จางเจียวเจียวร้อนรนจนถึงกับหน้าแดง รีบพูดขึ้นว่า “เด็กคนนี้นี่ เธอไม่รู้แล้วนี่ไง ฟางเหยียนเนี่ยรู้สึกว่าไม่ได้เจอกับเธอมานานแล้ว กลัวเธอจะห่างเหินกับเขากลัวเขา ถึงได้จงใจไปนอนปลายเตียง ผู้ชายเนี่ยนะ แม้ว่าจะเจอผู้หญิงแปลกหน้ายังพุ่งเข้าหาเลย แต่ว่าเขาไม่ได้ทำอย่างนั้น เพราะว่าเขาให้เกียรติเธอ เมื่อเขาให้เกียรติเธอมากเท่าไหร่ ก็หมายความว่าตำแหน่งของเธอในใจเขาก็ยิ่งสูง”
จางเจียวเจียวพูดจนทำเอาเย่ชิงหยู่หน้าแดง เธอพูดว่า “หนูคงไม่จำเป็นต้องพูดเองว่าให้เขาขึ้นมานอนบนเตียงหรอกมั้ง นั่นมันเขินจะตาย”
จางเจียวเจียวพูดว่า “พวกเธอเป็นสามีภรรยา จะกลัวอะไร! อีกอย่าง เธออายุตั้งเท่าไหร่แล้ว หรือว่ายังไม่อยากได้ลูกสักคนหรอ? ถ้าหากว่ามีลูก ชีวิตของพวกเธอก็จะไม่เหมือนเดิมแล้ว”
“แม่คะ!” อยู่ๆเย่ชิงหยู่ก็ตะโกนขึ้น
ในตอนนี้ อยู่ๆโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอเอาโทรศัพท์ออกมาดู เป็นเบอร์แปลกที่ส่งข้อความมา
“มาที่หน้าประตู ฉันมีของจะให้เธอ”
ใครเป็นคนส่งข้อความให้เธอ?
เธอลังเลสักพัก แล้วก็พิมพ์ถามกลับไปอย่างเร็วว่า “คุณเป็นใคร?”
อีกด้านก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วว่า “ฟางเหยียน!”
เย่ชิงหยู่ลังเลไปสักครู่ ฟางเหยียนไปศึกษาที่หนานหลิงแล้วไม่ใช่หรอ? กลับมาเมื่อไหร่? หรือว่าหลังจากที่เห็นเสื้อผ้าของตัวเธอเองในออนไลน์ก็เลยกลับมา?
เมื่อคิดถึงนี้เย่ชิงหยู่จึงรู้สึกว่าเป็นไปได้ แต่ว่าฟางเหยียนกำลังเล่นตลกอะไร? ในเมื่อถึงหน้าบ้านแล้วทำไมถึงไม่ขึ้นมาเลยละ หรือว่าจะเซอร์ไพรส์เธอ?
เมื่อนึกถึงนี้ เย่ชิงหยู่ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงการกลับมาในช่วงนี้ที่ฟางเหยียนทำเซอร์ไพรส์ให้เธอ ทันใดนั้น เธอก็หลุดเข้าไปในความทรงจำดีๆก่อนหน้านี้ ในใจมีความสุขอย่างมาก
เธอตอบกลับไปคำหนึ่งว่า “โอเค!”
จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วพูดกับจางเจียวเจียวว่า “แม่คะ หนูลงไปแป๊บนึงนะ”
“ไปที่ไหน? ดึกขนาดนี้แล้ว” จางเจียวเจียวถาม
เย่ชิงหนู่ตอบว่า “ฟางเหยียนมาถึงด้านล่างแล้ว เขาบอกให้หนูลงไป หนูไปดูเขาก่อนนะ”
ทันใดนั้นจางเจียวเจียวก็ตาเป็นประกาย พูดยิ้มๆว่า “โอเค งั้นเธอรีบไปเถอะ! แต่ว่ามีอย่างหนึ่งที่เธอต้องจำไว้นะ คืนนี้ไม่ว่ายังไงก็ห้ามให้ฟางเหยียนนอนพื้นแล้ว นี่ไม่ยุติธรรมต่อเขา เข้าใจมั้ย?”
