S.P.P บทที่ 80: พักผ่อน!
ต้องบอกว่าเทคนิคการปลอมตัวของแบล็คยูนิคอร์นนั้นน่าทึ่งมาก
ในตอนนี้โรแกนได้ยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารเรือ แต่ไม่มีใครเลยที่สามารถจำเขาได้มีคนเดินเข้ามาพูดกับเขา
“ เฮ้,ไออ้วนนายมาสายตลอดเลยนะโชคดีไปที่นาวาเอกไม่ได้มาเห็นนายเข้า!”
โรแกนได้แสดงท่าทางที่ดูขี้ขลาดของชายอ้วนออกมาและเขาก็ได้พูดออกมาว่า
“ ฉันไม่อยากเจอโรแกน,เขาทรงพลังเกินไปฉันไม่รู้ว่าฉันจะรอดไหมถ้าฉันไปเจอเขาเข้า!”
ทหารเรือคนนั้นได้พูดดูถูกเขาออกมา,หลังจากนั้นเขาก็ได้หันศีรษะของเขากลับไปและไม่ได้สนใจอะไรเขาอีก
“ ไก่อ่อนเอ้ย,ฉันไม่รู้จริงๆว่านายมาเป็นหนึ่งในพวกเราได้ยังไง!”
โรแกนได้ยิ้มเยาะออกมาและไม่ได้ตอบโต้ใดๆ การที่ทหารเรือคนนั้นไม่สนใจเขามันคือสิ่งที่เขาต้องการ
โรแกนได้เดินตามกลุ่มของเขาต่อไป
ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็คงไม่เคยคิดหรอกว่าเป้าหมายของพวกเขานั้นจะมาอยู่ในกองทัพของพวกเขา
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมงเมฆดำทั่วเกาะก็ได้เริ่มสลายและเผยให้เห็นท้องฟ้าสีครามอีกครั้ง
“ พายุฝนที่รุนแรงนั้นหยุดลงซะที”
ทหารเรือคนหนึ่งได้บ่นขึ้นมาในขณะที่พวกเขากำลังถอดเสื้อกันฝนออกและหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เข้าแถวกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยหลังจากที่หัวหน้าของพวกเขาได้เรียกรวมตัว
โรแกนได้เดินตามไปเพื่อที่จะจัดกลุ่มใหม่ที่ใจกลางของบราเทอริลล่า
ดวงตาของเขานั้นดูเคร่งเครียดมาก
“ บัดซบ,มีทหารเรืออยู่เยอะขนาดนี้เลยงั้นหรอ!”
เขาได้ถอนหายใจออกมาและรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย
จัตุรัสนี้นั้นมีพื้นที่อยู่ประมาณ 3,000 ตารางเมตร ในตอนนี้เหล่าทหารเรือนั้นกำลังเข้าแถวกันอย่างเป็นระเบียบพวกเขามีกันเกือบ 5,000 คน
โรแกนนั้นก็ปะปนอยู่ในทหารเรือเหล่านั้นเขาได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
ด้วยโอกาสนี้,เขาไม่สนใจว่าใครจะจำเขาได้
หลังจากผ่านไปสามหรือสี่นาที,กลุ่มทหาเรือที่สวมเสื้อคลุมแห่งความยุติธรรมเดินมาถึงจัตุรัส ดวงตาของโรแกนนั้นได้หดแคบลงเขาเห็นพลเรือโทโมยะที่พึ่งจะต่อสู้กับเขาไป
ในตอนนี้เขาได้มีผ้าพันแผลอยู่ที่คอของเขา อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของเขานั้นดูเหมือนจะฟื้นตัวมาแล้วกว่า 80%
“ การฟื้นตัวของเขาเร็วมาก!”
โรแกนนั้นหมดแรงและต้องใช้เวลากว่าหกชั่วโมงในการฟื้นฟู อย่างไรก็ตามพลเรือโทโมยะที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเกือบจะถูกดาบของโรแกนบั่นคอไปนั้นดูเหมือนจะกลับมาเป็นปกติแล้วในตอนนี้
“ ทุกคนฟัง!”
