กล้ามเนื้อใบหน้าของถังเสี่ยนจงกระตุกอย่างรุนแรงด้วยความโกรธ แววตาทั้งสองของเขาเกรี้ยวกราด ชี้ไปที่เย่เฟย แล้วตะคอกออกมาว่า “โอหัง! แกคิดว่าแกเป็นใคร? ที่นี่คือตระกูลถังของฉัน!”
เห็นท่าทีของถังเสี่ยนจง เย่เฟยกล่าวอย่างไม่มีอะไรสบายไปกว่านี้แล้ว “ปู่ถัง ผมก็เป็นผมเอง เย่เฟย ต่อหน้าคุณผมไม่ได้เป็นคนใหญ่คนโตอะไร และผมก็รู้ว่าที่นี่คือตระกูลถัง แต่ตอนนี้ ผมอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ!”
“แก!” ถังเสี่ยนจงชี้ไปที่เย่เฟยอย่างเกรี้ยวกราด
เย่เฟยยักไล่ กล่าวอย่างไม่มีทางเลือกว่า “นี่ไม่ใช่จุดจบที่ผมอยากได้ ความจริงผมไม่อยากขัดแย้งกับพวกคุณ ถ้าคุยกันดีๆได้ แล้วใครอยากจะใช้ปืนกับพวกคุณล่ะ”
“ใช้ปืน!” ถังเสี่ยนจงเหอะออกมา แล้วกล่าวโดยแสร้งว่าใจเย็น “ที่นี่มีคนใหญ่คนโตของหนานหลิง ถ้าพวกเขาเป็นอะไรไป แกคิดว่าจะออกจากหนานหลิงไปได้มั้ย?”
เย่เฟยหัวเราะฮ่าฮ่า กล่าวอย่างไม่แคร์ว่า “ปู่ถัง ปู่กำลังข่มขู่ผมอยู่เหรอ?”
เพิ่งพูดจบ มีนักรบที่ถือปืนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก มียี่สิบสามสิบคน ทุกคนล้วนถือปืน หน้าตาเคร่งขรึม ยืนในห้อง แว็บเดียวทำให้ผู้คนที่อยู่ในห้องโถงตกใจจนอกสั่นขวัญหาย
“พี่เย่เฟย พี่จะทำอะไร?” เป็นครั้งแรกที่ถังยู่ใช้สายตาหวาดกลัวมองไปที่เย่เฟย เย่เฟยไม่ได้ตอบเธอ เพียงแต่มองเธอ แล้วหันกลับไปเท่านั้น แล้วจ้องไปยังถังเสี่ยนจงที่อยู่บนเวทีอย่างไม่ละสายตา
ถังเสี่ยนจงหน้าถอดสี แล้วกล่าว “แกน่าจะรู้ดีนะว่าถ้าแกแตะต้องบุคคลสำคัญของประเทศหวาแล้วจะพบกับจุดจบยังไง! ถึงตอนนั้นกองทัพทั้งหมดของแกจะถูกทำลายทั้งหมดแน่นอน ล้างบางจนไม่เหลือซาก!!”
และยังกล่าวอย่างมั่นใจว่า “ไม่สิ ผมไม่อยากฆ่าใครก็ตามที่นั่งอยู่สักคน ผมเพียงแค่อยากรู้สิ่งที่ผมอยากรู้ ผมรู้ว่าตระกูลถังของพวกคุณแข็งแกร่ง แต่ไม่ว่าพวกคุณแข็งแกร่งยังไง แล้วจะแข็งแกร่งกว่าทหารพลีชีพที่ในมือถือปืนมากมายนี้ได้มั้ยล่ะ? ในเมื่อพวกเขากล้าที่จะมาที่นี่กับผม ก็ได้เตรียมใจไว้เป็นอย่างดีแล้ว ต่อให้ผมให้พวกเขาไปตาย พวกเขาก็ไม่หวาดกลัว ถ้าพวกคุณไม่ให้ผมรู้คำตอบ ผมจะสั่งให้ระเบิดที่นี่เสีย ใช้เวลาไม่กี่นาทีตระกูลถังก็จะราบเป็นหน้ากลอง!”
เย่เฟยไม่ได้พูดโกหก ถ้าเขาจะสั่งการให้ระเบิดที่นี่ ก็เป็นเรื่องแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ราชาแห่งทหารรับจ้าง นอกจากจะโหดเหี้ยมแล้ว ยังมีอาวุธสงครามจำนวนไม่จำกัดอีก กองทัพของเขาเทียบได้กับกองทัพระดับภาคของประเทศ
ตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ ทันใดนั้นก็มีคนรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมา! คนแบบนี้ ไม่ต่างไปจากผู้ก่อการร้ายเลยแม้แต่นิดเดียว!
“พระเจ้า ถ้าเขาสั่งให้ระเบิดที่นี่จริงๆ งั้นพวกเราก็ต้องกลายเป็นเถ้าถ่านแล้วงั้นเหรอ?!”
“เฮ้อ! ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ ฉันไม่มาแต่แรกแล้วล่ะ คุณดูสิ ฉันบอกแล้วว่าไม่มา คุณดันจะพาฉันมาให้ได้ ไงล่ะตอนนี้ ถ้าอีกเดี๋ยวระเบิดที่นี่ล่ะก็ พวกเราก็จะตายกันหมด!”
“ผมไม่ให้คุณมา คุณก็จะมาให้ได้ ยังว่าอะไรนะภรรยาของใครก็มานะ! จะได้โชว์กำไลหยกของคุณในงานเลี้ยงนี้พอดี ตอนนี้คุณกลับมาโทษผม ทำไมต้องมีคนแบบคุณอยู่ด้วยเนี่ย!”
“เฮ้อ! ต้องโทษคุณหนูของตระกูลถัง ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมขนาดนั้น ตกลงเขาไปก็จบแล้ว? ต้องทำให้เกิดเรื่องจนได้ ตอนนี้ไงล่ะ เพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเองแท้ๆ จึงทำร้ายทุกคน!”
ความเห็นแก่ตัวของผู้คนเริ่มปรากฏขึ้น เสียงตำหนิถังยู่เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีบางคนเริ่มหวาดผวา นี่คือสันดานของมนุษย์ ตอนที่คุณทุกอย่างราบรื่น พวกเขาต่างสรรเสริญเยินยอคุณ ยกคุณขึ้นแท่นบูชา แต่เมื่อคุณเจอเข้ากับปัญหา ทุกๆคนต่างพากันตัดสัมพันธ์กับคุณ ต่อให้เป็นเพื่อนกันมาก่อน ก็จะพูดว่าไม่รู้จักคุณ!
เย่เฟยเห็นผู้คนวุ่นวาย เขาใบหน้ากระตุกด้วยความโกรธ แล้วตะคอก “ทุกๆคนเงียบเดี๋ยวนี้ ผมไม่มีทางทำอะไรพวกคุณที่อยู่ที่นี่ ผมเพียงแค่อยากถามคำถามเท่านั้น พวกคุณโหวกเหวกโวยวายแบบนี้ ผมไม่ได้ยินเสียง”
ยังคงมีคนกลัว และยังคงส่งเสียงหวาดผวาออกมา!
เย่เฟยหยิบปืนออกมาจากเอว แล้วยิงขึ้นบนเพดาน หลังจากยิงขึ้นไปแล้ว ทั้งห้องโถงก็เงียบลงทันใด! หนึ่งวินาทีก่อนหน้านี้ยังเอะอะโวยวายอยู่ ตอนนี้เงียบสงบลงอย่างที่สุด เป็นฉากที่ถากถางมาก ทุกคนล้วนมองไปยังเย่เฟยอย่างระมัดระวัง ไม่กล้าหายใจแรง
นี่คือผู้มีอำนาจที่ว่ากัน พวกเขาให้ความสำคัญกับชีวิตของตัวเองเกินไป ประโยคนั้นที่ว่ามีเหตุผลมาก คนยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งกลัวความตาย! พวกเขาคนไหนบ้างที่ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งของโลก คนไหนบ้างที่พูดถึงแต่ความตายตลอดเวลา แต่เมื่อต้องเผชิญกับความตายจริงๆ ใครก็ไม่กล้าเผชิญกับมัน การกลัวความตายเป็นเรื่องปกติของมนุษย์
ตอนที่เสียงปืนนี้ดังขึ้น ถังยู่ตกใจจนตัวสั่น! เธอไม่เคยเข้าใกล้เสียงปืนมากขนาดนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรก แม้แต่ในความฝันก็ไม่คิด ว่าคนที่ยิงปืนออกมาจะเป็นพี่เย่เฟยที่เพียบพร้อมคนนั้นที่อยู่ในใจของเธอได้
เย่เฟ่ยรับรู้ได้ถึงถงยู่ที่ตัวสั่น จึงได้ก้มหน้าแล้วกล่าว “ขอโทษนะ เสี่ยวยู่ ที่ทำให้คุณตกใจ!”
ถังยู่ไม่พูดอะไร ใช้เพียงสายตาที่หวาดกลัวสุดขีดมองที่ไปเขา เธอไม่ดิ้นรนใดๆอีก เพราะพลังของเย่เฟยนั้นมหาศาล เธอไม่มีทางที่จะดิ้นรนได้!
เย่เฟยมองไปรอบๆ เห็นทุกอย่างสงบลง ก็พยักหน้าอย่างพอใจแล้วกล่าว “ดีมาก!”
เขาคุ้นเคยกับการทำเรื่องแบบนี้ ตอนนี้ เขาก็แค่แสดงธาตุแท้ของตัวเองออกมาก็เท่านั้น ช่วงสามปีมานี้ เขาใช้ชีวิตแบบนี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ต้องเผาปล้นฆ่าทำลาย ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่ทำ!
ที่ไหนมีสงคราม พวกเขาก็จะปรากฏกายที่นั่น! ไปในที่ที่อันตรายที่สุด เจอกับคนที่น่ากลัวที่สุด!
จิตใจของถังยู่ค่อยๆสงบลง เธอน้ำตาคลอเบ้าแล้วสังเกตไปที่เย่เฟย เขาเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เปลี่ยนไปจนไม่ใช่พี่เย่เฟยที่อ่อนโยนมีน้ำใจอีกแล้ว! เขาได้เปลี่ยนไปจากคนที่มีความรู้มีมารยาทเป็นอันธพาลไปแล้ว! เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วสะบัดมือของเย่เฟยออกอย่างแรง แล้วถาม “เย่เฟย รู้มั้ยว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่?”
เย่เฟยจับแขนของเธออีกครั้ง แล้วกล่าวอย่างชัดเจนว่า “ผมรู้ ผมรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่! ตอนนี้ ผมเพียงแค่อยากรู้ ว่าคนที่คุณชอบคือใครกันแน่?”
ถังยู่ส่ายหน้า กัดริมฝีปากแล้วกล่าว “ทำไมคุณถึงเปลี่ยนไปจนน่ากลัวได้ขนาดนี้? พี่เย่เฟยเมื่อก่อนต่อให้โมโหก็ไม่มีทางยิงปืนเพราะฉัน ทำไมกัน? ทำไมคุณต้องยิงปืนเพราะฉัน?”
เย่เฟ่ยส่ายหน้าแล้วกล่าว “ทำไมนะเหรอ? คุณว่าทำไมล่ะ เพราะคุณคือคนที่ผมรักมากที่สุด! คุณให้ผมเป็นคนจิตใจดี แม้แต่คุณยังให้ผมไป แล้วคุณจะให้ผมเอาจิตใจอันดีไว้ให้ใคร? ยังต้องไว้เพื่อใครอีกเหรอ? เพื่อคุณ ผมสามารถทำลายได้ทั้งตระกูลถัง ถึงขั้นทั้งหนานหลิงก็ทำลายได้ทั้งหมด!”
เมื่อพูดจบ มือทั้งสองข้างของเย่เฟยจับไปที่แขนของถังยู่ แล้วถามอย่างเอาจริงเอาจังว่า “บอกผมมา คนนั้นคือใคร? ชายคนที่ทำให้คุณยอมทิ้งผม มันเป็นใคร?”