บทที่ 21 ฉายาคุณนายพลตรี
รอจนทุกคนค่อยๆ ทยอยจากไป กระทั่งหายลับตา บรรยากาศที่น่าอึดอัดในตระกูลจางค่อยผ่อนคลายลง
แต่ตอนนี้คนที่เหลืออยู่ในงานก็มีไม่มาก ทุกคนหันที่ไปเซียวเจิ้นเที่ยน สลับกับกับจางฉี่หาว ทีแรกพวกเขาคิดที่จะอยู่อวยพรในงานต่อไป แต่เพราะเซียวเจิ้นเที่ยนยังอยู่ ท้ายที่สุดทุกคนจึงค่อยๆ ทยอยขอตัวกลับไปจนหมด
“ฟาง ฟางเหยียน” เย่ชิงหยู่จับจ้องคนตรงหน้าที่ไม่รู้ว่าเป็นคนแปลกหน้า หรือว่าฟางเหยียนที่เธอคุณเคย
เธออยากจะเข้าไปใกล้ฟางเหยียน แต่กลับไม่มีความกล้าพอ!
ฟางเหยียนหันขวับไปที่เธอ ก่อนที่จะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “สุขสันต์วันเกิด!”
ตอนนี้เธอไม่มีกะจิตกะใจจะฟังประโยคสุขสันต์วันเกิดอะไรนี่ เธออยากรู้ว่าเมื่อสักครู่นี้มันเกิดอะไรขึ้น
“เมื่อกี้นะ มันอะไรกันแน่?”
คนพวกนี้เรียกเธอว่าคุณนาย มีเพียงแค่อยู่เหนือพวกเขา และต้องมีความสัมพันธ์อะไรสักอย่าง ถึงจะทำให้พวกเขาเรียกว่าคุณนายได้ อย่างเช่นตระกูลเซียว คุณนายตระกูลเย่ในอดีตเป็นมารดาของเขา คนอื่นขานเธอว่าคุณนายเย่ แต่เธอ ขานว่าคุณผู้หญิงโดยตรง
นี่เป็นสรรพนามที่สูงส่ง!
หรือว่า ฟางเหยียนจะเป็นนายของพวกเรา?
ไม่ผิดแน่ หกคนนั้น เป็นหกเทียนของฟางเหยียน
ทีแรกเขามีทั้งหมดเจ็ดเทียน แต่เทียนหม่าได้พลีชีพที่สนามรบ นั่นเป็นความเจ็บปวดในใจของเขา
ฟางเหยียนเหลือบไปทางเซียวเจิ้นเที่ยนที่ยังคงตกอยู่ในภวังค์ “ผมแค่ทำข้อตกลงกับพวกเขาเท่านั้น เซียวเหวินห่าวฝ่าฝืนกฎทหาร มีการใช้อำนาจในทางที่ผิดมานานแล้ว”
“ครั้งนี้การที่พวกเขามาที่เมืองจินโจว ก็เพื่อมาจับกุมตัวเขา ผมตกลงที่จะพาพวกเขามาจับกุมตัวเซียวเหวินห่าว พวกเขาเลยตกลงอวยพรวันเกิดให้คุณ”
“แต่…” เย่ชิงหยู่กล่าวอย่างลังเล “แต่ฐานะของพวกเขา ไม่จำเป็นที่จะต้องทำข้อตกลงกับคุณเลย?”
ฟางเหยียนหัวเราะแห้ง “หรือว่า เธอไม่รู้หรือไงว่าจินโจวเป็นพื้นที่ของใคร? ใครบางคน คิดว่าตัวเองสามารถกุมอำนาจได้ด้วยมือเปล่า เพราะงั้นจึงต้องใช้วิธีนี้ในการจับกุมนักโทษ!”
ประโยคนี้ของฟางเหยียนตั้งใจพูดให้เซียวเจิ้นเที่ยนฟัง ตอนนี้เขายังไม่อยากทำให้ตระกูลเซียวหายไป เขายังมีแผนการที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ อำนาจอย่างตระกูลเซียว พวกเขาไม่กล้าที่จะจัดการกับคนรุ่นหลังของตระกูลเย่ เบื้องหลังเหล่านี้ต้องมีอำนาจอื่นหนุนหลังแน่
หากอำนาจเหล่านี้ไม่เปิดเผยคน เขาจะถอนรากถอนโคนได้ยังไง
“อะไรนะ?” เย่ชิงหยู่ไม่อยากจะเชื่อ “ง่ายขนาดนั้นเลย?”
ฟางเหยียนพยักหน้า “ใช่ ไม่อยากนั้นเธออยากให้เป็นยังไงล่ะ? หรือเธอคิดว่าผมเป็นหัวหน้าของพวกเขาหรือไง?”
“เธอคิดว่าอายุแค่นี้ เป็นหัวหน้าของเขาได้อย่างนั้นหรือ?”
ประโยคของฟางเหยียน ทำให้เย่ชิงหยู่โล่งอก ไม่ผิดหรอก อายุของเขา จะเป็นหัวหน้าของนักรบที่ผ่านสนามรบมานับร้อยได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น ดูรูปร่างของพวกเขาสิ แล้วดูรูปร่างของฟางเหยียน
แต่ในขณะที่เธอรู้สึกโล่งอก ในใจลึกๆ กลับสลด
เป็นผู้หญิง ใครบ้างที่ไม่อยากเป็นภรรยาของฮีโร่ล่ะ
ประโยคนี้ได้เข้าสู่แก้วหูของจางฉี่เหาด้วยเช่นเดียวกัน เขาสีหน้าเปลี่ยนทันที ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ฉันคิดว่าแกรับราชการตำแหน่งใหญ่โตสักแค่ไหน ที่แท้ก็แค่ข้อแลกเปลี่ยน”
จางไห่เฟิงถอนหายใจอย่างโล่งอก ถลึงตาใส่ฟางเหยียน บ่นพึมพำอยู่คนเดียว “สร้างภาพเก่งเป็นบ้า!”
ขาที่อ่อนยวบหายเป็นปลิดทิ้ง ก่อนที่หมุนตัวเดินเข้าไปในบ้าน
เซียวเจิ้นเที่ยนจ้องมองน้องชายที่ถูกพาตัวไป ด้วยความว้าวุ่นใจ
ฟางเหยียน ตัดขาทั้งสองข้างของหลานชายของเขา ตอนนี้ ยังจะพาตัวน้องชายของเขาไปอีก ไม่ต่างอะไรกับการตัดแขนของเขาออกไปข้างหนึ่ง
“ฟางเหยียน!” เขากัดฟันแน่น
สมาชิกในตระกูลจางสะดุ้งโหยง
“มีอะไร?” ฟางเหยียนกล่าวถามอย่างนิ่งเฉย พร้อมใบหน้าที่เผยรอยยิ้มแปลกๆ
เซียวเจิ้นเที่ยนเพ่งมองเขานิ่งด้วยความโกรธ ดวงตาคู่นั้นเสมือนมีประกายไฟปะทุออกมา
“หากไม่มีอะไรแล้ว ก็ไสหัวออกไปซะ!” ฟางเหยียนยังคงทีท่าสูงส่ง
ในสายตาของเขา ทุกคนต่างก็ไร้ค่าทั้งนั้น!
“อย่าโอหังไปหน่อยเลย!” เซียวเจิ้นเที่ยนโกรธจัด “แกกระโดดโลดเต้นได้ไม่กี่วันหรอก ขอแค่แกอยู่ในจินโจว ฉันก็มีวิธีที่จะกำจัดแกให้สิ้นซาก”
เซียวเจิ้นเที่ยนกำหมัดแน่น กัดฟันกรอด
ในจินโจว เซียวเจิ้นเที่ยนยังไงกุมอำนาจอย่างเคย ความแค้นที่มีต่อฟางเหยียน เขาจะต้องเอาคืนให้ได้!
“เราไปกันเถอะ!”
จบประโยคเซียวเจิ้นเทียนสะบัดแขน แต่เดินได้เพียงไม่กี่ก้าว ฟางเหยียนก็ตะโกนไปทางเซียวเจิ้นเที่ยน “หยุด!”
ทันใดนั้นเซียวเจิ้นเที่ยนหมุนตัวกลับไป จับจ้องฟางเหยียนด้วยสายตาอาฆาต
ฟางเหยียนเอ่ยอย่างเน้นหนัก “สิ่งที่แกติดค้างเรา ผมจะเอาคืนมาให้หมด”
จบคำเขาแสยะยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่เสียดแทงเข้าไปลึกยันกระดูก
จางฉี่เหาตัดความสัมพันธ์ทันที “ท่านเซียว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลจางของเรานะครับ!”
เซียวเจิ้ยนเที่ยนไม่แยแส หมุนตัวออกไปทันที
มีชีวิตอยู่มาหลายสิบปี เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบหนุ่มเยาว์วัยบ้าบิ่นได้ขนาดนี้ หากไม่กำจัดมันทิ้งเสีย หัวใจนี้ยากจะสงบ
ในเวลานี้เอง จางเจียวเจียวเองก็สมทบขึ้น “ฟางเหยียน แกหมายความว่ายังไง? อะไรติดค้างแก อะไรคือการเอากลับคืนมาให้หมด?”
ฟางเหยียนดวงตาแดงก่ำ หันกลับไปมองที่จางเจียวเจียว “ไม่มีอะไรหรอก น้าจาง”
ทีท่าที่น่ากลัวของฟางเหยียน จางเจียวเจียวอดไม่ได้ที่จะหวาดหวั่นจนเนื้อตัวสั่นเทา
“ใช่สิ เมื่อกี้ชิงหยู่โทรหาแกตั้งหลายสาย ทำไมแกถึงปิดเครื่อง? เราตกใจแทบแย่ เราคิดว่าแกหนีไปแล้วซะอีก”
ฟางเหยียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู “แบตหมดน่ะ”
“น้าจาง วางใจเถอะ ผมไม่หนีไปไหนหรอก นอกเสียจากถูกไล่” ประโยคสุดท้าย เขาหันไปทางเย่ชิงหยู่
นอกเสียจากเย่ชิงหยู่ มีใครล่ะที่จะทำให้เขาจากไปไหน
หลังจากที่เซียวเจิ้นเที่ยนกลับไป จางฉี่เหาจับจ้องฟางเหยียนนิ่ง “เข้าบ้าน”
เมื่อเข้ามาในตัวบ้าน
จางฉี่เหานั่งบนที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเย่ชิงหยู่เข้ามาด้วยแล้ว ถึงได้ปริปาก “ชิงหยู่ วันเกิดของแกถือว่าเราได้จัดให้แล้ว เราเชิญตระกูลที่มีหน้ามีตาทุกคนในจินโจวมางานเลี้ยง แม้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย แต่หลังจากนี้แกควรจะทำตามข้อตกลงแล้วใช่ไหม ไปเซ็นสัญญาซะ?”
เซ็นสัญญากับท่านหวง ถึงจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของตระกูลจาง บริษัทของเขาใกล้จะล้มละลายอยู่แล้ว
เย่ชิงหยู่พยักหน้ารับ “ฉันรู้ ขอบคุณค่ะ คุณตา”
จางฉี่เหาพยักหน้ารับ กล่าวตอบด้วยสีหน้าบึ้งตึง “โอเค พวกแกออกไปเถอะ ฉันอยากพักผ่อน”
เซียวเหวินห่าวถูกจับกุมในบ้านของตระกูลจาง นั่นหมายความว่าหลังจากนี้ตระกูลจางจะถูกตระกูลเซียวเล่นงาน
จางฉี่เหาที่เป็นผู้นำของตระกูล ใช้ชีวิตในเมืองจินโจวมาหลายสิบปี เขารู้อยู่แล้วว่าตระกูลเซียวนั้นเอาแต่ใจมากแค่ไหน
หลังจากที่เย่ชิงหยู่ออกไป จางซื่อตงจึงปริปากถาม “ท่านพ่อ ตระกูลเซียวคงจะไม่หาเรื่องเราหรอกใช่ไหม?”
จางฉี่เหารู้ดี จางซื่อตงเองก็รู้ดี
จางฉี่เหาส่ายหน้า “ยังไงซะคนของเขาก็ถูกจับกุมในบ้านของเรา ตระกูลเซียวไม่มีทางบุกเข้ามาโดยตรงแน่ แต่หลังจากนี้ทางด้านธุรกิจจะได้รับผลกระทบ”
“ถ้างั้นจะทำยังไงดี?”
“หากเซ็นสัญญาได้ ก็ไม่เป็นอะไรแล้ว คนที่เราร่วมงานด้วยเป็นถึงผู้ที่มีอำนาจที่สุดในทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตระกูลเซียวแน่แค่ไหน ก็ไม่กล้าต่อกรกับหวงหยวนฉาวหรอก! เซ็นสัญญาได้เมื่อไหร่ ตระกูลจางของเราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวตระกูลเซียวแล้ว”
จางซื่อตงไตร่ตรองแล้วก็มีเหตุผล จึงเอ่ย “ท่านพ่อ ท่านรู้สึกไหมว่าวันนี้มันประหลาดชอบกล นายฟางเหยียนนั่นไม่ง่ายแน่”
จางไห่เฟิงเบะปาก “เหอะ จะไม่ง่ายอะไรกัน หรือพวกท่านคิดว่าเขาเป็นนายพลจริงๆ หรือไง เขาอายุแค่เท่าไหร่ แล้วดูรูปร่างนั่นสิ”
คำพูดของจางไห่เฟิง ทำให้ทั้งคู่ได้สติ
ระหว่างทางกลับบ้านของสองพ่อลูกจางซื่อตง
“พ่อครับ เราจะปล่อยให้เย่ชิงหยู่กุมอำนาจของตระกูลจางจริงๆ หรือ?”
จางซื่อตงกล่าวอย่างไร้หนทาง “ไม่อย่างนั้น จะทำอะไรได้? จุดจบที่รอเราอยู่มีเพียงแค่สองทาง คือการล้มละลาย กับหุ้นส่วนร้อยละ49”
จางไห่เฟิงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ผมหมายความว่า หลังจากที่เซ็นสัญญากันแล้ว เราอย่าปล่อยให้มันได้อำนาจไปแต่โดยดี!”
ทั้งคู่เดินกลับบ้านไปด้วยเสียงบ่นพึมพำตลอดทาง