จอมนักรบทรงเกียรติยศ – ตอนที่ 409 ตระกูลหม่าผู้ซื่อสัตย์

หม่าจงหัวมองดูลูกๆทุกคน แล้วกล่าวอย่างลึกซึ้งว่า “ลูกๆทั้งหลาย ถึงแม้พวกแกจะมีความสามารถในการรับผิดชอบ แต่ตอนที่เกิดปัญหากลับขาดการปรึกษา ตระกูลหม่าของเราทำผิดอย่างใหญ่หลวง ตอนนี้ พวกเราต้องกลับตัวอย่างจริงใจ บางทีถ้าบอกเรื่องนี้กับคนอื่นจะไร้ประโยชน์ แต่ถ้าบอกเขา เขาต้องช่วยตระกูลหม่าของเราแน่นอน

คนรุ่นหลังของตระกูลหม่าล้วนเป็นคนที่จงรักภักดี หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ของหม่าจงหัว ทุกคนก็ยืดอก ภูมิใจกับการที่ตนเป็นคนของประเทศหวาคนหนึ่ง นี่คือสายเลือด ทุกอนุของสายเลือดของตระกูลหม่าเต็มไปด้วยความภักดีคำนี้ ทุกรุ่นของพวกเขารับใช้ประเทศหวา จิตใจเป็นมีประเทศหวามานานแล้ว

“แต่…” ในหัวของหม่ากวงชาวผุดคนที่ไร้ยางอายคนนั้นขึ้นมา เขากลืนน้ำลาย แล้วถาม “พ่อ คนนั้นเป็นศัตรูของพวกเขาเหรอ? พวกเขาก็เป็นคนของประเทศหวาไม่ใช่เหรอ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต่างก็เป็นคนของประเทศหวาด้วยกันทั้งนั้น”

“บังอาจ!” หม่าจงหัวตวาดต่อ จ้องหม่ากวงชาวด้วยสีหน้าดุดันแล้วกล่าว “พวกมันไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเทียบกับความเป็นอยู่ของเรา ในสายตาของฉัน พวกมันไม่คู่ควรจะเป็นคนประเทศหวา!”

หม่ากวงชาวแววตาสงสัย แล้วถาม “พ่อ หมายความว่ายังไง?”

“ไม่ต้องถามมากขนาดนั้น ฟังฉันก็พอแล้ว” หม่าจงหัวเอามือไขว้หลัง แล้วกล่าวอย่างจริงใจ

“แล้วถ้าพวกมันมาหาเรื่องพวกเราจะทำยังไง? คนนั้นพูดไว้แล้ว ถ้าพวกเราหักหลังพวกมันล่ะก็ พวกมันจะสังหารพวกเราทั้งตระกูล!” เสียงของหม่ากวงชาวสั่นคลอน

หม่าจงหัวยังคงนิ่งสงบ กำหมัดแน่น แล้วกล่าวด้วยสายตาเป็นประกาย “งั้นก็ให้มันลองดู!”

ไม่นาน ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาจากด้านนอกประตู แล้วตะโกน “คุณท่าน คุณฟางมาถึงแล้วครับ”

“เชิญเข้ามา!” หม่าจงหัวพูดเสียงดัง จากนั้นก็เหลือบไปมองโต๊ะที่ตัวเองตบไปกับเศษแก้วที่ตกลงบนพื้น แล้วสั่ง “เก็บกวาดตรงนี้ให้เรียบร้อย”

เมื่อพูดจบเขาสะบัดมือเดินออกจากห้องโถงตระกูลถัง เดินผ่าสวนมาที่ประตู ตอนที่เพิ่งมาถึงประตู เขาเห็นฟางเหยียนและเทียนขุยสองคนเดินมาทางนี่ ในมือของฟางเหยียนถือดาบไว้ เป็นดาบที่ดาบและกระบี่รวมอยู่ในตัวเดียวกัน ดูๆแล้วสนิมเขรอะ เก่ามาก แต่ตัวดาบกลับมีความสวยงามน่าตะลึงที่พูดไม่ออก

“พ่อ!” เมื่อเห็นฟางเหยียนถือดาบในมือ หม่ากวงชาวมองหม่ากวงหัวอย่างซีเรียสแล้วกล่าว “พ่อดูสิ ในมือเขา…”

หม่าจงหัวยกมือขึ้นขัดจังหวะหม่ากวงชาว แล้วกล่าว “อย่าพูดมั่ว!”

