นหมอ เขาเห็นคนป่วยใกล้ตายตรงหน้าเขาโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ มันทำให้เขารู้สึกหมดหนทาง ยิ่งสงครามใหญ่มากเท่าไหร่ คนที่บาดเจ็บก็ยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว มันทำให้เขาเข้าใจความจริงที่ว่าโลกนี้เป็นจริงและความตายในโลกนี้ก็เป็นจริงเช่นกัน
หลังจากที่ขนผู้ป่วยบาดเจ็บเข้าหมู่บ้าน ซาคุโมะและ 2 นินจาในตำนานก็แยกตัวออกไปทำภารกิจของโฮคาเงะ เขารู้ว่านี้อาจจะไม่ใช่งานเลี้ยง แต่เป็นงานรวมตัวของครอบครัว
เรียวเก็บอารมณ์ไว้ในใจเงียบๆคนเดียว ในขณะที่เขากลับบ้านของตระกูลยามานากะคนอื่นๆ เมื่อเขาเข้าไปเขาก็เห็นซาคุโมะที่ยืนอยู่แล้วแม่เขาที่ยืนร้องไห้นํ้าตาไหลไม่หยุด และข้างๆของเขา ยามานากะ อิโนะอิจิกำลังร้องไห้จนตาแดงเช่นกัน
“เรียว ลุงของนายตายแล้ว”
เสียงของอิโนะอิจิไม่ดังมากแต่มันทะลุเข้าสู่จิตใจของเรียวอย่างสาหัส ราวกับฟ้าฝ้าในตอนกลางคืน ตั้งแต่เกิด เขาเห็นลุงของเขาพาเดินเล่น จูงมือของเขา สอนเขาเดิน สอนเขาวิ่ง สอนเขาทำหลายๆสิ่ง และมอบความอบอุ่นให้แก่เขาที่เขาไม่ได้รับมาจากพ่อของเขาตั้งแต่เขาเกิด
แต่ตอนนี้ลุงของเขาตายแล้ว!
อิโนะอิจิ จำได้ว่าลุงของเรียว เขาจากไปเมื่อตั้งแต่เรียว 2 ขวบ เรียวน่าจะลืมเขาได้ แต่หารู้ไม้ว่าเรียวนั้นมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่และความจำดีแบบหมอ
“คุณซาคุโมะ มันเป็นใครที่ฆ่าลุงของผม?” เรียวก้มหน้าของเขาพร้อมกับพูดด้วยนํ้าเสียงเรียบนิ่ง
ซาคุโมะเองที่คิดว่าเรียวน่าจะลืมลุงของเขาได้แล้วจึงพูดออกมาว่า
“เป็นร่างสถิตย์สัตว์หาง 4 หาง โรจิ”
“ผม…จะฆ่าเขา!” เรียวพูดด้วยนํ้าเสียงเรียบนิ่ง เขาเงยหน้าขึ้นมาก็แสดงให้เห็นถึงนํ้าตาที่หลั่งไหลไม่หยุดของเรียว
“นี้มัน…นี้ลูกของเขา เรียว ดูเหมือนว่าเรียวจะจำทุกสิ่งทุกอย่างได้ตั้งแต่เกิด ช่างเป็นเด็กที่น่าทึ่งจริงๆ” ซาคุโมะมองดูเด็ก 5 ขวบที่อยู่ด้านหน้าของเขา
“เรียว ยังจำลุงของเธอได้…”
“แน่นอนว่าผมจำได้ แล้วผมจะลืมได้ยังไง?” เมื่อก่อนเขาคิดว่า โลกนี้ก็เหมือนเกมส์สำหรับเขา มี NPC ยกเว้นคนในครอบครัวของเขา เขามั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับความจริงนี้ได้ แต่การกลับมาของกองกำลังในวันนี้ทำให้เรียวตระหนักได้ว่า นี้คือโลกแห่งความจริง
บวกกับความจริงลุงของเขาตาย ทำให้เขาสามารถปลุกสายเลือดของพ่อของเขาได้
เรียวน้อยได้มีตาสีแดงราวกับทับทิมหมุนอยู่ ทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ต่างก็เงียบภายในทันที