พลเรือโทโมยะได้เดินไปที่เวทีและตะโกนเสียงดังออกมาในทันทีเพื่อเรียกทหารเรือทุกคนให้หันมาฟังเขา
เสียงของเขานั้นทรงพลังมากและมันก็ได้กระจายไปทั่วทั้งบริเวณนี้เสียงของเขานั้นดังก้องอยู่นาน
“ โรแกนยังอยู่บนเกาะนี้! พวกนายทุกคนต้องไม่หยุดที่จะตามหาตัวเขา!”
“ ท่าเรือทั้งหมดรวมถึงถนนสายหลักทุกสายจะต้องถูกปิด!”
“ แม้แต่นกก็ไม่สามารถที่จะบินออกไปจากเกาะนี้ได้ในตอนนี้!”
“ พวกนายไม่จำเป็นต้องสงสัยว่าเขาอยู่ที่ไหนรู้แค่ว่าเขายังอยู่บนเกาะนี้ แม้ว่าเขาจะขุดลงไปในดินเพื่อซ่อนตัวพวกนายก็ต้องหาเขาให้เจอ!”
“บ้านทุกหลัง,ถนนทุกสาย,ป่าถ้ำค้นหาในทุกๆที่ที่สามารถซ่อนตัวได้”
เสียงของโมยะนั้นจริงจังมากและยังสัมผัสได้ถึงความขุ่นเคืองที่ยากจะรู้สึกได้
แน่นอนว่าเขาโกรธมาก แม้ว่าเขาจะเอาชนะมาได้แต่การต่อสู้กับโรแกนนั้นก็ยังถือเป็นความอัปยศของเขาอยู่ดี
แม้ว่าเขาจะได้ยินคำพูดของโมยะที่อยู่บนเวที,จิตใจของโรแกนนั้นก็ยังคงสงบอยู่
เขามั่นใจมากว่าถ้าเขาไม่ต้องการที่จะถูกพบตัว,การซ่อนตัวอยู่กับพวกทหารเรือนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด
บนเวทีนั้นในตอนนี้มันได้สงบลง,เพราะในขณะที่โมยะกำลังพูดอยู่นั้นทันใดนั้นก็ได้มีนาวาตรีคนหนึ่งเดินขึ้นมา
“ มีอะไร?”
เนื่องจากเขาถูกขัดจังหวะจึงมีความไม่พอใจอยู่ในเสียงของเขา
“ พลเรือเอกคิซารุมาถึงที่นี่แล้วครับ!”
นาวาตรีคนนั้นได้ลดเสียงของเขาและกระซิบที่ข้างหูของโมยะ
“อะไรนะ?”
โมยะตกใจมากและได้ถามออกไปในทันทีว่า“ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?”
“ เรือรบของเขาอยู่บนฝั่งแล้วครับ!”
นาวาตรีคนนั้นได้ตอบออกมาอย่างรวดเร็ว
โมยะได้มองไปที่เหล่าทหารเรือแล้วเขาก็ได้เดินออกไป ข้างหลังของเขานั้นเหล่าผู้ติดตามของเขานั้นก็ได้เดินตามเขาออกมาอย่างใกล้ชิด
โรแกนนั้นเห็นว่าโมยะนั้นได้ขึ้นมาพูดแล้วก็เดินออกไปอย่างกระทันหันด้วยดวงตาที่เบิกกว้างพร้อมกับหัวใจที่สั่นไหว
แทบจะไม่มีใครบนเกาะแห่งนี้หรือแม้แต่ในท้องทะเลแห่งนี้เลยที่สามารถทำให้พลเรือโทต้องถูกขัดจังหวะและทำให้เขาต้องออกไปหาในทันที
เว้นแต่ว่ามันจะเป็นพลเรือเอก !!
“คิซารุ! เขามาถึงที่นี่แล้วงั้นหรอ?”
นอกเหนือจากความเป็นไปได้นี้แล้วนั้นมันก็ไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้ว
ความรู้สึกในหัวใจของโรแกนตอนนี้นั้นมันไม่สามารถอธิบายได้ ในตอนนี้เขากำลังกลัวหรือว่าตื่นเต้นกันแน่น่ะ?