“ยินดีต้อนรับจอมพลโผ้จวินครับ!” หม่าจงหัวโค้งคำนับเก้าสิบองศา ท่าทางเคารพให้เกียรติ เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ ลูกชายทุกคนก็พากันคำนับ ด้วยสีหน้าจริงใจ

พูดจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อกี๊หม่าจงหัวเล่าเรื่องประสบการณ์ของฟางเหยียนให้หลายๆคนฟัง หลายๆคนไม่มีทางเชื่อว่าฟางเหยียนจะเป็นบุคคลระดับจอมพลได้ จอมพลในยุคโบราณสัดส่วนได้มาตรฐาน ผอมแห้งอย่างเขา เป็นครั้งแรกที่เห็น

ฟางเหยียนยกดาบในมือขึ้นมา จู่ๆรอบๆก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น การ์ดของตระกูลหม่าต่างพากันล้อมเข้ามา ทุกคนต่างเคร่งขรึม ในมือถือของคล้ายๆมีดสปาต้า

“บังอาจ!” เทียนขุยตวาดออกมาอย่างโมโห ก้าวเท้าเตรียมจะลงมือ

แต่หม่าจงหัวรีบขยับตัวแล้วกล่าว “ทำอะไร? พวกแกจะทำอะไร? ถอยหลังไปทั้งหมด”

“แต่ คุณท่าน ท่านเคยพูดไว้ คนที่พกอาวุธดาบมาในตระกูลหม่าของเรา ต้อง…”

พวกนั้นยังพูดไม่จบ ก็ถูกหม่าจงหัวขัดจังหวะ “ไอ้สวะ หมายถึงคนอื่นโว้ย นี่จอมพลโผ้จวินแห่งประเทศหวา ถอยไปให้หมด”

แม้ทุกคนจะไม่เข้าใจความหมายของหม่าจงหัว แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งเขา เพราะตระกูลหม่าเป็นของเขา หลังจากที่ตอบรับแล้วก็ต่างพากันถอยหลังไป หม่ากวงชาวมองฟางเหยียนอย่างสำนึกผิด พบว่าตอนนี้หลังของตัวเองเปียกชื้นไปหมดแล้ว

“จอมพลโผ้จวิน อันนี้ท่าน…” หม่าจงหัวมองฟางเหยียนด้วยรอยยิ้มแล้วถาม

ฟางเหยียนมองดาบที่อยู่ในมือ ถือดาบเดินเข้ามาที่ตระกูลหม่าอย่างนั้น ทำให้ตระกูลแบบนี้หวาดระแวงได้จริงๆ แต่ถ้าเขาอยากทำลายตระกูลหม่าจริงๆ ไม่ต้องใช้ดาบเลยแม้แต่น้อย ถ้าใช้ดาบก็ให้ความสำคัญตระกูลหม่าเกินไปแล้ว ด้วยเหตุนี้เองเขาได้เอาดาบที่อยู่ในมือโยนไปทางหม่าจงหัว หม่าจงหัวยกมือขึ้นมารับดาบเล่มนั้นที่ฟางเหยียนโยนมาให้ ดาบไม่หนักมากนัก ก็ประมาณยี่สิบสามสิบกรัม เหมาะสำหรับนักบู๊ทั่วไปหยิบได้

เมื่อเห็นหม่าจงหัวรับดาบแล้ว ฟางเหยียนได้กล่าวว่า “ได้ยินมาว่าผู้นำตระกูลหม่าเชี่ยวชาญด้านอาวุธศิลปะการต่อสู้สิบแปดอย่าง ผมอยากให้เอาดาบมาให้คุณดูว่าทำมาจากวัสดุอะไร ถือว่าเป็นดาบดีหรือไม่”

หม่าจงหัวหยิบดาบขึ้นมาแล้วดูในมือ หลังจากที่ทำท่าทางต่างๆแล้ว จึงได้กล่าวว่า “นี่ นี่มันดาบชั้นดี!แล้วตอนที่ไว้ก็มีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก น่าจะเป็นดาบที่มีประวัติมายาวนานนะ!”

“จอมพลโผ้จวิน เชิญด้านในครับ!” หม่าจงหัวยกมือขึ้นมาทำท่าทางเชิญ

ฟางเหยียนไม่รีรอ ย่างกายเดินเข้าไปในห้อง ตอนที่เดินผ่านหม่ากวงชาว หม่ากวงชาวตัวสั่นขึ้นโดยอัตโนมัติ บนใบหน้ามีเหงื่อไหลลงมา

แต่ฟางเหยียนไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย เพียงแต่เดินไปที่ห้องโถงตระกูลถังอย่างรวดเร็ว

หม่าจงหัวและเขาไม่ได้มีอะไรผิดใจกัน ถ้าจะพูดว่าผิดใจ ก็มีการตายของหม่าซวี่ซง แต่หม่าจงหัวเป็นคนที่รู้สถานการณ์ อย่างน้อยเขารู้ว่าหม่าซวี่ซงยังไม่มีคุณค่าพอที่จะตายด้วยน้ำมือของเขา ดังนั้นจึงได้ลงมือเอง

เมื่อมาถึงห้องโถงตระกูลหม่า ฟางเหยียนนั่งข้างๆโต๊ะ จากนั้นหม่ากวงชาวถือแก้วชามาที่ฟางเหยียน เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่น “จอมพลครับ ครั้งที่แล้วข้าน้อยมีตาแต่หามีแววไม่ ขอจอมพลได้โปรดให้อภัย”

ฟางเหยียนไม่ได้ยื่นมือไปรับแก้วชาทันใด เพียงแต่มองดูร่างของหม่ากวงชาวคุกเข่าแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย

ดูท่าทางของเขาแล้วไม่ได้อยากจะยกโทษให้หม่ากวงชาวเลย คนของตระกูลหม่าเริ่มร้อนใจ หม่าเหาเป็นคนที่ฉลาดที่สุด เขาพูดคนแรกว่า “จอมพลครับ เรื่องที่พี่รองของผมทำเมื่อก่อนมันแย่มากจริงๆ จอมพลผู้ยิ่งใหญ่มีน้ำใจ อย่าถือสาพี่รองของผมเลยนะครับ” เมื่อพูดจบ หม่าเหาโค้งคำนับเก้าสิบองศาอีกครั้ง

“ใช่ครับ ขอจอมพลโผ้จวินได้โปรดให้อภัยน้องรองของผมด้วยครับ!” หม่ากวงหรงยืนขึ้น โค้งคำนับต่อหน้าฟางเหยียน

ฟางเหยียนมองหม่ากวงหรง แล้วถาม “คุณคือพ่อของหม่าซวี่ซง?”

หม่ากวงหรงมองไปมา แล้วกล่าว “ใช่ครับ!แต่หม่าซวี่ซงมันไม่รู้เรื่องเอง สมควรตาย ต้องโทษผมที่ไม่สั่งสอนเขาให้ดี จึงทำให้เขาเป็นแบบนี้ พวกเราไม่โทษท่านครับ ถ้าจะโทษก็โทษพวกเราเอง”

“อ๋อ??” ฟางเหยียนจ้องหม่ากวงหรงแล้วถาม “คุณไม่เคยคิดที่จะล้างแค้นแทนลูกชายของคุณงั้นเหรอ?”

“ปุก!” หม่ากวงหรงตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้นทันที ร้องไห้พลางพูด “ฟ้าดินรู้ดี ท่านคือเทพของประเทศหวา พวกเราจะกล้าล้างแค้นท่านได้อย่างไรกัน!ให้ความกล้ากับพวกเราสักเท่าไหร่ พวกเราก็ไม่กล้าอยู่ดีครับ”

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

เทพแห่งสงครามกลับเยือนบ้าน เห็นภรรยาตกที่นั่งลำบากถูกคนเย้ยหยัน ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วเมือง! คนที่คิดจะกระตุกหนวดเสือ มันต้องไม่ตายดีแน่! กล้าทำให้เทพแห่งสงครามมีน้ำโห เตรียมเผชิญกับสงครามนองเลือดไว้ได้เลย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset