“ได้ ทว่าก่อนหน้านี้ต้องเตรียมตัวให้ดีก่อน อิงเอ๋อร์ เรียกพวกเขามาเริ่มลงมือเถิด” มารดาเผ่าแมงมุมซิวหลัวพยักหน้าแล้วเอ่ยกับหญิงสาวสวมกระโปรงสีโลหิตอย่างราบเรียบ
“เจ้าค่ะ ใต้เท้าพระมารดา พวกเจ้าเอาของออกมาแล้วเริ่มซ่อมแซมเขตอาคมเถิด” หญิงสาวตอบรับแล้วหันกายไปออกคำสั่งกับคนอื่นในเผ่าที่มาด้วยกัน
คนอื่นๆ ของเผ่าแมงมุมซิวหลัวได้ยินก็พวยพุ่งขึ้นไปกลางอากาศทันที แล้วบินไปทางเขตอาคมที่อยู่รอบๆ แท่นน้ำแข็ง
บางคนบ้างก็หยิบจานอาคมออกมา บ้างก็หยิบธงอาคมออกมา แม้กระทั่งมีคนหยิบอาวุธนิรนามที่มีลักษณะพิเศษออกมา แล้วทยอยกันโยนไปใกล้ๆ กับแท่นน้ำแข็ง
เมื่อของเหล่านั้นร่อนลงในเขตอาคม ชั่วขณะนั้นก็กลายเป็นรัศมีหลากสีสันจมหายไปใต้ดินอย่างไร้ร่องรอย
จากนั้นคนของเผ่าแมงมุมซิวหลัวเหล่านั้นก็เริ่มบริกรรมคาถา มือหนึ่งร่ายอาคมชี้ไปที่ด้านล่างไม่หยุด
เขตอาคมทั้งเขตมีเสียงอึกทึกดังขึ้นไม่หยุด ลวดลายทั้งหมดเปล่งแสงสว่างวาบแล้วเริ่มไหลวนโคจร ไม่นานก็กลายเป็นเขตอาคมขนาดใหญ่ที่ไม่เหมือนกันอีกแห่ง
เขตอาคมนี้เป็นเขตอาคมสำเร็จรูป แท่นน้ำแข็งทรงกลมที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงใจกลางมีเสียงดังขึ้น ผิวมีรอยแยกสีขาวปรากฏขึ้นเป็นทาง
รอยแยกสีขาวเหล่านี้หนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็กลายเป็นรอยแยกขนาดเท่านิ้วมือ
เสียง “ปัง” ดังขึ้น แท่นน้ำแข็งทั้งหมดปริแตกออก บึงน้ำขนาดจิ๋วเส้นผ่าศูนย์กลางสิบจั้งเศษพลันปรากฏขึ้น
ผิวของบึงน้ำใสแจ๋วราวกับกระจก เมื่อปรากฏขึ้นเสาลำแสงสีขาวสายหนึ่งก็พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
แต่ลำแสงนี้พุ่งขึ้นไปได้ร้อยจั้งเศษก็ส่งเสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น เขตอาคมรอบด้านเปล่งแสงเจิดจ้า ม่านลำแสงสีฟ้าออกปรากฏขึ้นกลางอากาศ ห่อหุ้มพวกของหานลี่และยอดเขากว่าครึ่งเอาไว้
เสาลำแสงโจมตีไปที่ม่านลำแสงกลางอากาศเสียงอึกทึกดังขึ้นทันที กลายเป็นลำแสงสีขาวระเบิดออก
ไอเย็นเยียบสีขาวม้วนวนออกมารอบด้าน
ทุกแห่งที่ไอเย็นเยียบกวาดผ่านไป กลางอากาศพลันมีเสียง “ครืด” ดังขึ้น น้ำแข็งเย็นเยียบปรากฏขึ้นลางๆ และม้วนวนไปทางหานลี่และพวกอย่างรวดเร็ว
แต่หานลี่และพวกไม่ร้อนรนเลยสักนิด ผิวมีลำแสงวิญญาณทยอยกันเปล่งแสงสว่างวาบ แล้วคุกคามน้ำแข็งเย็นเยียบเหล่านั้น จนไม่อาจเข้าประชิดร่างได้เลยสักนิด
“ไอเย็นเยียบที่นี่ ดูเหมือนจะไม่น่ากลัวอย่างที่จินตนาการไว้” เฮยหลินกวาดจิตสัมผัสไปที่ไอเย็นเยียบเหล่านั้น แล้วเบะปากขณะเอ่ย
“งั้นหรือ สหายลองดูสิ!” มารดาเผ่าแมงมุมซิวหลัวแววตาฉายแววแปลกประหลาด ฉับพลันนั้นมือหนึ่งก็กวักไปทางบึงน้ำ
ริมบึงน้ำมีลำแสงสีแดงสว่างวาบ ลำแสงสีแดงสี่ดวงบินออกมา หลังจากหมุนวนก็ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศต่ำๆ
คาดไม่ถึงว่าจะเป็นคฑาอันหนึ่ง กระจกบานหนึ่ง ลูกบอลผลึกลูกหนึ่งรวมทั้งวงแหวนวงหนึ่ง
สมบัติทั้งสี่ชิ้นล้วนแผ่กลิ่นอายร้อนฉ่าออกมา ทำให้ไอเย็นบริเวณรอบทยอยกันหายไป
และบึงน้ำที่ดูเหมือนเงียบสงบนั้นก็มีสมบัติสี่ชิ้นบินออกมาในพริบตา เสียงกุกกักประหลาดๆ ดังขึ้น พ่นเสาลำแสงสีเข้มออกมา แล้วกลายเป็นสีขาวนวลราวกับของจริง
พริบตานั้นไอเย็นเยียบในม่านลำแสงก็สว่างไสวขึ้น ระดับความเย็นเยียบเพิ่มกว่าก่อนหน้ามากกว่าสิบเท่า
ทุกคนถูกไอเย็นเยียบกดทับ ลำแสงวิญญาณที่ห่อหุ้มร่างเปล่งแสงสว่างวาบไม่หยุด คาดไม่ถึงว่าจะมีท่าทีประคองไม่ไหวทันที
เซี่ยหราน ม่อเจี่ยนหลีและพวกพลันตกตะลึง บ้างก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้น บ้างก็ร่ายอาคม สมบัติคุ้มกันบินออกมา แล้วกลายเป็นรัศมีลำแสงหมุนวนโคจรอยู่ตรงหน้า ถึงได้สกัดไอเย็นเยียบที่บีบเข้ามาได้อีกครั้ง
“ไม่เหมือนกับก่อนหน้าจริงด้วย อาวุธเหล่านี้คือสมบัติหยินบริสุทธิ์ที่ฝังอยู่ใต้เผ่าของเจ้าสินะ ทว่าหากระดับแค่นี้ จากอิทธิฤทธิ์ของสหายประกอบกับสมบัติคุ้มกันร่าง การเข้าไปเอาสมบัติในบึงน้ำ ก็น่าจะพอทำได้” หานลี่เอ่ยปากอย่างแช่มช้า
แม้ว่าจะไม่ได้ปล่อยสมบัติใดๆ ออกมาคุ้มกันร่าง แต่ผิวกลับมีแสงสีเงินเปล่งแสงสว่างวาบลางๆ เมื่อสัมผัสกับไอเย็นเยียบทั้งหมดก็ถูกดูดเข้าไปข้างในราวกับโคลนที่จมลงสู่มหาสมุทร ไม่อาจเข้าใกล้ในระยะสองสามจั้งได้
“หากไอเย็นเยียบในบึงเป็นเช่นนี้ ข้าย่อมไม่เสียดายที่จะลองเสี่ยงดูสักครั้ง แต่สิ่งที่สหายไม่รู้ก็คือทุกครั้งที่ลงลึกเข้าไปหนึ่งจั้ง ระดับความเย็นเยียบจะเพิ่มขึ้นหนึ่งส่วน ความลึกของบ่อน้ำแห่งนี้แม้แต่ข้าในยามนี้ก็ไม่อาจสำรวจได้ การจะใช้วิธีการธรรมดาๆ เอาสมบัติที่ก้นบึงขึ้นมา ย่อมเป็นเรื่องเพ้อฝัน มิเช่นนั้นเผ่าของพวกเราจะเก็บสมบัติไว้นานหลายปีเช่นนี้เพื่ออันใดกัน” ฮูหยินหัวเราะอย่างเย็นชาขณะเอ่ย แต่สายตาที่มองมายังหานลี่กลับอดที่จะหวาดกลัวขึ้นมาไม่ได้
ก่อนหน้าชายชราแซ่อี้ก็มีอิทธิฤทธิ์ที่ไม่ด้อยไปกว่ามารดาเผ่าแมงมุมซิวหลัวเท่าใดนัก
หานลี่ทำร้ายกายเนื้อและทารกวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บหนักได้ การโจมตีหรือการสังหารฮูหยินย่อมไม่ใช่เรื่องยากอันใด
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง เช่นนั้นทุกท่านคิดจะให้พวกเราช่วยอย่างไร” หานลี่พยักหน้าแล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าราบเรียบ
“ง่ายมากเขตอาคมนี้เป็นสิ่งที่ปรมาจารย์ด้านเขตอาคมของเผ่าเราขบคิดมาสองสามร้อยปีถึงจะสร้างขึ้นได้ ขอแค่มีระดับมหายานขึ้นไปหกคนบรรจุพลังปราณเข้าไปข้างในพร้อมกัน ก็สามารถกระตุ้นอิทธิฤทธิ์ของมันแล้วเอาสมบัติที่ก้นบึงออกมาได้ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะเผ่าของข้าไม่อาจรวบรวมระดับมหายานจำนวนมากได้ ดังนั้นแผนการจึงได้ล่าช้าอยู่ ยามนี้หากมีเหล่าสหายอยู่ กลับเป็นเรื่องที่ง่ายดายแล้ว” หญิงสาวสวมกระโปรงสีโลหิตที่อยู่ด้านข้างอธิบายด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ระดับมหายานหกคน ต่อให้นับสหายหลัวด้วย พวกเราก็มีแค่ห้าคนเท่านั้น” หานลี่แววตาเปล่งประกาย พลางตกตะลึงเล็กน้อย
“เรื่องนี้พี่หานและพวกไม่ต้องกังวล น้องหญิงมีเคล็ดวิชาลับชนิดหนึ่ง ที่สามารถทำให้ระดับขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ถึงยามนั้นก็นับว่าเป็นระดับมหายานคนหนึ่งแล้ว” หญิงสาวฉีกยิ้มน่าหลงใหลขณะเอ่ย
“สหายมีเคล็ดวิชาลับเช่นนี้ด้วย หรือว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ห้วงเวลาชนิดหนึ่ง” เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาวหานลี่ก็ใจหายวาบ
“สหายหานเข้าใจกฎเกณฑ์แห่งห้วงเวลาดังคาด เคล็ดวิชานี้พัฒนามาจากพลังของห้วงเวลาจริงๆ” หญิงสาวสวมชุดกระโปรงสีโลหิตได้ยินพลันตกตะลึง หลังจากมองสบตาหานลี่แวบหนึ่งถึงได้ตอบกลับอย่างแช่มช้า
หานลี่ฉีกยิ้มกลับไม่ได้ซักถามอันใดต่อ
“ในเมื่อเตรียมการทุกอย่างเหมาะสมแล้ว เช่นนั้นก็ลงมือเถิด ที่นี่หนาวเย็นเช่นนี้ ข้าไม่อยากรั้งอยู่นาน” ยามนี้เฮยหลินพลันเอ่ยอู้อี้ขึ้น ท่าทางหมดความอดทน