“ พลเรือเอกของกองทัพเรือจะแข็งแกร่งขนาดไหนกันนะ?”
ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเขาเองนั้นเขาไม่สามารถเทียบกับพวกเขาได้เลย อย่างไรก็ตามเขายังคงมีพลังของระบบอยู่เขาได้เตรียมพร้อมทุกอย่างสำหรับวันนี้มานานแล้ว
ที่ท่าเรือบนเกาะบราเทอริลล่า,เรือรบขนาดกลางนั้นได้แล่นเข้ามาอย่างช้าๆ
แต่เมื่อพวกเขามาถึงชายฝั่งนั้น,พวกเขาก็พบว่าเรือของพวกเขานั้นไม่สามารถจอดเทียบท่าได้
“ ฮ่าฮ่า,ดูเหมือนว่าเราจะมาสายเลยพลาดฉากที่น่าสนใจไปเลยสินะ!”
คิซารุได้หัวเราะออกมาตามปกติของเขาและจ้องไปที่ซากปรักหักพังตรงหน้าของเขา
บนท่าเรือนั้นมีรอยแยกขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน แม้จะมีพายุฝนที่รุนแรงแต่ฝ่ามือนั้นก็ยังยากที่จะปกปิดได้อยู่ดี
“ พลเรือเอกคิซารุ!”
ในเวลานี้โมยะพร้อมกับกลุ่มทหารเรือระดับสูงที่อยู่ข้างหลังเขาได้เดินมาต้อนรับคิซารุ
“โอ้? นายได้รับบาดเจ็บงั้นหรอพลเรือโทโมยะ!”
คิซารุได้เลิกคิ้วของเขาแล้วถามออกมาอย่างใคร่รู้
หัวใจของโมยะนั้นเต็มไปด้วยความโกรธเมื่อเขาได้พูดถึงเรื่องนี้
“ มันเป็นเพราะไอเด็กนั้น,ฉันประมาทไปหน่อย!”
คิซารุที่ได้ยินคำอธิบายของโมยะนั้นเขาก็ได้ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า“ พลเรือโทโมยะนายไม่จำเป็นต้องโกรธหรอกน่า!”
“ ตั้งแต่แรกฉันก็ไม่ได้คิดว่านายจะจัดการกับเขาได้อยู่แล้ว”
ทหารเรือที่อยู่ข้างหลังโมยะทุกคนต่างก็ประหลาดใจ
พวกเขาไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มอายุ 16 นี้จะถูกให้ความสำคัญโดยพลเรือเอกคิซารุมากขนาดนี้
โมยะนิ่งงันไปในทันที,เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ราวกับว่ามีบางอย่างกำลังติดอยู่ในลำคอของเขา
คิซารุกำลังดูถูกเขาอยู่งั้นหรอ? หรือมันเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น? ในตอนนี้โมยะดูสับสนมาก
“ แล้วคนอื่นๆในกลุ่มของเขาล่ะ!”
คำพูดของคิซารุที่ได้ดังขึ้นมาอย่างกระทันหันนั้นมันทำให้โมยะต้องรู้สึกอับอายอีกครั้ง
“ เรายังไม่พบพวกเขา,แต่พวกเขาจะต้องอยู่บนเกาะนี้แน่”
คิซารุได้หัวเราะออกมาอีกครั้ง,เขาขี้เกียจเกินกว่าที่จะขอข้อมูลอะไรเพิ่มเติม
“ แน่นอน,ว่าต้องอยู่บนเกาะนี้”
ในตอนนี้คิซารุนั้นมั่นใจเกือบ 100% ว่าไอเด็กเจ้าเล่ห์นั้นจะต้องมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝงอยู่แน่
“ แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ?”
“ ฉันจะหาเธอให้เจอโดยเร็วที่สุด!”
โมยะได้พูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ ฮ่าฮ่า,พลเรือโทโมยะนายได้รับบาดเจ็บอยู่”
“ นายต้องพักผ่อน!”
คิซารุได้โบกมือและปฏิเสธออกไปอย่างสงบ