เย่ชิงหยู่หน้าแดงขึ้นมาทันที พยักหน้าตอบรับ “หนูรู้แล้วค่ะแม่ แม่รีบไปนอนเถอะ!”
“จ้าๆๆ!” จางเจียวเจียวเดินเข้าห้องนอนด้วยรอยยิ้ม แล้วยังฮัมเพลงด้วย
ไม่นาน เย่ชิงหยู่ก็มาถึงด้านล่าง ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว ใต้ตึกนอกจากเสาไฟก็ไม่มีเงาคนอีก
หลังจากที่เย่ชิงหยู่มองดูรอบตัวไปทีหนึ่ง ก็ตะโกนเรียกใส่พื้นที่โล่งๆว่า “ฟางเหยียน ฟางเหยียน!”
เรียกติดต่อกันหลายครั้งก็ไม่ได้ยินเสียงใครตอบกลับ เธอล้วงเอาโทรศัพท์เตรียมจะส่งข้อความถามว่าฟางเหยียนอยู่ตรงไหน แต่เมื่อเธอเพิ่งก้มหน้าลง เธอก็ถูกกำลังมหาศาลกอดจากทางด้านหลัง
“นายทำ….” ยังไม่ทันพูดจนจบ เธอก็ถูกผ้าขาวปิดเอาไว้ ตะเกียกตะกายสักพัก สติของเย่ชิงหยู่ก็ค่อยๆเบลอ เธอไม่รู้ว่าด้านหลังคือใคร แต่ไม่ใช่ฟางเหยียนแน่นอน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน แต่เหมือนกับผ่านไปชาติหนึ่ง เธอถึงจะสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา
เพิ่งลืมตาขึ้น ได้สติมาสักหน่อย ก็ได้ยินเสียงพูดคุยกัน เสียงนั้นดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และไม่เหมือนกับว่าพูดคนเดียว เหมือนว่ามีคนไม่น้อยเลยที่กำลังพูดอยู่
หลังจากที่สายตาของเธอค่อยๆฟื้นตัว ถึงจะได้ยินเสียงพูดคุยรอบตัวอย่างชัดเจน
“พี่ใหญ่ครับ หญิงสาวคนนี้สวยขนาดนี้ ให้พวกผมเล่นจริงหรอครับ? งั้นครั้งนี้พวกเราก็ได้สนุกเลยนะสิครับ”
“เหี้ย! นั่นมันโชคดีที่สุดทั้งชีวิตเลย ทำสายงานพวกเรายังมีโอกาสได้กินสาวสวยเซ็กซี่แบบนี้ มันช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ”
“พี่ใหญ่ครับ พี่พูดสักคำสิ พี่เล่นมั้ย?”
“พี่อ้วน นิสัยของพี่ใหญ่พี่ก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ เขาไม่เล่นหรอก เราสองคนสามารถลองได้นะ หรือว่าเราลองตอนนี้ที่เธอยังไม่ตื่น? ไม่แน่อาจจะสนุกกว่าด้วยซ้ำนะ”
“เหอะๆๆ นายผอมขนาดนั้น เล่นอะไร? ฉันรู้มาจากติ่งตัวยงแล้ว เวลาแค่นั้นของนาย อย่าเอามาเสียเวลาของคนอื่นเลย ฉันเองดีกว่า”
สติของเย่ชิงหยู่เริ่มฟื้นตัวมาแล้ว แล้วก็เห็นพวกคนที่พูดแล้วด้วย เจ้าอ้วนคนหนึ่งอย่างน้อยก็น่าจะร้อยกว่าโล หัวล้าน บนหัวมีรอยย่นหลายรอย แล้วยังมีชายหนุ่มผอมสูงอีกหนึ่งคน หน้าตานิ่งสง่า ใส่แว่นไว้ และยังมีชายอีกคนหนึ่งที่ใส่ชุดสูทจงซานไว้ ยืนอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ บนใบหน้ายังมีรอยบากอยู่อีกสองรอย ดูแล้วเย็นชาอย่างมาก
“พวก พวก พวกนายเป็นใคร?” เย่ชิงหยู่ถามอย่างกล้าๆกลัว
เธอขยับตัวเธอถึงได้รู้ว่าบนตัวของเธอมีเชือกมัดไว้ ไม่สามารถขยับได้ ลักพาตัว เย่ชิงหยู่ถูกลักพาตัวแล้ว เรื่องเมื่อคืนฉายซ้ำในหัวของเธอ ฟางเหยียนเป็นคนส่งข้อความบอกให้เธอลงมาใต้ตึก
แต่ว่า นั่นมันเป็นเบอร์แปลก ที่แท้ก็ไม่ใช่ฟางเหยียน มีคนสวมรอยเป็นเขาแล้วหลอกตัวเธอลงมาใต้ตึก
จบกัน! ตัวเธอถูกหลอกลงมาใต้ตึกและลักพาตัวแล้ว
เมื่อเจ้าอ้วนเห็นว่าเย่ชิงหยู่ตื่นแล้ว ก็ยิ้มในทันที “หึๆๆ คนสวย ในที่สุดเธอก็ตื่นแล้ว ฉันรอเธอตื่นนานมากเลยนะ”
เขายิ้ม เนื้อบนหน้าก็ไปกองรวมอยู่ด้วยกันเป็นก้อน ดูแล้วขี้เหร่จนน่ากลัว ฉีกยิ้มเห็นฟัน ดำมาก ดูแล้วเหมือนกับว่าเพิ่งกินถ่านมา
“เด็กดีของฉัน รอเธอนานขนาดนี้ ในที่สุดก็รอจนตื่นแล้ว คุณหนูนี่ก็แปลกจริงๆ ทำไมไม่ให้พวกเราทำเธอตอนเธอสลบอยู่ แล้วต้องรอเธอตื่นมาละ” เจ้าอ้วนถูมือแล้วเดินไปทางเย่ชิงหยู่
เมื่อเย่ชิงหยู่ได้ยินคำนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนในทันที เธอมองเจ้าอ้วนอย่างหวาดกลัวแล้วส่ายหน้า “พวกนายจะทำอะไร? นายเป็นใคร? จะทำอะไรกับฉัน?”
เจ้าอ้วนหัวเราะหึๆ “ฉันเป็นใคร? เธอไม่รู้หรอ? เคยได้ยินสามคุณชายแห่งจินโจวมั้ย?”
สามคุณชายแห่งจินโจว เย่ชิงหยู่รู้จักสามคุณชายแห่งจินโจว เป็นองค์กรใต้ดิน มีสามคนเป็นคนก่อตั้ง พวกเขาเป็นองค์กรใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจินโจว ถึงแม้ว่าจะไม่ถึงขั้นอันดับหนึ่ง แต่ว่าอำนาจของพวกเขาก็แทบจะผูกขาดทั้งเมืองจินโจว แต่ว่าเธอไม่ได้มีความแค้นอะไรกันคนในสายงานนี้ แล้วทำไมถึงได้มาเล็งทำร้ายเธอละ?
“แล้ว แล้วพวกนายทำอะไร? ทำไมต้องลักพาตัวฉัน?” เย่ชิงหยู่ดิ้นรน ในใจรู้สึกหวาดกลัว ได้ยินมาว่าสามคนนี้ไม่มีเรื่องเลวเรื่องไหนที่ไม่ทำ ร้านแบบนั้นก็มีอยู่นับไม่ถ้วนในเมืองจินโจว!
พวกเขาจับเธอมา หรือก็เพื่อจะบังคับให้เธอทำเรื่องแบบนั้นงั้นหรอ?
เมื่อนึกถึงนี่ เย่ชิงหยู่ก็มีความรู้สึกหมดหวังพุ่งเข้ามาในใจ
ถ้าหากว่าจริง งั้นชีวิตนี้ก็เธอก็จบสิ้นแล้วนะสิ!