“ได้ ข้าก็ไม่อยากรั้งรออยู่นานเช่นนั้น สหายทุกท่านเข้าไปในเขตอาคมตามตำแหน่งเถิด หึๆ จากความรู้ด้านเขตอาคมของทุกท่านมองปราดเดียวก็น่าจะรู้ว่าเขตอาคมนี้ไม่มีอันตรายย ไม่ต้องกังวลอันใด” มารดาเผ่าแมงมุมซิวหลัวตอบรับด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก มือหนึ่งร่ายอาคมชี้ไปทางสมบัติหยินบริสุทธิ์ทั้งสี่ที่อยู่เหนือบึงเย็นเยียบ
เสียง “ปัง” ดังขึ้น ชั่วขณะนั้นสมบัติทั้งสี่พลันเปล่งแสงสว่างวาบ กลายเป็นลูกบอลเพลิงสี่ลูก และยิ่งไปกว่านั้นผิวพลันมีเปลวเพลิงหมุนวนแล้วขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
ยามนั้นจึงกลายเป็นดวงอาทิตย์สีแดงสดสี่ดวงแขวนอยู่กลางอากาศ ในเวลาเดียวกันก็มีคลื่นเพลิงแผ่ออกมาจากทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน
ผนึกน้ำแข็งในม่านลำแสงเปล่งแสงสีแดงสว่างวาบแล้วทยอยกันละลาย
ในเวลาเดียวกันเขตอาคมที่วนรอบบึงก็มีเสียงหึ่งๆ ดังขึ้น เสาหินสูงสองสามจั้งหกต้นค่อยๆ ผุดขึ้นมา
ผิวของเสาหินมีรัศมีลำแสงหมุนวนโคจรไปมา อักขระหลากชนิดจำนวนมากสลักอยู่ ตรงยอดมีเขตอาคมขนาดเล็กสีเงินอ่อนอยู่
“ขอแค่สหายทุกท่านยืนอยู่บนเสาเหล่านี้ รอคำสั่งของข้า แล้วบรรจุพลังปราณเข้าไปก็พอแล้ว การควบคุมเขตอาคมมอบให้เผ่าของเราก็พอ อิงเอ๋อร์ เจ้าไปก่อนเถิด” มารดาเผ่าแมงมุมซิวหลัวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง อาคมในมือสลายหายไปขณะเอ่ย
ที่นางให้หญิงสาวสวมกระโปรงสีโลหิตเข้าไปในเขตอาคม เห็นได้ชัดว่าจะทำให้ทุกคนวางใจ
ทว่าการกระทำนี้ก็ได้ผลจริงๆ เมื่อเห็นหญิงสาวสวมกระโปรงสีโลหิตเข้าไปในเขตอาคมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เซี่ยหรานและเฮยหลินมองสบตากันแวบหนึ่งก็เคลื่อนไหวอย่างไม่ต้องขบคิด เข้าไปยึดครองเสาหินอีกสองต้น
ม่อเจี่ยนหลีลังเลเล็กน้อย และบินตามไปเช่นกัน
สายตาของหานลี่กวาดไปบนเสาหินทั้งหกแวบหนึ่ง แล้วฉีกยิ้มบางๆ มือหนึ่งร่ายอาคม ร่างกายเลือนรางหายวับไปจากที่เดิม
ครู่ต่อมาบนเสาหินต้นหนึ่งก็มีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น เงาร่างของหานลี่เคลื่อนย้ายไปปรากฏตัวอยู่บนนั้น
ฮูหยินเห็นทุกคนเข้าไปในเขตอาคมแล้ว ก็ไม่กล้าชักช้าอันใด พลิ้วกายเช่นกัน ไปยืนอยู่บนเสาหินเสาสุดท้าย และยิ่งไปกว่านั้นยังออกคำสั่งกับคนในเผ่าคนอื่นๆ
“เริ่มสำแดง ครั้งนี้จะต้องทำสำเร็จให้ได้”
“ขอรับ ใต้เท้ามารดาเผ่า” บุรุษคนหนึ่งในบรรดาแมงมุมซิวหลัวโตเต็มวัยสี่ตัวพลันตอบรับอย่างเคร่งขรึม ทันใดนั้นก็กวักมือร่างอื่นๆ พลิ้วไหวไปอย่างต่อเนื่องแล้วทยอยกันยืนอยู่ตรงขอบเขตอาคม และนั่งสมาธิลงเริ่มเอ่ยปากบริกรรมคาถา
ชั่วขณะนั้นอักขระในเขตอาคมพลันเริ่มหมุนวนโคจรอย่างแปลกประหลาดอีกครั้ง อักขระยันต์หลากสีสันเริ่มทะลักออกมาพร้อมกัน และรวมตัวกันเหนือบึงเย็นเยียบ คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นลูกบอลอักขระยันต์ที่เลือนรางไม่ชัดเจนลูกหนึ่ง
ยามนี้คนในเผ่าแมงมุมซิวหลัวเหล่านั้นพลันเริ่มกระตุ้นอาวุธ ไม่ก็ร่ายอาคมในมือ เริ่มบรรจุพลังปราณบริสุทธิ์เข้าไปในเขตอาคม
เขตอาคมทั้งเขตส่งเสียงหึ่งๆ ออกมา อักขระที่หมุนวนโคจรเหล่านั้นเปล่งแสงสว่างวาบ ทยอยกันเปลี่ยนเป็นโปร่งใส อักขระที่ปรากฏขึ้นจากด้านในเพิ่มมากขึ้นกว่าครึ่ง
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ลูกบอลอักขระเหนือบึงเย็นเยียบก็มีขนาดสองสามจั้ง และยิ่งไปกว่านั้นยังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเป็นของจริงก็ไม่ปาน
มารดาเผ่าแมงมุมซิวหลัวมองไปยังเหนือบึงเย็นเยียบด้วยดวงตาที่ไม่กะพริบ เมื่อขนาดของลูกบอลอักขระอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่อาจเพิ่มขึ้นได้อีก ถึงได้ออกคำสั่งกับหานลี่และพวกด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ยามนี้แหล่ะ สหายทุกท่านเริ่มบรรจุพลังปราณได้เลย”
สิ้นเสียงผิวของฮูหยินก็มีลำแสงสว่างวาบ พลังที่แท้จริงไล่ตามเท้าทั้งสองข้างลงไปที่เสาหินด้านล่าง
แม้ว่าที่เหลืออีกห้าคนจะมีความคิดหลากหลาย แต่หลังจากที่ได้ยินก็ไม่กล้าดูแคลนและสำแดงพลังต่างๆ เช่นกัน
พริบตานั้นเสาลำแสงทั้งหกที่ถูกบรรจุพลังปราณเข้าไปก็เริ่มเปล่งแสงสว่างวาบ อักขระที่ผิวเปล่งแสงเจิดจ้า อักขระยันต์จำนวนมากทะลักออกมาแล้วรวมตัวกันที่สูงเช่นกัน
เสียง “ปัง ปัง ปัง” ดังขึ้น! ลูกบอลที่มีอักขระจำนวนมากผสมเข้าไปพลันขยายใหญ่ขึ้น
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ก็มีขนาดเท่าศาลา ปกคลุมบึงน้ำเอาไว้จนเป็นสีเงิน
ฮูหยินเห็นเช่นนี้ก็มีสีหน้ายินดี ยื่นมือหนึ่งชี้ไปกลางอากาศเหนือบึงเย็นเยียบ ริมฝีปากบางเผยอออก พ่นตาข่ายเส้นไหมสีเขียวออกมา…