“ท่านน้า ตาของเรียว…” อิโนะอิจิทำลายความเงียบ
“ใช่แล้ว พ่อของเรียว สามีของชั้นเป็นคนจากอุจิวะ”
“อิโนอิจิ นายก็น่าจะรู้ว่าเด็กที่มีสายเลือดอุจิวะที่สามารถเบิกเนตรวงแหวนได้ตั้งแต่ 5 ขวบนั้นไม่ต่างอะไรกับอัจฉริยะ พวกเขาจะยอมปล่อยให้เรียวมาอยู่ในตระกูลนายงั้นเหรอ? ตอนนี้นายเป็นหัวหน้าตระกูลยามานากะแล้ว นายจะยังปกป้องเรียวกับแม่ของเขาไว้ไหม? นี้สามารถทำให้ตระกูลยามานากะเดือดร้อนได้เลยนะ” ซาคุโมะพูดออกมา
“คุณซาคุโมะ ท่านน้า และน้องเล็กของชั้นจะเป็นครอบครัวของพวกเขาตลอดเวลา ไม่ว่าพวกเขาจะเดินไปตามทางของตนเอง ที่แห่งนี้ก็คือบ้านของทุกคน”
“ดีมาก!! ถ้างั้นเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องนี้ ก็ให้รู้กันเท่านี้ เข้าใจไหม?” ซาคุโมะพูดออกมา
“เข้าใจแล้ว” ทัศนคติของอิโนะอิจิทำให้ชินเสะรู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมาก เธอดีใจมากที่มีครอบครัวเช่นนี้
หลังจากที่สนทนาอีกสองสามคำ ซาคุโมะก็ออกจากบ้านของตระกูลยามานากะไป หลังจากนี้เป็นเรื่องของตระกูลยามานากะ
“เรียว อย่าเศร้าไปเลย พ่อของชั้นคงจะไม่ดีใจแน่ถ้าเห็นเธอเป็นแบบนี้” อิโนะอิจิพูดออกมา
การตายของอากิฮิโตะ ทำให้เขารู้สึกเศร้าสร้อยอย่างสุดซึ้ง ทำให้เขาสามารถปลุกเนตรวงแหวนขึ้นมาได้ และความโศกเศร้าของเขาก็กลายเป็นแรงผลักดันตราบใดที่เขาสามารถพัฒนาไปได้เรื่อยๆ เขาอาจจะสามารถปลุกเนตรสังสาระได้ หรือรูปแบบใดที่ทำให้ลุงของเขาสามารถคืนชีพได้! สิ่งที่เขาต้องการที่สุดในตอนนี้คือพลัง!
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ได้จัดงานศพสำหรับผู้วายชมน์ ผู้ซึ่งเป็นวีรบุรุษแห่งโคโนฮะ
ต่อหน้าป้ายหลุมศพแล้ว พวกเขาล้วนแต่งกายในชุดสีดำ ป้ายนั้นสลักชื่อของผู้ที่เสียสละชีวิตในสงครามเพื่อรักษาโคโนฮะเอาไว้
หลังจากที่จบงานศพ ชินเสะได้เรียกเรียวและอิโนะจิเข้ามาในห้องของเธอ ก่อนที่จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในหลายปีที่แล้ว
พ่อของเรียวเป็นนินจาชั้นสูงของตระกูลอุจิวะ มีชื่อว่า อุจิวะ โฮวยี่ ที่ไม่ได้ปรากฎขึ้นในตามเนื้อเรื่องหลัก ตัวของพ่อของเรียวแปลกกว่าทุกคนในตระกูลอุจิวะที่จะมีจักระธาตุไฟ แต่เขามีเพียงธาตุไฟฟ้าเท่านั้น
ตระกูลอุจิวะรู้จักกันดีในฐานะผู้ใช้คาถาไฟที่เยี่ยมที่สุดและมีคาถาที่ดีที่สุด แต่โฮวยี่กลับขาดคุณสมบัติไฟ ทำให้เขาโดนข้อครหามากมาย แต่ทุกคนกลับไม่กล้าเปิดปากก่นด่าโฮวยี่เมื่อเขาสามารถเบิกเนตรวงแหวนได้ตอน 10 ขวบ!
หลังจากที่เบิกเนตรได้แล้วความสามารถของโฮวยี่ก็กลายเป็นพุ่งทะยาน ด้วยความสามารถของเขา เขาได้กลายมาเป็นนินจาชั้นสูงของตระกูลอุจิวะ หลังจากที่ผ่านการฝึกโดยตระกูลอุจิวะ โฮวยี่ในวัย 16 ปีสามารกลายมาเป็นโจนินพิเศษได้ด้วยพลังเนตรวงแหวนและพลังสายฟ้าของเขา
หลังจากที่เขาได้กลายเป็นโจนินเต็มตัวเขาก็ถูกส่งไปแคว้นลม เขาก็ได้พบชินเสะที่ทำงานเป็นนินจาแพทย์ที่นั้น
ในแคว้นลมนั้นเด่นเรื่องการเชิดหุ่นและการใช้พิษ เพียงแค่ความผิดพลาดเล็กน้อยของนินจาของโคโนฮะ ทำให้อัตราการตายของนินจาโคโนฮะอยู่ที่ 70% ดังนั้นจึงมีการส่งนินจาแพทย์จำนวนมากไปยังแคว้นลม
ชินเสะช่วยโฮวยี่จากการติดพิษ โฮวยี่เองก็ช่วยชินเสะในสนามรบ ทำให้ทั้งสองตกหลุมรักกัน
เมื่อปีที่ 31 หลังจากที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน การแต่งงานของพวกเขามีเพียงแค่หัวหน้าของโฮวยี่ ซาคุโมะเท่านั้นที่รู้ ในปีถัดมาเธอได้ตั้งครรภ์เรียวขึ้นมา โฮวยี่ได้เผชิญหน้ากับลูกชายของจิโยะ และภรรยาของเขา พวกเขาได้สู้กันอย่างดุเดือด แต่จบด้วยที่โฮวยี่ถูกพิษเล่นงาน และเขาก็ตายภายใต้แขนของชินเสะ หลังจากที่เธอพยายามช่วยเขา แต่เธอก็ล้มเหลว
ทำให้เธอรู้สึกเศร้าใจราวกับโลกถล่ม
ซาคุโมะก็ได้ติดต่อ อากิฮิโตะ ลูกพี่ลูกน้องของชินเสะ
ตระกูลอุจิวะไม่เคยเห็นด้วยกับโฮคาเงะ ชินเสะไม่สามารถอยู่ร่วมได้กับคนในตระกูลอุจิวะ ตอนที่ โฮวยี่ได้ตายลงไป ซาคุโมะไม่สามารถยืนดูภรรยาของเพื่อนถูกรังแกโดยตระกูลอุจิวะได้ จึงปิดบังการแต่งงานของทั้งสอง และพาเธอกลับตระกูลยามานากะ ที่ๆซึ่งจะทำให้เธอเลี้ยงดูเรียวได้อย่างไม่มีปัญหา
ด้วยเหตุนี้ทำให้เรียวสามารถเติบโตได้อย่างสงบสุข ชินเสะพยายามที่จะไม่พูดถึงเรื่องพวกนี้ แต่เธอไม่คิดว่า วันที่เธอจะต้องพูดความจริงกับลูกของเธอจะมาถึงเร็วขนาดนี้
“ท่านแม่ ท่านเป็นนินจาแพทย์งั้นเหรอ?”
“แม่เรียนวิชาพวกนี้มาหลายปี จนอายุ 14 แม่ก็ได้เข้าทำงานที่โรงพยาบาล หลังจากที่มีลูกแม่ก็ได้ลาออกมา”
“ท่านแม่ ตระกูลยามานากะของเราเด่นเรื่องการรักษาใช่ไหมครับ” เรียวจำเนื้อเรื่องหลักได้ อิโนะเองก้มีวิชานินจาแพทย์ และเสริมข้อเท็จจริงที่ว่าแม่ของเขาเป็นนินจาแพทย์ ด้วยความเข้าใจในร่างกายของมนุษย์ วิชาการแพทย์นินจา และพลังจักระธาตุสายฟ้า อาจจะรวมตัวกันได้อย่างทรงพลัง
“ก็ถูกของลูก ตระกูลของเรามีความสามารถในการควบคุมจักระได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะวิชากายจิต พวกเราจึงไม่มีปัญหาในการใช้วิชานินจาแพทย์ทั่วไป แต่การเรียนวิชานินจาแพทย์เป็นเรื่องที่ยากมาก”
“ท่านแม่…”
“เรียว ดูเวลาสิ ตอนนี้ลูกต้องไปโรงเรียนแล้ว ให้แม่คุยกับพี่ของลูกหน่อยนะ”
ถึงแม้ว่าเขาจะสงสัยว่าแม่ของเขากำลังจะคุยอะไรกับอิโนะอิจิ แต่เขาไม่อยากรบกวนทั้งสองคนจึงพยักหน้าแล้วเดินหลีกตัวไป