ฮูหยินวั่นฮวาขณะนั้นในใจก็เกิดอาการตกใจไม่ใช่น้อย ปากก็กรีดร้องออกมาในทันที เงยหน้าขึ้นไปยังกลางอากาศพ่นเอาตราประทับสีกากีขนาดใหญ่ออกมา ขณะเดียวกันสิงโตยักษ์สีดำด้านหลังนั้นทันใดนั้นก็กางอุ้งเท้าขึ้นมา ตะกุยเท้าไปยังท้องฟ้าส่งเสียงดังขึ้นไปบนฟ้า
“ปึง” ดังลั่นออกมา
ทันทีที่เงาของกรงเล็บทั้งห้าสัมผัสเข้ากับวงแหวนแล้ว ก็ส่งเสียงอู้อี้สะท้อนกลับมาในทันที
ส่วนตราประทับใหญ่หลังจากที่สั่นไหวอยู่สองสามครั้งแล้ว ก็ถูกพลังอันน่าหวาดกลัวของวงแหวนดึงดูดเข้าไปอยู่หลายตลบ จากนั้นก็หมุนค้างอยู่กลางอากาศไม่หยุดราวกับว่าสูญเสียการควบคุมไปแล้ว
วงแหวนรัศมีสีเลือดยังคงไม่หยุดลง ยังคงพุ่งตรงไปยังฮูหยินวั่นฮวาแล้วตกลงมา
สีหน้าของหญิงชราเริ่มซีดลง แต่ทว่าหลังจากที่ลำคอของนางจู่ๆ ก็ส่งเสียงแปลกประหลาดออกมาแล้ว สิงโตดำด้านหลังของนางก็ส่งเสียงคำรามกรุ่นโกรธออกมาแล้วทันใดนั้นก็พ่นลูกบอลเพลิงสีดำออกมา
เมื่อลูกบอลเพลิงลูกนี้ลอยออกมาแล้ว มันก็ขยายใหญ่ขึ้นมาท่ามกลางสายลมทันที กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ไม่น้อยไปกว่าวงแหวนรัศมีสีเลือด จากนั้นก็พุ่งเข้าหามัน
ในขณะที่เกิดเสียงดังกึกก้องขึ้นมา เพียงพริบตาเดียวลูกบอลเพลิงก็กลายเป็นเมฆเพลิงที่ลุกโชนขึ้นมา จากนั้นก็กลิ้งออกไปทั่วทุกทิศทาง ด้วยพลังอันมหาศาล ถึงแม้ว่าจะถูกวงแหวนรัศมีเลือดพุ่งเข้าใส่ มันก็ยังเริ่มที่จะสว่างวาบขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
แต่ว่าในเวลานี้ คางคกโลหิตเก้าตากลางอากาศสูงอ้าปากกว้างขึ้น พลังโลหิตกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมา เพียงแวบเดียวก็เข้าไปอยู่กลางวงแหวนรัศมีจนมองไม่เห็น
นาทีถัดมา วงแหวนรัศมีขนาดใหญ่ก็ส่งเสียงหึ่งหึ่งดังออกมา และหลังจากที่สั่นไหวอยู่ไม่กี่ครั้ง ก็ฟื้นคืนขึ้นมามั่นคงดั่งเดิมด้วยการสนับสนุนจากพลังมหึมาที่ส่งเข้ามาใหม่ จากนั้นก็กดจนเมฆเพลิงนั้นจนตกลงไปด้านล่างอย่างกะทันหัน
และถึงแม้ว่าสิงโตยักษ์สีดำเองจะพ่นเปลวไฟสีดำนี้ไปยังกลุ่มเมฆเพลิงเช่นกัน แต่ว่าพลังของวงแหวนรัศมีเลือดนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะต้านทานได้
ฮูหยินวั่นฮวาทั้งโกรธและตกใจยิ่งขึ้น เมื่อเห็นว่าวงแหวนรัศมีเลือดนั้นอยู่ห่างออกไปไม่ไกลแล้ว ในใจก็อดที่จะลังเลไม่ได้ว่าหรือจำต้องใช้วิธีการกล่องแรงดันของตน
แต่ว่าในตอนนี้นั้น วงแหวนรัศมีเลือดจู่ๆ ก็แวบวาบขึ้น แล้วหายออกไปจากกลางอากาศ
วินาทีนี้ คางคกโลหิตเก้าตาจึงได้เอ่ยออกมาอย่างสงบนิ่งประโยคหนึ่ง “ออมมือแล้ว” หลังจากที่กายกลิ้งลงกับพื้นแล้ว หมอกโลหิตก็โผล่ออกมาจากชั้นอากาศ
ชายผู้สวมหน้ากากกลับคืนสู่ร่างมนุษย์แล้วเดินออกมาจากหมอกโลหิต
“พี่เซียวอิทธิฤทธิ์ยอดเยี่ยม การประลองกันในครั้งนี้ ถือว่าผู้ชราแพ้แล้ว” สีหน้าของฮูหยินวั่นฮวาไม่น่าดูยิ่งนัก หลังจากที่เก็บเมฆเพลิงและร่างพรหมกลับมาแล้ว ทำได้เพียงเอ่ยออกมาอย่างไม่ยินยอม
“ข้าน้อยเพียงแค่ใช้ประโยชน์จากกายแท้ของคางคกโลหิตเก้าตาเท่านั้น หากว่าต่อสู้เพื่อความเป็นความตายจริงแล้วละก็ ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถเอาชนะนักพรตวั่นฮวาได้จริงๆ ถัดไปก็ถึงตาท่านแล้ว ผู้แซ่เซียวอยากจะรู้ถึงอิทธิฤทธิ์ของผู้ที่อยู่แผ่นดินอื่นนั้นเช่นกัน” เซียวหมิงเองก็ไม่ได้เอ่ยอะไรที่รุนแรงออกมา หลังจากที่เอ่ยออกมาอย่างราบเรียบไม่กี่คำแล้ว ก็หันไปเอ่ยกับหานลี่
ตามมาด้วยกายของเขาหายไปพร้อมกับลำแสง จากนั้นก็กลายเป็นกลุ่มลำแสงสีโลหิตหลบออกมาจากม่านแสง แล้วมาโผล่ใกล้ๆ กับหานลี่
“นักพรตวั่นฮวาไม่ต้องกลับไปพักผ่อนเสียก่อนอย่างนั้นหรือ หรือไม่ก็เปลี่ยนมาเป็นนักพรตชิงผิงมาประลองกับข้าก่อน” หานลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วหันหน้าไปเอ่ยถามนักพรตหนุ่ม
ไม่จำเป็น การประลองเมื่อครู่นี้ไม่ได้ใช้ปราณแท้ไปมากสักเท่าไหร่ ผู้ชรายังจะใช้พลังยุทธ์ได้อีกมาก นักพรตหานเชิญเข้ามาเถอะ” หญิงชราไม่ได้รอให้นักพรตได้เอ่ยปากออกมา ก็ส่งเสียงเย็นชาออกมาจากม่านแสง
นักพรตชิงผิงเมื่อเห็นสิ่งนี้เข้า ก็ยิ้มออกมาโดยที่ไม่ส่งเสียงใด
หลังจากที่หานลี่ขมวดคิ้วออกมา ก็พยักหน้า ใช้มือข้างหนึ่งแสดงท่าทางออกมา ร่างกายก็พร่ามัวหายออกไปจากที่เดิมในพริบตาเดียว
นาทีถัดมา ภายในอากาศกลางม่านแสงก็เกิดการสั่นไหวขึ้น ร่างกายของหานลี่ก็ปรากฏขึ้นอย่างไร้เสียง
“เพราะว่านักพรตเพียงแต่ต้องรับกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ดังนั้นผู้แซ่หานลงมือคงจะไม่เกรงใจนัก” ใบหน้าของหานลี่เอ่ยออกมาประโยคหนึ่งอย่างไร้ซึ่งอารมณ์
“หืม เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าเอ่ยออกมา ผู้ชราเองย่อมรู้” หญิงชราเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงไม่ดีนัก ลำแสงสีดำด้านหลังสั่นไหวขึ้นมา สิงโตสีดำขนาดยักษ์ก็ปรากฏออกมาอีกครั้ง อ้าปากกว้างกางกรงเล็บออกมา และดูดุร้ายยิ่งกว่าเดิม
ดูเหมือนว่าหลังจากที่พ่ายแพ้การประลองเมื่อครู่นี้ ทำให้ภายในใจเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ และเหมือนว่าต้องการจะกู้หน้าคืนจากการประลองกับหานลี่อย่างไรอย่างนั้น
หานลี่เมื่อเห็นเข้าก็หรี่ตาทั้งสองลง สูดหายใจเข้าไปลึกๆ แล้วก้าวเดินออกไปด้านหน้าทันที
เสียง “ปัง” อู้อี้ดังออกมาแล้ว หานลี่ก้าวออกมาครั้งนี้ราวกับว่าหนักกว่าหมื่นจิน ยามที่เท้าตกลงพื้นดินนั้น ทำให้ตรงจุดนั้นเกิดเสียงดังคำรามขึ้น
ในใจของหญิงชรารู้สึกแข็งค้างขึ้นมา จากนั้นก็พบหานลี่ที่ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้าม ลวดลายสีเงินนับไม่ถ้วนปรากฏอยู่ทั่วผิวกาย ลำแสงสีทองเปล่งประกายออกมา ร่างกายขยายใหญ่โตขึ้นมา ขณะเดียวกันบนผิวหนังก็ปรากฏเกล็ดสีทองขึ้นมา
เพียงพริบตาเดียว ฝ่ายตรงข้ามก็แปลงกายเป็นสัตว์ประหลาดดุร้ายเขาเดียว ทั่วทั้งกายเต็มไปด้วยเกล็ดสีทอง
“นี้เป็นร่างปีศาจที่แท้จริงที่ฝึกฝนจนถึงขั้นสุดยอดแล้ว! ฮูหยินวั่นฮวาได้โปรดระวังด้วย อย่าได้ประมาทจนเกินไป” นักพรตชิงผิงที่อยู่ด้านนอกม่านแสงเมื่อเห็นร่างที่หานลี่แปลงกายแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก จึงได้รีบเอ่ยปากเตือนออกมา
เซียวหมิงที่อยู่ด้านข้าง ถึงแม้ว่าจะมีหน้ากากปกปิดอยู่ไม่อาจจะมองเห็นอารมณ์บนใบหน้าได้ แต่ว่าแววตาก็มีความประหลาดใจแวบผ่านมา
ฮูหยินวั่นฮวาที่แต่เดิมตกตะลึงเพียงแค่เล็กน้อย เมื่อได้ยินชื่อของ “ร่างปีศาจที่แท้จริง” ก็รู้สึกได้ได้ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามปะทุรัศมีอันน่าหวาดกลัวออกมา ชั่วขณะนั้นท่าทางก็เปลี่ยนไปดูเคร่งขรึมขึ้น
ในใจของนางตื่นตระหนกขึ้น จู่ๆ แขนเสื้อทั้งสองของนางก็สั่นไหวขึ้น ทันใดนั้นเข็มทยานสีดำหนาแน่นก็พุ่งตรงออกมาจากแขนเสื้อของนาง หลังจากที่หมุนวนอย่างหนาแน่นอยู่กลางอากาศใกล้ๆ แล้ว กลับรวมตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นเขตอาคมสีดำ แล้วปกป้องกายของนางเอาไว้อยู่ตรงกลางได้ทันเวลา
หญิงชราผู้นี้ถึงกลับนำกล่องแรงดันออกมาใช้ ถึงกลับปล่อยเขตอาคมเข็มทยานออกมา
เขตอาคมเข็มทยานนี้ เป็นนางที่ค้นพบเคล็ดวิชาขัดเกลาจากซากปรักหักพังโบราณโดยบังเอิญมานานแล้ว ภายหลังใช้เวลามากนับร้อยปีถึงได้สร้างเข็มโลหิตดำทั้งสามร้อยหกสิบเล่มนี้ออกมาได้ สุดท้ายจึงได้ขัดเกลาออกมาเป็นเขตอาคมนี้ขึ้น
ตั้งแต่ที่ฮูหยินสร้างเขตอาคมนี้ขึ้นมา เมื่อต้องต่อสู้กับผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันแล้วนางก็ไม่เคยแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ถึงแม้ว่าจะไม่พ่ายแพ้ผู้แข็งแกร่งอื่น แต่ก็ทำได้เพียงรักษาสถานการณ์การไม่แพ้ผู้ใดมาก่อนเท่านั้น
ตอนนี้เมื่อเผชิญกับการแปลงกายของหานลี่แล้ว นางถึงกับไม่ลังเลที่จะนำเขตอาคมนี้ออกมา ทำให้เห็นได้ว่านางให้ความสำคัญกับร่างปีศาจที่แท้จริงนี้มากถึงเพียงใด
“ร่างปีศาจที่แท้จริง!”
หานลี่ที่แปลงกายจนสำเร็จแล้ว หลังจากที่ได้ยินคำพูดของนักพรตชิงผิงแล้ว เมื่อคิดแล้วก็แอบยิ้มขึ้นมา
“การแปลงกายครั้งนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และดูเหมือนว่าจะเป็นจะเป็นการฝึกฝนเคล็ดวิชาปีศาจที่แปลงกายมาจนถึงขั้นสุดท้ายแล้ว แต่จริงๆ แล้วพลังนั้นแน่นอนว่าแตกต่างกันอย่างมาก
ไม่ต้องเอ่ยถึงกายเดิมของหานลี่นั้นก็ทรงพลังจนแทบจะไม่ได้อยู่ภายใต้ผู้ที่มีจิตวิญญาณแท้โดยทั่วไป ถึงแม้ว่าจะไม่มีคาถาตื่นจากจำศีลแปลงกายคอยช่วยเหลือ ร่างพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ยังไม่สมบูรณ์นี้ก็เพียงพอให้บดขยี้มหายานธรรมดาทั่วไปแล้ว
ในใจของหานลี่คิดเช่นนี้ แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะเกรงใจ และเมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามสร้างเขตอาคมขึ้นมา เขาที่แปลงกายสูงนับสิบจั้งก็เดินเข้ามา ไปยังเขตอาคมที่ตั้งอยู่ใกล้มือ เมื่อแขนข้างหนึ่งขยับขึ้น ก็เห็นแขนใหญ่ข้างนั้นปกคลุมไปด้วยเกล็ดเอื้อมออกไปคว้ายังกลางเขตอาคมนั้น หลังจากที่นิ้วมือแปลกประหลาดทั้งห้าส่องประกายออกมาแล้ว ก็หายวับไปในอากาศตรงหน้า
“ปัง” ดังอู้อี้ออกมา กลางอากาศเหนือเขตอาคมสั่นไหวขึ้น ฝ่ามือทองคำขนาดยักษ์ขยายใหญ่ออกเป็นหลายเท่าปรากฏกลางอากาศราวกับว่าฉีกช่องว่างออกมา หลังจากที่นิ้วมือทั้งห้าแยกออกจากกัน ก็มาพร้อมกับรัศมีอันน่าสะพรึงกดข่มลงไปยังเขตอาคมด้านล่าง
ฮูหยินวั่นฮวากลางเขตอาคมนั้นเมื่อเห็นพลังของฝ่ามือขนาดยักษ์นั้น มุมปากอดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้นมา แต่มือก็ไม่ลังเลที่จะใช้เคล็ดวิชาออกมา
ทันใดนั้นไอสีดำกลางเขตอาคมก็ส่งเสียงดังออกมา ลำแสงสีดำนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงราวกับฝนโปรยปราย
ลำแสงสีดำแต่ละสายต่างก็ล้วนแต่แปลงมาจากเข็มเล่มบาง ตรงปลายนั้นปรากฏลำแสงเย็นเยียบน่าประหลาดใจออกมา ดูแล้วจะแหลมคมเป็นอย่างมาก
ฝ่ามือสีทองขนาดยักษ์นั้นกลับไม่มีท่าทีที่จะหลบหนี ยังคงกดข่มลงไปเบื้องล่างอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ลำแสงสีดำที่ราวกับฝนตกกระทบรั้วทั้งหมดนั้นก็กระแทกลงไปอย่างแรงกับฝ่ามือสีทองขนาดยักษ์นั้น
แต่ว่าวินาทีถัดไปเสียง “ติ่งต่าง” ก็ดังออกมา หลังจากที่ลำแสงสีดำนั้นระเบิดเป็นกลุ่มลำแสงนับไม่ถ้วนออกมาบนพื้นผิวมือสีทองขนาดยักษ์นั้น ต่างก็ทยอยกันสะท้อนกลับออกมา ไม่มีทางทำร้ายฝ่ามือสีทองขนาดยักษ์นั้นได้แม้แต่น้อย
ฮูหยินวั่นฮวาเมื่อเห็นเหตุการณ์เข้า แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีประหลาดใจออกมา กลับกันสูดหายใจยาวออกมา จู่ๆ มือข้างหนึ่งก็แสดงท่าทางออกมา ร่างกายหมุนเร็วอย่างบ้าคลั่งตรงจุดเดิม
เสียง “ปัง ปัง”! ดังออกมา เคล็ดวิชาหลากหลายสีนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากร่างกายพร่ามัวของหญิงชรา ทยอยกันหายเข้าไปยังภายในเขตอาคมจนมองไม่เห็น
พลังสีดำภายในเขตอาคมพากันพลุ่งพล่าน จู่ๆ ก็มีเส้นสายไฟยาวสีดำนับสิบเส้นพุ่งออกมา หลังจากที่ส่องแสงกะพริบออกมา ก็ห่อหุ้มสัตว์อสูรสีทองขนาดใหญ่เอาไว้กลางอากาศ
ตามมาด้วยสายไฟยาวสีดำนั้นส่งเสียงหึ่งๆ ออกมา อักษรรูนสีดำนับไม่ถ้วนปรากฏออกมา ทยอยติดเข้ากับฝ่ามือใหญ่นั้น
เพียงพริบตาเดียว ฝ่ามือใหญ่สีทองนั้นก็ถูกอักษรรูนสีดำห่อหุ้มเอาไว้อย่างแน่นหนา และไม่มีทางที่จะเผยสีทองออกมาได้แม้แต่น้อย
“ปิดผนึก”
ในเวลานี้ กายของฮูหยินวั่นฮวากลางเขตอาคมก็หมุนขึ้นทันที แล้วส่งเสียงตะโกนขึ้นบนท้องฟ้าอย่างได้ใจ
และทันใดนั้นอักษรรูนสีดำนั้นส่องแสงประกายออกมา ภายใต้การเคลื่อนไหวนั้น เหมือนว่าจะมีการเคลื่อนไหวอะไรขึ้นมาอีก เหมือนว่าต้องการจะปิดผนึกมือใหญ่นั้นเอาไว้อย่างสมบูรณ์
และในเวลานี้ หานลี่ที่แปลงกายยักษ์ใหญ่ก็ส่งเสียง “ทลาย” ออกมา
เสียงดังกึกก้องราวฟ้าคำรามดังออกมา
ด้านในของอักษรรูนสีดำนั้นจู่ๆ ก็ถูกประกายไฟสีทองพุ่งออกมา หลังจากที่พัวพันหมุนวนกันอยู่นั้น ก็ฉีกอักษรรูนเหล่านี้ขาดออกจากกัน เผยให้เห็นมือใหญ่ยักษ์สีทองนั้นอีกครั้ง
และในตอนที่ฝ่ามือใหญ่ยักษ์นั้นได้รับอิสระแล้ว จู่ๆ ก็พลิกกลับมา นิ้วมือทั้งห้านั้นก็จับเส้นสายยาวสีดำนับสิบนั้นเอาอย่างน่าประหลาดใจ ตามมาด้วยใช้แรงเพียงเล็กน้อย ก็ส่งเสียงดัง “ปัง ปัง”! อู้อี้ออกมา
สายไฟยาวสีดำนับสิบนั้นถูกบดขยี้ด้วยแรงอันน่าเหลือเชื่อ จากนั้นก็กลายเป็นผงแตกออกจากกัน
หลังจากที่มือใหญ่พร่ามัวนั้น ก็ออกไปจากเขตอาคมนั้นไปยังพื้นที่ว่างห่างออกไปไม่กี่จั้งอย่างอัศจรรย์นิ้วมือทั้งห้านั้นก็บดขยี้ลงไปอย่างแรงอีกครั้ง
เขตอาคมสีดำราวกับว่าได้รับได้รับแรงกระตุ้นจนระเบิดเสียงกรีดร้องออกมา พลังสีดำด้านในทะลักออกมา ก็พุ่งขึ้นสู่กลางอากาศกลายเป็นชั้นม่านลำแสงสีดำ ปกป้องเขตอาคมเอาไว้ด้านในทั้งหมด
เสียง “ปัง” กึกก้องสะเทือนฟ้าดินดังออกมา
มือใหญ่สีทองฟาดลงไปบนม่านสีดำนั้นอย่างแรง ลำแสงสีดำและสีทองระเบิดออกมาตรงจุดนั้น
แสงระยิบ ทำให้ผู้ที่ยืนมองอยู่ด้านนอกอย่างเซียวหมิงและนักพรตชิงผิงต้องหรี่ตาลง
รอจนแสงด้านในจางหายไปแล้ว ในตอนที่พวกเขาเปิดตาขึ้นมาอีกครั้ง ม่านแสงสีดำเหนือเขตอาคมที่ดูเหมือนว่าไม่อาจจะทำลายได้นั้น ก็พังทลายสลายหายไป
มือใหญ่สีทองปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของฮูหยินวั่นฮวาราวกับเนินเขาเล็กๆ แล้วก็หยุดลงอย่างเงียบๆ