คำพูดเดียว ทำให้สีหน้าของเย่ชิงหยู่ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
แน่นอนว่าจางฉี่เหาเป็นคนตะโกนคำพูดนี้ ใบหน้าของเขาหนักแน่น ใบหน้าชราที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น ดวงตาทั้งสองเต็มไปด้วยเลือดฝอย มองแวบเดียวก็รู้ว่าเมื่อคืนนี้เขาไม่ได้พักผ่อน เฝ้าจางไห่เฟิงอยู่ที่นี่ตลอด
จางฉี่เหาในฐานะผู้นำตระกูล หลังจากที่ได้ยินข่าวคราวนี้ ก็เคียดแค้นชิงชังเป็นอย่างยิ่ง
จางไห่เฟิงค่อนข้างไร้ประโยชน์ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาก็เป็นหลานชายของตัวเอง ตั้งแต่เล็กเขาก็เป็นคนที่เลี้ยงดูมาจนเติบโต ตอนนี้สูญเสียขาทั้งสองข้าง กลายเป็นคนไร้ค่า ทำให้อารมณ์ของเขาก็จมลงสู่ก้นบึ้งทันที
เขามองไปที่เย่ชิงหยู่ เย่ชิงหยู่ยืนหยัดไม่สะทกสะท้าน ดังนั้นใบหน้าของเขาก็ไม่พอใจ แก้มกระตุกอย่างรุนแรงหลายครั้ง ตะโกนว่า: “คุกเข่า!”
สองคำนี้ เสียงทรงพลังดังก้อง ในครั้งนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องสั่นเทา!
คนที่เข้าใจจางซื่อตงก็รู้ว่า เขาโกรธมากจริงๆ
เย่ชิงหยู่สะอึก ขมวดคิ้วถามว่า: “ทำไมต้องให้หนูคุกเข่าด้วยค่ะ คุณตา! หนูทำอะไรผิดเหรอ?”
สีหน้าของจางฉี่เหาเปลี่ยนไปอย่างมากอีกครั้ง นี่กำลังต่อต้านเขาเหรอ? แม้แต่หลานสาวของตัวเองก็ต่อต้านตัวเองเหรอ? จางซื่อข่ายรีบพูดว่า: “แกยังมีหน้ามาพูดอีก ลูกผู้พี่ของแกก็ขาหักทั้งสองข้างแล้ว แกยังต้องการอะไรอีก? หรือว่าแกตั้งใจจะไม่ยอมรับเหรอ?”
นี่เป็นการใส่ร้าย นี่เป็นการโยนความผิดให้คนอื่น เย่ชิงหยู่ชี้แจงข้อเท็จจริง: “หนูไม่รู้ว่าลุงรองพูดแบบนี้หมายถึงอะไร และก็ฟังไม่เข้าใจ! ทำไมพวกคุณก็พูดอยู่คำเดียวว่าหนูเป็นคนชนขาทั้งสองของเขาหัก พวกคุณมีหลักฐานมั้ย?”
“เย่ชิงหยู่!” เสียงของจางฉี่เหากลายเป็นตะคอก และความอดทนของเขาก็หมดลง
เสียงตะคอกนี้ ทำให้ร่างกายของเย่ชิงหยู่สั่นเทา จางฉี่เหาเป็นทหารมาก่อน ร่างกายของเขาก็มีไอพิฆาตเป็นธรรมดา ก็เหมือนกับเสือที่ดุร้าย ที่กำลังอ้าปากทำร้ายเย่ชิงหยู่
เมื่อฟางเหยียนเห็นเหตุการณ์แบบนี้ ก็ก้าวไปข้างหน้า ขวางอยู่ด้านหน้าของเย่ชิงหยู่ เงยหน้าขึ้นมาเพ่งมองไปที่จางฉี่เหา แล้วพูดว่า: “อยู่ตรงหน้าของฉัน ไม่มีใครสามารถตะโกนใส่ภรรยาของฉันได้ แม้ว่าคุณจะเป็นคุณตาของเธอ ก็ไม่ได้!”
คำพูดเดียว ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เงียบกริบ!
ฟางเหยียนคนนี้บ้าไปแล้วหรือเปล่า? กล้าพูดแบบนี้ออกมาต่อหน้าจางฉี่เหา เมื่อก่อนนี้เขาเคยมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ควรพูดแบบนี้ต่อหน้าจางฉี่เหาผู้นำตระกูล! เทียบเท่ากับว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับความเกรงขามของจางฉี่เหาแล้ว
“พ่อ พ่อเห็นแล้วหรือยัง? ฟางเหยียนคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งเหิมเกริม เมื่อกี้นี้ตอนที่ผมอยู่ที่บ้านของพวกเขา เขาจะลงมือกับผมเพื่อจะปกป้องเย่ชิงหยู่ ยังข่มขู่แม่ของไห่เฟิง บอกว่าจะลงมือตบเธอ บอกว่าจะลงมือตบเธอ ผมว่าเห็นได้ชัดเจนว่าเขาต้องการจะเป็นศัตรูกับครอบครัวพวกเรา ต้องการเป็นผู้นำของตระกูลจางของพวกเรา!” จางซื่อตงชี้ไปที่ฟางเหยียนอย่างโกรธเคืองแล้วตะโกน
ภรรยาของเขาก็พูดตามเกินความจริงว่า: “ใช่ค่ะ พ่อ คนคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งเหิมเกริมมากขึ้น ตอนนี้ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับตระกูลจางของพวกเรา ในอนาคตอาจจะขับไล่คนของตระกูลจางพวกเราออกจากตงข่ายกรุ๊ป”
จางซื่อข่ายก็กลอกตาไปหนึ่งรอบ เขาเป็นคนมีเหตุผล เรื่องราวเหล่านี้ที่เกิดขึ้นกับตระกูลจาง ความจริงไม่ใช่ว่าเย่ชิงหยู่มีความสามารถแข็งแกร่งมากแค่ไหน ทั้งหมดเกิดจากฟางเหยียนคนนี้
ดังนั้นเขาจึงพูดตามว่า: “พ่อ ไล่เขาออกจากตระกูลจางของพวกเราเถอะ และไล่เขาออกจากบ้านหลังนั้นของชิงหยู่ด้วยเช่นกัน บ้านหลังนั้นเป็นของพวกเรา บ้านของพวกเรา พวกเราสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง”
หลายคนก็ฉันพูดหนึ่งคำเธอหนึ่งคำแบบนี้ ทำให้สีหน้าของจางฉี่เหาเปลี่ยนไปอย่างบ้างคลั่ง เขามองไปที่ฟางเหยียนอย่างโกรธจัด และพูดอย่างโกรธจัดว่า: “แกเป็นห่าอะไร? เรื่องในตระกูลจางของพวกเราถึงตาแกมายุ่งเมื่อไหร่?”
ฟางเหยียนกวาดสายไปที่คนของตระกูลจางที่อยู่ในห้อง ตอนนี้เขาได้กลายเป็นหนามในสายตาของตระกูลจางแล้ว หนามยอกอก
เขาหัวเราะเยาะเย้ย แล้วพูดว่า: “เรื่องของตระกูลจางของพวกคุณฉันไม่สนใจที่จะเข้าไปยุ่ง แต่เย่ชิงหยู่เป็นภรรยาของฉัน เธอนามสกุลเย่! ไม่ได้นามสกุลจาง ดังนั้น ฉันยุ่งเรื่องภรรยาของฉัน ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลจางของพวกคุณ”
ฟางเหยียนตอบกลับอย่างเสียงกึกก้อง ดวงตาจับจ้องไปที่จางฉี่เหา
“แก!” จางฉี่เหาชี้ไปที่ฟางเหยียน และฟางเหยียนก้าวไปข้างหน้า ไม่แสดงความอ่อนแอแม้แต่น้อย
ชั่วขณะหนึ่ง สี่ตาประสานกัน ก็เหมือนกับว่าดาวอังคารพุ่งชนโลก ดูเหมือนว่าจะมีพลังอยู่ตรงกลาง ในความเป็นจริงจางฉี่เหาก็หวาดกลัวแววตาของฟางเหยียน ครั้งก่อนก็เคยสบตากันมาก่อน เขาก็รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่แข็งแกร่งแววตาของฟางเหยียน
ตอนนี้ เขาก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็นใกล้ตัวเอง ซึ่งเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้อายุยังน้อย ทำไมถึงมีความอาฆาตที่ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งขนาดนี้ จางฉี่เหาบอกกับตัวเองว่า เขาเคยฆ่าคนมาก่อน มีเพียงแต่คนที่เคยฆ่าคนมาก่อนถึงจะสามารถเปล่งรัศมีความอาฆาตน่ากลัวแบบนี้ออกมาได้
“พูดแบบนี้ เย่ชิงหยู่ไม่คุกเข่าเหรอ?” จางฉี่เหากัดฟัน ถามทีละคำ ยังคงจ้องมองฟางเหยียนด้วยดวงตาแหลมคม
เย่ชิงหยู่ยืนตัวตรง แล้วพูดว่า: “ไม่คุกเข่าค่ะ! หนูไม่ได้ทำอะไรผิด คุณตาไม่มีเหตุผลที่จะให้หนูคุกเข่า!”
จางฉี่เหาหันหน้ามองไปที่เย่ชิงหยู่ หรี่ตาแล้วพยักหน้าพูดว่า: “ดีมาก มีความกล้าหาญมาก! หลังจากที่มีที่พึ่งพา ไม่ให้ความสำคัญแม้แต่กับฉันที่เป็นตาคนนี้แล้ว เย่ชิงหยู่ เธอดีมากจริงๆ”
จางเจียวเจียวคิดไม่ถึงว่าฟางเหยียนจะกล้าถึงระดับนี้ แต่ว่านี่ก็พอดีกับเจตนาของเธอ แบบนี้ ก็จะไม่มีใครกล้าทำอะไรกับพวกเธอ ต่อให้เป็นพ่อของเธอก็ต้องมีเหตุผล
“พ่อ!” จางเจียวเจียวเรียก แล้วพูดว่า: “ชิงหยู่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดไม่มีเหตุผลที่จะต้องคุกเข่า!”
“อะไรนะ?” จางฉี่เหาจงใจละสายตาไปที่บนร่างกายของจางเจียวเจียว และแสยะยิ้ม แล้วถามว่า: “แกหมายความว่า แม้แต่แก ก็ไม่เชื่อฟังคำพูดของฉันเหรอ?”
จางเจียวเจียวก็สะอึก แล้วพูดว่า: “ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อฟังคำพูดของพ่อ พวกเราจะเชื่อฟังคำพูดของพ่อ แต่ว่าคำพูดที่พ่อพูดต้องมีแรงโน้มน้าวจิตใจ ถ้าหากพวกเราทำผิดแล้ว พวกเราก็จะยอมรับผิด ตอนที่ไม่ได้ผิด พวกเราไม่มีทางยอมรับว่าตัวเองทำผิด”
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพูดคำแบบนี้กับพ่อที่เข้มงวดของตัวเอง ความเข้มงวดของจางฉี่เหาเธอเคยประสบมาตั้งแต่ยังเล็ก ดังนั้นพูดแบบนี้ออกมา ก็รวบรวมความกล้ามากจริงๆ
แน่นอนว่า เรื่องนี้ก็มีฟางเหยียนเป็นปัจจัย ฟางเหยียดปกป้องลูกสาวของตัวเองอยู่เสมอ ตัวเองไม่สามารถขี้ขลาดได้ จางเจียวเจียวจะต้องวางตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกสาว ไม่สามารถปล่อยให้เธอก้มหน้ากับทุกสิ่ง
“จางเจียวเจียว!” จางซื่อข่ายตะคอกอย่างดุเดือด ชี้ไปที่เธอแล้วพูดว่า: “แกรู้มั้ยว่าตัวเองกำลังพูดอะไร? แกรู้มั้ยว่าตัวเองกำลังพูดอยู่กับใคร?”
ภรรยาของจางซื่อตงร้องไห้ไปด้วย พูดเกินความจริงไปด้วย: “เธอก็แบบนี้ คิดว่าตัวเองเก่งมากแค่ไหน เมื่อกี้นี้ยังบอกว่าตัวเองเคยเป็นคุณนายของตระกูลเย่ อะไรอีกมากมาย ไม่ให้ความสำคัญกับคนตระกูลจางของพวกเรา ฉันว่าเธอก็มีเจตนาที่จะทำแบบนั้น จงใจเป็นศัตรูกับคนตระกูลจางของพวกเรา จางเจียวเจียว แกรู้มั้ยว่าช่วงก่อนหน้านั้นแกมาขอความช่วยเหลือตระกูลจางพวกเราอย่างไร ในเวลานั้น พูดได้ดีมาก ตอนนี้แกกำลังทำอะไร?”
“ฉันว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนใจดำอำมหิต เป้าหมายของการมาที่ตระกูลจางของพวกเรา ก็เพื่อเอาตงข่ายกรุ๊ปไป ตอนนี้บรรลุเป้าหมายแล้ว ก็เผยธาตุแท้เดิมออกมาแล้วใช่มั้ย? พ่อ พ่อดูเอาเอง นี่ก็คือลูกสาวตัวดีของพ่อ”