เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ชายที่กำลังลงมืออยู่ก็หันหน้าไปมองอย่างรำคาญ เขาคิดว่าคนนี้น่าจะระแวงมากกว่า ตอนนี้ได้ถอดกางเกงเตรียมพร้อมแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะทำแบบนี้อีก ตอนนี้เขาค่อนข้างเสียใจที่พาคนนี้มาด้วยแล้วละ
แต่ตอนที่สายตาของเขามองไปที่ประตู ก็ต้องตกใจจนเกือบเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ส่งเสียงออกมาอย่างอดไม่ได้ว่า “เย็ดแม่!” ที่ประตูมีร่างที่ดำๆคนหนึ่งยืนอยู่จริงๆ เนื่องจากในห้องมีแสงของไฟฉาย ดังนั้นจึงมองได้อย่างชัดเจนพอสมควรว่าเป็นรูปร่างคนที่ร่างกายกำยำ ครั้งนี้ไม่ผิด เป็นรูปร่างของคนจริงๆ
หลังจากคนที่เตรียมจะลงมือแน่ชัดแล้วว่าเป็นคน ก็เหมือนไฟรนก้นอย่างไรอย่างนั้น กระโดดขึ้นอย่างเร็ว รีบหลบไปอยู่ในซอกกำแพงอย่างทันใด จ้องไปยังคนที่มืดมิดที่ประตูอย่างระมัดระวัง
ตอนนี้เป็นช่วงกลางดึกแล้ว จะมีคนปรากฏตัวได้อย่างไรกัน?หรือนี่เป็นคนขอทาน?
ไม่ๆๆ คนที่อยู่ตรงหน้าไม่เหมือฯขอทาน ปกติขอทานจะผมยาว และหลังค่อม คนที่อยู่ตรงหน้าตัวตรง แล้วยังเป็นคนที่ผมสั้นอีกด้วย ดูเหมือนไม่ใช่คน เหมือนกับ…ผี!
“แกๆๆ แกเป็นคนหรือเป็นผี?” ชายที่ขี้ขลาดถามอย่างตัวสั่น ตัวสั่นจนไม่ไหวแล้ว
คนที่อยู่ตรงประตูไม่พูดไม่จา เพียงแต่ใส่สายตาแข็งกระด้างจ้องไปที่สองคนนั้น
เมื่อกี๊คนที่เตรียมตัวลงมือคนนั้นได้ใช้เสียงเกือบจะร้องไห้พูดกับชายที่อยู่ข้างๆกายว่า “แกนี่เพ้อเจ้อไปแล้วป่ะ?มันไม่ใช่คนอยู่แล้ว ใครมันจะมาที่แห่งนี้ตอนดึกๆดื่นๆ!”
หลังจากที่เขาพูดจบ ก็ยกมือคารวะ แล้วคุกเข่าลงกับพื้น กล่าวอย่างติดๆขัดๆ “ลูกพี่ ลูกพี่ พวกๆๆ พวกผมไม่ได้ตั้งใจ ขอลูกพี่ใจกว้าง อย่าถือสาพวกเราเลย พวกเรามาเพราะสาวคนนี้ ไม่รู้ว่าจะรบกวนการพักผ่อนผู้เฒ่าอย่างคุณ คุณวางใจได้ครับ พวกเราคิดแค่นี้ พอเสร็จเรื่องพวกเราก็จะไป พวกเราจะเผาเงินไปให้คุณเยอะๆนะครับ”
เมื่ออีกคนเห็นดังนี้ ก็คุกเข่าตาม แล้วอ้อนวอนอย่างติดๆขัดๆ “ใช่ๆ ลูกพี่ ขอโทษครับ พวกเราไม่ได้ตั้งใจรบกวนการพักผ่อนของคุณ พวกเราจะเผาเงินไปให้เยอะๆนะครับ”
ทั้งสองพลางพูดพลางคำนับขอโทษร่างดำนั้น น้ำตาบนหน้าเกือบจะไหลออกมาแล้ว แต่เมื่อทำสิ่งนั้นไป ได้ประมาณห้านาที ทั้งสองก็ยังไม่เห็นปฏิกิริยาใดๆของเงาดำที่ประตูนั้น สิ่งนี้ทำให้จิตใจของทั้งสองคนเต้นตึกๆ
หรือยังไม่เพียงพอเหรอ?เมื่อนึกถึงจุดนี้ ชายที่เตรียมการเรียบร้อยแล้วถามว่า “ลูกพี่ คุณคงไม่คิดจะ…”
พูดจบ สายตาของเขามองไปที่ผู้หญิง นี่คงไม่ใช่ผีลามกหรอกนะ ที่เห็นผู้หญิงก็อดไม่ได้ที่จะมีอะไรด้วย ถ้าไม่ใช่แบบนี้ แล้วทำไมเขาไม่พูดอะไรเลยล่ะ!
เมื่อนึกถึงจุดนี้ ทั้งสองก็สบตากัน จากนั้นคนที่เตรียมจะลงมือถาม “ลูกพี่ พูดอะไรหน่อยสิ!”
คนที่ประตูไม่พูด ไม่ขยับ ตั้งแต่เห็นเขาตอนแรก เขาก็เป็นแบบนั้น
สองคนที่เดิมหวาดกลัวตั้งหลักมาสักพักแล้วนั้น ความกล้าก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นมานิดนึง คนนั้นที่ไม่กล้าหันหน้าถาม “นี่ นี่มันอะไรกันแน่เนี่ย?”
คนที่ใจกล้านั้นไม่พูดอะไร หลังจากที่เงียบงันไปสองนาที แล้วกล่าว “คงไม่ใช่คนขอทานข้างๆหรอกนะ?พูดก็ไม่พูด ไปก็ไม่ไป ถ้าแม่งไม่ใช่ขอทานปัญญาอ่อนแล้วจะเป็นอะไรได้วะ”
“ไม่งั้นแกไปดูหน่อยมั้ย!” อีกคนยื่นไฟฉายในมือไปให้เขา
เขามองไฟฉาย แล้วกล่าวอย่างกลัวๆว่า “แกดูเองไม่เป็นเหรอวะ?”
“แกนั่นแหละไป แกกล้าอยู่!”
คนนั้นด่าออกมา จากนั้นก็เอื้อมมือไปรับไฟฉาย จากนั้นก็ค่อยๆส่องไฟไปที่ประตู ทุกๆย่างก้าวเขาล้วนอกสั่นขวัญหาย ไฟของไฟฉายค่อยๆเคลื่อนไปที่ประตู และแล้ว เมื่อแสงของไฟฉายส่งไปที่ร่างดำนั้นที่ประตู พอส่องไป ทั้งสองก็ตาลุกโตขึ้นพร้อมกัน
คนที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนที่มีจมูกมีตา และผิวดำ รูปร่างล่ำสัน เมื่อเห็นรูปร่างนี้ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่นึกไม่ออก
ตอนที่ไฟฉายส่องไป สายตาของเขาก็จ้องที่แสงของไฟฉายพอดี
“นี่ แกเป็นคนหรือเป็นผีวะ?” คนที่ถือไฟฉายถามเขา
อีกคนกล่าวอย่างตัวสั่น “เพ้อเจ้อไปแล้วป่ะ?มันเป็นคนอยู่แล้ว จะเป็นผีได้อย่างไรกัน!ผีกลัวแสง ถ้ามันเป็นผี ไม่เห็นตั้งนานแล้ว”
“มีเหตุผล!” คนที่ถือไฟฉายเริ่มใจกล้าขึ้นมา
“แกเป็นใคร?” คนที่ส่องไฟฉายถามร่างดำนั้น
ร่างดำที่ประตูไม่ตอบอะไร แต่เดินมาที่ทั้งสอง ขาของเขาเหยียบพื้น เหยียบเข้ากับไม้ ไม้ถูกเหยียบหัก เกิดเป็นเสียงป๊อก ทุกๆย่างก้าวของเขาให้ความรู้สึกโอ่อ่า
“มึงแม่งจะทำอะไรวะ?” หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นคน คนที่มีความกล้าก็ยืนขึ้น แล้วหยิบอิฐพังขึ้นมากล่าวอย่างดุร้ายว่า “ถ้าฉลาดก็ออกมา อย่ามาขัดขวางเรื่องของกู”
เทียนขุยไม่พูดไม่จา เพียงแต่กำหมัดเดินหน้าต่อไป ยังไงเขาก็ไม่คาดคิดว่าจะมีคนที่น่าเบื่อขนาดนี้อยู่ด้วย แม้แต่ขอทานก็ยังไม่เว้น เค้าเป็นขอทาน ก็น่าสงสารมากพอแล้ว แต่พวกเขายังจะฉวยโอกาสลวนลามทางเพศอีก
เดิมทีเทียนขุยก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไร แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ทำเรื่องแบบนี้ สองคนนี้ได้เหยียดหยามความคิดของเขามากเกินไปแล้ว วันนี้เขาต้องฆ่าคนที่น่าเบื่อสองคนนี้ให้ได้ ให้พวกมันไม่กล้าทำอะไรเลวๆอีกต่อไป
“เหี้ย! ไม่สั่งสอนมึงนี่ มันกลัวเลยนะ” พูดพลาง คนนั้นก็เอาอิฐพังทุบไปที่เทียนขุย อิฐเพิ่งจะโยนไปที่หน้าของเทียนขุย ก็ถูกเขาต่อยพังด้วยหมัดเดียว
สิ่งนี้ทำให้คนนั้นกลัวจนตัวสั่น ส่งเสียงเหี้ยออกมาอย่างกั้นไว้ไม่อยู่ จากนั้นเขายังจะโค้งตัวลงไปหยิบอิฐอีก แต่ยังไม่ทันได้หยิบอิฐขึ้นมา คอของเขาก็ถือบีบไว้อย่างแน่น
เขาดิ้นอย่างสุดกำลัง อยากจะหลุดออกจากการพันธนาการของมือนั้น แต่เมื่อดิ้นรนกลับพบว่านั่นเป็นมือที่ต้านทานไม่ได้ ยิ่งดิ้นยิ่งบีบหนักมากขึ้น เขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่มือเลยแม้แต่น้อย กลับเหมือนเป็นกรงเล็บเหล็ก
อีกคนแม้จะขี้ขลาด แต่เมื่อเห็นพี่น้องของตัวเองตกอยู่ในอันตราย เข้าจึงรีบยืนขึ้น หยิบอิฐขึ้นมาแล้วขว้างไป อิฐยังไม่ทันถึงตัวของเทียนขุย คอของเขาก็ถูกจับไว้
เทียนขุยใช้มือเดียวจับไปแบบนี้ เหมือนกับบีบลูกไก่อย่างไรอย่างนั้น ชูทั้งสองขึ้นในอากาศ เห็นร่างกายของทั้งสองดิ้นรนอยู่ในอากาศ เหมือนตัวตลกที่หมดหนทางสุดๆ
“พวกแกสวะทั้งสอง ไม่คู่ควรที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป!