“หลังจากได้ยินตำนานของเทียนขุย ผมเลยรู้ว่าเถ้าแก่คนที่สามเอาของนั้นไป เถ้าแก่คนแรกขุดเจอกระดูกคน แล้วเขาไม่ได้ทำการฝังให้ดี กลับปล่อยให้ศพของวิญญาณอาฆาตนั้นทิ้งรกร้าง นี่เป็นการไม่เคารพต่อวิญญาณอาฆาต ดังนั้นเขาเลยตาย เถ้าแก่คนที่สองขุดPythonตัวใหญ่ออกมาหนึ่งตัว นั่นเป็นเทพปกป้องที่ปกปักรักษาสมบัติ! ปกปักรักษาที่นี่มาพันปี จนกลายเป็น Flood Dragon! เถ้าแก่คนที่สองขุดออกมา เป็นการรบกวนวิญญาณที่หลับใหล ดังนั้น Flood Dragon กลืนกินร่างกายเขา ทำให้เขาหายไป1 ส่วนเถ้าแก่คนที่สาม เขาต้องขุดได้สิ่งที่พวกเขาปกปักรักษาแน่ และเอาสิ่งนั้นไปด้วย ถึงได้ทำให้ที่นี่เกิดเรื่องวุ่นวายขนาดนี้”
คำพูดของฟางเหยียนพูดถูกต้องเป๊ะมาก จนทำให้คนฟังไม่อาจไม่เชื่อได้!
พูดจบ เขาหันไปบอกเจี่ยเกิงจื่อว่า “เอาไข่มุกเม็ดนั้นที่คุณขุดออกมาให้ผม!”
เจี่ยเกิงจื่อไม่กล้าสงสัยอะไรอีก รีบลุกขึ้นจากพื้น เดินไปที่ช่องลับอันหนึ่งในห้อง ในช่องลับมีกล่องหนึ่งวางอยู่ ในนั้นมีกระถางธูป และมีธูปที่ไหม้หมดแล้วอยู่ รวมถึงน้ำตาเทียนที่มอดไหม้หมดแล้วด้วย
ดูท่าเขาจะวางกระถางธูปไว้สักการะของชิ้นนั้น แน่นอนว่า อาจารย์คนนั้นชี้แนะมาเหมือนกัน
เขากอดกล่องนั้นตัวสั่นเทามายืนหน้าฟางเหยียน ยื่นกล่องให้ฟางเหยียนพลางว่า “นี่เป็นกล่องที่บรรจุมุกเทพไว้ เทพหมอฟาง ให้คุณครับ!”
กล่องที่ทำให้เจี่ยเกิงจื่อสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ณ วินาทีดูเป็นเผือกร้อน เขายังไงก็ไม่คิดเลยว่าสมบัตินี้จะทำร้ายลูกหลานเขา
ถ้าสามารถย้อนเวลากลับไปได้ เขายอมไม่เอามุกเทพนี้
ฟางเหยียนยกมือขึ้นรับกล่องนั้นมา และเปิดออกอย่างไม่ลังเล พึ่งเปิดกล่องออก ก็มีแสงสว่างเจิดจ้ากระจายออกมา! แสงนั้นประหนึ่งเปลี่ยนจากนรกเป็นโลกมนุษย์ จู่ๆเห็นแสงสว่าง คล้ายกับนำพาความหวังและจินตนาการนับไม่ถ้วนมาด้วย หลายคนหลับตาฉับพลัน เพราะแสงเจิดจ้าจนเจ็บตาพวกเขา ทำให้หลายๆคนไม่สามารถลืมตาขึ้นได้
ในที่สุดรอจนหลายคนเริ่มคุ้นชินกับแสงจ้านี่แล้ว เลยเห็นไข่มุกเม็ดนั้นในกล่องได้ชัดเจนขึ้น นี่ไม่ใช่มุกเทพของวัด แต่เป็นสิ่งที่มังกรเหลือเอาไว้ และเป็นมุกมังกรที่ต่างประเทศเรียกกัน แต่ในประเทศ มันเรียกว่ามุกเทพ
มังกรเป็นเทพของประเทศหวา เป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของความสูงส่งไร้ใครเทียม ฮ่องเต้ในสมัยโบราณยังใช้คำว่ามังกรมาเรียกแทนตนเลย!
มุกเทพเม็ดนี้เล็กกว่ากำปั้นของคุณนิดหน่อย ด้านบนมุกเทพมีแสงสว่างเจิดจ้าอยู่ มองดูแล้วเป็นสีเหลืองหม่น ออกใสนิดหน่อย พอดูดีๆ มันเหมือนกำลังขยับ เหมือนในตัวมันเองก็มีเส้นเลือด มีการหมุนเวียน
ฟางเหยียนยกมือขึ้นสัมผัสไข่มุก ผ่านไปสักพัก เขารู้สึกว่าแสงของไข่มุกกระจายไปทั่วร่างตน การลูบมันกลับทำให้รู้สึกเหมือนโล่งสบายขึ้นมาเลย เลือดของเขาเหมือนเปลี่ยนเป็นร้อนขึ้นมาในวินาทีนี้ เลือดที่เยือกเย็นมานานมากกลับร้อนแล้ว นี่มันอะไรกัน? หรือว่าจะรวมกับร่างกายตนกัน?
ไม่นานการรวมกันที่เขาคาดคิดไม่ได้เกิดขึ้น แต่เกิดอีกเรื่องขึ้นแทน ฟางเหยียนรู้สึกว่าไข่มุกเม็ดนี้กำลังรักษาเขา!
เหมือนมีลมปราณชนิดหนึ่งแล่นพล่านไปทั่วร่างเขาจากล่างขึ้นบน ทำท่าจะบีบคั้นเลือดคั่งในตัวออกมา
ลมปราณค่อยๆหมุนเวียนจากเท้าขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนจริงมาก เร็วมาก มันเหมือนกับจะทำความสะอาดหลอดเลือดทุกเส้นในตัวฟางเหยียน! ในที่สุด พรืด! ฟางเหยียนรู้สึกมันออกมาแล้ว จากนั้นก็กระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง
นั่นคือเลือดคั่ง เป็นเลือดคั่งที่เดิมเหลือค้างอยู่ในตัว เขาบีบมันออกมาไม่ได้
ต้องรู้ว่า ฟางเหยียนใช้เวลานานมากก็ยังไม่สามารถบีบคั้นเลือดคั่งออกมาได้ ไม่คิดว่ามุกเทพเม็ดนี้แค่วางไว้บนมือเท่านั้น ก็สามารถบีบเลือดคั่งออกมาได้ มันเป็นกำไรสำหรับฟางเหยียนในการเดินทางครั้งนี้จริงๆ
สำหรับฟางเหยียนแล้ว การรักษาอาการบาดเจ็บก็สำคัญมากเหมือนกัน ตอนนี้เขาต้องเผชิญองค์กรที่ไม่รู้จักองค์กรหนึ่ง ถ้าเขาไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายได้เต็มที่ก็ไม่มีความมั่นใจเต็มร้อยไปต่อกร เขาไม่กลัว แต่ยังไงก็ต้องคิดถึงเรื่องร่างกายไม่ฟื้นฟูกลับมาด้วย
ฟางเหยียนพินิจพิเคราะห์มุกเทพในมือ คิดไม่ถึงจริงๆ แค่ไม่กี่นาที มันก็เค้นเลือดคั่งในตัวเขาออกมาได้ พริบตาเดียวเขารู้สึกร่างกายตนได้รับการปลดปล่อย โล่งสบายขึ้นเยอะเลย
เทียนขุยเห็นดังนั้น รีบวิ่งเข้าไปประคองฟางเหยียนถามว่า “โผ้จวิน ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
ฟางเหยียนปาดเลือดที่มุมปากออก ส่ายหัวว่า “ไม่เป็นไร! ดูเหมือนฉันจะสามารถฟื้นฟูพลังได้ถึงหกส่วนละ”
“อะไรนะ?” เทียนขุยมองฟางเหยียนด้วยสีหน้าตะลึง จากนั้นจ้องไปที่มุกเทพเขม็งถามว่า “เพราะมัน?”
ฟางเหยียนพยักหน้าอย่างครุ่นคิดว่า “ใช่ เพราะมัน!”
