หัวหน้าแผนกเจียงหันหน้าไปมองถังเสี่ยนจง เห็นสายตาของเขาพอดี ทั้งคู่สบตากัน แล้วหัวเราะขึ้นมาทันใด เพราะพวกเขารู้ว่าทั้งสองคนกำลังทะเลาะตบตีกันอยู่
อย่างฟางเหยียนผู้ชายที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ก็มีความสามารถที่จะทำให้หญิงสาวทะเลาะตบตีกันได้จริงๆ แม้แต่ถังเสี่ยนจงและหัวหน้าแผนกเจียงที่อยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นานเห็นฟางเหยียนก็ต้องเลื่อมใสที่สุด หญิงสาวเห็นเข้าก็ต้องยิ่งหมกมุ่นเข้าไปกันใหญ่!
ฟางเหยียนเห็นถังยู่ ไม่พูดไม่จาอยู่นาน หลินถงก็เหอะออกมา แล้วกล่าว “น่าเบื่อ!”
ถังยู่บึนปากแล้วกล่าว “ชิ ฉันไม่เหมือนคนบางคนหรอกนะ แต่งตัวอย่างนั้นใครไม่รู้บ้างว่าแสร้งทำเป็นว่าตัวเองยังวัยรุ่นอยู่ ต่อให้แสร้งยังไงคุณมีความเป็นวัยรุ่นอย่างที่ฉันมีป้ะล่ะ? สิ่งที่ฉันทั้งหมดคุณไม่มีหรอกนะ”
หลินถงขมวดคิ้ว ไม่ตอบคำถามของถังยู่
ถังยู่มองฟางเหยียนแล้วถามอีกครั้ง “ฟางเหยียน คุณก็พูดมาสิ ฉันกับหลินถงใครแต่งตัวดูดีกว่ากัน?”
ฟางเหยียนลังเลอยู่สักพัก แล้วกล่าว “ต่างคนต่างดูดีคนล่ะแบบ!”
ผู้คนต่างมองไปที่ฟางเหยียน คิดว่าเขาจะวิจารณ์ ใครจะรู้ว่าเขาจะพูดประโยคนั้นออกมา แล้วไม่พูดอะไรต่อแล้ว เขาแสดงท่าทางที่บ่งบอกว่าจะไม่ขอพูดอะไรต่ออีก
ถังยู่พูดอย่างไม่พอใจว่า “นี่ ฟางเหยียน คุณทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน! พูดแค่นั้น คุณหลอกใครกัน?
หลินถงมองไปที่ถังยู่แล้วกล่าว “เทพหมอฟางไม่มีอารมณ์สนใจหัวข้อสนทนาที่น่าเบื่ออย่างนี้ของแกหรอกนะ! ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”
“ชิ!” ถังยู่มองบน จากนั้นก็กล่าวว่า “พี่ก็แค่สาวแก่คนหนึ่ง จะไปเข้าใจอะไร!”
ถังเสี่ยนจงและหัวหน้าแผนกเจียงหัวเราะเสียงดัง แล้วถังเสี่ยนจงก็กล่าวว่า “เทพหมอฟาง มีเรื่องอยากจะถามคุณหน่อย”
“ครับ ท่านถัง!” ฟางเหยียนส่งสัญญาณให้ถังเสี่ยนจงถาม
ถังเสี่ยนจงกล่าว “มิทราบว่าเทพหมอฟางมีครอบครัวหรือยังครับ?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ใจของฟางเหยียนเต้นตุบๆ เขารู้ว่าไม่ช้าก็เร็วถังเสี่ยนจงจะต้องถามคำถามนี้ ถังยู่ปฏิเสธเย่เฟยต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนั้น แล้วยังปกป้องฟางเหยียนต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนั้นอีกด้วย ความสัมพันธ์ของพวกเขาทำให้ถังเสี่ยนจงสงสัยขึ้นมา ความจริงแล้วฟางเหยียนก็ไม่อยากให้ความหวังอะไรกับถังยู่แม้แต่น้อย วันนั้นที่เขาช่วยถังยู่เพียงเพราะรู้สึกว่าเธอพูดคุยสนุกก็เท่านั้น
ดังนั้นฟางเหยียนจึงได้ตอบไปว่า “ผมแต่งงานแล้วครับ”
สีหน้าของถังเสี่ยนจงดูตกใจ แต่งงานแล้ว นึกไม่ถึงว่าฟางเหยียนจะแต่งงานแล้ว
หนึ่งในนั้นที่ตกใจที่สุดก็คือถังยู่ ข่าวนี้เป็นฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆสำหรับเธอ รอยยิ้มอันร่าเริงเมื่อกี๊ได้ชะงักไว้อยู่บนใบหน้า และใบหน้านั้นได้เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งลงทันใด
“ชิ!” ถังยู่ตบโต๊ะ แล้วกล่าวอย่างโมโหว่า “หนูไม่กินแล้ว ไปล่ะ!”
เมื่อพูดจบเธอมองฟางเหยียนอย่างผิดหวัง จากนั้นก็ลุกขึ้นไป เมื่อหันหลัง อารมณ์ของเธอก็เศร้าหมองลงอย่างขีดสุด นึกไม่ถึงว่าฟางเหยียนจะแต่งงานแล้ว นี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของเธอ ถ้าเขาแต่งงานแล้ว แล้วทำไมยังต้องเข้ามาในโลกของเธอด้วย ถือวิสาสะกับตนถึงสองครั้ง ลูบหน้าของตน นี่ถ้าไม่เรียกว่าลามกแล้วเรียกว่าอะไร
ถังยู่ยิ่งคิดยิ่งโมโห ตอนแรกว่าจะออกไป สุดท้ายก็วิ่งไปในห้องของตัวเอง
ใบหน้าของหลินถงปรากฏรอยยิ้มบางๆออกมา เด็กสาวคนนี้ อดกลั้นอารมณ์ตัวเองไม่ไหวจริงๆ ความจริงหลินถงรู้ตั้งนานแล้วว่าฟางเหยียนจะต้องบอกว่าตัวเองมีภรรยาแล้ว จากนั้นก็ปฏิเสธถังยู่ เพราะเธอก็ถูกปฏิเสธมาแบบนี้เหมือนกัน
ถังเสี่ยนจงยิ้มอย่างอับอาย จากนั้นก็พูดกับฟางเหยียนว่า “ขอโทษนะครับ เทพหมอฟาง หลานสาวของผมเป็นแบบนี้แหละ แต่เหตุการณ์นี้ทำให้เห็นว่า หลานสาวของผมค่อนข้างชอบคุณนะครับ”
ฟางเหยียนมองถังเสี่ยนจง แล้วกล่าว “ท่านถัง ผมรู้ว่าท่านกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมมีครอบครัวแล้วครับ”
ถังเสี่ยนจงถอนหายใจ พยักหน้าแล้วกล่าว “ช่างเสียดายจริงๆครับ ผมคิดว่าหลานสาวของผมจะโชคดี”
“คุณหนูถังมีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ครับ!” คำพูดของฟางเหยียนเปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างช้าๆ
ถังเสี่ยนจงยิ้มพลางกล่าว “แต่ต้องขอบคุณที่เทพหมอหางออกโรงช่วยเหลือนะครับ!”
ฟางเหยียนกล่าว “ความจริงเมื่อวานผมไม่ลงมือ ตระกูลของคุณก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ”
ถังเสี่ยนจงหน้ากระตุกอย่างงงๆ แล้วถาม “คำพูดนี้ของคุณฟาง หมายความว่ายังไงเหรอครับ? ตอนนั้นการ์ดทุกคนของเราได้ถูกควบคุมไว้หมดแล้ว”
“พ่อบ้านคนนั้นที่อยู่คู่กายท่านถังไม่ใช่คนธรรมดามั้งครับ! ถึงผมไม่จัดการ เขาก็ไม่มีทางดูตระกูลถังพังลงไปได้หรอกครับ” ฟางเหยียนกล่าวอย่างคมคาย จากนั้นเงยหน้ามองไปยังเหล่าเห้อที่อยู่ยืนอยู่ด้านหลังตลอดคนนั้น
เหล่าเห้อได้ยินดังนี้ ก็รีบเงยหน้าขึ้นมา สบตากับฟางเหยียนพอดี สายตาดุดัน ประสานเข้าหากัน
สีหน้าของถังเสี่ยนจงค่อยๆเปลี่ยนไป เขาไม่คาดคิดว่าฟางเหยียนจะสังเกตเหล่าเห้อของตระกูลถัง สำหรับตระกูลถังแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ไม่ดี ในทางกลับกัน ถือเป็นการข่มขู่ตระกูลถังอย่างหนึ่ง
“เทพหมอฟาง ผมว่าคุณเข้าใจผิดแล้วนะครับ เหล่าเห้อก็แค่พ่อบ้านคนหนึ่งเท่านั้น! เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่รู้จะธรรมดายังไงแล้ว”
จู่ๆฟางเหยียนก็ยกแก้วขึ้นมา ใช้สองนิ้วหนีบไว้ ฟิ่ว เห็นแสงผ่านไป แก้วเหล้าใบนั้นลอยไปที่เหล่าเห้อ ด้วยความเร็ว ตอนที่แก้วเหล้าไปถึงด้านหน้าของเหล่าเห้อ จู่ๆเหล่าเห้อก็ยกมือขึ้นมาจับแก้วไว้ เมื่อเห็นแก้วอยู่ในมือ เหล้าที่อยู่ด้านในไม่หกลงเลยแม้แต่หยดเดียว!
ฉากนี้เหมือนกำลังถ่ายหนัง ถังเสี่ยนจงในฐานะที่เป็นผู้นำตระกูล เคยเห็นการต่อสู้แบบนี้มาก่อน แต่หัวหน้าแผนกเจียงที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลมาโดยตลอด ใช้ชีวิตอย่างคนปกติทั่วไปกลับไม่เคยเห็นมาก่อน เขาตกใจจนอ้าปากค้าง
เหล่าเห้อเงยหน้าขึ้นมองฟางเหยียนอีกครั้ง จากนั้นก็ดื่มเหล้าในแก้วกรึ๊บเดียวจนหมด
นี่คือความสามารถของยอดฝีมือ ตอนที่อยู่ในสถานการณ์คับขันยังไงก็เสแสร้งไม่ได้ เมื่อกีีถ้าเขาไม่รับแก้วนี้ บางทีตอนนี้เขาอาจกลายเป็นศพไปแล้วก็ได้
ฟางเหยียนโหดร้ายมาก นึกไม่ถึงว่าจะใช้วิธีนี้บีบให้เหล่าเห้อแสดงวิชาออกมา สิบหกปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตั้งรับการโจมตีของคนอื่น
เหล่าเห้อแสดงสายตาดุดันออกมาแล้ว จ้องไปที่ฟางเหยียนแล้วถาม “เทพหมอฟาง มิทราบว่าคุณเป็นใครกันแน่?”
เขาคิดว่าตัวเองปลอมตัวได้อย่างดีมากแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าจะถูกคนนี้ดูออก ตนเผยจุดอ่อนออกมาได้อย่างไรกัน? เขาไม่เข้าใจ และไม่รู้ว่าจะคิดอย่างไรดี
ฟางเหยียนดูแคลน แล้วกล่าว “คนใช้ธรรมดาคนหนึ่งไม่มีเหมือนคุณแน่นอน ในตัวคุณมีความอาฆาตที่ปกปิดไม่ได้ คุณฆ่าคนไปแล้วกี่คน?”
สายตาของเหล่าเห้อยิ่งดุดันขึ้น เขาวางแก้วที่อยู่ในมือลง แล้วกล่าวอย่างชัดเจนว่า “คุณเป็นคนที่พวกเขาส่งมา?”
เมื่อพูดจบ ถังเสี่ยนจงตกใจ หัวหน้าแผนกจ้องทั้งสองคนอย่างไม่รู้เลยอะไรเลย
ฟางเหยียนก็ค่อยๆยืนขึ้น จู่ๆก็จ้องไป แล้วถามอย่างเน้นย้ำว่า “พวกเขา เป็นใคร?”
