จอมนักรบทรงเกียรติยศ – ตอนที่ 139 การคุกคามของเจ้าผอม

ฟางเหยียนก้าวเท้าเข้ามาใกล้คนไม่กี่คนนั้นทีละก้าว ๆ เจ้าอ้วนหวาดกลัวจนผุดเหงื่อเม็ดโตเต็มศีรษะ เขาหยิบปืนออกมาหนึ่งกระบอกอย่างตึงเครียด เล็งไปที่ฟางเหยียนแล้วร้องตะโกนว่า “หยุดนะ แก… แก ๆ ๆ แกจะทำอะไรน่ะ?”

ตอนที่เขาพูดนั้นราวกับลิ้นพันกัน ถือปืนตัวสั่นไม่หยุด เมื่อกี้คนพวกนั้นล้วนแต่ใช้ปืนกลมือกันทั้งหมด ห้าร้อยกว่าคนตายกันหมดแล้ว ตอนนี้ตัวเองถือแค่ปืนพกหนึ่งกระบอก เห็นได้ชัดว่าอ่อนแอเพียงใด

เนื้อบนใบหน้าของพี่อ้วนสั่นไม่หยุด เขาชี้ไปที่ฟางเหยียนตัวสั่น ๆ แล้วเอ่ยว่า “แกอย่าเข้ามานะ แกเข้ามาอีกละก็ฉันจะยิง ฉันจะยิงแล้วนะ!”

ฟางเหยียนมองพี่อ้วน เขายังคงเดินไปข้างหน้าด้วยอย่างสบาย ๆ จ้องเขาแล้วถามว่า “เมื่อกี้เป็นแกใช่ไหมที่ลงมือกับเมียฉัน?”

พี่อ้วนสั่นไปทั้งตัว พูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ว่า ไม่… ไม่ใช่ผมนะ คุณดูผิดแล้ว เป็นเขา!”

เขายกมือขึ้นมาชี้ไปที่เจ้าผอมที่อยู่ข้าง ๆ เจ้าผอมโดนชี้แบบนั้นก็ชะงักไปสิบวินาทีแล้วจึงเรียกสติกลับมาได้ เขากล่าวว่า “พี่อ้วน พี่ป่วยหรือเปล่า? ฉันไม่ค่อยสนใจผู้หญิงเท่าไหร่หรอกนะ ร่างกายของฉันไม่สมบูรณ์”

พี่อ้วนยังอยากจะพูดอะไรออกมาอีก แต่ฟางเหยียนพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาหนึ่งประโยคว่า “แกมานี่ซะ!”

พี่อ้วนสะบัดร่างกาย เขากวาดตามองศพที่นอนอยู่บนพื้น แล้วก็มองชายหน้าบากที่ถูกตีหัวจนแหลกละเอียด แล้วก็มองปืนในมือ ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเขาทั้งหมดนี้เห็นได้ชัดว่าเกินความจำเป็น

“แกคงไม่คิดว่าถือปืนกระบอกหนึ่งแล้วจะคุกคามฉันได้ใช่ไหม?” เสียงเคาะให้ตัดสินใจครั้งสุดท้ายของฟางเหยียนทำลายความหวังครั้งสุดท้ายของพี่อ้วนจนหมดสิ้นไป

ปืนไม่สามารถคุกคามอะไรเขาได้จริง ๆ ปืนกลมือห้าร้อยกระบอกก็ยังสร้างการคุกคามอะไรต่อเขาไม่ได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับปืนพกที่ตัวเองถือกันล่ะ เข้าร้องไห้เต็มใบหน้า ทิ้งปืนในมือไปอย่างไร้เรี่ยวแรง ก้าวเท้าเดินไปทางฟางเหยียน เอ่ยว่า “ผมไม่ได้มีเจตนาจะทำอย่างนั้นจริง ๆ ทั้งหมดนั่นคุณหนูใหญ่ตระกูลเซียวเป็นคนสั่งให้ผมทำ ที่จริงแล้ว… ที่จริงผม… ผมเป็นแค่สวะคนหนึ่ง ไม่คุ้มค่าให้คุณฆ่าหรอก ถ้าหากคุณฆ่าผมแล้ว เรื่องแดงออกไป จะไม่ดีต่อชื่อเสียงของท่านนะครับ”

พี่อ้วนพูดไปพลางคุกเข่าลงไปบนพื้นดังตุบ น้ำตาก็รินไหลลงมาตามกรอบหน้า

ต่อหน้าความตาย ไม่มีใครไม่หวาดกลัว ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่มักจะพูดว่าอย่างมากก็แค่ตายก็ยังหวาดกลัวความตาย

สำหรับการกระทำของพี่อ้วน ฟางเหยียนเจอมาจนชินมาตั้งนานแล้ว

ตอนที่ฆ่าคนในสนามรบก็ทำให้คนหวาดกลัวจนร้องขอชีวิตมาไม่น้อย

เขากดตามองพี่อ้วน ยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของพี่อ้วนอยู่พักหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “แกวางใจเถอะ ฉันไม่ฆ่าแกหรอก เพราะว่าฆ่าแกแล้ว จะเป็นการเอาเปรียบแกเกินไป ฉันจะให้แกได้มีชีวิตอยู่ อยู่แบบเทียบไม่ได้แม้แต่หมาหนึ่งตัว”

พูดจบเขาก็เอ่ยถาม “เมื่อกี้แกใช้มือข้างไหนตบเมียฉันนะ?”

พี่อ้วนได้ยินคำนี้ก็รู้แล้วว่าเขาจะตัดมือของตนเองทิ้ง ตัดมือเขาทิ้งแล้ว ถ้าอย่างนั้นเขาก็กลายเป็นคนไร้ประโยชน์แล้วสิ? เขารีบร้องขึ้นทันทีว่า “อย่านะครับ ท่านผู้อาวุโส เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อกี้ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ”

“มือข้างไหน?!” น้ำเสียงของฟางเหยียนเข้มขึ้นแล้ว น้ำเสียงฟังดูแข็งกร้าวเป็นอย่างยิ่ง

พี่อ้วนกลืนน้ำลายลงไปหนึ่งอึก ในใจก็คิดว่าไม่ถูกทำลายคงไม่ได้ แต่ว่าถูกตัดแขนไปข้างหนึ่งก็ยังดีกว่าตายเยอะเลย เขายื่นมือข้างซ้ายออกไป ร้องไห้พลางเอ่ยว่า “ข้างนี้ครับ!”

“ฉัวะ!” เพิ่งจะยกมือขึ้นก็เห็นแสงของดาบแวบผ่านมือของเขาไป เห็นเพียงเลือดกระเด็นออกมา แล้วก็มีเสียงดังผลุบดังตามมา มือข้างซ้ายของพี่อ้วนก็ตกลงสู่พื้น จากนั้นก็เป็นเสียงร้องอ๊ากอย่างน่าเวทนา

ฟางเหยียนลงมืออย่างเหี้ยมโหดเป็นอย่างยิ่ง แทบจะทำลายมือของพี่อ้วนให้สิ้นซาก ร่างกายอ้วนท้วมของเขากลิ้งอยู่บนพื้นหนึ่งตลบ เขาเจ็บปวดทรมานจนอวัยวะบนใบหน้าบิดเบี้ยวเข้าหากัน

แต่เขาก็กัดฟันทนความเจ็บปวดทรมานนั้นด้วยความยากลำบาก คุกเข่าอยู่บนพื้น โขกหัวแล้วพูดกับฟางเหยียนว่า “ขอบพระคุณท่านผู้อาวุโสที่ไว้ชีวิต!”

แค่ตัดมือข้างซ้ายข้างหนึ่ง ยังมีมือข้างขวา อย่างน้อยเขาก็ยังมีมือข้างขวา

“เดี๋ยวก่อน!” หัวเขาเพิ่งจะถึงพื้น ก็ถูกฟางเหยียนเรียกเอาไว้ก่อน

“แกคงจะไม่คิดว่าฉันแค่จะตัดมือข้างหนึ่งของแกหรอกนะ?” คำพูดของฟางเหยียนแทงเข้ามาในใจของเขาเหมือนกระบี่คม ๆ เล่มหนึ่ง ใบหน้าอ้วน ๆ ของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความหวาดกลัว

ฟางเหยียนเอ่ยเสียงเยียบเย็นว่า “แกคิดว่าฉันตาบอดเหรอ? ที่แกใช้ตบเมียฉัน ไม่ใช่มือข้างซ้าย!”

พูดจบ ฟางเหยียนก็ยกมือข้างขวาของพี่อ้วนขึ้นมา เขาเอ่ยว่า “ที่แกใช้ตบเมียฉัน เป็นมือข้างขวาสินะ?!”

พี่อ้วนใช้มือข้างขวาจริง ๆ เขาไม่ได้ถนัดซ้าย เขาปกป้องมือข้างขวาเอาไว้ด้วยความเห็นแก่ตัวล้วน ๆ ถ้าหากต้องเลือกมือข้างหนึ่งจริง ๆ แน่นอนว่าต้องเลือกมือข้างขวา

เห็นฟางเหยียนยกมือข้างขวาของเขาขึ้นมา เหงื่อเย็นของเขาก็ไหลออกมาโดยตรง “ขอร้องล่ะ ขอร้องล่ะ อย่าตัดมือข้างขวาของผมอีกเลยนะ ผมยอมรับว่าผมเห็นแก่ตัว ผมใช้มือข้างขวาตบภรรยาของคุณจริง ๆ แต่ถ้าหากคุณตัดมือข้างขวาของผมจริง ๆ ชาตินี้ทั้งชาติของผมก็จบสิ้นแล้ว ขอร้องคุณล่ะ…”

ฟางเหยียนหัวเราะเหอะ ๆ เสียงเย็นออกมาพลางเอ่ยว่า “ไร้เดียงสา! ฉันเคยพูดว่าไม่ฆ่าแก แต่ไม่เคยพูดว่าจะให้แกมีชีวิตอยู่เหมือนคนคนหนึ่ง แกคิดว่าแค่ตัดมือข้างหนึ่งของแกทิ้งไป แกก็จะเป็นเหมือนกับหมาอย่างนั้นใช่ไหม?”

