คุณชายคนนี้ไม่ใช่พวกที่ทำอะไรตามอำเภอใจ ทำไมจู่ๆ ก็พูดแบบนี้ หวังชิงชิงคาดไม่ถึงเป็นอย่างมาก
แต่เธอยังไม่ทันพูดจบก็เห็นแววตาอันแน่วแน่ของฟางเหยียน ดังนั้นเธอกลืนคำพูดทั้งหมดลงคอไป เธอมีสิทธิ์ไปสั่งสอนการทำงานของคุณชายได้ยังไง
ฟางเหยียนพูดอย่างเนิบๆ ว่า “เธอวางใจเถอะ ฉันรู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ”
“ค่ะ!” หวังชิงชิงถามขึ้นว่า “คุณชายจะให้เซียวเจิ้นเที่ยนลักพาตัวใครหรอคะ”
“ฟางเหยียน!” เขาพูดออกมา
เมื่อได้ยินดังนั้น หวังชิงชิงนึกว่าตัวเองฟังผิด จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณชายจะให้ลักพาตัวใครนะคะ”
ฟางเหยียนพูดชื่อตัวเองออกมาอีกครั้ง “ฟางเหยียน!”
หวังชิงชิงมึนงงไปหมด เธอมองฟางเหยียนและไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา นี่เป็นชื่อของคุณชายไม่ใช่หรอ หรือว่าในเมืองจินโจวยังมีคนที่ชื่อเหมือนคุณชาย
ไม่รอให้หวังชิงชิงได้เอ่ยปากถาม ฟางเหยียนพูดออกมาอย่างสบายใจว่า “ให้เขาลักพาตัวฉัน เธอไม่จำเป็นต้องสงสัย ทำตามที่ฉันบอกก็พอ เซียวเจิ้นเที่ยนต้องสนใจในข้อเสนอของฉันแน่นอน เธอวางใจเถอะ”
“แต่ว่า…” หวังชิงชิงเหมือนจะพูดอะไรออกมา เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คุณชาย ฉันไม่เข้าใจ คุณพอจะบอกฉันได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงให้เซียวเจิ้นเที่ยนลักพาตัวคุณล่ะคะ”
ฟางเหยียนแสยะยิ้มออกมา “ไม่ต้องถามอะไรหรอก ทำตามที่ฉันบอกเถอะ”
ถึงในหัวของหวังชิงชิงเต็มไปด้วยคำถามมากมาย แต่เธอก็ไม่ได้ถามต่อ ฟางจินหยวนเคยบอกว่าคุณชายสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ สั่งให้พูดอะไรก็ต้องพูด ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคำสั่งของคุณชาย
“ค่ะคุณชาย” หวังชิงชิงตอบเสียงเบา
เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูห้องทำงาน เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงหันไปมองฟางเหยียนแล้วถามว่า “คุณชาย วันหยุดคุณว่างหรือเปล่า ฉันอยากเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ วันนั้นที่คุณช่วยฉัน ฉันยังไม่ทันได้ขอบคุณเลย”
พูดจบ หัวใจของหวังชิงชิงเต้นตึกตัก ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเอ่ยปากชวนผู้ชายทานข้าว เธอคิดไม่ถึงว่าการชวนคนอื่นทานข้าวจะรู้สึกแบบนี้
ฟางเหยียนเงยหน้าขึ้นมองหวังชิงชิง เขาเงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าเบาๆ “ค่อยว่ากัน”
เขาพูดอย่างไร้ความรู้สึก จนทำให้หวังชิงชิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
หลังจากเดินออกจากห้องทำงาน มือถือของหวังชิงชิงก็ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดูแล้วก็ตัดสายทิ้ง เธอคิดไม่ถึงว่าหลังจากที่แยกทางกับโจวเจิ้งคนในบ้านก็โทรมาหาเธอและให้เธอกลับไป
ตระกูลโจวคาใจเรื่องที่โจวเจิ้งถูกทำร้ายและส่งนักฆ่ามาลอบฆ่าฟางเหยียน ถ้าหวังชิงชิงไม่รีบกลับไป ไม่รู้ว่าฟางเหยียนจะกลายเป็นศพเมื่อไร
ดังนั้นหวังชิงชิงจึงวางแผนจะกลับไปดินแดนตะวันตกที่ที่เธออยู่มาตั้งแต่เล็กจนโต และเป็นที่ที่เต็มไปด้วยฝันร้ายสำหรับเธอ
หลังจากที่ยืนสูดหายใจลึกอยู่ตรงทางเดิน หวังชิงชิงจึงเดินลงไปข้างล่าง
เมื่อเห็นหวังชิงชิงออกไปแล้ว ฟางเหยียนจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขาทอดมองไปนอกหน้าต่างและแสยะยิ้มออกมา ตอนนี้ตระกูลเซียวกำลังตกอยู่ในกำมือของเขา
ตอนนี้ฟางเหยียนกำลังใช้สิ่งที่เซียวเจิ้นเที่ยนถนัดเล่นงานเซียวเจิ้นเที่ยน
เซียวเจิ้นเที่ยนมาถึงหน้าบริษัท เมื่อลงจากรถก็เห็นผู้หญิงรูปร่างดีอย่างหวังชิงชิง
“ประธานหวัง” เมื่อเห็นหวังชิงชิง เขาจึงประสานมือขึ้นมาข้างหน้าเพื่อทำความเคารพอย่างมีมารยาท
หวังชิงชิงยิ้มอย่างเป็นการเป็นงาน “มาแล้วหรอคะท่านเซียว เชิญทางนี้ค่ะ”
เซียวเจิ้นเที่ยนพยักหน้าแล้วเดินตามหวังชิงชิงเข้าไปในห้องแขกวีไอพี เมื่อเข้ามาเขาไม่พบฟางเหยียน จึงถามขึ้นว่า “คุณชายล่ะครับประธานหวัง”
หวังชิงชิงยิ้มแล้วพูดว่า “คืออย่างนี้ค่ะท่านเซียว คุณชายต้องรีบออกไปเพราะมีเรื่องด่วน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นก็หุบลงทันที
เขารู้สึกเหมือนโดนหลอก เขารับไม่ได้ เพราะทำให้เขาอับอายมาก
ถึงจะพูดว่าฟางเหยียนเป็นคนที่ห้ามไปหาเรื่อง แต่เขาก็ไม่ควรหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้
ถึงตอนนี้สถานการณ์ในตระกูลเซียวจะไม่ดี แต่ไอ้หมอนี่ก็ไม่ควรหลอกเขาแบบนี้
เมื่อคิดได้ดังนั้น เซียวเจิ้นเที่ยนเตรียมที่จะตำหนิออกมา แต่จู่ๆ หวังชิงชิงก็นั่งลงตรงหน้าเขาแล้วพูดว่า “ท่านเซียว นี่เป็นสัญญาที่คุณชายบอกฉันว่าให้คุณเซ็น คุณลองดูสัญญาก่อน ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็เซ็นได้เลย”
สีหน้าของเซียวเจิ้นเที่ยนแปลกใจอย่างมาก เขากะพริบตาเหมือนหูฝาด
หวังชิงชิงพูดพลางวางสัญญาลงตรงหน้าเซียวเจิ้นเที่ยน “คุณชายบอกว่าเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมมือกับตระกูลที่ซื่อสัตย์อย่างตระกูลเซียว”
เขายกมือขึ้นมาปาดเหงื่อที่ไหลลงมาตรงข้างแก้ม จากนั้นจึงสูดหายใจลึก
ยังดีที่ไม่ได้พูดอะไรพล่อยๆ ออกไป ขืนพูดอะไรไม่ดีออกไป มีหรือจะได้เซ็นสัญญานี้ เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมา โชคดีของตระกูลเซียวจริงๆ
เขาเปิดสัญญาอย่างเบามือ มันเป็นสัญญาความร่วมมือ เนื้อหาในสัญญาบอกว่าจะสนับสนุนเงินทุนช่วยเหลือตระกูลเซียว ผูกขาดธุรกิจทุกประเภทในเมืองจินโจว เมื่อเห็นสัญญาที่ทำให้เขามั่นใจมากขึ้น มือที่ถือปากกาอยู่ก็เริ่มสั่นขึ้นมา
นี่คือเรื่องจริง ตระกูลเซียวจะร่วมมือกับตระกูลฟาง ตระกูลฟางที่เป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเจียงตู ตระกูลที่สูงส่งเหมือนเทพจะมาร่วมมือกับเขา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตระกูลเซียวต้องเผชิญในช่วงนี้จะถูกลบล้างออกไป
เขาตื่นเต้นจนมือสั่น เซียวเจิ้นเที่ยนเซ็นชื่อของตัวเองลงในสัญญาด้วยความตื่นเต้น
จากนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า “ขอบคุณครับประธานหวัง ขอบคุณคุณชายฟาง ตระกูลเซียวจะไม่ทำให้ผิดหวังครับ”
หวังชิงชิงยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านเซียวก็เกรงใจเกินไป นี่คือสิ่งที่คุณสมควรได้รับค่ะ คุณชายมาที่เมืองจินโจว เขาเอาแต่คิดว่าจะลงทุนกับกิจการของตระกูลไหนถึงจะดี ถึงตอนนี้ตระกูลเซียวจะเจอเรื่องวุ่นวายและคนจำนวนมากคิดจะถอยห่างจากพวกคุณ เพราะเหตุนี้คุณชายจึงตัดสินใจลงทุนกับตระกูลเซียว เพราะคุณชายต้องการตบหน้าคนพวกนั้นค่ะ”
คนมีเงินนี่เล่นเก่งจริงๆ เซียนเจิ้นเที่ยนอดอุทานออกมาไม่ได้ “ประธานหวังวางใจได้เลยครับ ตระกูลเซียวจะไม่ทำให้คุณชายลำบากใจ”
หวังชิงชิงพยักหน้า จากนั้นก็เขยิบเข้าไปพูดกับเซียวเจิ้นเที่ยน “ใช่สิท่านเซียว คุณชายมีเรื่องให้คุณช่วย”
“พูดมาได้เลยประธานหวัง ถ้าผมช่วยได้ผมจะช่วยอย่างเต็มที่ คำพูดของผมในเมืองจินโจวยังพอได้ผล” เซียวเจิ้นเที่ยนพูดอย่างแน่วแน่
หวังชิงชิงทำเป็นมองซ้ายมองขวาอย่างมีพิรุธ เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร เธอจึงพูดว่า “คืออย่างนี้ค่ะ คุณชายเจอเรื่องที่ไม่ค่อยพอใจในเมืองจินโจว เขาเลยอยากให้คุณช่วยลักพาตัวใครบางคน”
เซียวเจิ้นเที่ยนอึ้งไป จากนั้นจึงถามขึ้นว่า “คุณชายต้องการลักพาตัวใครหรอครับ”
หวังชิงชิงกดเสียงต่ำแล้วพูดอย่างหวาดระแวงว่า “ฟางเหยียน!”