เขาแค่หยิบไข่มุกขึ้นมาดู ก็ฟื้นฟูพลังได้ถึงหกส่วน
เดิมเขาฟื้นพลังได้ถึงห้าส่วนก็ชะงักกึกแล้ว ทำยังไงก็ฟื้นถึงหกส่วนไม่ได้ซะที ตอนนี้กลับอยู่ดีๆก็ทำได้
หลายคนสังเกตเห็นสีหน้าซีดเผือดของฟางเหยียนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นเลือดฝาดขึ้นมาแล้ว
นี่มันเป็นมุกเทพชัดๆ!
“ในตัวสหายฟางมีอาการบาดเจ็บหรอ?” เหมิงซานถามอย่างแปลกใจอยู่ข้างๆ
ฟางเหยียนพยักหน้ารับพลางว่า “ใช่ครับ บาดเจ็บ มุกเทพเม็ดนี้มีฤทธิ์รักษาอาการบาดเจ็บได้”
เจี่ยเกิงจื่อพูดอย่างไม่ปิดบังว่า “ใช่ครับ มันมีฤทธิ์อย่างนั้นจริงๆ เมื่อก่อนผมได้รับบาดเจ็บ แค่แตะมันเท่านั้น มันก็รักษาอาการบาดเจ็บของผมหายหมดเลย”
ไม่น่าตอนฟางเหยียนเห็นเจี่ยเกิงจื่อ พบว่าใบหน้าเขาอิ่มเอิบ สมองปลอดโปร่ง ที่แท้เพราะมีของแบบนี้อยู่ข้างกายนี่เอง ของล้ำค่าแบบนี้ อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้เป็นตัวฟางเหยียนเองก็ชอบมันเข้าแล้ว
แต่เขายังคงเก็บมือกลับอย่างเรียบเฉย นี่ไม่ใช่ของของเขา เขาไม่เอามาเป็นของตัวเองหรอก! ดังนั้นเขาเลยหันไปมองเจี่ยเกิงจื่อว่า “ผมจะลงเข็มให้ลูกชายคุณหลายเข็มก่อนละกัน! รักษาชีวิตเขาไว้ก่อน”
พูดจบ ฟางเหยียนเดินมายืนข้างตัวคุณชายเจี่ย และหยิบห่อเข็มออกมา
เขาจับจุดบนตัวคุณชายเจี่ยหลายจุด จากนั้นก็ลงเข็มลงไป ทุกครั้งที่ลงเข็มเหมิงซานจะร้องอุทานด้วยความตกใจหนึ่งครั้ง
จวบจนลงเข็มที่เก้า เหมิงซานถึงได้ถึงบางอ้อ ดึงแขนฟางเหยียนมาบอก “สหายน้อย ถ้าคุณลงเข็มจุดนี้ของเขา ได้ตายแน่! นี่เป็นจุดไป๋ฮุ่ยลงเข็มไม่ได้เด็ดขาด เมื่อกี้ผมดูวิธีลงเข็มของคุณ หลายจุดนี้ลงเข็มพร้อมกันไม่ได้นะ ถ้าลงเข็มพร้อมมัน จะทำให้ตายในทันที”
ฟางเหยียนหันมามองเหมิงซานพลางว่า “ตอนนี้คนคนนี้ต่างกับคนตายหรือไง?”
เหมิงซานอึ้งเล็กน้อย เงียบไปชั่วครู่ถึงบอกว่า “ก็ไม่ต่างเท่าไหร่ แต่ยังไงเขายังมีลมหายใจนี่นา! ถ้าคุณลงเข็มไป เขาอาจจะไม่เหลือลมหายใจแล้วก็ได้?”
“คุณเคยได้ยินเก้าเข็มฮว่าถัวไหม?” ฟางเหยียนพูดจบ ก็ลงเข็มไปที่จุดไป๋ฮุ่ยของคุณชายเจี่ยทันที
เหมิงซานเบิกตากว้าง มองฟางเหยียนพลางถามว่า “นี่คุณ… เก้าเข็มฮว่าถัวที่หายสาบสูญไปหลายร้อยปีหรอ?”