พี่อ้วนนิ่งไปอย่างทึ่มทื่อไปโดยสิ้นเชิง!

“อ๊ากกกกก!” ฟางเหยียนทำการกระทำเดียวกันอีกครั้ง มืออีกข้างหนึ่งของพี่อ้วนร่วงลงมา แต่เลือดยังไม่ไหลออกมา เพราะการกระทำของฟางเหยียนนั้นเร็วเกินไป มือของเขาร่วงลงมาสิบวินาทีเต็ม ๆ เลือดถึงจะเริ่มพุ่งออกมา

ใบหน้าของพี่อ้วนเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน ลงไปดิ้นอยู่กับพื้นทั้งตัว มือทั้งสองข้างถูกทำลายทิ้งไปแล้ว โชคดีที่การสำเร็จโทษของตนสิ้นสุดลงแล้ว ที่โชคดีก็คือตัวเองยังไม่ตาย ไม่ได้ตาย!

แต่ในตอนที่เขาคิดว่าทั้งหมดได้จบลงแล้วนั่นเอง ฟางเหยียนก็พูดออกมาอีกหนึ่งประโยคที่ทำให้เขาตกใจกลัวอย่างถึงที่สุดว่า “ฉันจะได้ว่าคนที่ลงไม้ลงมือกับเมียของฉันในคลิปก็คือแกใช่ไหมล่ะ? ในเมื่อแกคิดว่าตัวแกเองเป็นผู้ชาย ถ้าอย่างนั้นก็อย่าได้เป็นผู้ชายอีกต่อไปเลย”

“อะไรนะ?” พี่อ้วนข่มกลั้นความเจ็บปวดทรมานไว้แล้วตะโกนคำนั้นออกมา โดยไม่รอให้เขามีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาก็รู้สึกได้ว่าบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ระหว่างขาของตัวเองได้ตกลงมา

ในตอนนี้พี่อ้วนเกร็งไปทั้งร่าง สลบไสลไม่ได้สติไปในทันที

ถูกตัดมือทั้งสองข้าง แล้วยังถูกตัดเครื่องสืบทอดวงศ์ตระกูลอีก ตอนนี้พี่อ้วนมีชีวิตอยู่อย่างทรมานยิ่งกว่าตายแล้ว

พวกเขาผิดไปแล้ว ผิดที่ไม่ควรจะไปแหย่ปีศาจร้ายเช่นนี้

เห็นฉากปีศาจร้ายนี้แล้วเจ้าผอมก็รู้ว่าถึงตาของเขาแล้ว ขอร้องอ้อนวอนไปก็ไม่มีประโยชน์ มีทางเดียวก็คือตาย พอคิดถึงตรงนี้แล้วเขาก็รีบวิ่งเข้าไปอยู่ด้านข้างของเย่ชิงหยู่ที่ได้สลบไปแล้ว หยิบปืนพกขึ้นมาจ่อเข้าไปที่ศีรษะของเย่ชิงหยู่

ถึงแม้ว่าเขากำลังเอาปืนจ่ออยู่ที่ศีรษะของเย่ชิงหยู่ แต่ในใจของเขาก็สั่นระรัว มือก็สั่น พูดด้วยอาการตัวสั่นงก ๆ เงิ่น ๆ ว่า “แกเก่งมากก็จริง แต่อีนี่ไม่ได้เก่งเหมือนแก ฉันไม่ขออะไรเลย ขอแค่ให้แกปล่อยฉันไป ตั้งแต่นี้ไปฉันจะหายไปจากเมืองจินโจว ไม่ปรากฏตัวออกมาอีกตลอดไป ไม่อย่างนั้นละก็ ถ้าแกให้ฉันตาย ฉันก็จะเอาอีนี่ไปตายด้วย”

ฟางเหยียนส่ายศีรษะอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “นี่แกกำลังข่มขู่ฉันอยู่งั้นเหรอ?”

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

เทพแห่งสงครามกลับเยือนบ้าน เห็นภรรยาตกที่นั่งลำบากถูกคนเย้ยหยัน ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วเมือง! คนที่คิดจะกระตุกหนวดเสือ มันต้องไม่ตายดีแน่! กล้าทำให้เทพแห่งสงครามมีน้ำโห เตรียมเผชิญกับสงครามนองเลือดไว้ได้เลย!

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset